สวัสดีเดือนแห่งความรัก เรา
ปอร์เช่ ปอ (Porsche Por) นะจ๊ะ
เดือนนี้อะไรๆ ก็ดูหวานแหววไปหมดเนอะ โดยเฉพาะยิ่งกับคนมีคู่ด้วยแล้วนี่ยิ่งหวานไปใหญ่ แต่เรามันไม่คนไม่มีคู่ ก็ได้แต่นั่งอิจฉาไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้นะ!
เห็นคนให้ดอกไม้กัน ทั้งดอกกุหลาบมั้งแหละ ลิลลี่มั้งล่ะ Forget Me Not บ้างแหละ หรือจะดอกอะไรที่อีกที่เป็นตัวแทนถึงความรักหวานชื่น เราก็เลยอยากจะหยิบเอาดอกไม้มาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งหน้าบ้าง
โสดแล้วไง! สะบัดผมใส่ซะเลย! ชิ!
นี่คือลุคที่ได้แรงบันดาลใจมากจากดอกไม้ ที่ชื่อว่า ดอกแกลดิโอลัส (Gladiolus) ซึ่งแทนความหมายว่ายินดี ก็ยินดีสำหรับคนมีคู่อ่ะนะ (นี่ไม่ได้ประชด พูดจริง 555+) แต่ก็เป็นตัวแทนของคนที่มีบุคลิกที่มาดมั่น มั่นใจในตัวเอง และมีความเป็นตัวของตัวเอง เลยหยิบเอาดอกไม้ชนิดนี้มาเป็นอินสไปเรชั่น (ออก accent ให้ชัดเจนด้วยค่ะ!)
หน้าตาเจ้าดอกไม้นี้เป็นแบบนี้จ้า (หยิบสีนี้มาใช้ จริงๆ มันมีหลายสีอยู่)
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย แต่งให้สวยเลิศกันไปเลย...
ดูๆ ไปก็ดูหวานอยู่เหมือนกันนะ เราบอกแล้วว่าร่วมยินดีในเดือนแห่งความรักนี้ด้วย แต่ในความหวานก็แฝงด้วยความเปรี้ยวของสีสัน และความมั่นใจ (ของตัวเอง 555+)
เราจะนำตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของต้นไม้ ดอกไม้เดี๋ยวนี้ล่ะ
แฝงตัวเข้ากับธรรมชาติแป๊บ (เดี๋ยวนะ! นี่มันกระทู้ฮาวทู หรือคณะตลก??)
เข้าเรื่อง จะจริงจังแล้วนะ =_="
First Step >> Complexion <<
อุปกรณ์ที่ใช้มีดังนี้
1. Thermal Water Spray :: Oguma Youngspray 1.7.3 Treatment
2. Makeup Primer :: Hourglass Veil Mineral Primer
3. Foundation :: DiorSkin Star Studio Makeup #No.030
4. Makeup Sponge :: Dior Backstage Blender
5. Cream Blush :: Illamasqua Cream Blusher #Rude
6. Loose Powder :: THREE Diaphanous Loose Powder #Glow
7. Powder Blush 1 :: Kanebo Lavshuca Melty Trick Cheeks #No.04
8. Powder Blush 2 :: M.A.C Proenza Schouler Blush Ombre #Sunset Beach
9. Powder Bronzer : Sephora Bronzing Powder #Medium
10. Cream Highlighter :: Mistine Shiny Shimmer Stick
11. Powder Foundation :: Mistine Love Story #No.03
1. เตรียมผิวให้ชุ่มชื้น ดูสดใสเหมือนกลีบดอกไม้ด้วยการฉีดสเปรย์น้ำแร่ให้ทั่วใบหน้า แล้วรอจนแห้ง
2. ลงไพรเมอร์บางๆ ให้ทั่วหน้า และลงเน้นเฉพาะบริเวณที่มีความมันเป็นพิเศษ (ทีโซน, หน้าผาก, จมูก)
3. วอร์มเนื้อรองพื้นที่หลังฝ่ามือ แล้วแตะลงเบาๆ ตามจุดบนใบหน้า
