[CR] สวัสดีลาว เมื่อสี่สาวออกเดินทาง ตอนที่ 2 หลงเสน่ห์หลวงพระบาง

*จะกลับมาต่อให้จบนะคะ
สำหรับ ตอนแรก ที่นี่เลยค่ะ http://ppantip.com/topic/32117520


รุ่งเช้าของวันที่1 มีนาคม 2557 เรานัดกันว่าจะออกไปเดินถ่ายรูปวังเวียงยามเช้าอีกสักหน่อยก่อนจะกลับมากินข้าวเช้าแล้วเตรียมตัวขึ้นรถตู้เดินทางไปหลวงพระบาง ตอน 9 โมงเช้า


แล้วก็มีเรื่องน่าอายเล็กๆเกิดขึ้นกับพวกเราอีกแล้ว เพราะการเดินทางเมื่อวานที่ไม่ได้กินอะไรเลยทำให้พวกเรากลัวหิวระหว่างทางมาก ก็เลยสั่งอาหารจากที่พักติดไปด้วยแพนเค้กกล้วยถาดใหญ่ ขนมปังแข็งๆ ที่คนลาวชอบกินกัน (คาดว่าได้รับมาจากฝรั่งเศส)นอกจากกระเป๋าที่ค่อนข้างใหญ่เกินตัวแล้วยังมีของกินอีก ดูทุลักทุเลมากๆเอาเข้าจริงก็ไม่ได้กินบนรถ ถ้าเป็นรถทัวร์คันใหญ่คงกล้ากินอยู่เพราะกินคงไม่รบกวนผู้โดยสารคนอื่น แต่เนื่องจากนั่งรถตู้ กลัวกลิ่นออกมากๆแต่ขอโน้ตนิดนึงว่า อาหารเช้าที่ Jammee Guesthouse อร่อยมากค่ะ ใครไปพักถ้าไม่รีบออกแต่เช้าสั่งเพิ่มได้นะคะ


แวะไปถ่ายรูปที่เวียงธารา วิลลา เป็นรีสอร์ทของคนไทยค่ะ


ที่นี่ปลูกข้าวและผักไว้กินเองในรีสอร์ท แถมตอนเกี่ยวข้าวก็จะจ้างชาวบ้านมาทำ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชุมชนอีกต่อหนึ่งค่ะ


หน้าตาอาหารเช้าที่ Jammee Guesthouse

การเดินทางก็ไม่ได้ลำบากเพราะพี่คนขับแวะพักให้ลงไปทำธุระส่วนตัวหรือยืดเส้นยืดสายตลอดการเดินทาง พวกเราได้นั่งข้างหน้าใกล้คนขับค่ะพี่เค้าเห็นเราเป็นคนไทยก็จัดแจงเอาอกเอาใจด้วยการเปิดเพลงไทยให้ฟัง เป็นคอนเสิร์ตร็อคมือขวาสามัคคีฮ่าๆ จำพวก บิลลี่ โอแกน นูโว อำพล ลำพูน จริงๆ แล้วเราไม่ค่อยทันยุคตอนเค้าดังๆ นะคะ เพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่ แต่บางเพลงก็เคยได้ยิน ก็แอบสนุกดีค่ะ นั่งฟังเนื้อหาเพลงสมัยก่อน เค้าพูดกันตรงไปตรงมาดีนะคะ

