**** ขอบคุณทางพันทิบ ที่เข้าใจปัญหาของชาวเฉลิมไทยครับ ผมจะนำคอลัมน์ที่เขียนมาให้ได้อ่านกันเรื่อยๆ โดยประมาณคือหลังจาก เนชั่นสุดสัปดาห์เล่มนั้นๆ วางแผงไปแล้ว 2 สัปดาห์ครับ ****
สวัสดีครับ
ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ
เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1150
ระห้ำ VERB ช่อง 2 ของ ระห่ำ
“ม็อคค่าปาท่องโก๋” ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ขอถือโอกาสพาทุกท่านไปรู้จักหนังของเพื่อนบ้านเราในกลุ่ม ASEAN ที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในระดับสากลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ คนถึงกับกล่าวอ้างว่าเป็นหนัง Action เอเชียที่เป็น Landmark ถัดไปต่อจาก “องค์บาก” และ “ต้มยำกุ้ง” นั่นคือหนังจากประเทศอินโดนีเซียเรื่อง The Raid Redemption มีชื่อภาษาไทยว่า ฉะ! ทะลุตึกนรก
The Raid : Redemption เป็นหนังที่กำกับและเขียนบทโดยผู้กำกับชาวอังกฤษ ที่ไปลงหลักปักฐานที่อินโดนีเซีย Gareth Evans นำแสดงโดย Iko Uwais ที่เป็นนักกีฬาปันจักสีลัตดีกรีแชมป์ระดับประเทศ ออกฉายเมื่อปี ค.ศ. 2011ซึ่งในหนังเรื่องนี้ได้นำปันจักสีลัตมาใช้ในการต่อสู้ได้อย่างถึงพริกถึงขิงจริงๆ ไม่ต่างอะไรกับที่ “องค์บาก” และ “ต้มยำกุ้ง” นำ “มวยไทย” มาใช้...
อ่านถึงตรงนี้ อาจจะสงสัยว่า หนังเรื่องนี้มันจะทำได้แค่ไหนกันเชียว จึงขอเล่าสู่กันฟังสักเล็กน้อย ว่าอันที่จริงหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีบทและเนื้อเรื่องอะไรที่ดีเด่นน่าสนใจแต่ประการใด...
เพราะตัวหนังว่าด้วยเรื่องพระเอกที่เป็นหน่วยรบพิเศษ มีภารกิจบุกเข้าไปยังอาคารอพาร์ทเม้นท์เสื่อมโทรมแห่งหนึ่ง เพื่อปฏิบัติภารกิจกำจัดเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อยาเสพติดตัวเอ้ อพาร์ทเม้นท์หลังนี้ไม่เคยถูกบุกจู่โจมมาก่อน และไม่เคยถูกแตะต้องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื้อเรื่องหลักๆ มีแค่นี้จริงๆ ครับ แต่ความมันของหนังเรื่องนี้อยู่ที่คิวบู๊และการออกแบบฉาก Actionต่างหาก
คิวบู๊ของหนังเรื่องนี้ เป็นการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายของแท้ สู้เพื่อชีวิตรอดล้วนๆ ซึ่งจะแตกต่างจากหนังไทยของเราอย่าง “องค์บาก” และ “ต้มยำกุ้ง” หรือหนังของ “เฉินหลง” ที่เน้นคิวบู๊ แบบโชว์ศิลปะป้องกันตัว หรือการใช้ทักษะลักษณะกายกรรมแบบ Martial Art ซึ่งทำให้เกิดความสมจริงเป็นอย่างมาก
แต่ถึงกระนั้น ด้วยงบประมาณที่จำกัด หนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังที่ถ่ายทำใน Location เดียว ทำให้เกิดความซ้ำซากในการต่อสู้ ดูไปนานๆ อาจจะเบื่อได้ อีกทั้งยังมีเนื้อเรื่องคือบทภาพยนตร์ที่เบาบางมากๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นหนังที่เน้นโชว์เลือดสาดกันเป็นหลัก แต่เส้นเรื่องแทบไม่มีความสมเหตุสมผลอันใด...