4. ใช้ฟองน้ำเกลี่ยเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า โดยใช้วิธีการค่อยๆ กดไล่จากกึ่งกลางหน้าออกไปสู่กรอบหน้า เบาๆ ใช้ตรงมุมฟองน้ำเก็บบริเวณซอกปีกจมูก ขอบปากต่างๆ (จะให้แบบเปียกหมาดๆ หรือแห้งก็ได้ แต่ฟองน้ำตัวนี้ปอใช้แบบแห้งจ้า มันใช้คู่กับรองพื้นตัวนี้อยู่แล้ว)
5. เพิ่มสีสันให้กับแก้มเป็นพื้นสักหน่อยด้วยการลงครีมบลัชสีพีช โดยเริ่มแตะเบาๆ จากพวงแก้มไล่ออกไปที่กรอบหน้า เกลี่ยให้แก้มมีสีระเรื่อๆ เหมือนกลีบดอกไม้ที่รอการเบ่งบาน
6. ลงทับด้วยแป้งฝุ่นเบาๆ ด้วยแปรง
7. ปัดแก้มด้วยบลัชออนเนื้อฝุ่นทับอีกครั้ง โดยใช้สีพีชอมชมพูปัดช่วงหน้าแก้มก่อน แล้วจึงใช้สีชมพูหวานปัดจากกรอบหน้าเข้ามา เกลี่ยให้สีเข้ากัน จะได้แก้มที่ไล่สีจากพีชไปชมพู (ปอต้องการสื่อถึงกลีบดอกไม้ที่นำมาเป็นแรงบันดาลใจ)
8. คอนทัวร์เบาๆ ช่วงแก้มให้ลงช่วงกกหู แล้วเกลี่ยเข้ามาเบาๆ ไม่เกินหางตา ไม่งั้นจะทำให้หน้าดูย้วย ดูเหี่ยว รวมถึงไล่ด้านข้างสันจมูกด้วย จมูกจะได้โด่งๆ
9. ใช้แปรงลงรองพื้นแบบแบนลงไฮไลต์ตามจุดต่างๆ คือเหนือแก้มที่ปัด ตรงกลางหน้าผาก ไล่ลงมาที่สันจมูก มุมปากด้านบน และคาง เป็นจุดตกกระทบแสง
10. ปัดทับด้วยแป้งผสมรองพื้นเบาๆ เน้นว่าเบาๆ เพื่อเป็นการซับน้ำมันส่วนเกินออก และเซ็ตให้เครื่องสำอางอื่นๆ ติดทนขึ้นนิดหน่อย
เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จส่วนของใบหน้า
Second Step >> Eyebrows <<
อุปกรณ์ที่ใช่
1. Eyebrow Pencil :: Ashley Auto Powder Eyebrow Pen #Natural Brown
2. Small Angled Brush/Eyebrow Brush :: MTI Eyebrow Brush
3. Spooling Brush :: Mistine Beauty Brow Brush Set
1. คิ้วธรรมชาติ ผ่านการปัดให้เรียงตัวนิดหน่อย
2. ใช้แปรงหัวตัดสำหรับเขียนคิ้ว แตะกับเนื้อดินสอ แล้วเขียนตามทรงคิ้ว ที่ไม่ใช้ดินสอเขียนตรงๆ เพราะอยากให้คิ้วดูสมูธ เป็นธรรมชาติมากกว่า
3. ใช้แปรงปัดขนคิ้ว ปัดสีให้ดูละมุนขึ้น ปัดสีส่วนเกินที่เข้มเกินไปออก
เป็นอันเสร็นเรียบร้อย
Third Step >> Eyes <<
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับดวงตาคู่สวย 555+
1. Eye Primer :: Benefit Stay Don't Stray #Light/Medium
2. Eye Shadow 1 :: Mistine CIAO Milano Eye Color #No.01 Pink Verona
3. Eye Shadow 2 :: Wet n Wild Color Icon Eye Shadow Trio #E336 Spoiled Brat
4. Eye Shadow 3 :: 4U2 This & That #215 Orange Sherbet
5. Liquid Eyeliner :: Mistine Super Black Fixed Liner
6. Eyelash Curler :: Shu Uemura Eyelash Curler
7. Mascara :: Mistine Super Model Miracle Lash Mascara
8. Top False Lashes :: ขนตาไม่ตียี่ห้อจากไต้หวันอ่ะ เอามาแต่งสีเอาเอง
