(แอบดูมาแล้ว) Transformers: Age of Extinction (2014) : มันส์แบบมั่วๆ ปนเยิ่นเย้อ..จนน่ารำคาญ!



(โปรดใช้วิจาณญาณ และอย่าถือข้อเขียนนี้เป็นสาระ เพราะเขียนด้วยอคติส่วนตัวล้วนๆ)

มีคนอยู่ 3 ประเภทสำหรับหนังอย่าง Transformers ประเภทแรก คือ พวกที่ไม่เคยคิดจะดูมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่ทางหนังที่สนใจ ประเภทถัดมาคือ พวกที่ตามดูตลอด แต่ดูแบบปลื้มๆ ปลงๆ ส่วนประเภทสุดท้ายคือ พวกแฟนพันธุ์แท้ เป็นพวกที่ชอบในระดับคลั่งไคล้ และอยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง

ผู้เขียนอยู่ในกลุ่มคนดูพวกที่สอง คือ พวกที่ตามดูตลอดทุกภาค ด้วยความปลื้มและความปลง

ปลื้ม คือ ยอมรับในความตื่นตาตื่นใจของงานซีจี และฉากแอ็คชั่นของหนัง เหมือนได้เติมเต็มความเป็นเด็กในตัว (ที่ยังคงมีอยู่เยอะพอสมควร) ส่วนปลงนั้นมาจากอารมณ์ในซีกด้านที่เป็นผู้ใหญ่ ที่มันคอยสั่งให้รู้สึกแหยงและยี้กับหนังชุดนี้อยู่เป็นพักๆ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นจุดบอดของหนังก็คือเรื่องราวที่โบ๋เบ๋บ๋อแบ๋ ตัวละครที่ไร้พัฒนาการ ไม่มีอะไรให้น่าติดตาม ตลอดการดูจึงเป็นการรออยู่เพียงอย่างเดียวคือฉาก “หุ่นยนต์ซัดกัน”

หนังภาคล่าสุดนี้ยาวบ้าเลือดเกือบ 3 ชั่วโมงเต็ม เนื่องจากเปลี่ยนตัวละครชุดใหม่ยกเซ็ต เลยต้องมีการปูเรื่องราว สร้างเงื่อนงำ วางปมขัดแย้งขึ้นมาใหม่ หลังสงครามระหว่างหุ่นสองเผ่าได้จบลงไปแล้วในภาคก่อน แต่ก็แค่นั้น! อย่าได้ถามหาความหนักแน่น หรือ ความลงตัวอันเป็นแก่นสารเป็นอันขาด เพราะสุดท้ายหนังยังคงพยายามที่จะยัดเยียด โน่น นี่ นั่น เข้ามาแบบจงใจให้ดูเยอะเข้าไว้ จนกลายเป็นล้นมากเกินพอดี และออกมา “เละ” เหมือนภาคที่ผ่านมา

ในขณะที่ภาพของ “หุ่นยนต์ซัดกัน” ที่เคยสร้างความมันส์สะใจให้กับเราได้ในหนังภาคแรกๆ มาถึงภาคนี้ความรู้สึกเหล่านั้นมันได้ลดน้อยถอยลงไปอย่างน่าใจหาย ไม่ใช่เพราะคุณภาพจากงานสร้างที่ด้อยลง แต่เป็นเพราะการนำเสนอในมุมเดิมๆ ซ้ำๆ ได้ทำให้เราเริ่มคุ้นชินเฉยชากับมันเสียแล้ว

และที่เข้าขั้นน่าเวทนา ก็คือ ทั้งๆ ที่หนังมันหาความลงตัวเฉียบคมในตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว มันยังอุตส่าห์พยายามทำตัวคมคายแบบไร้มารยาท ด้วยการแอบแขวะคนจีนเรื่อง “การปลดปล่อย” ตลอดจนแอบเยาะเย้ยถากถางจิตวิญญาณของคนจีนด้วยการเปรียบเปรยเข้ากับไดโนเสาร์ (ล้าหลัง+คอมมิว) ซึ่งไมเคิล เบย์ คงคิดว่าการแอบแฝงสิ่งเหล่านี้ลงไป คงทำให้หนังมันดูสูงส่งเสียเต็มประดา แต่เปล่าเลย...

มิพักต้องนับรวมฉากขาย ที่จงใจให้ หุ่นออพติมัส กำราบไดโนเสาร์พยศ ก่อนขึ้นขี่หลังพร้อมชูดาบขึ้นฟ้าแล้วออกควบตะบึง เหมือนจอมยุทธคะนองยุทธจักร ที่ทำเอาหนังออกมาดู “เด็ก” หมดราคา น่าอารมณ์เสียในความรู้สึกของคนดูแบบผู้เขียนไปเยอะทีเดียว

นี่แหละหนา…ไมเคิล เบย์ ถึงยังคงคนละชั้นคนละเบอร์กับคนทำหนังอย่าง กิลเลอร์โม่ เดล โทโร่ ทั้งๆ ที่เบย์เข้าวงการมาก่อนตั้งนาน เพราะทำหนังด้วยทรรศคติตื้นเขิน แล้วยังอวดดี ยกตัวเองเหนือคนอื่นสไตล์มะกันนี่แหละมั้ง!!

คะแนน ★★

http://www.facebook.com/pages/เกรียนหนัง/112834835539518
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่