Once upon a time, long long time ago...
There was a powerful one of the most famous villain in the world...
S/he is.............. "MALEFICENT"
Well well
สวัสดีทุกคน
นี่คือฤกษ์อันประเสริฐที่ข้าจะเผยตัวให้โลกได้รับรู้ความเป็นจริง
หลายคนคงรู้จักชื่อข้าเป็นอย่างดี แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า
จริงๆ แล้วนั้น
.
.
.
Maleficent เป็น.......... ตุ๊ด!!!
5555555555+
ฉะนั้น จงอย่าเชื่อในเทพนิยายปรัมปรา
ขำๆ ก่อนเริ่มฮาวทูนะ ปอครีเอทลุคนี้ขึ้นมาเพราะอยากลองเปลี่ยน Maleficent เป็นเวอร์ชั่นอื่นบ้าง
คงเค้าโครงเด่นๆ ในส่วนของโหนกบนหน้าเอาไว้ (พยายามงัดเต็มที่ เพราะหน้ากลมและบานมาก)
แต่เปลี่ยนแปลงส่วนอื่นๆ เป็นเวอร์ชั่นผู้ชาย... ไม่แท้ค่ะ! 555+
พร๊อพที่ปอทำออกมาก็มีความหมายแฝงไว้ด้วย (จากการที่ได้ชมภาพยนตร์)
ยังไงลองติดตามดูกันตอนท้ายนะจ๊ะว่า ความหมายแฝงที่ปอแอบใส่เข้ามาคืออะไร
ไปดู How to กันเลยยย
Inspiration ของลุคนี้ บอกก่อนเลยว่าเอามาใช้เป็นแค่อินสไปเรชั่น ไม่ได้แต่งตาม
ฉะนั้นมันออกมาไม่เหมือนอย่าว่ากันน๊าาา
Maleficent ในแบบของปอออกมาเป็นแบบนี้
เริ่มฮาวทูจริงๆ กันสักที เวิ่นเว้อมานาน 555+
อุปกรณ์ที่ใช้
1. Foundation >> Sisley Phyto Teint Eclat Fluid Foundation Oil Free - Long Lasting
2. Highlight Concealer >> Gino McCray Pro Make-Up Absolute Concealer
3. Loose Powder >> Chanel Poudre Universelle Libre
4. Bronzing Powder >> Sephora Bronzing Powder #2 Medium
5. Powder Foundation >> Vowda Rice Compact Powder
6. Eye Primer >> Too Faced Shadow Insurance
7. Eye Shadow 1 >> MAKE UP FOR EVER Blue Sepia Palette
8. Eye Shadow 2 >> Urban Decay Naked 3 Palette
9. Pencil Eyeliner >> 12Plus Colorista Auto Eyeliner #Navy Blue
10. Mascara >> Maybelline Volum' Express The Rocket Mascara #Black
11. Lipstick >> Maybelline Bold Matte #MAT6
12. Lip Color >> Lancome Eye Pencil #Black
ลืมถ่าย Contact Lens มาด้วย ปอใส่ของ Mimi by Toni รุ่น Victoria - Brown
First Step >> Base Makeup <<
1. ล้างหน้า ลงสกินแคร์บำรุงผิวให้เรียบร้อย แล้วใส่คอนแทกเลนส์
2. ลงรองพื้นที่ขาวกว่าผิวประมาณ 1-2 เฉด ให้เนียนทั่วทั้งใบหน้า
