มนต์รักดูคาติ Destiny of Love

กระทู้สนทนา
...แล้วเราก็ได้พบกันในวันที่ฝนพรำ...

สายฝนที่กระหน่ำสาดลงมาอย่างไม่ปราณีปราศรัยทำเอาฉันต้องชะลอความเร็วของมอเตอร์ไซค์ลงอย่างกะทันหัน ฝนฟ้าประเทศไทยนี่ไม่สามารถเชื่อใจกันได้จริงๆ ให้ตายเถอะนี่มันฤดูหนาวแล้วนะ ทำไมฉันยังต้องมาเปียกฝนด้วยนี่ บ้าชะมัด! กว่าจะพบศาลาริมทางที่พอจะหลบฝนได้ฉันก็บ่นในใจจนเหนื่อย เอ้ย! ฉันก็เปียกโชกไปทั้งตัว และที่น่าอนาถใจที่สุดคือหมวกนิรภัยแบบครึ่งใบที่หยิบมาใช้งานวันนี้นี่แหละ ดันช่วยกันฝนให้กับศีรษะของฉันได้พื้นที่เพียงชามครอบหัวเท่านั้นเอง

ฉันรีบจอดมอเตอร์ไซค์แล้วก็ผลุบเข้าไปในศาลาเล็กๆนั่นทันทีอย่างไม่มีทางเลือก โชคดีที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรมหลงมาหลบฝนเหมือนกันเพราะรอบๆ ศาลานั้นมันช่างเปลี่ยวเหลือเกิน เรียกว่าทั้งเปลี่ยวทั้งวังเวงก็ว่าได้ เหมือนโชคร้ายจะตามมาติดๆ เพราะว่าเพื่อนร่วมชะตากรรมคนนั้นดันหอบเจ้าดูคาติ สุดหล่อขึ้นมาไว้กลางศาลาด้วยนี่สิ ให้ตายเถอะ แล้วฉันจะเข้ามาหลบฝนทำไมถ้ามันไม่ได้ช่วยให้ฉันหายเปียกเลยสักนิด ฝนบ้านี่ก็ตกแรงจริงจัง แถมยังมีลมกรรโชกอีก โธ่! ชีวิตหนอชีวิต

ระหว่างที่ฉันก่นด่าชะตากรรมของตัวเองพร้อมทั้งพยายามปลงอยู่ในใจเงียบๆ สายตาก็อดไพล่ไปสำรวจเพื่อนร่วมชะตากรรมไม่ได้ให้ตายเถอะ ใครใช้ให้เขาขี่เจ้าดูคาติ มอนสเตอร์นี่ออกมากันนะ รู้ไหมเนี่ยฉันรู้สึกใจละลายเป็นบ้าเลย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกันที่เจ้าของดูคาติคันนั้นรู้สึกตัวกับการกระทำอันจาบจ้วงและหื่นกระหายของฉัน เพราะเมื่อฉันบังเอิญไล่สายตามาถึงวงหน้าของเขา ดวงตาเรียวเล็กสีดำสนิทก็มองกลับมาแล้วด้วยสีหน้าอึดอัด เอ่อ! ณ จุดนี้ฉันก็พอเข้าใจนะว่าเขาคงสยดสยองกับสภาพของฉัน สาบานได้ฉันเองยังจินตนาการออกเลยว่าสภาพคงอนาถเหมือนสาวออฟฟิศโฆษณายาแก้ไขสามชั้นนั่นแหละ

"เอ่อ ฝนตกนี่แย่จังนะคะ" ฉันชวนเขาคุยแก้เก้อ แต่เขาก็ทำเพียงแต่พยักหน้ารับแบบแกนๆมาเท่านั้น

‘อี๋!!! ขี้เต๊ะชะมัดเลย’ แน่นอนประโยคนี้ฉันได้แต่ด่าในใจ แล้วฉันเลิกสนใจเขาแล้วหันมาสนใจปาดหยดน้ำออกจากหน้าตัวเองแทน โชคดีนักที่วันนี้ไม่ได้แต่งหน้ามาการฝ่าฝนจึงไม่เลวร้ายสยองขวัญถึงที่สุด อ๊ะ! แล้วฉันก็นึกได้ ฉันมีกระดาษทิชชู่อยู่ในเสื้อแจ็คเก็ตนี่นา นี่ล่ะอุปกรณ์ขับไล่หยดน้ำชั้นดีราคาถูกที่ต้องมีพกติดตัว หลังจากที่ค้นกระเป๋าตัวเองอยู่สักพัก ฉันกลับพบเพียงเศษซากของอะไรบางอย่างที่เปื่อยยุ่ยเหลวเละอยู่ในกระเป๋าแทน สภาพตรงหน้าทำให้ฉันแทบจะลืมไปแล้วว่ามันเคยเป็นอะไรมาก่อน สาบานได้ก่อนอกจากบ้านฉันต้องทำอะไรสักอย่างผิดแน่ๆ ฟ้าดินถึงกลั่นแกล้งกันขนาดนี้

