“ปุ๋ย” สะพรึง! นางงามยุคใหม่ห่วงสวยเสพติดศัลย์ ให้กำลังใจ “แอลลี่” ประกวดเวทีโลก


“ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์” เปิดใจแถลงการดำเนินงานมูลนิธิ Angel Wings Foundation International ตั้งเป้าช่วยเหลือเด็กเรียนดีแต่ด้อยโอกาส รับทุ่มเงินล้านสร้างโรงเรียนภาคอีสาน ลั่นดีใจที่คนไทยยังไม่ลืมตน ฟุ้งครอบครัวแฮปปี้มาก เผยวงการนางงามยุคใหม่น่ากลัวเพราะห่วงสวยและติดศัลยกรรมเกินไป ให้กำลังใจ “แอลลี่” ประกวดเวทีโลก แนะอย่าเครียดจนขาดความมั่นใจในตนเอง

ห่างหายจากวงการไปนาน หลังตัดสินใจแต่งงานกับ “มร.เฮิร์บ ไซมอน” มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวอเมริกัน และใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกานานหลายปี แต่ก็ยังเทียวมาเทียวไประหว่างอเมริกาและเมืองไทยเพื่อกลับมาเยี่ยมครอบครัวเสมอ ล่าสุด “ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน” อดีตนางงามจักรวาล ปี 2531 เจ้าของสโลแกน “นางงามรักเด็ก” ก็ได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง และได้จัดงานแถลงการดำเนินงานในฐานะผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศล Angel Wings Foundation International ประจำปี 2557 เพื่อช่วยเหลือเด็กเรียนดีแต่ด้อยโอกาสในสังคม เผยดีใจที่คนไทยยังไม่ลืมตนแล้ว รับควักเงินล้านสร้างโรงเรียน จ.อุบลราชธานี ทุ่มเทช่วยเหลือสังคมเต็มที่เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก ลั่นวงการนางงามเปลี่ยนไป ห่วงสวยจนน่ากลัว แนะ “แอลลี่ พิมบงกช จันทร์แก้ว” รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 อย่าเครียดจนขาดความมั่นใจในตนเอง

“กลับมาคราวนี้ก็มายินดีกับหลานด้วย เขาเข้าไฮสคูล แล้วก็มาทำเรื่องโครงการต่อด้วยค่ะ โครงการนี้เริ่มมา 15 ปีแล้วค่ะ ที่ปุ๋ยกับคุณเฮิร์บสร้างขึ้นมาจากอเมริกา ปุ๋ยกับคุณเฮิร์บคิดว่าตอนเราแต่งงานกันปุ๋ยต้องไปอยู่ที่อเมริกา แต่ใจปุ๋ยก็ไม่อยากจะทิ้งเมืองไทย ยังไงปุ๋ยก็รักเมืองไทย เป็นคนไทยเลี้ยงลูกเพื่อจะรู้จักเมืองไทย ปุ๋ยก็ขอให้คุณเฮิร์บมาร่วมมือกันทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ปุ๋ยก็เลยสร้างโครงการ Angels Wings Foundation International ขึ้นมา เพื่อจะเอาโอกาสที่เรามีจากอเมริกามาช่วยพี่น้องที่เมืองไทย ถึงวันนี้ปุ๋ยก็ดีใจที่ความฝันเป็นจริง เราทำโครงการหลายอย่างที่สำเร็จแล้ว อย่าง 2 โครงการที่เราทำในวันนี้ และปุ๋ยหวังว่าเราจะมีโอกาสทำได้อีกมากมายค่ะ"

เผยควักเงินล้านเปิดโรงเรียนภาคอีสาน เน้นช่วยเหลือเด็กเรียนดีแต่ด้อยโอกาส
“ได้เห็นน้องๆ ที่จบการศึกษาจากโครงการของเรามาในวันนี้ ปุ๋ยภูมิใจและดีใจมากที่ทุกคนเห็นความสำคัญของการศึกษา ซึ่งจะช่วยเหลือน้องๆ ของเราได้มากมาย และเขาจะโตขึ้นเป็นประโยชน์ให้กับประเทศไทย เราจะได้มีสังคมที่มีความรู้ที่ดี และมีน้ำใจที่ช่วยบ้านเรา อันนี้จะสำคัญมากในอนาคตของประเทศค่ะ (ยิ้ม)"