3. ใช้คอนซีลเลอร์สีสว่างไฮไลตามจุดไฮไล (ดังภาพ) แล้วใช้นิ้วเกลี่ยและกดให้เรียบเนียน
4. ใช้พัฟกดแป้งฝุ่นโปร่งแสงเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า
5. เริ่มขั้นตอนที่สำคัญ คือการสร้างโหนก(ปลอม) ขึ้นมา ด้วยวิธีการเฉดดิ้ง
Tips: วิธีวัดโหนกแก้มเพื่อจะเฉดดิ้ง/คอนทัวร์ คือ ดูดปาก (Fish face) แล้วมันจะขึ้นร่องมา
เฉดดิ้งให้เห็นชัดด้วยการใช้กระดาษทาบกับโหนกแก้ม แล้วลงบรอนเซอร์หรืออายแชโดว์สีเข้ม
ไล่จากกรอบหน้าเข้ามา ด้านนอกลงเข้มกว่า แล้วเกลี่ยให้สีอ่อนลงด้านใน
ปอเริ่มด้วยการใช้แป้งบรอนเซอร์ธรรมดากับแปรงเบลนดิ้งเกลี่ยให้ฟุ้งๆ เป็นโครงก่อน
แล้วจึงใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม เนื้อแมทท์ลงหนักบริเวณกรอบหน้า ไล่เข้ามาตามแนวเดิม
6. เติมสีเฉดดิ้งให้เข้มขึ้น ด้วยอายแชโดว์สีดำ เนื้อแมทท์ ลงตามโครงเดิมที่ลงไว้ตอนแรก
เน้นหนักที่บริเวณไรผม และกรอบหน้าเช่นกัน ขั้นตอนนี้ต้องลงดีๆ หน่อยนะจ๊ะ
เพราะมันอาจจะเป็นเส้น หรือเป็นปื้นๆ ได้
7. ไฮไลให้สว่างขึ้นด้วยอายแชโดว์สีขาวชมพู เนื้อแมทท์ตามจุดไฮไลทั่วใบหน้า
8. จบขั้นตอนทุกอย่างแล้ว ปอปัดแป้งผสมรองพื้นด้วยแปรงทับอีกครั้ง เพื่อให้หน้าเนียน และลดความมันลง
Second Step >> Eye Brows <<
ปอใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม เนื้อแมทท์ในการเขียนคิ้ว
1. เริ่มวาดคิ้วจากด้านล่างก่อน
2. แล้ววาดเส้นด้านบนให้ลงมาบรรจบกับด้านล่างที่หางคิ้ว
3. ลงสีในช่องว่าง เน้นหนักบริเวณหางคิ้ว ลงหัวคิ้วให้อ่อนกว่าด้านหางคิ้ว
4. ใช้แปรงปัดเบาๆ เพื่อให้สีคิ้วดูสมูทและซอฟต์ลง
5. ปอใช้มาสคาร่าปัดขนตาสีดำปัดเคลือบคิ้ว โดยการใช้แปรงปัดมาสคาร่าซับกับทิชชู ให้เหลือเนื้อมาสคาร่าติดอยู่เล็กน้อย แล้วปัด แต่ลุคนี้ปอตั้งใจปัดขนคิ้วให้ขึ้นไปด้านบน เพิ่มความเก๋ให้ลุค 55+
Third Step >> Eye Makeup <<
ใช้อายแชโดว์ตามลำดับตัวเลขเลยจ้า และใช้อายไลเนอร์แบบดินสอสีน้ำเงินด้วย
1. ลงอายไพรเมอร์ให้ทั่วเปลือกตาทั้งด้านบนและด้านล่าง
2. ใช้อายแชโดว์สีเทาอมน้ำตาลอ่อน เนื้อแมทท์ (ปอใช้ผสมกันระหว่างสีเบอร์ 1 และ 2) ลงให้ทั่วเปลือกตาบน เว้นช่องว่างระหว่างคิ้วไว้ด้วย แล้ววิงบริเวณหางขึ้นเล็กน้อย
3. แล้วใช้สีเดิมลงที่ขอบตาล่างด้วย
4. จากนั้นใช้อายแชโดว์สีดำ เนื้อแมทท์ ลงด้านหางตาตามรอยพับของเปลือกตา แล้วลงบริเวณกลางตาเป็นเส้นไลเนอร์ติดโคนขนตาบางๆ แล้วเน้นที่บริเวณหัวตาอีกจุด
