เรากับสามีคบกันมา 5 ปี ก่อนจะแต่งงาน เมื่อวันที่ 25 มกราคม 57 ที่ผ่านมา ช่วงแรกของชีวิตคู่ก็หวานชื่นเหมือนคู่อื่นๆ แม้ว่าหลังแต่งงานจะอยู่คนละจังหวัดเพราะงาน
9 มีนาคม 57 ตรวจรู้ว่าตั้งท้อง ให้หมอตรวจ หมอบอกว่าท้องได้ประมาณ 3 สัปดาห์ เราดีใจมาก แต่วันที่ 12 เราก็แท้งก์เพราะตกบันไดบ้านพักครู(เราเป็นครูค่ะ) เราเสียใจมากเพราะรู้ว่าท้องแค่ 3 วันก็เสียลูก แต่ที่เสียใจคูณ 2 คือ สามีไม่มาดูดำดูดีเลยค่ะ เขาอ้างว่าทำงานแม้แต่โทรหาก็ไม่มี จนเราออกจากโรงพยาบาลก็ไม่เคยมาหา ปลอบใจก็ไม่เคยพูด เราเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวคิดเอาเองว่าเขาคงเสียใจ เลยแสดงออกมาแบบนี้
จนช่วงเดือนเมษาปิดเทอม เราก็มาอยู่ที่บ้านสามี แต่เขาขอแยกห้องนอน เขาไปทำงานตกเย็นก็ดื่มเหล้าต่อกลับมาบ้าน 3 ทุ่มเป็นอย่างน้อย บางวันตี3 เราก็ทนนอนร้องไห้คนเดียว จนสิ้นเดือนเมษา 1 เดือนเต็มเราหมดความอดทน ถามเขาว่ามันเกิดอพไรขึ้นระหว่างเรา แล้วทำไมต้องแยกกันนอ เขาตอบเราว่า 'อยากมากเหรอ ถ้าอยากมากเดี๋ยวจัดให้' เขาเดินเข้าหาเราด้วยแววตาเกรี้ยวกราด เรากลัวเลยเดินหนีเข้าห้องนอนไป ตั้งแต่นั้นเขาไม่พูดกับเราเลย เราก็ยังปฏบัติหน้าที่ของภรรยาเหมือนเดิม ยกเว้นเรื่องบนเตียง
จนมาถึงวันเปิดเทอม เราได้ย้ายมาอยู่ใกล้เขาแต่เราก็อยู่บ้านพักครู เพราะบ้านเขากับรร.ห่างกันเกือบ 20 กิโล ทุกเย็นเลิกงานเราจะขับรถไปหาเขาที่บ้านทำหน้าที่ของภรรยาและลูกสะใภ้ตามปกติ ยกเว้นเรื่องบนเตียงเหมือนเดิม เขาไม่เคยมาหาเราที่บ้านพัก ไม่แม้กระทั่งจะโทรหาเราสักครั้ง ไม่เคยถามว่าเราเป็นอยู่ยังไง เราเก็บเราทนมาตลอด เวลาไปหาเขาที่บ้านเขาก็หลบหน้าตลอด
จนเมื่อวันที่ 12 มิถุนาที่ผ่านมา เราทนไม่ๆหว ขอให้พ่อเขาโทรตามให้เขากลับบ้าน เพื่อที่จะเปิดอกพูดกัน เขากลับมาถึงหน้าบึ้งตึง เราก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา เขาเงียบอยู่นาน สุดท้ายลุกขึ้นมากอดเราแน่น หอมแก้ม หอมผม ลูบหัว ลูบหลัง ตอนนั้นเราใจชื้นแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า เราคงจะกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่ เขาบอกว่าให้เรา 2 คนอยู่ห่างๆกันสักพัก แต่ไม่ได้เลิก ห่างเพื่อทบทวนเรื่องที่ผ่านมา ไม่ให้เราไปหา ไม่ให้เราโทรหรือติดต่ออะไรไป เรายอมเพราะรักเขามากและอยากให้เวลาทั้งเขาและเรา