มาในปีนี้ผู้กำกับ Gareth Evan นำเสนอหนังภาคต่อ ซึ่งที่จริงแล้ววางแผนที่จะทำมาก่อน The Raid : Redemption แต่ติดขัดด้วยงบประมาณการสร้าง ตัวหนังจึงถูกพักไว้ก่อน แล้วพอ The Raid : Redemption ประสบความสำเร็จ Gareth Evan จึงนำเอาแผนหนังบู๊เลือดสาดที่เก็บไว้นั่นคือ Berandal ซึ่งในภาษาท้องถิ่นแปลว่า “อันธพาล” มาทำเป็นภาคต่อของ The Raid : Redemption จึงกลายเป็น The Raid 2 : Berandal (ชื่อภาษาไทย ฉะ! ระห้ำเมือง)
โดยการขยายสเกลของหนังให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม และโทร.ไปตามนักแสดงทีมเดิมกลับมาได้อย่างครบครัน โดยเป็นเรื่องราวของแก๊งอันธพาล มีฉากการต่อสู้ที่หลากหลาย มีฉากขับรถไล่ล่า และมีการต่อสู้สไตล์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผมก็ได้ไปดูมาแล้ว จึงขอมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ตัวอย่างของ The Raid 2 : Berandal ฉะ! ระห้ำเมือง (ระห้ำนะครับ ไม่ใช่ระห่ำ คงต้องการแสดงถึงว่าหนังเป็นภาค 2 ฮ่าๆๆๆๆ) นั้น ทำได้น่าสนใจมากครับ มีจุดขายที่หลากหลายทั้งฉากต่อสู้สารพัดแบบ การใช้ไม้เบสบอลเป็นอาวุธหลัก การต่อสู้ท่ามกลางโคลน ฉากขับรถไล่ล่าที่ตื่นเต้น เรียกว่าทำได้น่าดูมากๆ ครับ
ช่วงแรกของหนังนั้น หนังเริ่มต้นเรื่องราวชนิดต่อเนื่องกับภาคที่แล้วอย่างชัดเจน และหนังก็เดินเรื่องโดยเพิ่มระดับความหดและดุเดือดมากขึ้น มีการแนะนำตัวละครใหม่ๆ ที่หลากหลาย เนื้อเรื่องดูน่าสนใจและเดาค่อนข้างยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ที่โดเด่นเห็นจะเป็นงานภาพครับ ถ่ายภาพได้น่าสนใจ แปลก และสวยงามดีทีเดียว ส่วนด้านฉากต่อสู้นั้นอย่าได้ห่วงไปเลย ยอดเยี่ยมและมันสุดๆ
ช่วงกลางๆ หนังขยายปมต่างๆ ทั้งเรื่องราวของปัญหาการคอรับชั่น ปัญหาเรื่องอบายมุขมากมาย ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก เรื่องราวระหว่างแก๊ง การชิงดีชิงเด่น ปมชีวิตของนักเลง ซึ่งจะเห็นได้ว่าหนังวางโครงเรื่องและเขียนบทมาได้ดีมากๆ ฉากต่อสู้มีมากมาย ทยอยส่งต่อมาแทบจะทุกๆ 5-10 นาที มีฉากที่พลิกผันเล่นเอาช็อกไปเลยเหมือนกัน แต่ก็มีอยู่หนึ่งฉากที่ทำให้ทุกคนคงงงและสงสัยเหมือนกันว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นที่อินโดนีเซียหรือเปล่า?
ช่วงท้าย หนังดูค่อนข้างคล้ายเกมต่อสู้อะไรสักอย่างที่มีภารกิจบุกเข้าไปทลายฐานทัพของศัตรู ฆ่าบอสให้ตาย จะว่าไปตรงนี้ก็ดูคล้ายกับภาคแรกอยู่บ้าง แต่หนังก็จัดหนัก จัดเต็ม การต่อสู้อย่างโหด เลือดสาดกระจาย เอาเป็นว่าใครชอบหนัง Action ฟินคาจอหนังแน่นอน และหนังก็ปูมาสู่ฉากจบซึ่งแอบทำให้คิดต่อว่า หนังก็อาจจะมีภาค 3 ก็เป็นได้
งานภาพของหนังเรื่องนี้นั้นโดดเด่นมาก แต่ที่น่าทึ่งที่สุดคือคิวบู๊ บางฉากมีคนเข้าฉากไม่น่าจะต่ำกว่า 30-40 คน แต่ละคนมีคิวบู๊ของตัวเอง...