5. แล้วใช้สีดำลงที่ขอบตาล่าง ประมาณ 3 ใน 4 ของดวงตา
6. ใช้อายไลเนอร์เนื้อดินสอ สีน้ำเงินเขียนที่หัวตาถึงกึ่งกลางตา บริเวณขอบตาล่าง
7. และใช้อายไลเนอร์แท่งเดิมเขียนที่กึ่งกลางถึงหางตา บริเวณขอบตาบน
8. แตะอายแชโดว์สีน้ำเงิน มีชิมเมอร์ลงทับบนเส้นไลเนอร์เบาๆ
9. จบท้ายด้วยการปัดมาสคาร่าบางๆ บนขนตาบนอย่างเดียว โดยไม่ต้องดัดขนตา (แอ๊บแมน แต่ขนตาเด้งเบาๆ อย่าลืมๆ เราเป็นเวอร์ชั่นผู้ชาย ถึงจะไม่แท้ก็ตาม ฮ่าๆ)
Fourth Step >> Lips <<
1. ใช้คอนซีลเลอร์กลบสีปากจริงให้ปากมีสีอ่อนลง
2. ใช้แปรงทาลิปทาสีแดงลงไปบริเวณกลางปากทั้งด้านบนและด้านล่าง
3. แล้วใช้อายไลเนอร์แบบดินสอสีดำสนิทลงทับเบาๆ บริเวณที่ลงลิปสติกสีแดงก่อนหน้า เกลี่ยให้เนียน ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ได้ปากที่มีสีดูลึกลับ ดูน่ากลัว แต่ก็ยังคงมีสีอ่อน ที่ทำให้ดูอ่อนโยนอยู่ด้วย
Finish!!!
เอาล่ะๆ ได้เวลาเผยโฉมแล้ว
แอบไปแปลงร่างมาเรียบร้อย ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องรู้ความจริงเสียที
555+ โดนคำสาปกันเรียบร้อย
ดูๆ มาแล้วสงสัยกันไหมว่าทำไมเขาถึงมี 2 สี และปอถึงแต่ง 2 ด้านแตกต่างกัน
ความหมายแฝงที่ปอต้องการจะสื่อออกมาก็คือ
คนเรามี 2 ด้านถูกไหม ด้านหนึ่งคือด้านที่อ่อนโยน ด้านที่สวยงาม แต่อีกด้านคือด้านแห่งความชั่วร้าย ความริษยา
ด้านที่สวยงาม ปอเอาใบไม้(ปลอม) มาประดับ ก็เพราะ Maleficent ในภาพยนตร์ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาก
มันคือด้านที่อ่อนโยน ด้านดีๆ ที่สื่อออกมา
ส่วนด้านสีดำ ปอใช้ดอกกุหลาบสีแดง พันด้วยผ้าลูกไม้สีดำ
แสดงถึงความบริสุทธิ์(สีแดงในที่นี้ปอสื่อถึงความบริสุทธิ์ ตีความต่อเอาเอง 55+)
แต่ถือกลืนด้วยสิ่งยั่วยุ ความเกลียดชัง ความทะเยอทยาน ทำให้เกิดเป็นความอิจฉา ความชั่วร้ายขึ้นมา
ส่วนเสื้อผ้า และฉากสีดำทั้งหมด เพราะตัว Maleficent ได้รับบทเป็นตัวร้าย แต่แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูดุ ดูร้ายกาจแค่ไหน แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ยังมีด้านที่สว่าง ด้านที่เป็นคนดีอยู่
ลึกซึ้งมั้ย 555555+
ทีนี้โลกก็ได้รับรู้แล้ว ว่า Maleficent จริงๆ แล้ว เป็นตุ๊ด โฮ๊ะๆๆๆๆ
Don't believe in fairy tale that you have read when you were a child!!!