แต่จู่ๆเมื่อวันที่ 24 มิถุนาที่ผ่านมา พ่อสามีโทรมาบอกเราว่า สามีเราลงใต้ไปสุราษตั้งแต่วันที่ 20 แล้ว กลายเป็นว่าเรารู้ทีหลังสุด แล้วที่พ่อเพิ่งบอกห็เพราะเพิ่งรู้เหมือนกัน ติแรกพ่อคิดว่าเขาไปนอนในไร่ เลยไม่ได้สนใจ เราพยายามติดต่อเขาตลอดแต่เขาไม่รับสายเลย ได้แต่ติดต่อผ่านพี่สาวที่เขาไปอยู่ด้วย แต่ก็ไม่เคยได้คุยอะไรกับเขาเลย
จนวันที่ 25 มิถุนาที่ผ่านมา ครบรอบแต่งงาน 5 เดือน เวลา 20.19 น. เขาโทรมา เราดีใจมาก แต่สุดท้ายก็แทบล้มทั้งยืน เมื่อประโยคแรกที่เขาพูดออกมาคือ เขาต้องการหย่า เขาต้องการใบหย่า เราขอเหตุผล เขาบอกว่า เราไปด้วยกันไม่ได้ เราร้องไห้อ้อนวอนขอโอกาสทั้งๆที้เราไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่เขายืนยันคำเดิม เขาบอกว่าจะหย่าเมื่อไหร่จะโทรนัดอีกที ประโยคสุดท้ายที่ทำเราเจ็บจนแทบหมดลมหายใจคือ เขาพูดว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่ได้จากการแต่งงานครั้งนี้ คือการที่เรา 2 คนไม่มีลูกด้วยกัน เพราะลูกจะกลายเป็นตัวปัญหา เท่านั้นล่ะ เราร้องไห้ไม่อายใครเลย มันเจ็บๆเจียนตาย ที่จู่ๆเขาก็ขอหย่า โดยที่เราไม่เคยทะเลาะอะไรกันรุนแรงเลย ตอนนี้เราทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ถึงเราจะเป็นครู แต่เราก็เป็นคนธรรมดา ที่มีหัวใจและเจ็บเป็น
สามีขอหย่าแบบไม่ทันตั้งตัว
9 มีนาคม 57 ตรวจรู้ว่าตั้งท้อง ให้หมอตรวจ หมอบอกว่าท้องได้ประมาณ 3 สัปดาห์ เราดีใจมาก แต่วันที่ 12 เราก็แท้งก์เพราะตกบันไดบ้านพักครู(เราเป็นครูค่ะ) เราเสียใจมากเพราะรู้ว่าท้องแค่ 3 วันก็เสียลูก แต่ที่เสียใจคูณ 2 คือ สามีไม่มาดูดำดูดีเลยค่ะ เขาอ้างว่าทำงานแม้แต่โทรหาก็ไม่มี จนเราออกจากโรงพยาบาลก็ไม่เคยมาหา ปลอบใจก็ไม่เคยพูด เราเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวคิดเอาเองว่าเขาคงเสียใจ เลยแสดงออกมาแบบนี้
จนช่วงเดือนเมษาปิดเทอม เราก็มาอยู่ที่บ้านสามี แต่เขาขอแยกห้องนอน เขาไปทำงานตกเย็นก็ดื่มเหล้าต่อกลับมาบ้าน 3 ทุ่มเป็นอย่างน้อย บางวันตี3 เราก็ทนนอนร้องไห้คนเดียว จนสิ้นเดือนเมษา 1 เดือนเต็มเราหมดความอดทน ถามเขาว่ามันเกิดอพไรขึ้นระหว่างเรา แล้วทำไมต้องแยกกันนอ เขาตอบเราว่า 'อยากมากเหรอ ถ้าอยากมากเดี๋ยวจัดให้' เขาเดินเข้าหาเราด้วยแววตาเกรี้ยวกราด เรากลัวเลยเดินหนีเข้าห้องนอนไป ตั้งแต่นั้นเขาไม่พูดกับเราเลย เราก็ยังปฏบัติหน้าที่ของภรรยาเหมือนเดิม ยกเว้นเรื่องบนเตียง