9. Bottom False Lashes :: เหมือนข้อข้างบน
10. Cream Makeup Color :: imagic 12 Flash Color Case
11. Eyelash Glue :: DUO Adhesive
12. Contact Lens :: จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร แต่รุ่น Stella Grey
ก่อนอื่นมาเปลี่ยนสีขนตาปลอมกันก่อน เนื่องจากดอกไม้มีสีออกเหลืองๆ ส้มๆ แล้วไล่ไปเป็นชมพูเข้มที่ปลายกลีบดอก ดังนั้นขนตาเราก็ต้องทำเหมือนกัน ปอใช้สีเหลืองลงบริเวณโคนขนตาทั้งด้านบนและด้านล่าง แล้วใช้สีชมพูบานเย็นลงส่วนที่เหลือของขนตา รอให้สีเซ็ตตัว แล้วใช้แป้งฝุ่นตบทับอีกครั้งเพื่อไม่ให้สีเลอะเวลาติด
สีอายแชโดว์ที่ใช้ในลุคนี้ ไล่ตามลำดับเลยจ้า ม่วงอ่อน (ปอเห็นที่กลีบดอกมีเหลือบม่วงอ่อนนิดๆ เลยใช้ด้วย), ชมพูอ่อน, ชมพูเข้ม, และส้มสว่าง
1. ลงอายไพรเมอร์ที่เปลือกตา และขอบตาล่าง แล้วเกลี่ยให้เนียนกลืนไปกับผิว รอให้เซ็ตตัวนิดหน่อย
2. ลงอายแชโดว์สีม่วงอ่อนที่เปลือกตาบนประมาณ 3:4 ของเปลือกตา เว้นช่วงหัวตาเอาไว้เล็กน้อย
3. ลงสีชมพูอ่อนประมาณ 2:4 ของเปลือกตา ไล่ความเข้มตั้งแต่หางตาเข้าไปถึงกึ่งกลางดวงตา
4. ลงสีชมพูเข้มทับอีกครั้ง เน้นสีหนักบริเวณหางตา แล้วเบลนให้เสียไล่ระดับกันเนียนๆ
5. ใช้อายแชโดว์สีส้มลงที่บริเวณหัวตา และเพื่อนที่ที่เว้นไว้ตอนแรก เกลี่ยให้สีเนียนเข้ากัน ไม่เป็นรอยแบ่ง พร้อมกับแตะสีลงที่ช่วงหางตาเบาๆ ให้พอมีเหลือบสีส้มนิดๆ
6. ใช้สีชมพูอ่อนลงที่บริเวณขอบตาล่าง ประมาณ 3:4 เช่นกัน เว้นช่วงหัวตาไว้
7. ลงสีชมพูเข้มที่ขอบตาล่าง ไล่สีให้ต่อเนื่องมาจากด้านบนจนถึงประมาณกึ่งกลางตาดำ ส่วนพื้นที่ตรงหัวตาที่เว้นไว้ ให้ใช้สีส้มลง แล้วเกลี่ยให้เนียนเช่นกัน
8. กรีดอายไลเนอร์เส้นไม่ต้องหนามาก วิงหางเล็กน้อย เพื่อให้ดูมีความมั่นใจขึ้นเหมือนกับความหมายของดอกไม้
9. ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าและติดขนตาปลอม
เสร็จแล้วก็จะได้ดวงตาคู่สวย สีสันสดใสและแฝงด้วยความมั่นใจและโดดเด่นเหมือนกับกลีบของดอกแกลดิโอลัส
Fourth Step >> Lips <<
อุปกรณ์ที่ใช้
1. Lip Color 1 :: Mistine Kiss Me Tint & Gloss #No.03 Pink In Love
2. Lip Color 2 :: Mistine Kiss Me Tint & Gloss #No.04 Peachy My Dear
1. ทาทินท์สีชมพูระเรื่อให้ทั่วริมฝีปาก
2. แต้มทินท์สีพีชช่วงกึ่งกลางริมฝีปาก แล้วเกลี่ยออกมาให้สีกลืนกัน
3. ทากลอสทับแค่ช่วงที่ทาสีพีช ให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มเล็กน้อย แต่ไม่เยิ้มเกินไป
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
Finish!!
พร้อมจะเข้าไปอยู่ในโลกแห้งดอกไม้ด้วยกันหรือยัง ไปสัมผัสพลังของดอกไม้ พลังจากธรรมชาติ ขอแปลงร่างแป๊บ!!!