ไปแล้วนะ บ๊ายบายยย
ขอบคุณที่ติดตาม และอ่านเรื่องราวบ้าๆ นี่จ้าาา
Porsche Por
HOW TO >> Call Me MALEFICENT in "ตุ๊ด" Version!!
There was a powerful one of the most famous villain in the world...
S/he is.............. "MALEFICENT"
Well well
สวัสดีทุกคน
นี่คือฤกษ์อันประเสริฐที่ข้าจะเผยตัวให้โลกได้รับรู้ความเป็นจริง
หลายคนคงรู้จักชื่อข้าเป็นอย่างดี แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า
จริงๆ แล้วนั้น
.
.
.
Maleficent เป็น.......... ตุ๊ด!!!
5555555555+
ฉะนั้น จงอย่าเชื่อในเทพนิยายปรัมปรา
ขำๆ ก่อนเริ่มฮาวทูนะ ปอครีเอทลุคนี้ขึ้นมาเพราะอยากลองเปลี่ยน Maleficent เป็นเวอร์ชั่นอื่นบ้าง
คงเค้าโครงเด่นๆ ในส่วนของโหนกบนหน้าเอาไว้ (พยายามงัดเต็มที่ เพราะหน้ากลมและบานมาก)
แต่เปลี่ยนแปลงส่วนอื่นๆ เป็นเวอร์ชั่นผู้ชาย... ไม่แท้ค่ะ! 555+
พร๊อพที่ปอทำออกมาก็มีความหมายแฝงไว้ด้วย (จากการที่ได้ชมภาพยนตร์)
ยังไงลองติดตามดูกันตอนท้ายนะจ๊ะว่า ความหมายแฝงที่ปอแอบใส่เข้ามาคืออะไร
ไปดู How to กันเลยยย
Inspiration ของลุคนี้ บอกก่อนเลยว่าเอามาใช้เป็นแค่อินสไปเรชั่น ไม่ได้แต่งตาม
ฉะนั้นมันออกมาไม่เหมือนอย่าว่ากันน๊าาา
Maleficent ในแบบของปอออกมาเป็นแบบนี้
เริ่มฮาวทูจริงๆ กันสักที เวิ่นเว้อมานาน 555+
อุปกรณ์ที่ใช้
1. Foundation >> Sisley Phyto Teint Eclat Fluid Foundation Oil Free - Long Lasting
2. Highlight Concealer >> Gino McCray Pro Make-Up Absolute Concealer
3. Loose Powder >> Chanel Poudre Universelle Libre
4. Bronzing Powder >> Sephora Bronzing Powder #2 Medium
5. Powder Foundation >> Vowda Rice Compact Powder
6. Eye Primer >> Too Faced Shadow Insurance
7. Eye Shadow 1 >> MAKE UP FOR EVER Blue Sepia Palette
8. Eye Shadow 2 >> Urban Decay Naked 3 Palette
9. Pencil Eyeliner >> 12Plus Colorista Auto Eyeliner #Navy Blue
10. Mascara >> Maybelline Volum' Express The Rocket Mascara #Black
11. Lipstick >> Maybelline Bold Matte #MAT6
12. Lip Color >> Lancome Eye Pencil #Black
First Step >> Base Makeup <<
1. ล้างหน้า ลงสกินแคร์บำรุงผิวให้เรียบร้อย แล้วใส่คอนแทกเลนส์
2. ลงรองพื้นที่ขาวกว่าผิวประมาณ 1-2 เฉด ให้เนียนทั่วทั้งใบหน้า