ซึ่งดูแล้วถ้าไม่กำกับให้ละเอียด หนังคงออกมาไม่ดีแบบนี้ อีกทั้งฉากรถไล่ล่านั้น แสดงให้เห็นเลยว่า ผู้กำกับ Gareth Evan มีความสามารถสูงมากๆ ผมว่าตรงนี้ทำได้ในระดับเดียวกับหนังฮอลลีวูด ดูแล้วคอหนังแนวฉากขับรถไล่ล่าแบบผมต้องซี๊ดปากกันเลย ส่วนตัวผมชอบฉากนี้พอๆ กับฉากลากตู้เซฟทลายเมืองของ Fast Five เลยนะครับ
ด้านการแสดงนั้น ดูเหมือนพระเอกของเรา Iko Uwais จะได้แสดงฝีมือมากขึ้นในด้านการแสดง มีฉากที่ต้องแสดงอารมณ์หลากหลาย แต่ก็ทำได้ดี รวมทั้งนักแสดงนำอีกหลายๆ คนในเรื่องนี้ ก็แสดงความสามารถทั้งด้านการแสดงอารมณ์ และการต่อสู้ทำได้เป็นอย่างดีทุกคน งานกำกับของหนังเรื่องนี้ ขึ้นชั้นไปเทียบกับหนังฮอลลีวูดได้ในแทบจะทุกมิติ
ข้อดี ที่โดดเด่นที่สุดคือบท ซึ่งหนัง Action น้อยเรื่องนักที่จะทำตรงนี้ได้ดี ผมอยากให้หนัง Action ของไทยมีการพัฒนาบทให้ดีแบบนี้บ้าง จริงอยู่ที่หนัง Action ไม่ได้เน้นบท แต่ถ้าเน้นด้วยมันจะยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นมากๆ
ข้อเสีย การที่หนังใช้ภาษาอินโดนีเซียเป็นหลัก ทำให้หนังที่เข้าฉายในประเทศไทย มีแค่หนังพากย์ไทยเพียงแบบเดียว พากย์โดยเจ้าเก่า พันธมิตร เช่นเคย ซึ่งผมว่ามีหลายครั้งที่พากย์ให้ตลกโดยที่ตัวหนังมันเครียด ทำให้อารมณ์ของคนดูไม่กดดันเข้มข้นอย่างที่ควรจะเป็น
สรุป หนังเรื่องนี้ เป็นหนัง Action ที่ผมให้คะแนนเต็มในสาย Action เลยครับ ภาคแรกว่าเจ๋ง ภาคนี้เหนือกว่าแบบทิ้งห่าง ความประทับใจแบบนี้ เคยเกิดขึ้นสมัยได้ดู “องค์บาก” ครั้งแรกนั่นแหล่ะครับ คอหนัง Action ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ถือเป็นหนัง Action หนึ่งเรื่องที่ต้องดูให้ได้ก่อนตายครับ ฮ่าๆๆๆๆ
ความคาดหวังก่อน / หลังชม - คาดหวังสูง / ดีกว่าที่คาดไว้มากๆ
เกรดหนัง ห้ามพลาดเด็ดขาด
คะแนน 10/10
ฝากบทความก่อนๆด้วยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Checker ฟันเฟืองสำคัญของ “หนังไทย”
http://ppantip.com/topic/30776136
End Credits กับ “ความโง่” ของ “โรงหนัง”
http://ppantip.com/topic/30848998
ว่าด้วย DVD Box Set