สัมผัสธรรมชาติด้วยการถ่ายกลางแจ้ง กลางแดดเปรี้ยงๆ เลย ><
เพื่อนบอกว่าเหมือนเอลฟ์ (Elf) จะว่าไปก็เหมือนอยู่นะ เหมือนอยู่ในเทพนิยาย 555+ (มโนไว้ก่อนว่าตัวเองสวย)
ลองเปลี่ยนพร๊อพที่หัวหน่อยหนึ่ง 555+ รูปเดียวพอ มันดูตลกมาก!
สวยไม่สวยคิดดู ขนาดหมายังตะลึง!!!! 5555+
จบแล้วแหละ จะว่าเป็นลุคที่หวานก็คงใช้ แต่มันก็แฝงด้วยสีเจ็บๆ ที่บอกถึงความมั่นใจที่มีในตัว หวังว่าการแต่งหน้าที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ที่ชื่อว่า "ดอกแอลดิโอลัส" ของปอจะถูกใจน๊าาา ปอเลือกเอาดอกที่คิดว่ามีความหมายเข้ากับตัวเองมาแต่ง หวังว่าจะชอบ ใครสนใจแต่งตามโล้ดดด
ขอบคุณที่ติดตามมาจนจบกระทู้นะจ๊ะ ยังไงก็ขออวยพรสำหรับใครที่มีคู่อยู่แล้ว ก็ขอให้ใช้โอกาสในเดือนนี้มอบความรักให้กันและกัน ดูแลเอาใจใส่ อย่าปล่อยให้เวลาเสียไปแล้วมาเสียใจทีหลัง ส่วนใครที่สวย แต่สวยอย่างปอ ก็ไม่ต้องเศร้าไป คิดแค่ว่ามันยังไม่ถึงเวลา เดี๋ยวโอกาสจะนำพาคนดีๆ สิ่งดีๆ มาหาเราเอง อิอิ หน้าสวย โลกยังสวยอีกต่างหาก เบื่อตัวเองจัง เอาล่ะ งานเลี้ยงมีเลิกลา อิฉันจะกลับไปให้หมาหอนต่อล่ะ 5555555+ นิยามใหม่
#สวยจนหมาหอน เอาไปใช้กันได้นะ 555 ตอนนี้ขอตัวลาไปและ
ไว้เจอกันใหม่น๊าาา บ๊ายบายยย ^3^ <3
Porsche Por
[CR] HOW TO ชาย(ตุ๊ด)เป็นหญิง?? >> The Power of Gladiolus สู่ความงามแบบดอกไม้
เดือนนี้อะไรๆ ก็ดูหวานแหววไปหมดเนอะ โดยเฉพาะยิ่งกับคนมีคู่ด้วยแล้วนี่ยิ่งหวานไปใหญ่ แต่เรามันไม่คนไม่มีคู่ ก็ได้แต่นั่งอิจฉาไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้นะ!
เห็นคนให้ดอกไม้กัน ทั้งดอกกุหลาบมั้งแหละ ลิลลี่มั้งล่ะ Forget Me Not บ้างแหละ หรือจะดอกอะไรที่อีกที่เป็นตัวแทนถึงความรักหวานชื่น เราก็เลยอยากจะหยิบเอาดอกไม้มาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งหน้าบ้าง
โสดแล้วไง! สะบัดผมใส่ซะเลย! ชิ!
นี่คือลุคที่ได้แรงบันดาลใจมากจากดอกไม้ ที่ชื่อว่า ดอกแกลดิโอลัส (Gladiolus) ซึ่งแทนความหมายว่ายินดี ก็ยินดีสำหรับคนมีคู่อ่ะนะ (นี่ไม่ได้ประชด พูดจริง 555+) แต่ก็เป็นตัวแทนของคนที่มีบุคลิกที่มาดมั่น มั่นใจในตัวเอง และมีความเป็นตัวของตัวเอง เลยหยิบเอาดอกไม้ชนิดนี้มาเป็นอินสไปเรชั่น (ออก accent ให้ชัดเจนด้วยค่ะ!)
หน้าตาเจ้าดอกไม้นี้เป็นแบบนี้จ้า (หยิบสีนี้มาใช้ จริงๆ มันมีหลายสีอยู่)
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย แต่งให้สวยเลิศกันไปเลย...
ดูๆ ไปก็ดูหวานอยู่เหมือนกันนะ เราบอกแล้วว่าร่วมยินดีในเดือนแห่งความรักนี้ด้วย แต่ในความหวานก็แฝงด้วยความเปรี้ยวของสีสัน และความมั่นใจ (ของตัวเอง 555+)
เราจะนำตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของต้นไม้ ดอกไม้เดี๋ยวนี้ล่ะ
แฝงตัวเข้ากับธรรมชาติแป๊บ (เดี๋ยวนะ! นี่มันกระทู้ฮาวทู หรือคณะตลก??)