3. ใช้คอนซีลเลอร์สีสว่างไฮไลตามจุดไฮไล (ดังภาพ) แล้วใช้นิ้วเกลี่ยและกดให้เรียบเนียน
4. ใช้พัฟกดแป้งฝุ่นโปร่งแสงเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า
5. เริ่มขั้นตอนที่สำคัญ คือการสร้างโหนก(ปลอม) ขึ้นมา ด้วยวิธีการเฉดดิ้ง
Tips: วิธีวัดโหนกแก้มเพื่อจะเฉดดิ้ง/คอนทัวร์ คือ ดูดปาก (Fish face) แล้วมันจะขึ้นร่องมา
เฉดดิ้งให้เห็นชัดด้วยการใช้กระดาษทาบกับโหนกแก้ม แล้วลงบรอนเซอร์หรืออายแชโดว์สีเข้ม
ไล่จากกรอบหน้าเข้ามา ด้านนอกลงเข้มกว่า แล้วเกลี่ยให้สีอ่อนลงด้านใน
ปอเริ่มด้วยการใช้แป้งบรอนเซอร์ธรรมดากับแปรงเบลนดิ้งเกลี่ยให้ฟุ้งๆ เป็นโครงก่อน
แล้วจึงใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม เนื้อแมทท์ลงหนักบริเวณกรอบหน้า ไล่เข้ามาตามแนวเดิม
6. เติมสีเฉดดิ้งให้เข้มขึ้น ด้วยอายแชโดว์สีดำ เนื้อแมทท์ ลงตามโครงเดิมที่ลงไว้ตอนแรก
เน้นหนักที่บริเวณไรผม และกรอบหน้าเช่นกัน ขั้นตอนนี้ต้องลงดีๆ หน่อยนะจ๊ะ
เพราะมันอาจจะเป็นเส้น หรือเป็นปื้นๆ ได้
7. ไฮไลให้สว่างขึ้นด้วยอายแชโดว์สีขาวชมพู เนื้อแมทท์ตามจุดไฮไลทั่วใบหน้า
8. จบขั้นตอนทุกอย่างแล้ว ปอปัดแป้งผสมรองพื้นด้วยแปรงทับอีกครั้ง เพื่อให้หน้าเนียน และลดความมันลง
Second Step >> Eye Brows <<
ปอใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม เนื้อแมทท์ในการเขียนคิ้ว
1. เริ่มวาดคิ้วจากด้านล่างก่อน
2. แล้ววาดเส้นด้านบนให้ลงมาบรรจบกับด้านล่างที่หางคิ้ว
3. ลงสีในช่องว่าง เน้นหนักบริเวณหางคิ้ว ลงหัวคิ้วให้อ่อนกว่าด้านหางคิ้ว
4. ใช้แปรงปัดเบาๆ เพื่อให้สีคิ้วดูสมูทและซอฟต์ลง
5. ปอใช้มาสคาร่าปัดขนตาสีดำปัดเคลือบคิ้ว โดยการใช้แปรงปัดมาสคาร่าซับกับทิชชู ให้เหลือเนื้อมาสคาร่าติดอยู่เล็กน้อย แล้วปัด แต่ลุคนี้ปอตั้งใจปัดขนคิ้วให้ขึ้นไปด้านบน เพิ่มความเก๋ให้ลุค 55+
ใช้อายแชโดว์ตามลำดับตัวเลขเลยจ้า และใช้อายไลเนอร์แบบดินสอสีน้ำเงินด้วย
1. ลงอายไพรเมอร์ให้ทั่วเปลือกตาทั้งด้านบนและด้านล่าง
2. ใช้อายแชโดว์สีเทาอมน้ำตาลอ่อน เนื้อแมทท์ (ปอใช้ผสมกันระหว่างสีเบอร์ 1 และ 2) ลงให้ทั่วเปลือกตาบน เว้นช่องว่างระหว่างคิ้วไว้ด้วย แล้ววิงบริเวณหางขึ้นเล็กน้อย
3. แล้วใช้สีเดิมลงที่ขอบตาล่างด้วย
4. จากนั้นใช้อายแชโดว์สีดำ เนื้อแมทท์ ลงด้านหางตาตามรอยพับของเปลือกตา แล้วลงบริเวณกลางตาเป็นเส้นไลเนอร์ติดโคนขนตาบางๆ แล้วเน้นที่บริเวณหัวตาอีกจุด