"ใครสั่งใครสอนให้เอาทิชชู่ใส่กระเป๋าเสื้อวะเนี่ย ขอด่าตัวเองหน่อยเถอะ" เสียงฉันด่าตัวเองดังลั่นศาลาสาบานได้ว่าลืมไปจริงๆ ว่าตอนนี้ไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว พอนึกขึ้นได้แบบนั้นฉันก็หันไปยิ้มแหยใส่เขาทันที และถ้ามองไม่ผิดนะ ฉันเห็นเขาส่ายหัวเล็กๆ ทำท่าทางเหมือนระอาฉันด้วย แล้วจากนั้นเขาก็ล้วงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาจากกระเป๋าด้านในของเสื้อแจ็คเก็ต

กรี๊ด!!!! เสียงหัวใจของฉันกำลังกรีดร้องเสียงดังลั่น แถมยังเต้นโครมครามราวกับจะหลุดออกมานอกอก นี่มันฉากในนิยายรักชวนฝันที่ฉันอ่านเป็นประจำนี่นา

...ท่ามกลางสายฝนที่สาดกระหน่ำร่างกายที่เปียกปอนสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บ ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยหยาดน้ำฝน ชายหนุ่มเพื่อนร่วมชะตากรรมกลางสายฝนหยิบยื่นผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินเข้มมาให้พร้อมกับบอกเธอว่า 'เช็ดหน้าหน่อยไหมครับ หน้าคุณเปียกหมดแล้ว'...

"ขะ ขะ ขอบ..." คำขอบคุณถูกกลืนลงไปในคอทันที ภาพจินตนาการสุดบรรเจิดสลายไปชนิดไม่เห็นฝุ่น

เสียงกรีดร้องในหัวใจดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันอยากจะกรี๊ดกรอกหูเขามากกว่า อีตาบ้าเอ้ย!นายกล้าทำลายพลังจินตนาการสุดบรรเจิดของฉันได้ยังไง แอร๊ยๆๆๆๆ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ฉันโวยวายดังลั่นอยู่ในความคิด เมื่อเห็นว่าผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินเข้มผืนนั้นถูกนำไปใช้เช็ดไอโฟน ก่อนจะตามมาด้วยการนำไปซับน้ำที่ดูคาติ มอนสเตอร์ แดง-ดำ สุดหล่อคันนั้นด้วยท่าทางอ่อนโยน นี่มันหมายความว่ายังไงกันเขาดันเอาไปเช็ดโทรศัพท์กับมอเตอร์ไซค์แทนที่จะเป็นหน้าของฉันหรือนี่ ผู้ชายแสนดีมันมีอยู่แค่ในจินตนาการจริงๆเท่านั้นใช่ไหม เชอะ! ฉันสะบัดหน้าหนีจากภาพที่แสนหงุดหงิดหัวใจ ก่อนที่สายตาจะไปปะทะกับรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่จอดอยู่กลางสายฝนด้วยความหนาวเหน็บ ความหงุดหงิดดูเหมือนว่าจะทวีขึ้นอีกเท่าตัว ผสมกับความหมั่นไส้อย่างอันลิมิต ทำให้ฉันพาลหันกลับมาค้อนใส่เจ้าดูคาติสุดหล่อที่พ่อมันออกจะโอ๋เกินหน้าเกินตานั่นอีกครั้ง

“เฮอะ....แค่ห้าหกแสนทำมาสำออย หัดอึดซะบ้างสิยะ อุตส่าห์เป็นรถดัง พ่อแกน่ะโอ๋เกินหน้าเกินตาไปแล้วย่ะ”

“ว่าอะไรนะครับ” เจ้าของรถที่กำลังตั้งอกตั้งใจซับน้ำฝนให้กับดูคาติสุดหล่อคันนั้นจู่ๆก็เงยหน้า ทำเอาฉันที่กำลังตั้งใจนินทาเบาๆแทบตกจากที่นั่ง

“เอ่อ อ่า...โอ้โห้ ฝนตกหนักจัง ตกไม่ดูเวล่ำเวลาตาม้าตาเรือเลย...ฉะ ฉันพูดว่าอย่างงี้น่ะค่ะ”