เข้าเรื่อง จะจริงจังแล้วนะ =_="
First Step >> Complexion <<
อุปกรณ์ที่ใช้มีดังนี้
1. Thermal Water Spray :: Oguma Youngspray 1.7.3 Treatment
2. Makeup Primer :: Hourglass Veil Mineral Primer
3. Foundation :: DiorSkin Star Studio Makeup #No.030
4. Makeup Sponge :: Dior Backstage Blender
5. Cream Blush :: Illamasqua Cream Blusher #Rude
6. Loose Powder :: THREE Diaphanous Loose Powder #Glow
7. Powder Blush 1 :: Kanebo Lavshuca Melty Trick Cheeks #No.04
8. Powder Blush 2 :: M.A.C Proenza Schouler Blush Ombre #Sunset Beach
9. Powder Bronzer : Sephora Bronzing Powder #Medium
10. Cream Highlighter :: Mistine Shiny Shimmer Stick
11. Powder Foundation :: Mistine Love Story #No.03
1. เตรียมผิวให้ชุ่มชื้น ดูสดใสเหมือนกลีบดอกไม้ด้วยการฉีดสเปรย์น้ำแร่ให้ทั่วใบหน้า แล้วรอจนแห้ง
2. ลงไพรเมอร์บางๆ ให้ทั่วหน้า และลงเน้นเฉพาะบริเวณที่มีความมันเป็นพิเศษ (ทีโซน, หน้าผาก, จมูก)
3. วอร์มเนื้อรองพื้นที่หลังฝ่ามือ แล้วแตะลงเบาๆ ตามจุดบนใบหน้า
4. ใช้ฟองน้ำเกลี่ยเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า โดยใช้วิธีการค่อยๆ กดไล่จากกึ่งกลางหน้าออกไปสู่กรอบหน้า เบาๆ ใช้ตรงมุมฟองน้ำเก็บบริเวณซอกปีกจมูก ขอบปากต่างๆ (จะให้แบบเปียกหมาดๆ หรือแห้งก็ได้ แต่ฟองน้ำตัวนี้ปอใช้แบบแห้งจ้า มันใช้คู่กับรองพื้นตัวนี้อยู่แล้ว)
5. เพิ่มสีสันให้กับแก้มเป็นพื้นสักหน่อยด้วยการลงครีมบลัชสีพีช โดยเริ่มแตะเบาๆ จากพวงแก้มไล่ออกไปที่กรอบหน้า เกลี่ยให้แก้มมีสีระเรื่อๆ เหมือนกลีบดอกไม้ที่รอการเบ่งบาน
6. ลงทับด้วยแป้งฝุ่นเบาๆ ด้วยแปรง
7. ปัดแก้มด้วยบลัชออนเนื้อฝุ่นทับอีกครั้ง โดยใช้สีพีชอมชมพูปัดช่วงหน้าแก้มก่อน แล้วจึงใช้สีชมพูหวานปัดจากกรอบหน้าเข้ามา เกลี่ยให้สีเข้ากัน จะได้แก้มที่ไล่สีจากพีชไปชมพู (ปอต้องการสื่อถึงกลีบดอกไม้ที่นำมาเป็นแรงบันดาลใจ)
8. คอนทัวร์เบาๆ ช่วงแก้มให้ลงช่วงกกหู แล้วเกลี่ยเข้ามาเบาๆ ไม่เกินหางตา ไม่งั้นจะทำให้หน้าดูย้วย ดูเหี่ยว รวมถึงไล่ด้านข้างสันจมูกด้วย จมูกจะได้โด่งๆ
9. ใช้แปรงลงรองพื้นแบบแบนลงไฮไลต์ตามจุดต่างๆ คือเหนือแก้มที่ปัด ตรงกลางหน้าผาก ไล่ลงมาที่สันจมูก มุมปากด้านบน และคาง เป็นจุดตกกระทบแสง
10. ปัดทับด้วยแป้งผสมรองพื้นเบาๆ เน้นว่าเบาๆ เพื่อเป็นการซับน้ำมันส่วนเกินออก และเซ็ตให้เครื่องสำอางอื่นๆ ติดทนขึ้นนิดหน่อย
เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จส่วนของใบหน้า
Second Step >> Eyebrows <<
อุปกรณ์ที่ใช่