http://ppantip.com/topic/30862595
ปมร้อนตั๋วหนัง : กรณีศึกษาโรงหนังมาเลเซีย
http://ppantip.com/topic/30923730
ยอดเยี่ยมที่สุด
http://ppantip.com/topic/30934588
จิบกาแฟกับ “โต้ง 1,000 ล้าน” (ตอนที่ 1) http://ppantip.com/topic/30965553
(ตอนที่ 2) http://ppantip.com/topic/30968008
“อยากเป็นนักเขียน” ความในใจ “โต้ง 1,000 ล้าน”
http://ppantip.com/topic/30972745
เปิดตัวคนดูแล “เฉลิมไทย” (ตอนแรก) http://ppantip.com/topic/30999957
(ตอนจบ) http://ppantip.com/topic/31004533
“ผี” ในโรงหนัง
http://ppantip.com/topic/31023799
4DX เหมือนไก่ได้พลอย
http://ppantip.com/topic/31052065
สปอยล์
http://ppantip.com/topic/31061926
[CR][SR]หนังไทยระดับ “เทพ” ครึ่งปีที่ผ่านไป
http://ppantip.com/topic/31065553
“โรงหนังภูธร” ในยุคเปลี่ยนผ่าน (ตอนแรก) http://ppantip.com/topic/31086596
(ตอนจบ) http://ppantip.com/topic/31089878
คัน
http://ppantip.com/topic/31097039
การ์ตูนไทยกับหนังไทย
http://ppantip.com/topic/31112574
กระทบไหล่ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” เจ้าพ่อ 3D คนแรกของไทย (ตอนแรก) http://ppantip.com/topic/31126568
(ตอนจบ) http://ppantip.com/topic/31133910
อนาคตวงการหนัง {สัมภาษณ์อเล็กซ์และเจซซี่จาก ฮาชิมะ โปรเจกต์}
http://ppantip.com/topic/31374314
ผีไทยลงโอ่ง ไปโผล่สิงคโปร์ (ตอนแรก) {สัมภาษณ์ผกก. กอล์ฟ&โอ๋ GTH} http://ppantip.com/topic/31390722
(ตอนที่สอง) {สัมภาษณ์ผกก. กอล์ฟ&โอ๋ GTH} http://ppantip.com/topic/31395529
คุยกับคนอวดผี {สัมภาษณ์ผกก. กอล์ฟ&โอ๋ GTH}
http://ppantip.com/topic/31399883
คุยกับคนอวดผี (ตอนจบ) {สัมภาษณ์ผกก.โอ๋ GTH}
http://ppantip.com/topic/31404398
คุยกับ “ยิปโซ ฟัดจังโตะ” (ตอนแรก) http://ppantip.com/topic/31522918
(ตอนจบ) http://ppantip.com/topic/31570826
บทสรุปหนังไทย 2556
http://ppantip.com/topic/31621718
รางวัล “ปาท่องโก๋ทองคำ”
http://ppantip.com/topic/31675576
เปิดใจ “แมน ศุภกิจ” “...พระเจ้าให้โอกาสผมกำกับหนังแล้ว...”