“พรุ่งนี้ปุ๋ยก็จะไปเปิดโรงเรียนที่จังหวัดอุบลราชธานี อันนี้ใช้เวลา 8 เดือนที่จะสร้างขึ้นมา เป็นอาคารค่ะมูลค่าก็หลายล้านบาท (หัวเราะ) แต่เงินไม่สำคัญเท่าโอกาสที่เราสร้างมาค่ะ อันนี้คือสิ่งที่ปุ๋ยภูมิใจมากที่สุดค่ะ แล้วก็จะมีโครงการใหม่เพิ่มอีก ปุ๋ยคิดอยู่เรื่อยๆ ว่าจะเอาโครงการอะไรที่จะมาสร้างโอกาสให้กับเด็กที่เมืองไทย การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะว่าจะสร้างอนาคตให้กับเด็กด้วย ปุ๋ยจะพยายามทำโครงการให้เติบโต เพื่อจะช่วยเหลือเด็กเพิ่มขึ้นค่ะ"

“โครงการของปุ๋ยอยากจะเลือกเด็กที่เรียนเก่ง เพราะถ้าเขาเรียนเก่งแล้วเขาไม่มีโอกาสที่จะเรียนต่อ อันนี้ก็จะเสียโอกาสชีวิตก็เสีย ปุ๋ยก็พยายามที่จะคัดเลือกเด็กที่อยากจะเรียนต่อ และมีความสามารถที่จะช่วยเหลือสังคมด้วยค่ะ"

รับอยากทำตัวเพื่อสังคมเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูก ฟุ้งครอบครัวแฮปปี้มาก
“มาครั้งนี้สั้นมากค่ะ เพราะคุณเฮิร์บก็มีธุระที่อเมริกา แต่อย่างน้อยปุ๋ยก็ต้องแวะมาบ้านทุกปี ครั้งละอย่างน้อย 2 อาทิตย์ค่ะ คราวนี้ก็มาทั้งครอบครัวค่ะ แต่เขาไม่อยากลงมาที่งาน เขาอาย เขาเห็นกล้องเขาก็วิ่งหนี (หัวเราะ) ตอนนี้ครอบครัวแฮปปี้มากค่ะ โซฟี่ตอนนี้ 4 ขวบ ไหว้เก่ง กินเก่ง ฌอห์นเขาก็น่ารัก เป็นคนรักแม่ (ยิ้ม) ลูกก็ถามเหมือนกันว่าแม่ไม่เหนื่อยเหรอ แต่เป็นความเหนื่อยที่มีความสุขมาก เพราะเป็นแม่อย่างเดียวปุ๋ยก็รู้สึกว่าไม่พอใจ เพราะเราต้องเป็นตัวอย่างให้กับลูก ถ้าเราอยากจะสอนลูกเราทำอะไรที่จะเป็นประโยชน์ของชาติ สังคม ชีวิต ครอบครัว เราต้องเป็นตัวอย่างไหมคะ ถ้าปุ๋ยอยู่บ้านอย่างเดียว ดูแลลูก นอน กินอย่างเดียวปุ๋ยไม่พอใจ เพราะปุ๋ยถือว่าปุ๋ยเป็นคนไทย ปุ๋ยมีตำแหน่งในเมืองไทย และปุ๋ยมีครอบครัวจากเมืองไทย ปุ๋ยต้องใช้โอกาสนั้นเพื่อจะทำให้ชีวิตเรามีคุณค่า เหมาะสม และปุ๋ยอยากเป็นตัวอย่างให้ลูกๆ ค่ะ”