“อ่อ...นั่นสิครับ แย่จริงๆ ฤดูหนาวแท้ๆ” เขาทำหน้าแปลกๆ พร้อมโต้ตอบกับฉันสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเช็ดน้ำให้ดูคาติต่อไป

เห็นดังนั้นแล้วฉันก็ได้แต่เป่าปากถอนใจด้วยความโล่งอก นึกด่าฟ้าฝนที่เกิดจะมาเบาเอาตอนที่ฉันนินทาเขากับเจ้าดูคาติสุดหล่อคันนั้น นี่เขาเกือบจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงเสียสติอยู่แล้วไหมละ มานั่งพูดบ้าบอคนเดียวแบบนี้

“เฮ้อ!!!!...เบื่อๆ เมื่อไหร่ฝนจะหยุดตกนะ”

หลังจากที่บ่นตัวเองจนหนำใจแล้ว ฝนที่เหมือนจะซาลงเมื่อครู่ก็กลับมาตกหนักอีกครั้ง คราวนี้ฉันเริ่มหมดเรื่องจะสนใจแล้วจริงๆ ความเบื่อหน่ายขึ้นสุดจึงบังเกิด ถ้ารู้ว่าจะต้องมาติดแหง็กไม่มีอะไรทำอยู่แบบนี้คงหยิบกระเป๋าสะพายที่อยู่ใต้เบาะรถลงมาด้วยแล้ว อย่างน้อยก็คงเช็ค facebook เล่น line หรืออัพรูปใน instagram ได้บ้างก็ยังดี พอไม่มีอะไรทำแบบนี้มันเซ็งชะมัด

ฉันเหม่อมองดินฟ้าอากาศไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่เจ้าของดูคาติสุดหล่อ แน่ละฉันอาจจะหลงรักรถรุ่นนี้เป็นพิเศษแต่ว่าฉันก็รู้จักมันดีเกินกว่าจะสำรวจอะไรอีกแล้ว ฉะนั้นในศาลาเล็กๆที่มีเพียงมนุษย์สองคนกับรถอีกหนึ่งคัน ฉันย่อมต้องสำรวจเขาแก้ว่างแน่ๆ เพื่อนร่วมชะตากรรมของฉันนั้นตอนนี้เขาไม่ได้นั่งซับน้ำให้กับเจ้าดูคาติหากแต่เปลี่ยนมานั่งเล่นสมาร์ทโฟนของตัวเองแทน สาบานได้กับสิ่งที่ฉันเพิ่งค้นพบ นี่ฉันกำลังติดฝนอยู่กับหนุ่มหล่อหรือนี่ ร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อหนังสีดำสนิทกับกางเกงยีนส์ฟอกสีซีด กำลังนั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายๆ คิ้วเข้มหนาที่ขมวดมุ่นน้อยๆ ยามเมื่อเกมลูกกวาด ในมือไม่ได้ดังใจ รับกับดวงตาเรียวเล็กบ่งบอกเชื้อสายว่าไม่ใช่ไทยแท้ จมูกโด่งเป็นสันโดยธรรมชาติที่สันนิษฐานว่าได้รับมาแต่กำเนิด ริมฝีปากรูปกระจับเม้มน้อยๆ แสดงความขัดใจที่แพ้เกมอีกครั้ง ฉันอยากกรีดร้อง ในที่สุดเนื้อคู่ฉันก็เกิดแล้ว พระพรหมท่านคงขีดชะตาให้เราได้มาพบกันเสียที ผู้ชายอะไรหน้าตาดีเป็นบ้า ยิ่งขับดูคาติที่ฉันแสนหลงใหลด้วยแล้วยิ่งหล่อแบบไร้ขีดจำกัดจริงๆ

ไม่รู้ว่าฉันเผลอตัวมองเขาไปนานเท่าไหร่แต่พอรู้ตัวอีกทีความรู้สึกหนาวก็แล่นจับขั้วหัวใจ ให้ตายเถอะฉันกลับมาสู่ความจริงที่ว่า มนุษย์หล่อน่ากินมีอยู่แค่ในมโนเท่านั้น เพราะความเป็นจริงสายฝนยังคงกระหน่ำ ลมยังคงพัดแรงไม่หยุด และเพราะดูคาติคันนั้นทำให้ฉันต้องมายืนสั่นหงึกๆ เป็นเจ้าเข้าอยู่ตรงริมขอบๆศาลาแทนที่จะได้เข้าไปยื่นสวยๆอยู่กลางศาลาหนีฝน