จนมาถึงวันเปิดเทอม เราได้ย้ายมาอยู่ใกล้เขาแต่เราก็อยู่บ้านพักครู เพราะบ้านเขากับรร.ห่างกันเกือบ 20 กิโล ทุกเย็นเลิกงานเราจะขับรถไปหาเขาที่บ้านทำหน้าที่ของภรรยาและลูกสะใภ้ตามปกติ ยกเว้นเรื่องบนเตียงเหมือนเดิม เขาไม่เคยมาหาเราที่บ้านพัก ไม่แม้กระทั่งจะโทรหาเราสักครั้ง ไม่เคยถามว่าเราเป็นอยู่ยังไง เราเก็บเราทนมาตลอด เวลาไปหาเขาที่บ้านเขาก็หลบหน้าตลอด
จนเมื่อวันที่ 12 มิถุนาที่ผ่านมา เราทนไม่ๆหว ขอให้พ่อเขาโทรตามให้เขากลับบ้าน เพื่อที่จะเปิดอกพูดกัน เขากลับมาถึงหน้าบึ้งตึง เราก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา เขาเงียบอยู่นาน สุดท้ายลุกขึ้นมากอดเราแน่น หอมแก้ม หอมผม ลูบหัว ลูบหลัง ตอนนั้นเราใจชื้นแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า เราคงจะกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่ เขาบอกว่าให้เรา 2 คนอยู่ห่างๆกันสักพัก แต่ไม่ได้เลิก ห่างเพื่อทบทวนเรื่องที่ผ่านมา ไม่ให้เราไปหา ไม่ให้เราโทรหรือติดต่ออะไรไป เรายอมเพราะรักเขามากและอยากให้เวลาทั้งเขาและเรา
แต่จู่ๆเมื่อวันที่ 24 มิถุนาที่ผ่านมา พ่อสามีโทรมาบอกเราว่า สามีเราลงใต้ไปสุราษตั้งแต่วันที่ 20 แล้ว กลายเป็นว่าเรารู้ทีหลังสุด แล้วที่พ่อเพิ่งบอกห็เพราะเพิ่งรู้เหมือนกัน ติแรกพ่อคิดว่าเขาไปนอนในไร่ เลยไม่ได้สนใจ เราพยายามติดต่อเขาตลอดแต่เขาไม่รับสายเลย ได้แต่ติดต่อผ่านพี่สาวที่เขาไปอยู่ด้วย แต่ก็ไม่เคยได้คุยอะไรกับเขาเลย
จนวันที่ 25 มิถุนาที่ผ่านมา ครบรอบแต่งงาน 5 เดือน เวลา 20.19 น. เขาโทรมา เราดีใจมาก แต่สุดท้ายก็แทบล้มทั้งยืน เมื่อประโยคแรกที่เขาพูดออกมาคือ เขาต้องการหย่า เขาต้องการใบหย่า เราขอเหตุผล เขาบอกว่า เราไปด้วยกันไม่ได้ เราร้องไห้อ้อนวอนขอโอกาสทั้งๆที้เราไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่เขายืนยันคำเดิม เขาบอกว่าจะหย่าเมื่อไหร่จะโทรนัดอีกที ประโยคสุดท้ายที่ทำเราเจ็บจนแทบหมดลมหายใจคือ เขาพูดว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่ได้จากการแต่งงานครั้งนี้ คือการที่เรา 2 คนไม่มีลูกด้วยกัน เพราะลูกจะกลายเป็นตัวปัญหา เท่านั้นล่ะ เราร้องไห้ไม่อายใครเลย มันเจ็บๆเจียนตาย ที่จู่ๆเขาก็ขอหย่า โดยที่เราไม่เคยทะเลาะอะไรกันรุนแรงเลย ตอนนี้เราทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ถึงเราจะเป็นครู แต่เราก็เป็นคนธรรมดา ที่มีหัวใจและเจ็บเป็น