[CR] COLDPLAY : GHOST STORY (น้อย แต่...อิ่ม) review track by track

Always In My Head

เพลิน และ ‘ล่องลอย’ ไปกับซาวนด์อันเป็นเอกลักษณ์หรือลายเซ็นของพวกเขา
แต่เจือจางด้วยกลิ่นอายของแนวเพลงนิวเอจ และด้วยจังหวะที่ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป
ทำให้สามารถรับรู้ความยอดเยี่ยมของซาวนด์กีตาร์ได้อย่างเต็มเปี่ยม ยอดเยี่ยม

Magic

เอ๊ะ! นี่คือเพลงของโคลด์เพลย์แน่หรือ เพราะซาวนด์และจังหวะกลองนั้นเปลี่ยนไปพอสมควร
ฟังไปฟังมาคล้ายกับวง Gorillaz วงดนตรีดาร์กป๊อปชื่อดัง
แถมไม่รู้ว่าพวกเขาเซตกลองกันอย่างไรถึงได้ฟังแล้วคล้ายการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำ
แต่...ซาวนด์กลองที่แปลกประหลาดนี้เองกลับเข้ากันได้อย่างดีกับซาวนด์กีตาร์
และเสียงร้องอันป็นเอกลักษณ์ของ Chris Martin

Ink

นี่ไม่ใช่ ‘บริตป๊อป’ แต่เป็น ‘ป๊อป’ ชั้นเยี่ยม ที่พวกเขากำลังจะสร้างมาตรฐานให้กับวงการเพลง
ไม่ว่าจะเป็นซาวนด์กีตาร์ที่ดูเรียบง่าย แต่เมื่อมีเสียงซินธ์เข้ามาช่วยเสริมก็ทำให้ภาพรวมของดนตรี
กลายเป็นป๊อปที่ไม่ว่าจะเป็น ‘ใคร’ ก็สามารถฟังและรับรู้ได้ถึงความยอดเยี่ยม

True Love
นี่คือเพลงที่ทำให้ผมสามารถบอกได้ว่าพวกเขาเป็นศิลปินรุ่นใหญ่และยอดเยี่ยมมากแค่ไหน
เพราะเมื่อฟังผ่านๆ หรือฟังแค่เสียงคีย์บอร์ดและเสียงร้อง
จะพบว่าเพลงนี้ไม่ได้แตกต่างจากเพลงเก่าๆ สักเท่าไร
แต่เมื่อมองภาพรวมของเพลงที่มีทั้งเสียงซินธ์จางๆ เสียงกลองที่ค่อนข้างต่างจากเดิม
ทำให้เพลงนี้กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของอดีตและอนาคต

Midnight

มีใครชอบดูฟุตบอลบ้างครับ ถ้าเคย ลองจินตนาการถึงทีมหนึ่งที่เล่นครึ่งแรกอย่างสวยงาม
ต่อบอลกันอย่างเหนือชั้น หลอกคู่แข่งให้วิ่งไล่บอลไป-มา
แต่พอครึ่งหลังก็บดขยี้คู่แข่งด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งอย่างพายุที่ถาโถม
ถ้าจินตนาการออกก็จะนึกภาพของเพลงนี้ออกได้ทันที
แต่จะว่าไปความจริงแล้วเพลงนี้ไม่ต้องมีเนื้อร้องก็ได้
เพราะมีท่อนร้องน้อยมาก แถมยังถูกซาวนด์กลบหมดเสียอีก

Another's Arms

ดาร์กมาก...ก ไม่รู้ว่าจะดาร์กไปถึงไหน ดาร์กตั้งแต่ซาวนด์กลอง ซาวนด์เบส
เสียงร้องของคริส มาร์ติน ที่ตามปกติก็เศร้าอยู่แล้ว
แต่เพิ่มดีกรีความเศร้าด้วยการออกแบบเสียงร้องที่ ‘กะเอาตาย’ ยังไม่พอ
ยังพ่วงด้วยเสียงคอรัสที่ชวนให้คนฟังด่ำดิ่งลงไปกับความมืดมน
ต้องขอบคุณเสียงซินธ์กรุ๊งกริ๊งๆ ที่ช่วยทำให้เพลงนี้ไม่หม่นหมองจนเกินไป

Oceans

โฮๆๆ ฟังแล้วอยากร้องไห้สัก 3 รอบ ตอนแรกที่ได้รู้ชื่อเพลงก็พอเดาออกแล้วว่าน่าจะเศร้า
แต่ไม่คิดว่าจะพวกเขาจะชวนคนฟังดำดิ่งลึกลงไปยัง ‘มหาสมุทร’ แห่งความเศร้า
เรียกได้ว่าแทบจะมองไม่เห็นพื้นสมุทรกันเลยทีเดียว นอกจากเนื้อร้องอันยอดเยี่ยม
ต้องขอชมช่วงท้ายของเพลง (ตั้งแต่นาทีที่ 3.35 เป็นต้นไป)
ที่พวกเขาปล่อยให้ดนตรีได้ทำหน้าที่ชวนคนฟังให้ดำลึกลงไปอย่างเพลินเพลิน
แล้วก็ทะยานตัวเองให้พ้นจากความโศกเศร้า ไปกับเพลงต่อไป ซึ่งก็คือเพลง

A Sky Full of Stars

เหมือนโดนตบหัวแล้วลูบหลัง หลังจากที่พวกเขาพาเราไปดำดิ่งกับความโศกเศร้าอันไร้ก้นบึ้ง
ช่วงเวลาที่เราสิ้นหวังกับความรัก พวกเขาก็พาทะยานขึ้นไปบนฟ้าที่เต็มไปด้วยความรัก
ที่แม้ว่าดูเหมือนจะห่างไกลแต่เต็มไปด้วยความหวังที่จะไขว่คว้าดาวได้สักดวง
แถมเพลงนี้ยังเป็นเพลงเร็วที่หาฟังได้ยากยิ่งกับวงที่เชี่ยวชาญเพลงช้าๆ อย่างโคลด์เพลย์
จะว่าไปเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่เร็วที่สุดตั้งแต่พวกเขาทำเพลงเลยทีเดียว

O

ชื่อเพลงสั้นๆ เรียบๆ แต่ถือว่าเป็นเพลงปิดอัลบั้มที่สมบูรณ์แบบ
ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีเพลงไหนปิดอัลบั้มที่ช่วยขับพลังของภาพรวมได้ดีกว่าเพลงนี้
เพราะสามารถตอบรับเพลงก่อนหน้านี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยการพาผู้ฟังเข้าไปสู่ ‘ท้องฟ้า’ อันสดใส ที่แม้ว่าวันนี้อาจจะยังมัวหมอง
แต่วันข้างหน้าย่อมมีวันฟ้าโปร่งอย่างแน่นอน

    ฟังไปแค่ 9 เพลง แต่ ‘อิ่ม’ มากกว่าฟังเป็น 100 เพลง
คงไม่มีใครทำได้ในยุคนี้นอกจาก ‘โคลด์เพลย์’

---------------------------------------------------

ขอบคุณที่ตามอ่านจนจบครัาบ

เขียนดีไม่ดี ผิดพลาดยังไง ติชมกันได้นะครับ
ชื่อสินค้า:   Coldplay: Ghost Stories
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่