ป.ล.ได้เห็นพี่ก้องเล่นกีตาร์แล้วใจละลาย



เส้นทางนี้ บางคนบอกว่าโหด ขึ้นเขาตลอดทางระวังเมารถ ถ้าคุณเป็นคนเมารถง่ายก็อาจจะเจอผลกระทบบ้าง แต่สำหรับพวกเราสี่คนไม่มีปัญหาเลย นั่งมองวิวข้างทาง มองภูเขา มองบ้านเรือนแถบนั้นจนเพลิน บ้างก็หลับกินน้ำ ดูคอนเสิร์ต เรียกง่ายๆ ว่า สบายๆ แต่ระยะเวลาการเดินทางนั้น  ก็เกือบทั้งวันพวกเรามาถึงหลวงพระบางประมาณบ่ายสามโมง (หรือสี่โมงไม่แน่ใจ) แดดแรงมากๆตอนเรามาถึง แต่ก็ยังต้องแบกกระเป๋าหนักๆ เดินทางหาที่พักอีกสรุปเดินผิดทางเลยเหมารถตุ๊กตุ๊กให้เค้าช่วยไปส่ง วันนี้เราพักกันที่ Muonglao Guesthouse



ว่าถึงที่พักนั้นมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ตรงที่ที่พักของเราวันนี้ไม่ถูกใจเลย  ความจริงพวกเราก็ไม่ได้เลือกที่พักที่ราคาสูงมากเท่าไรแต่สภาพของที่พักนั้นก็ไม่ค่อยคุ้มค่ากับราคาเท่าไรนักกลอนทั้งประตูและหน้าต่างไม่แน่นหนา แอบกลัวเหมือนกันเพราะระเบียงห้องเชื่อมกับห้องข้างๆด้วย ก็เลยต้องย้ายโต๊ะทีวีมากั้นไว้ ส่วนห้องน้ำก็ไม่ค่อยสะอาด  เรื่องน่ากลัวก็คือ ตอนกลางคืนนอนๆ อยู่ มีน้องหนูออกมาขโมยขนมเราไปกินด้วยจนเพื่อนอีกคนนอนไม่หลับกลัวหนูไต่ขึ้นเตียง ฮ่าๆ



ความจริงนี่ก็ถือว่าได้ประสบการณ์อีกแบบหนึ่งเพราะถึงแม้เราจะได้พักที่พักที่ไม่สะอาด กลอนประตูก็ไม่ค่อยแน่นหนา มีหนูเจ้าของก็ดูงงๆ ต้อนรับขับสู้ไม่ค่อยโอเค แต่มันก็ทดสอบให้เรารู้ว่าเราอยู่และทนได้มั้ยจริงๆ ก็ทนได้นะคะ แค่รำคาญนิดหน่อยเท่านั้น




บ่นเรื่องที่พักแล้วพวกเราก็นอนพักและเตรียมตัวไปเดินตลาดมืดกัน ตอนแรกตั้งใจว่าจะขึ้นพระธาตุพูสีก่อนแต่วันนี้เหนื่อย เลยเลื่อนไปขึ้นพรุ่งนี้แทน



ก่อนอื่นพวกเราต้องไปเดินหาซื้อตั๋วรถนอนสำหรับไปเวียงจันท์ก่อนมีหลายร้านให้เลือกเลย แต่เราเลือกซื้อที่ร้าน YensaBai book and Art ตั๋วรถนอนนี้สนนาคาประมาณ 700กว่าบาท เคล็ดลับในการเลือกที่นอนคือ ขอเค้าว่าไม่เอาเบาะหลังสุด (เพราะเราได้เบาะนั้นแต่โชคดีว่าได้นอนติดกับเพื่อนทั้งสามคน) เพราะมันติดกันสามเบาะการต้องไปนอนใกล้ชิดคนไม่รู้จัก คุณอาจจะนอนไม่หลับและกลัวไปตลอดทางก็ได้



ส่วนอีกอย่างคือ การซื้อตั๋วผ่านเอเจนแบบนี้จะชาร์ตราคาตั๋วด้วยค่ะถ้าคุณมีเวลาสามารถนั่งรถตุ๊กตุ๊กไปบขส. (หรือจะปั่นจักรยานก็พอไปได้ไม่เหนื่อยมาก)ไปซื้อด้วยตัวเองก็ได้ค่ะ แต่ลองถามราคารถก่อนแล้วกัน เพราะอาจจะไม่คุ้มกัน