5. แล้วใช้สีดำลงที่ขอบตาล่าง ประมาณ 3 ใน 4 ของดวงตา
6. ใช้อายไลเนอร์เนื้อดินสอ สีน้ำเงินเขียนที่หัวตาถึงกึ่งกลางตา บริเวณขอบตาล่าง
7. และใช้อายไลเนอร์แท่งเดิมเขียนที่กึ่งกลางถึงหางตา บริเวณขอบตาบน
8. แตะอายแชโดว์สีน้ำเงิน มีชิมเมอร์ลงทับบนเส้นไลเนอร์เบาๆ
9. จบท้ายด้วยการปัดมาสคาร่าบางๆ บนขนตาบนอย่างเดียว โดยไม่ต้องดัดขนตา (แอ๊บแมน แต่ขนตาเด้งเบาๆ อย่าลืมๆ เราเป็นเวอร์ชั่นผู้ชาย ถึงจะไม่แท้ก็ตาม ฮ่าๆ)
1. ใช้คอนซีลเลอร์กลบสีปากจริงให้ปากมีสีอ่อนลง
2. ใช้แปรงทาลิปทาสีแดงลงไปบริเวณกลางปากทั้งด้านบนและด้านล่าง
3. แล้วใช้อายไลเนอร์แบบดินสอสีดำสนิทลงทับเบาๆ บริเวณที่ลงลิปสติกสีแดงก่อนหน้า เกลี่ยให้เนียน ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เอาล่ะๆ ได้เวลาเผยโฉมแล้ว
แอบไปแปลงร่างมาเรียบร้อย ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องรู้ความจริงเสียที
555+ โดนคำสาปกันเรียบร้อย
ดูๆ มาแล้วสงสัยกันไหมว่าทำไมเขาถึงมี 2 สี และปอถึงแต่ง 2 ด้านแตกต่างกัน
ความหมายแฝงที่ปอต้องการจะสื่อออกมาก็คือ
คนเรามี 2 ด้านถูกไหม ด้านหนึ่งคือด้านที่อ่อนโยน ด้านที่สวยงาม แต่อีกด้านคือด้านแห่งความชั่วร้าย ความริษยา
ด้านที่สวยงาม ปอเอาใบไม้(ปลอม) มาประดับ ก็เพราะ Maleficent ในภาพยนตร์ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาก
มันคือด้านที่อ่อนโยน ด้านดีๆ ที่สื่อออกมา
ส่วนด้านสีดำ ปอใช้ดอกกุหลาบสีแดง พันด้วยผ้าลูกไม้สีดำ
แสดงถึงความบริสุทธิ์(สีแดงในที่นี้ปอสื่อถึงความบริสุทธิ์ ตีความต่อเอาเอง 55+)
แต่ถือกลืนด้วยสิ่งยั่วยุ ความเกลียดชัง ความทะเยอทยาน ทำให้เกิดเป็นความอิจฉา ความชั่วร้ายขึ้นมา
ส่วนเสื้อผ้า และฉากสีดำทั้งหมด เพราะตัว Maleficent ได้รับบทเป็นตัวร้าย แต่แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูดุ ดูร้ายกาจแค่ไหน แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ยังมีด้านที่สว่าง ด้านที่เป็นคนดีอยู่
ลึกซึ้งมั้ย 555555+
ทีนี้โลกก็ได้รับรู้แล้ว ว่า Maleficent จริงๆ แล้ว เป็นตุ๊ด โฮ๊ะๆๆๆๆ
Don't believe in fairy tale that you have read when you were a child!!!
ไปแล้วนะ บ๊ายบายยย
ขอบคุณที่ติดตาม และอ่านเรื่องราวบ้าๆ นี่จ้าาา
Porsche Por