1. Eyebrow Pencil :: Ashley Auto Powder Eyebrow Pen #Natural Brown
2. Small Angled Brush/Eyebrow Brush :: MTI Eyebrow Brush
3. Spooling Brush :: Mistine Beauty Brow Brush Set
1. คิ้วธรรมชาติ ผ่านการปัดให้เรียงตัวนิดหน่อย
2. ใช้แปรงหัวตัดสำหรับเขียนคิ้ว แตะกับเนื้อดินสอ แล้วเขียนตามทรงคิ้ว ที่ไม่ใช้ดินสอเขียนตรงๆ เพราะอยากให้คิ้วดูสมูธ เป็นธรรมชาติมากกว่า
3. ใช้แปรงปัดขนคิ้ว ปัดสีให้ดูละมุนขึ้น ปัดสีส่วนเกินที่เข้มเกินไปออก
เป็นอันเสร็นเรียบร้อย
Third Step >> Eyes <<
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับดวงตาคู่สวย 555+
1. Eye Primer :: Benefit Stay Don't Stray #Light/Medium
2. Eye Shadow 1 :: Mistine CIAO Milano Eye Color #No.01 Pink Verona
3. Eye Shadow 2 :: Wet n Wild Color Icon Eye Shadow Trio #E336 Spoiled Brat
4. Eye Shadow 3 :: 4U2 This & That #215 Orange Sherbet
5. Liquid Eyeliner :: Mistine Super Black Fixed Liner
6. Eyelash Curler :: Shu Uemura Eyelash Curler
7. Mascara :: Mistine Super Model Miracle Lash Mascara
8. Top False Lashes :: ขนตาไม่ตียี่ห้อจากไต้หวันอ่ะ เอามาแต่งสีเอาเอง
9. Bottom False Lashes :: เหมือนข้อข้างบน
10. Cream Makeup Color :: imagic 12 Flash Color Case
11. Eyelash Glue :: DUO Adhesive
12. Contact Lens :: จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร แต่รุ่น Stella Grey
ก่อนอื่นมาเปลี่ยนสีขนตาปลอมกันก่อน เนื่องจากดอกไม้มีสีออกเหลืองๆ ส้มๆ แล้วไล่ไปเป็นชมพูเข้มที่ปลายกลีบดอก ดังนั้นขนตาเราก็ต้องทำเหมือนกัน ปอใช้สีเหลืองลงบริเวณโคนขนตาทั้งด้านบนและด้านล่าง แล้วใช้สีชมพูบานเย็นลงส่วนที่เหลือของขนตา รอให้สีเซ็ตตัว แล้วใช้แป้งฝุ่นตบทับอีกครั้งเพื่อไม่ให้สีเลอะเวลาติด
สีอายแชโดว์ที่ใช้ในลุคนี้ ไล่ตามลำดับเลยจ้า ม่วงอ่อน (ปอเห็นที่กลีบดอกมีเหลือบม่วงอ่อนนิดๆ เลยใช้ด้วย), ชมพูอ่อน, ชมพูเข้ม, และส้มสว่าง
1. ลงอายไพรเมอร์ที่เปลือกตา และขอบตาล่าง แล้วเกลี่ยให้เนียนกลืนไปกับผิว รอให้เซ็ตตัวนิดหน่อย
2. ลงอายแชโดว์สีม่วงอ่อนที่เปลือกตาบนประมาณ 3:4 ของเปลือกตา เว้นช่วงหัวตาเอาไว้เล็กน้อย
3. ลงสีชมพูอ่อนประมาณ 2:4 ของเปลือกตา ไล่ความเข้มตั้งแต่หางตาเข้าไปถึงกึ่งกลางดวงตา
4. ลงสีชมพูเข้มทับอีกครั้ง เน้นสีหนักบริเวณหางตา แล้วเบลนให้เสียไล่ระดับกันเนียนๆ
5. ใช้อายแชโดว์สีส้มลงที่บริเวณหัวตา และเพื่อนที่ที่เว้นไว้ตอนแรก เกลี่ยให้สีเนียนเข้ากัน ไม่เป็นรอยแบ่ง พร้อมกับแตะสีลงที่ช่วงหางตาเบาๆ ให้พอมีเหลือบสีส้มนิดๆ