ว่ากันด้วยร้านหนังสือที่ลาวการขายหนังสือของเขามีสองแบบค่ะหนึ่งคือขายเพื่อให้คนซื้อเอากลับไปอ่านที่บ้าน สองคือขายโดยให้คนซื้อบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กๆชาวลาวให้มีโอกาสได้อ่านหนังสือมากขึ้น  ที่ตลาดมืดก็มีร้านของพี่คนหนึ่งค่ะที่ขายหนังสือเด็กเด็กวรรณกรรมสำหรับเด็กอย่างเราก็เลยจัดหนังสือมาหนึ่งเล่มและซื้อเพื่อแบ่งปันให้น้องๆ ชาวลาวอีกหนึ่งเล่ม (มากกว่านั้นไม่ได้เพราะทริปนี้เตรียมเงินไปน้อย)



จากการสังเกตหนังสือที่ร้านของพี่เขามีแบบที่เจ้าของร้านเป็นคนวาดภาพประกอบเองด้วยแต่ก็จัดพิมพ์เล่มออกมาค่อนข้างดี ดูแล้วเป็นการนำเอาหนังสือภาพสำหรับเด็กของต่างประเทศมาแปลเองและวาดเองใหม่ทั้งหมดมีนิทานคติหรือตำนานของลาวบ้าง ถึงแม้จะเป็นเรื่องผิดลิขสิทธิ์แต่อย่างน้อยก็เป็นการเปิดหน้าต่างให้เด็กๆ ได้รู้จักเรื่องราวและนิทานดีๆจากต่างประเทศบ้าง เพราะคิดว่าสำนักพิมพ์ในลาวอาจจะไม่ค่อยได้ซื้อลิขสิทธิ์มาแปลหรือเปล่า  หรือไม่ก็ราคาสูง เด็กๆ ด้อยโอกาสซื้อหามาอ่านเองไม่ไหว


บรรยากาศยามค่ำคืนที่หลวงพระบาง


ซื้อโปสการ์ดแล้วก็เขียนส่งหาตัวเอง


จักรยานให้เช่า สวยคลาสสิกจัง


ตลาดมืด หลวงพระบาง


ทริปนี้เราไม่ได้ซื้อซิมหรือเปิดโรมมิ่ง(จริงๆ คือขี้เกียจ) เลยต้องหาเล่น wifi ฟรีตามร้านอาหารหรือร้านกาแฟ สรุปเรากินข้าวเย็นกันพร้อมกับใช้เน็ตไลน์กลับบ้านว่าอยู่ที่ไหน



ข้อสำคัญของการท่องเที่ยวเองคือส่งข่าวบอกที่บ้านเป็นระยะว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ พรุ่งนี้จะไปไหนเพื่อให้ที่บ้านไม่กังวลหากมีเหตุการณ์อะไร ที่บ้านจะได้หาทางติดต่อได้  ก่อนหน้านี้เราเขียนแพลนอย่างละเอียดส่งให้พ่อก่อนออกเดินทาง ว่าจะขึ้นรถยังไงนอนที่ไหน พร้อมให้เบอร์โทรติดต่อและอีเมล์ของที่พักไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยในระดับหนึ่งนั่นแหละ



หลังจากท้องอิ่มก็ได้เวลาเพลิดเพลินตาเราเดินเลือกซื้อของฝากกันที่ตลาดมืดอย่างสนุกสนาน จริงๆ ของก็ซ้ำๆ กันแต่สนุกตรงที่ได้ต่อรองราคา ได้แวะร้านขายโปสการ์ดและเขียนถึงตัวเองด้วยตอนนี้ได้รับเรียบร้อยแล้ว




คืนนี้จึงจบลงด้วยความเหนื่อยล้าพรุ่งนี้ต้องเตรียมตัวตื่นแต่เช้าเพื่อตักบาตรข้าวเหนียว โอ้เย้! แล้วมาต่อตอนหน้านะคะ
ชื่อสินค้า:   หลวงพระบาง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่