http://ppantip.com/topic/31675645
ความกดดัน {สัมภาษณ์ เต้ย จรินทร์พร}
http://ppantip.com/topic/31686523
กำหนดวันฌาปนกิจฟิล์ม (ตอนแรก)
http://ppantip.com/topic/31848289
กำหนดวันฌาปนกิจฟิล์ม (ตอนจบ) {ระบบฉายหนังดิจิตอล}
http://ppantip.com/topic/31850667
“จับหัวใจให้อยู่ ก็ทำได้ทุกอย่าง” ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
http://ppantip.com/topic/31853552
There's something about เมโกะ {สัมภาษณ์ เมโกะ-ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย}
http://ppantip.com/topic/31979918
รางวัลหนังไทย 2556 {สรุปรางวัลหนังไทย 2556 จาก 3 รางวัลหลัก}
http://ppantip.com/topic/32012517
นางเอกเงินล้าน
http://ppantip.com/topic/32055498
แหล่งที่มา “พี่มาก...พระโขนง” {แนะนำหนังสือ The Making of พี่มาก...พระโขนง}
http://ppantip.com/topic/32106441
Gravity Guy {สัมภาษณ์ ปีเตอร์ - นพชัย}
http://ppantip.com/topic/32141776
ม็อคค่าปาท่องโก๋ : ตะลุยกองถ่าย {สัมภาษณ์ผู้พันเบิร์ด และ ปีเตอร์-นพชัย}
http://ppantip.com/topic/32198026
(ฉลองประกาศอิสรภาพ) ม็อกค่าปาท่องโก๋ : ระห้ำ VERB ช่อง 2 ของ ระห่ำ
สวัสดีครับ
ขออนุญาต นำคอลัมน์ "ม็อกค่าปาท่องโก๋" ที่ผมเขียนประจำในเนชั่นสุดสัปดาห์นั้น มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน เพื่อขอคำแนะนำ คำติชม เพื่อปรับปรุงงานเขียนต่อไปในอนาคตเรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ
เนชั่นสุดสัปดาห์ เล่มที่ 1150
ระห้ำ VERB ช่อง 2 ของ ระห่ำ
“ม็อคค่าปาท่องโก๋” ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ขอถือโอกาสพาทุกท่านไปรู้จักหนังของเพื่อนบ้านเราในกลุ่ม ASEAN ที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในระดับสากลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ คนถึงกับกล่าวอ้างว่าเป็นหนัง Action เอเชียที่เป็น Landmark ถัดไปต่อจาก “องค์บาก” และ “ต้มยำกุ้ง” นั่นคือหนังจากประเทศอินโดนีเซียเรื่อง The Raid Redemption มีชื่อภาษาไทยว่า ฉะ! ทะลุตึกนรก
The Raid : Redemption เป็นหนังที่กำกับและเขียนบทโดยผู้กำกับชาวอังกฤษ ที่ไปลงหลักปักฐานที่อินโดนีเซีย Gareth Evans นำแสดงโดย Iko Uwais ที่เป็นนักกีฬาปันจักสีลัตดีกรีแชมป์ระดับประเทศ ออกฉายเมื่อปี ค.ศ. 2011ซึ่งในหนังเรื่องนี้ได้นำปันจักสีลัตมาใช้ในการต่อสู้ได้อย่างถึงพริกถึงขิงจริงๆ ไม่ต่างอะไรกับที่ “องค์บาก” และ “ต้มยำกุ้ง” นำ “มวยไทย” มาใช้...
อ่านถึงตรงนี้ อาจจะสงสัยว่า หนังเรื่องนี้มันจะทำได้แค่ไหนกันเชียว จึงขอเล่าสู่กันฟังสักเล็กน้อย ว่าอันที่จริงหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีบทและเนื้อเรื่องอะไรที่ดีเด่นน่าสนใจแต่ประการใด...
เพราะตัวหนังว่าด้วยเรื่องพระเอกที่เป็นหน่วยรบพิเศษ มีภารกิจบุกเข้าไปยังอาคารอพาร์ทเม้นท์เสื่อมโทรมแห่งหนึ่ง เพื่อปฏิบัติภารกิจกำจัดเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อยาเสพติดตัวเอ้ อพาร์ทเม้นท์หลังนี้ไม่เคยถูกบุกจู่โจมมาก่อน และไม่เคยถูกแตะต้องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื้อเรื่องหลักๆ มีแค่นี้จริงๆ ครับ แต่ความมันของหนังเรื่องนี้อยู่ที่คิวบู๊และการออกแบบฉาก Actionต่างหาก
คิวบู๊ของหนังเรื่องนี้ เป็นการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายของแท้ สู้เพื่อชีวิตรอดล้วนๆ ซึ่งจะแตกต่างจากหนังไทยของเราอย่าง “องค์บาก” และ “ต้มยำกุ้ง” หรือหนังของ “เฉินหลง” ที่เน้นคิวบู๊ แบบโชว์ศิลปะป้องกันตัว หรือการใช้ทักษะลักษณะกายกรรมแบบ Martial Art ซึ่งทำให้เกิดความสมจริงเป็นอย่างมาก
แต่ถึงกระนั้น ด้วยงบประมาณที่จำกัด หนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังที่ถ่ายทำใน Location เดียว ทำให้เกิดความซ้ำซากในการต่อสู้ ดูไปนานๆ อาจจะเบื่อได้ อีกทั้งยังมีเนื้อเรื่องคือบทภาพยนตร์ที่เบาบางมากๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นหนังที่เน้นโชว์เลือดสาดกันเป็นหลัก แต่เส้นเรื่องแทบไม่มีความสมเหตุสมผลอันใด...
