(รอยเตอร์) -ในวันอังคารที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อาวุโสของทางการสหรัฐกล่าวว่า การปกครองโดยทหารในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะนานกว่าที่คาดไว้และมีการปราบปรามมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาหลังจากการทำรัฐประหารของประเทศในปี 2006
เจ้าหน้าที่อาวุโสได้ให้การ่ต่อสภาคองเกรสว่า ทางวอชิงตันยังคงพิจารณาอยู่ว่าการซ้อมรบทางทหารขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคที่เรียกว่าคอบร้าโกลด์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประเทศไทย จะมีขึ้นในปีหน้าหรือไม่หลังการที่ทางทหารได้ยึดอำนาจในเดือนพฤษภาคม
นาย Scot Marcielรองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายการกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า"ตอนแรกเราก็ความหวังว่าการรัฐประหารครั้งนี้ก็จะเหมือนกับเมื่อครั้งที่เกิดขึ้นในการทำรัฐประหารปี 2006 - นั่นคือทหารจะดำเนินการอย่างรวดเร็วในการถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนและมีการเลือกตั้งที่อิสระและยุติธรรม"
"อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าการรัฐประหารในครั้งนี้มีทั้งการปราบปรามมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปนานกว่าครั้งที่แล้ว"
นอกจากนี้นาย Marciel ยังได้ให้การต่อคณะอนุกรรมการเอเชียแปซิฟิกของคณะกรรมการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรว่า
การทำรัฐประหารในประเทศไทยครั้งนี้ได้ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากเนี่องจากประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐในเอเชีย
ความท้าทายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องเผชิญก็คือ การที่จะต้องแสดงออกอย่างชัดเจนที่จะสนับสนุนให้ประเทศไทยได้กลับมามีประชาธิปไตยและเสรีภาพในขั้นพื่นฐานโดยรวดเร็ว ในขณะที่ยังคงทำงานเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะยังสามารดำรงความแข็งแกร่งของมิตรภาพอันสำคัญยิ่ง พร้อมทั้งเป็นหุ้นส่วนทางด้านความมั่นคงในระยะยาวต่อไป
นาย Marciel กล่าวว่าทางวอชิงตันหวังว่า การวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงของนานาชาติต่อการรัฐประหารของทหารไทยนั้นจะทำให้มีการผ่อนคลายการปราบปรามลงและการนำประชาธิปไตยกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
ทางสหรัฐจะยังคงเร่งเร้าให้มีการยกเลิกกฏอัยการศึกและการจัดการเลือกตั้งให้เร็วกว่า กำหนดการ 15 เดีอนที่ลางเลือนของรํฐบาลทหาร
อย่างไรก็ตามเขากล่าวเสริมว่าทางสหรัฐก็ยอมรับว่ามันเป็นการยากที่จะคาดเดาว่าคณะรัฐบาลทหารจะอยู่ในอำนาจไปอีกนานเท่าไร และเราก็จะรอจนมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว เราจึงจะสามารถดำเนินความสัมพันธ์ที่เป็นปกติ่ต่อไป
ตามกฏหมายของสหรัฐทางวอชิงตันได้ระงับเงินช่วยเหลือทางด้านความม่นคงจำนวน 4.7 ล้านเหริยญนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารและยังยกเลิกการติดต่อของเจ้าหน้าที่ระดับสูง การซ้อมรบทางทหาร และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจไทย
นาย Marcielยังกล่าวต่อไปว่าทางวอชิงตันยังไม่ได้ตัดสินใจว่าการซ้อมรบคอบร้าโกลด์ที่จะมีในต้นปีหน้าจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งการซ้อมรบนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งไม่เพียงแต่ประเทศไทยและสหรัฐเท่านั้นแต่
ยังมีความสำคัญต่อภูมิภาคด้วย "เรายังคงพิจารณาอยู่ และเรายังคงพอมีเวลาที่จะจัดการในประเด็นนี้อีกเล็กน้อย"
นาย Steve Chabot ประธานคณะอนุกรรมการที่นาย Marcielได้เข้าให้การ แนะนำว่าการซ้อมรบคอบร้าโกลด์ควรจะย้ายไปประเทศอื่น เช่นประเทศออสเตรเลีย พร้อมทั้งเสริมว่า"มันจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาดถ้าเรายังจะให้ประเทศไทยได้เข้ามีส่วนร่วมในการซ้อมรบนี้
"ทางวอชิงตันยังไม่ได้ตัดสินใจว่ายกเลิกการลงโทษโดยใช้อำนาจของประธานาธิบดีหรือไม่ รวมทั้งการยกเลิกการสนับสนุนที่ IMFและ World bankจะมีให้ต่อไทยในการที่ไทยล้มเหลวในการจัดการเรื่องการค้ามนุษย์"นาย Marciel กล่าว
http://in.reuters.com/article/2014/06/24/usa-thailand-idINKBN0EZ2XM20140624
แหม่! ประเทศไทย ประเทศกำลังพัฒนา(หรือว่าด้อยพัฒนา?)สามารถทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกา มหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกตกอยู่สถานะยากลำบากได้นี่ แสดงถึงความหน่อมแน้ม และไม่ประสีประสาในเรื่องการต่างประเทศของ Obama เล้ย แล้วอย่างนี้จะมีปัญญาไปจัดการอะไรกับ รัสเซียกับจีนได้เล่า รัสเซียได้โอกาสเลยยึดแหลมไครเมียเฉยเลย ส่วนจีนก็ยึดบ่อน้ำมันในทะเลจีนใต้ที่พิพาทกับเวียตนามหน้าตาเฉยเหมือนกัน