6. ใช้สีชมพูอ่อนลงที่บริเวณขอบตาล่าง ประมาณ 3:4 เช่นกัน เว้นช่วงหัวตาไว้
7. ลงสีชมพูเข้มที่ขอบตาล่าง ไล่สีให้ต่อเนื่องมาจากด้านบนจนถึงประมาณกึ่งกลางตาดำ ส่วนพื้นที่ตรงหัวตาที่เว้นไว้ ให้ใช้สีส้มลง แล้วเกลี่ยให้เนียนเช่นกัน
8. กรีดอายไลเนอร์เส้นไม่ต้องหนามาก วิงหางเล็กน้อย เพื่อให้ดูมีความมั่นใจขึ้นเหมือนกับความหมายของดอกไม้
9. ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าและติดขนตาปลอม
เสร็จแล้วก็จะได้ดวงตาคู่สวย สีสันสดใสและแฝงด้วยความมั่นใจและโดดเด่นเหมือนกับกลีบของดอกแกลดิโอลัส
Fourth Step >> Lips <<
อุปกรณ์ที่ใช้
1. Lip Color 1 :: Mistine Kiss Me Tint & Gloss #No.03 Pink In Love
2. Lip Color 2 :: Mistine Kiss Me Tint & Gloss #No.04 Peachy My Dear
1. ทาทินท์สีชมพูระเรื่อให้ทั่วริมฝีปาก
2. แต้มทินท์สีพีชช่วงกึ่งกลางริมฝีปาก แล้วเกลี่ยออกมาให้สีกลืนกัน
3. ทากลอสทับแค่ช่วงที่ทาสีพีช ให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มเล็กน้อย แต่ไม่เยิ้มเกินไป
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
Finish!!
พร้อมจะเข้าไปอยู่ในโลกแห้งดอกไม้ด้วยกันหรือยัง ไปสัมผัสพลังของดอกไม้ พลังจากธรรมชาติ ขอแปลงร่างแป๊บ!!!
สัมผัสธรรมชาติด้วยการถ่ายกลางแจ้ง กลางแดดเปรี้ยงๆ เลย ><
เพื่อนบอกว่าเหมือนเอลฟ์ (Elf) จะว่าไปก็เหมือนอยู่นะ เหมือนอยู่ในเทพนิยาย 555+ (มโนไว้ก่อนว่าตัวเองสวย)
ลองเปลี่ยนพร๊อพที่หัวหน่อยหนึ่ง 555+ รูปเดียวพอ มันดูตลกมาก!
สวยไม่สวยคิดดู ขนาดหมายังตะลึง!!!! 5555+
จบแล้วแหละ จะว่าเป็นลุคที่หวานก็คงใช้ แต่มันก็แฝงด้วยสีเจ็บๆ ที่บอกถึงความมั่นใจที่มีในตัว หวังว่าการแต่งหน้าที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ที่ชื่อว่า "ดอกแอลดิโอลัส" ของปอจะถูกใจน๊าาา ปอเลือกเอาดอกที่คิดว่ามีความหมายเข้ากับตัวเองมาแต่ง หวังว่าจะชอบ ใครสนใจแต่งตามโล้ดดด
ขอบคุณที่ติดตามมาจนจบกระทู้นะจ๊ะ ยังไงก็ขออวยพรสำหรับใครที่มีคู่อยู่แล้ว ก็ขอให้ใช้โอกาสในเดือนนี้มอบความรักให้กันและกัน ดูแลเอาใจใส่ อย่าปล่อยให้เวลาเสียไปแล้วมาเสียใจทีหลัง ส่วนใครที่สวย แต่สวยอย่างปอ ก็ไม่ต้องเศร้าไป คิดแค่ว่ามันยังไม่ถึงเวลา เดี๋ยวโอกาสจะนำพาคนดีๆ สิ่งดีๆ มาหาเราเอง อิอิ หน้าสวย โลกยังสวยอีกต่างหาก เบื่อตัวเองจัง เอาล่ะ งานเลี้ยงมีเลิกลา อิฉันจะกลับไปให้หมาหอนต่อล่ะ 5555555+ นิยามใหม่ #สวยจนหมาหอน เอาไปใช้กันได้นะ 555 ตอนนี้ขอตัวลาไปและ
ไว้เจอกันใหม่น๊าาา บ๊ายบายยย ^3^ <3
Porsche Por