มาในปีนี้ผู้กำกับ Gareth Evan นำเสนอหนังภาคต่อ ซึ่งที่จริงแล้ววางแผนที่จะทำมาก่อน The Raid : Redemption แต่ติดขัดด้วยงบประมาณการสร้าง ตัวหนังจึงถูกพักไว้ก่อน แล้วพอ The Raid : Redemption ประสบความสำเร็จ Gareth Evan จึงนำเอาแผนหนังบู๊เลือดสาดที่เก็บไว้นั่นคือ Berandal ซึ่งในภาษาท้องถิ่นแปลว่า “อันธพาล” มาทำเป็นภาคต่อของ The Raid : Redemption จึงกลายเป็น The Raid 2 : Berandal (ชื่อภาษาไทย ฉะ! ระห้ำเมือง)
โดยการขยายสเกลของหนังให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม และโทร.ไปตามนักแสดงทีมเดิมกลับมาได้อย่างครบครัน โดยเป็นเรื่องราวของแก๊งอันธพาล มีฉากการต่อสู้ที่หลากหลาย มีฉากขับรถไล่ล่า และมีการต่อสู้สไตล์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผมก็ได้ไปดูมาแล้ว จึงขอมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ตัวอย่างของ The Raid 2 : Berandal ฉะ! ระห้ำเมือง (ระห้ำนะครับ ไม่ใช่ระห่ำ คงต้องการแสดงถึงว่าหนังเป็นภาค 2 ฮ่าๆๆๆๆ) นั้น ทำได้น่าสนใจมากครับ มีจุดขายที่หลากหลายทั้งฉากต่อสู้สารพัดแบบ การใช้ไม้เบสบอลเป็นอาวุธหลัก การต่อสู้ท่ามกลางโคลน ฉากขับรถไล่ล่าที่ตื่นเต้น เรียกว่าทำได้น่าดูมากๆ ครับ
ช่วงแรกของหนังนั้น หนังเริ่มต้นเรื่องราวชนิดต่อเนื่องกับภาคที่แล้วอย่างชัดเจน และหนังก็เดินเรื่องโดยเพิ่มระดับความหดและดุเดือดมากขึ้น มีการแนะนำตัวละครใหม่ๆ ที่หลากหลาย เนื้อเรื่องดูน่าสนใจและเดาค่อนข้างยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ที่โดเด่นเห็นจะเป็นงานภาพครับ ถ่ายภาพได้น่าสนใจ แปลก และสวยงามดีทีเดียว ส่วนด้านฉากต่อสู้นั้นอย่าได้ห่วงไปเลย ยอดเยี่ยมและมันสุดๆ
ช่วงกลางๆ หนังขยายปมต่างๆ ทั้งเรื่องราวของปัญหาการคอรับชั่น ปัญหาเรื่องอบายมุขมากมาย ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก เรื่องราวระหว่างแก๊ง การชิงดีชิงเด่น ปมชีวิตของนักเลง ซึ่งจะเห็นได้ว่าหนังวางโครงเรื่องและเขียนบทมาได้ดีมากๆ ฉากต่อสู้มีมากมาย ทยอยส่งต่อมาแทบจะทุกๆ 5-10 นาที มีฉากที่พลิกผันเล่นเอาช็อกไปเลยเหมือนกัน แต่ก็มีอยู่หนึ่งฉากที่ทำให้ทุกคนคงงงและสงสัยเหมือนกันว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นที่อินโดนีเซียหรือเปล่า?