อยากให้ลูกคุ้นเคยกับความเป็นไทย และพร้อมสนับสนุนหากวันหนึ่งลูกอยากสานต่อโครงการของแม่
“มาครั้งนี้คงไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน เพราะปุ๋ยมีโครงการมากมายคงไม่มีเวลาเยอะที่จะไปเที่ยว อาจจะได้แค่ 1-2 วัน แต่ลูกเขาเข้าใจว่าแม่มาบ้านมาเยี่ยมครอบครัว มาเยี่ยมเพื่อนมาทำงาน และเป็นตัวอย่างให้กับเขา เขาก็เข้าใจและวันนี้ปุ๋ยก็ไปเยี่ยมโรงเรียนของกทม. เพื่อจะให้ลูกเห็นว่าโรงเรียนที่เมืองไทยเป็นยังไง เพราะที่อเมริกาเขาเรียนสบายมาก เขาจะไม่รู้ว่าที่โรงเรียนในเมืองไทยต้องการอะไรบ้าง ตอนเขาโตเขาจะได้คิดต่อว่าเขาจะช่วยเหลือยังไง แค่เข้าไปในห้องน้ำเขาก็ช็อกแล้ว (หัวเราะ) เขาบอกเขาใช้กันอย่างไรล่ะแม่ ตอนนี้ปุ๋ยอยากจะให้เขามีประสบการณ์ที่เมืองไทย เพราะว่าเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของแม่เขา ปุ๋ยอยากให้เขาเห็นว่าบ้านแม่เป็นยังไง และต่อไปถ้าเขาอยากมาซื้อบ้านหรือมาอยู่ ปุ๋ยก็อยากจะสนับสนุนและให้กำลังใจเขาที่จะทำต่อเนื่องโครงการของแม่ (ยิ้ม)"

“ตอนนี้ปุ๋ยมีบ้านของคุณแม่อยู่ที่เมืองไทยนะคะ แต่ลูกยังเล็กอยู่เขาเรียนอยู่ที่อเมริกาด้วย ไปๆ มาๆ ก็จะลำบากหน่อย ปุ๋ยก็ต้องแบ่งเวลาให้กับโครงการ ให้กับครอบครัว ให้กับสามี ให้กับลูก ก็เป็นชีวิตที่แฮปปี้มาก เพราะว่าปุ๋ยได้ทำหลายๆ อย่าง และเป็นผู้ช่วยให้หลายๆ คน สิ่งนี้ทำให้ปุ๋ยแฮปปี้มากค่ะ ทำให้ชีวิตมีคุณค่า ลูกๆ ก็จะรู้ว่าวันเกิด วันพิเศษอะไร แม่ไม่ต้องการของขวัญขอให้เขาเรียนจบแค่นั้น วันที่เขาจะเอาปริญญามาให้แม่ อันนี้จะเป็นของขวัญที่แม่จะมีความสุขมากที่สุด วันเกิดปุ๋ยก็ขอให้เขาแค่เขียนโน้ตมาว่าเขามีความรู้สึกอย่างไร แต่ของขวัญแม่ไม่เอา วันที่เขาเรียนจบวันนั้นแม่จะมีความสุขมาก ไม่ว่าแม่จะอยู่ที่นี่หรืออยู่บนสวรรค์ก็ต้องเอามาให้ได้ (หัวเราะ)"

เผยเพิ่งไปทำบัตรประชาชนรอบใหม่ ดีใจคนไทยยังไม่ลืมตน
“ก็กลับมาถ่ายบัตรประชาชนด้วย พอดีบัตรประชาชนขาดไป 2 เดือน พอมาถึงปุ๋ยก็รีบไปต่อเลย ได้เร็วมาก ประมาณ 10 นาทีก็เสร็จแล้ว ทุกคนน่ารักมากค่ะ (ยิ้ม) ปุ๋ยก็ชอบนะ กลับมาบ้านคนยังคิดถึงปุ๋ยอยู่ ปุ๋ยก็ปลื้มใจที่คนยังรู้จักปุ๋ยเพราะงานที่ปุ๋ยทำมาก็ทำเพื่อเด็กของชาติค่ะ"

รับวงการนางงามเปลี่ยนไป หันมาเน้นความสวยและศัลยกรรมจนขาดความเป็นตัวเอง
“ไม่ว่าจะเป็นนางงามหรือใคร ทุกคนไม่มีใครเหมือนกัน ทุกคนก็มีความคิดของเขา เขาก็มีทางของเขา แต่ปุ๋ยเป็นคนรักเด็ก ทุกๆ คนก็ได้ยินปุ๋ยพูดมาตลอด ก็เป็นสิ่งที่ปุ๋ยมีความสุขมาก ไม่ว่าปุ๋ยจะเป็นนางงามหรือไม่ก็เป็นสิ่งที่ปุ๋ยจะทำอยู่ดีค่ะ"