“เฮ้อ! แล้วเมื่อไหร่ฝนจะหยุดเนี่ย” ฉันยังคงบ่นเบาๆไม่เลิกเสียที

แล้วในที่สุดเทวดาฟ้าดินก็ได้ยินเสียงบ่นของฉันเสียที หรือไม่ก็อีกนัยหนึ่งคือท่านคงรำคาญถึงที่สุดแล้วนั่นแหละ เลยยอมหยุดฝนให้ในที่สุด สายฝนที่เริ่มห่างเม็ดจนกระทั่งเหลือเพียงตกปรอยๆ ทำให้ฉันตัดสินใจที่จะฝ่ามันกลับ เพราะเงาครึ้มของเมฆฝนมันยังไม่คลายเท่าไหร่ แถมยังมีวี่แววว่ามันอาจจะตกลงมาอีกระลอกในไม่ช้า เมื่อตัดสินใจแน่แล้วฉันก็หันไปมองดูคาติและเจ้าของสุดหล่อผู้เป็นเนื้อคู่ที่ฉันเพิ่งหาเจออีกครั้งเป็นการล่ำลา ฉันทอดสายตาอาลัยอาวรณ์อย่างไม่บันยะบันยังใส่เขา แต่ทว่าสายตาของเขากลับจับจ้องอยู่ที่เกมลูกกวาดในมือด้วยความตั้งอกตั้งใจชนิดที่ว่าจะเล่นกะเอาโล่เลยทีเดียว ฉันสะบัดค้อนใส่เขาอีกด้วยความหมั่นไส้แล้วก็รีบออกจากศาลามาทันที เดี๋ยวนะ! ฉันเพิ่งสังเกตว่าทางขึ้นศาลามันเป็นระแนงไม้เรียงกัน โอ้แม่เจ้า ไม้ผุด้วยเถอะ เวรกรรมของฉันหนักหนาอยู่ จากที่ตั้งใจว่าจะวิ่งปราดเดียวถึงรถตัวเอง ก็ต้องค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้ตัวเองกลิ้งลงไปในคูน้ำใต้ศาลาเสียแล้ว

กว่าจะมาถึงรถได้ฝนก็เหลือเพียงแค่ละอองบางๆเท่านั้น ฉันหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต แล้วก็แทบจะกรีดร้องอีกครั้งที่พบความจริงอันน่าสะพรึง พร้อมกับคำตอบของสีหน้าประหลาดของเขาตอนที่หันมาคุยกับฉันตอนนั้น ไอ้หมวกกันน็อคเจ้ากรรมนี่ ทำไมฉันถึงลืมถอดได้ละเนี่ย หมดกันๆ ไม่มีมันแล้วมาด หากมีคนถามว่าอายไหม ฉันก็ตอบได้เลยโดยไม่ลังเลว่า ‘ณ จุดนี้อายมาก’ เฮ้อ! ฉันต้องถอนหายใจแสดงความสมเพชตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สาบานเลยว่าจะไม่มีคราวหน้าอีกแล้วกับสภาพนี้

ขณะที่บ่นตัวเองอยู่ในใจนั้นที่ปลายหางตาของฉันก็ดันเหลือบไปเห็นเจ้าดูคาติแดงดำค่อยๆย้ายก้นลงมาด้วยท่าทีที่ทุลักทุเลกว่าฉันหลายพันเท่า เจ้าของรูปหล่อค่อยๆประคับประคองมันราวกับคู่แต่งงานใหม่ด้วยท่วงท่าชวนหัวร่อเป็นที่สุด ฉันต้องกลั้นขำไว้ในใจเงียบๆ อย่างสุดความสามารถเพราะไม่กล้าหัวเราะให้เขาได้ยิน

‘เป็นไงละ! ใครใช้ให้ขับรถคันใหญ่ขนาดนั้นเข้าไปล่ะ สมน้ำหน้า ถ้าตกคูน้ำลงไปแม่จะหัวเราะให้ลั่นโลก’ ฉันบอกกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสาแก่ใจเป็นสุด แต่สะใจได้เพียงแค่ครู่เดียวฉันก็พอจะตระหนักได้ว่าเราทั้งคู่ตกอยู่ในสภาพน่าอนาถชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใครไม่แตกต่างกัน ดังนั้นที่ผ่านมาทั้งหมดก็ถือว่าเจ๊ากันไปแล้วกัน

“วันฝนตกแบบนี้มันจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นบ้างไหมเนี่ย” ฉันส่ายหน้าขำๆกับมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง ก่อนจะบิดกุญแจแล้วสตาร์ทรถขี่จากมาทันที
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่