ช่วงท้าย หนังดูค่อนข้างคล้ายเกมต่อสู้อะไรสักอย่างที่มีภารกิจบุกเข้าไปทลายฐานทัพของศัตรู ฆ่าบอสให้ตาย จะว่าไปตรงนี้ก็ดูคล้ายกับภาคแรกอยู่บ้าง แต่หนังก็จัดหนัก จัดเต็ม การต่อสู้อย่างโหด เลือดสาดกระจาย เอาเป็นว่าใครชอบหนัง Action ฟินคาจอหนังแน่นอน และหนังก็ปูมาสู่ฉากจบซึ่งแอบทำให้คิดต่อว่า หนังก็อาจจะมีภาค 3 ก็เป็นได้
งานภาพของหนังเรื่องนี้นั้นโดดเด่นมาก แต่ที่น่าทึ่งที่สุดคือคิวบู๊ บางฉากมีคนเข้าฉากไม่น่าจะต่ำกว่า 30-40 คน แต่ละคนมีคิวบู๊ของตัวเอง...
ซึ่งดูแล้วถ้าไม่กำกับให้ละเอียด หนังคงออกมาไม่ดีแบบนี้ อีกทั้งฉากรถไล่ล่านั้น แสดงให้เห็นเลยว่า ผู้กำกับ Gareth Evan มีความสามารถสูงมากๆ ผมว่าตรงนี้ทำได้ในระดับเดียวกับหนังฮอลลีวูด ดูแล้วคอหนังแนวฉากขับรถไล่ล่าแบบผมต้องซี๊ดปากกันเลย ส่วนตัวผมชอบฉากนี้พอๆ กับฉากลากตู้เซฟทลายเมืองของ Fast Five เลยนะครับ
ด้านการแสดงนั้น ดูเหมือนพระเอกของเรา Iko Uwais จะได้แสดงฝีมือมากขึ้นในด้านการแสดง มีฉากที่ต้องแสดงอารมณ์หลากหลาย แต่ก็ทำได้ดี รวมทั้งนักแสดงนำอีกหลายๆ คนในเรื่องนี้ ก็แสดงความสามารถทั้งด้านการแสดงอารมณ์ และการต่อสู้ทำได้เป็นอย่างดีทุกคน งานกำกับของหนังเรื่องนี้ ขึ้นชั้นไปเทียบกับหนังฮอลลีวูดได้ในแทบจะทุกมิติ
ข้อดี ที่โดดเด่นที่สุดคือบท ซึ่งหนัง Action น้อยเรื่องนักที่จะทำตรงนี้ได้ดี ผมอยากให้หนัง Action ของไทยมีการพัฒนาบทให้ดีแบบนี้บ้าง จริงอยู่ที่หนัง Action ไม่ได้เน้นบท แต่ถ้าเน้นด้วยมันจะยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นมากๆ
ข้อเสีย การที่หนังใช้ภาษาอินโดนีเซียเป็นหลัก ทำให้หนังที่เข้าฉายในประเทศไทย มีแค่หนังพากย์ไทยเพียงแบบเดียว พากย์โดยเจ้าเก่า พันธมิตร เช่นเคย ซึ่งผมว่ามีหลายครั้งที่พากย์ให้ตลกโดยที่ตัวหนังมันเครียด ทำให้อารมณ์ของคนดูไม่กดดันเข้มข้นอย่างที่ควรจะเป็น
สรุป หนังเรื่องนี้ เป็นหนัง Action ที่ผมให้คะแนนเต็มในสาย Action เลยครับ ภาคแรกว่าเจ๋ง ภาคนี้เหนือกว่าแบบทิ้งห่าง ความประทับใจแบบนี้ เคยเกิดขึ้นสมัยได้ดู “องค์บาก” ครั้งแรกนั่นแหล่ะครับ คอหนัง Action ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ถือเป็นหนัง Action หนึ่งเรื่องที่ต้องดูให้ได้ก่อนตายครับ ฮ่าๆๆๆๆ
ความคาดหวังก่อน / หลังชม - คาดหวังสูง / ดีกว่าที่คาดไว้มากๆ
เกรดหนัง ห้ามพลาดเด็ดขาด
คะแนน 10/10
ฝากบทความก่อนๆด้วยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้