สหรัฐอเมริกามหาอำนาจตกอันดับแล้ว 55555
สหรัฐระบุรัฐบาลทหารไทยจะยังคงอยู่ในอำนาจนานกว่าที่คาดไว้
เจ้าหน้าที่อาวุโสได้ให้การ่ต่อสภาคองเกรสว่า ทางวอชิงตันยังคงพิจารณาอยู่ว่าการซ้อมรบทางทหารขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคที่เรียกว่าคอบร้าโกลด์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประเทศไทย จะมีขึ้นในปีหน้าหรือไม่หลังการที่ทางทหารได้ยึดอำนาจในเดือนพฤษภาคม
นาย Scot Marcielรองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายการกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า"ตอนแรกเราก็ความหวังว่าการรัฐประหารครั้งนี้ก็จะเหมือนกับเมื่อครั้งที่เกิดขึ้นในการทำรัฐประหารปี 2006 - นั่นคือทหารจะดำเนินการอย่างรวดเร็วในการถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนและมีการเลือกตั้งที่อิสระและยุติธรรม"
"อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าการรัฐประหารในครั้งนี้มีทั้งการปราบปรามมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปนานกว่าครั้งที่แล้ว"
นอกจากนี้นาย Marciel ยังได้ให้การต่อคณะอนุกรรมการเอเชียแปซิฟิกของคณะกรรมการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรว่าการทำรัฐประหารในประเทศไทยครั้งนี้ได้ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากเนี่องจากประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐในเอเชีย
ความท้าทายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องเผชิญก็คือ การที่จะต้องแสดงออกอย่างชัดเจนที่จะสนับสนุนให้ประเทศไทยได้กลับมามีประชาธิปไตยและเสรีภาพในขั้นพื่นฐานโดยรวดเร็ว ในขณะที่ยังคงทำงานเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะยังสามารดำรงความแข็งแกร่งของมิตรภาพอันสำคัญยิ่ง พร้อมทั้งเป็นหุ้นส่วนทางด้านความมั่นคงในระยะยาวต่อไป
นาย Marciel กล่าวว่าทางวอชิงตันหวังว่า การวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงของนานาชาติต่อการรัฐประหารของทหารไทยนั้นจะทำให้มีการผ่อนคลายการปราบปรามลงและการนำประชาธิปไตยกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
ทางสหรัฐจะยังคงเร่งเร้าให้มีการยกเลิกกฏอัยการศึกและการจัดการเลือกตั้งให้เร็วกว่า กำหนดการ 15 เดีอนที่ลางเลือนของรํฐบาลทหาร
อย่างไรก็ตามเขากล่าวเสริมว่าทางสหรัฐก็ยอมรับว่ามันเป็นการยากที่จะคาดเดาว่าคณะรัฐบาลทหารจะอยู่ในอำนาจไปอีกนานเท่าไร และเราก็จะรอจนมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว เราจึงจะสามารถดำเนินความสัมพันธ์ที่เป็นปกติ่ต่อไป
ตามกฏหมายของสหรัฐทางวอชิงตันได้ระงับเงินช่วยเหลือทางด้านความม่นคงจำนวน 4.7 ล้านเหริยญนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารและยังยกเลิกการติดต่อของเจ้าหน้าที่ระดับสูง การซ้อมรบทางทหาร และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจไทย
นาย Marcielยังกล่าวต่อไปว่าทางวอชิงตันยังไม่ได้ตัดสินใจว่าการซ้อมรบคอบร้าโกลด์ที่จะมีในต้นปีหน้าจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งการซ้อมรบนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งไม่เพียงแต่ประเทศไทยและสหรัฐเท่านั้นแต่
ยังมีความสำคัญต่อภูมิภาคด้วย "เรายังคงพิจารณาอยู่ และเรายังคงพอมีเวลาที่จะจัดการในประเด็นนี้อีกเล็กน้อย"
นาย Steve Chabot ประธานคณะอนุกรรมการที่นาย Marcielได้เข้าให้การ แนะนำว่าการซ้อมรบคอบร้าโกลด์ควรจะย้ายไปประเทศอื่น เช่นประเทศออสเตรเลีย พร้อมทั้งเสริมว่า"มันจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาดถ้าเรายังจะให้ประเทศไทยได้เข้ามีส่วนร่วมในการซ้อมรบนี้
"ทางวอชิงตันยังไม่ได้ตัดสินใจว่ายกเลิกการลงโทษโดยใช้อำนาจของประธานาธิบดีหรือไม่ รวมทั้งการยกเลิกการสนับสนุนที่ IMFและ World bankจะมีให้ต่อไทยในการที่ไทยล้มเหลวในการจัดการเรื่องการค้ามนุษย์"นาย Marciel กล่าว
http://in.reuters.com/article/2014/06/24/usa-thailand-idINKBN0EZ2XM20140624
แหม่! ประเทศไทย ประเทศกำลังพัฒนา(หรือว่าด้อยพัฒนา?)สามารถทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกา มหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกตกอยู่สถานะยากลำบากได้นี่ แสดงถึงความหน่อมแน้ม และไม่ประสีประสาในเรื่องการต่างประเทศของ Obama เล้ย แล้วอย่างนี้จะมีปัญญาไปจัดการอะไรกับ รัสเซียกับจีนได้เล่า รัสเซียได้โอกาสเลยยึดแหลมไครเมียเฉยเลย ส่วนจีนก็ยึดบ่อน้ำมันในทะเลจีนใต้ที่พิพาทกับเวียตนามหน้าตาเฉยเหมือนกัน
สหรัฐอเมริกามหาอำนาจตกอันดับแล้ว 55555