เรื่องมีอยู่ว่า ขณะที่เรากำลังขับรถออกจากโลตัส สาขาบางกะปิ
พอคืนบัตรจอดรถเสร็จปุ๊บ ก็ติดไฟแดง รถจอดคาอยู่ตรงทางออกของหน้าห้าง
ขณะที่ติดไฟแดงอยู่นั้น เรามองผ่านหน้าต่างออกไปดูรอบๆ
มีบรรดาแผงขายอาหาร ขายน้ำ วางเรียงกันเต็มริมฟุตบาทไปหมด หมูปิ้งเอย กาแฟรถเข็นเอย
แล้วเราก็เห็นคุณลุงแก่ๆคนนึง (ที่เห็นคือ ลุงแกอยู่ในสภาพมอมแมม ไม่ได้ใส่เสื้อ
และนำเศษผ้าเก่าๆมาพันไว้ ทำเป็นกางเกงใส่ รองเท้าแตะหนีบเขรอะๆ)
ลุงแกเดินไปด้อมๆมองๆที่เตาปิ้งไส้กรอกอีสาน
ถัดไปนั้น เราเห็นแม่ค้าทำมือปัดๆไล่ลุง ไม่ให้มาอยู่ใกล้ๆแผงของตัวเอง
ลุงแกเดินออกไปจากตรงนั้น ...
ในขณะนั้นเอง สัญญานไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว
เราเตรียมเปลี่ยนเกียร์ เพื่อที่จะขับออกไป
แต่แล้ว Taxi คันหน้าเรา กลับจอดนิ่ง
เราก็คิดว่าสงสัยรถข้างหน้ายังไม่ขยับมั้ง ก็รออย่างใจเย็น
พอเริ่มรู้สึกว่านานผิดปกติละ เราชะโงกหน้าออกไปดู รถข้างหน้าไม่มีเลยซักคัน!!!
ทำไมไม่ขยับรถล่ะเพ่?
แท๊กซี่ลดกระจกหน้าต่างลง
ซักพัก มียามใส่เครื่องแบบสีดำเดินมาคุยด้วย
ยามเดินกลับออกไปพร้อมกับแบงค์20ในมือ เดินตรงไปซื้อไส้กรอกอีสานแล้วเอากลับมาส่งให้พี่แท๊กซี่
ในใจเราแบบ (( ที่ไม่ยอมขยับรถ นี่คือจอดซื้อของกินเนี่ยนะ!! ทุเรศมาก))
แล้วทำรถข้างหลังติดกันหมดเลย ถ้าจะซื้อของกิน ไปหาที่จอดรถก่อนดีมั้ย แล้วค่อยเดินลงมาซื้ออะไรก็ว่าไป ))
เรากำลังจะบีบแตรไล่ แต่แล้วภาพที่เห็นก็คือ ยามคุยอะไรซักอย่างกับแท๊กซี่ แล้วชี้ๆไปที่คุณลุงคนนั้น
ยามเดินตรงไปหาลุงพร้อมกับยื่นถุวไส้กรอกอีสานให้ แล้วชี้ๆกลับมาที่ Taxi คันข้างหน้าเรา
นาทีนี้ แบบพูดไม่ออกเลย คือซึ้งในน้ำใจงามของพี่แท๊กซี่มาก!!!
ขนาดเค้าอยู่ในรถแท้ๆ ยังวานให้คนที่อยู่ข้างนอกช่วยเหลือคุณลุงอะ
เรื่องก็มีเท่านี้แหละ เราเลยถือโอกาสเอาเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ปล. กะจะถ่ายรูปทะเบียนมาซะหน่อย แต่ไม่ทัน เพราะเป็นช่วงที่ต้องขับออกไปพอดี
แต่แอบจำทะเบียนเอาไว้ : แท๊กซี่คันสีเหลืองเขียว ทะเบียน มฉ7358
ไม่รู้ว่าคุณคือใคร แต่อยากบอกว่าคุณทำให้วันแย่ๆของเรากลายเป็นวันดีๆไปเลย
ขอบคุณมากค่ะ
เจอTaxi แบบนี้!!!!!