“ตอนนี้เวทีนางงามน่ากลัว (หัวเราะ) ถ้าเป็นตอนนี้ปุ๋ยคงไม่กล้าประกวด ทุกคนจะเน้นความสวยมากเกินไป บางทีเขาไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ต้องไปทำจมูกไปทำอะไรมากมาย แต่ออกมาทุกคนก็เหมือนกันหมด ปุ๋ยเคยคุยกับคุณโดนัลด์ ทรัมป์(เจ้าของบริษัทผู้จัดการประกวดนางงามจักรวาลหรือมิสยูนิเวิร์ส) ว่าทำไมต้องเน้นในทางที่เซ็กซี่เกินไป เพราะว่าสมัยก่อนปุ๋ยภูมิใจที่เป็นนางงามจักรวาล เพราะว่าปุ๋ยเป็นตัวแทนให้กับประเทศ และเป็นตัวแทนของผู้หญิงทั่วไป ว่าเราไม่ได้เป็นคนสวยอย่างเดียว เรามีความคิดส่วนตัว เราเป็นตัวของตัวเอง เรามีโอกาสที่จะช่วยเหลือสังคมเรามีโอกาสมากมาย และถ้าเราจะใช้โอกาสนั้นไปช่วยคนอื่นก็เป็นสิ่งที่ดี และตำแหน่งก็ช่วยหลายอย่าง ไม่ใช่ว่าเรามีมงกุฎอย่างเดียวก็จบแค่นี้ เราต้องต่อเนื่องเราต้องใช้โอกาสนั้นไปทำอะไรที่จะดีกว่านั้น"

“สมัยนั้นทุกคนจะหาคนที่เด่น ไม่ได้สวยอย่างเดียว แต่รู้สึกว่าตอนนี้เขาจะเน้นความสวยมากเกินไป ปุ๋ยเห็นว่าคนที่ไปประกวดตอนนี้เขาจะเครียดมาก เขาจะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เขาจะห่วงว่ารูปร่างเป็นยังไง แต่คิดว่าคนเขาจะเริ่มเห็นว่าเราไปทำหน้า ไปทำตัวมากเกินไป เราจะไม่มีจุดเด่นซึ่งเป็นสิ่งที่พิเศษมาก่อนก็หายไป เราต้องกลับมาหาจุดเด่นนั้นใหม่ เขาต้องมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเพื่อจะหาจุดเด่นนั้น"

แนะ “แอลลี่ พิมบงกช จันทร์แก้ว” อย่าเครียดและอย่าห่วงเรื่องความสวยจนไร้ความมั่นใจ
“ก็ขอให้น้องแอลลี่มีความสุขและสนุกกับการประกวด เพราะว่าถ้าเราเครียดเกินไปเราจะไม่มีความมั่นใจ เราต้องเข้าใจว่าเราไปประกวดเรามีหน้าที่ที่จะให้คนรู้จักเมืองไทย ให้รู้จักประเพณีไทย ถ้าเราลืมว่าเรามาจากประเทศไหน จุดเด่นเราจะหายทันที เพราะว่าการประกวดเราจะมีนางสาวไทยแค่คนเดียว สิ่งแรกเราต้องจำจุดนี้ว่าเราไปเพื่อที่เป็นนางสาวไทย นอกจากนั้นต้องมีความสนุกด้วย ถ้าเขามีความสนุกทุกคนจะสนุกกับเขา ทุกคนจะสนใจเขา ทุกคนจะอยากใกล้ชิดเขา ที่ปุ๋ยสังเกตสมัยนี้ผู้หญิงทุกคนเขาจะเครียดมาก เขาจะห่วงแต่หน้าตา แต่เขาไม่ห่วงว่าเขาจะแสดงออกมาอย่างไร และจะมีความผูกพันกับคนอย่างไร อันนี้สำคัญมาก เพราะคนที่มองเราเขาไม่ได้มองแค่หน้าอย่างเดียว เขาจะมองความรู้สึกที่เขามีต่อเรา เราต้องจำความรู้สึกนั้น ตอนเราพรีเซ็นต์ตัวเองให้กับกรรมการ"







ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000071711
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่