พอคืนบัตรจอดรถเสร็จปุ๊บ ก็ติดไฟแดง รถจอดคาอยู่ตรงทางออกของหน้าห้าง
ขณะที่ติดไฟแดงอยู่นั้น เรามองผ่านหน้าต่างออกไปดูรอบๆ
มีบรรดาแผงขายอาหาร ขายน้ำ วางเรียงกันเต็มริมฟุตบาทไปหมด หมูปิ้งเอย กาแฟรถเข็นเอย
แล้วเราก็เห็นคุณลุงแก่ๆคนนึง (ที่เห็นคือ ลุงแกอยู่ในสภาพมอมแมม ไม่ได้ใส่เสื้อ
และนำเศษผ้าเก่าๆมาพันไว้ ทำเป็นกางเกงใส่ รองเท้าแตะหนีบเขรอะๆ)
ลุงแกเดินไปด้อมๆมองๆที่เตาปิ้งไส้กรอกอีสาน
ถัดไปนั้น เราเห็นแม่ค้าทำมือปัดๆไล่ลุง ไม่ให้มาอยู่ใกล้ๆแผงของตัวเอง
ลุงแกเดินออกไปจากตรงนั้น ...
ในขณะนั้นเอง สัญญานไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว
เราเตรียมเปลี่ยนเกียร์ เพื่อที่จะขับออกไป
แต่แล้ว Taxi คันหน้าเรา กลับจอดนิ่ง
เราก็คิดว่าสงสัยรถข้างหน้ายังไม่ขยับมั้ง ก็รออย่างใจเย็น
พอเริ่มรู้สึกว่านานผิดปกติละ เราชะโงกหน้าออกไปดู รถข้างหน้าไม่มีเลยซักคัน!!!
ทำไมไม่ขยับรถล่ะเพ่?
แท๊กซี่ลดกระจกหน้าต่างลง
ซักพัก มียามใส่เครื่องแบบสีดำเดินมาคุยด้วย
ยามเดินกลับออกไปพร้อมกับแบงค์20ในมือ เดินตรงไปซื้อไส้กรอกอีสานแล้วเอากลับมาส่งให้พี่แท๊กซี่
ในใจเราแบบ (( ที่ไม่ยอมขยับรถ นี่คือจอดซื้อของกินเนี่ยนะ!! ทุเรศมาก))
แล้วทำรถข้างหลังติดกันหมดเลย ถ้าจะซื้อของกิน ไปหาที่จอดรถก่อนดีมั้ย แล้วค่อยเดินลงมาซื้ออะไรก็ว่าไป ))
เรากำลังจะบีบแตรไล่ แต่แล้วภาพที่เห็นก็คือ ยามคุยอะไรซักอย่างกับแท๊กซี่ แล้วชี้ๆไปที่คุณลุงคนนั้น
ยามเดินตรงไปหาลุงพร้อมกับยื่นถุวไส้กรอกอีสานให้ แล้วชี้ๆกลับมาที่ Taxi คันข้างหน้าเรา
นาทีนี้ แบบพูดไม่ออกเลย คือซึ้งในน้ำใจงามของพี่แท๊กซี่มาก!!!
ขนาดเค้าอยู่ในรถแท้ๆ ยังวานให้คนที่อยู่ข้างนอกช่วยเหลือคุณลุงอะ
เรื่องก็มีเท่านี้แหละ เราเลยถือโอกาสเอาเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ปล. กะจะถ่ายรูปทะเบียนมาซะหน่อย แต่ไม่ทัน เพราะเป็นช่วงที่ต้องขับออกไปพอดี
แต่แอบจำทะเบียนเอาไว้ : แท๊กซี่คันสีเหลืองเขียว ทะเบียน มฉ7358
ไม่รู้ว่าคุณคือใคร แต่อยากบอกว่าคุณทำให้วันแย่ๆของเรากลายเป็นวันดีๆไปเลย
ขอบคุณมากค่ะ