ความคิดเห็นของคอหนังชาวไทย กับ พัฒนาการหนัง Action บ้านเรา ?

กระทู้คำถาม
ก่อนอื่นต้องเรียนก่อนนะครับว่า จขกท. ไม่ได้จงใจใช้พื้นที่ของพันทิปเพื่อโจมตีภาพลักษณ์วงการภาพยนตร์ไทย หรือเปรียบเทียบคุณภาพของวงการบันเทิงบ้านเรากับต่างแดนใดๆ ทั้งสิ้น... กระทู้นี้อาจจะยาวหน่อย แต่ทั้งหมด คือผมอยากจะรู้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ทั้งชาวพันทิป และชาวโลมีเดียช่องทางอื่นๆ ครับว่า...

"ท่านมีความรู้สึกอย่างไรกับพัฒนาการหนัง Action บ้านเรา ?" หรือ... "มีความรู้สึกอย่างไรบ้างหลังจากเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์ ดูหนัง Action จาก Hollywood ที่มีฉากตะลุมบอนสวยๆ ฉากต่อสู้สมจริงๆ ฉากยิงกันมันส์ๆ ?" หรือ "ท่านอยากให้บ้านเรามี หนัง Action ระดับอินเตอร์อย่างนั้นบ้างหรือเปล่า ?"

หรือ ท่านมีความคิดเห็นที่ว่า...
"บ้านเราน่ะสร้างพวกหนังผี หนังสยองขวัญ หนังรักใสๆ ตลกๆ ไม่ก็หนังตลกเพียวๆ ทั้งเรื่องไปเลย นี่แหละจุดขายของเรา" หรือ...
"โอ๊ย... ไม่ต้องเสี่ยงทำหนังบู๊หรอก ทำแล้วไม่รอด... คนไม่ดู โดยเฉพาะยุคหลังๆ มานี่... เริ่มถอยหลังลงคลอง" หรือ...
"คนดูหนังบ้านเราส่วนใหญ่ ไม่สนใจเรื่องเทคนิคการถ่ายทำเท่าไหร่... เขาสนใจอะไรที่มัน โดน !! มากกว่าอะไรที่เป็นศิลปะ" ฯลฯ

ผมมีโอกาสได้ชมหนังจากประเทศร่วมประชาคมอาเซียนของเราเรื่องหนึ่งครับ เป็นหนังจากอินโดนีเซีย ซึ่งคิดว่า หลายๆ ท่านก็ได้ชมกันมาแล้ว กับผลงานหนัง Action สนั่นหวั่นไหว เรื่อง The Raid: Redemption ส่วนภาค 2 ก็๋โหดไม่แพ้กัน The Raid: Berandal และเหมือนกำลังจะคลอดภาคต่อไปออกมาให้ได้ชมกันอีกแล้ว (ข้อมูลผิดพลาดอย่างไรขอภัยนะครับ) และทางด้านฝั่งหนังที่ทำต่อกันมา 3 ภาคจากอินเดีย (อันนี้ออกจากอาเซียนเรามาหน่อย) อย่างเรื่อง DHOOM ครับ

ทั้งสองเรื่องที่กล่าวไปข้างต้นไม่ธรรมดาแน่นอน... ทั้งทีมสร้าง อย่าง Raid ที่ได้ Gareth Evans ผู้กำกับชาวเวลส์มาร่วมสร้าง (ที่บอกคือเขาไม่ใช่ชาวอินโดฯ แต่ก็อย่าไปใส่ใจจุดนี้เลยครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นกระทู้ชาตินิยมเสียเปล่า) ส่วน DHOOM ที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะภาคที่ 3 แม้จะมีหลายฉากที่ผมคุ้นตาเหมือนเคยเห็นจากฝั่ง Hollywood หลายเรื่องก็ตาม แต่โดยภาพรวมคือ สุดยอดครับ ! (บ้านเขาไปไกลแล้ว... นี่ขนาดยังไม่พูดถึงฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี เพื่อร่วมทวีปของเรานะครับเนี่ย...)

ย้ำอีกครั้งนะครับ... เจตนาโดยบริสุทธิ์ของผมนั้นไม่ได้ต้องการเปรียบเทียบอย่างที่อาจจะรู้สึกได้ในแวบแรกที่อ่านกระทู้นี้ เมื่อท่านเข้าใจตรงกันแล้ว ก็กลับมาทางฝั่งบ้านเราครับ... ผมขออนุญาตตั้งคำถาม (อีกแล้ว) ถึงทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะครับ

"หนัง Action ที่ใกล้เคียงความเป็นสากลมากที่สุดของบ้านเราคือเรื่องอะไร ?"

แน่นอน... ผมกำลังหมายถึงหนังที่มีฉากต่อสู้ด้วยอาวุธ และแผนการอันชาญฉลาดหรือทักษะส่วนตัวของตัวเอก (ที่ไม่ได้มีแค่หมัด ศอก เข่า อย่างที่เห็นบ่อยๆ) หนังที่มีภาพและบทสนทนาช่วยเดินเรื่อง (ไม่ใช่เอะอะเจอหน้ากันก็ฟาดอย่างเดียว) หนังที่มีการเน้นถึงปมและความสัมพันธ์ของตัวละครที่จะเป็นตัวช่วยให้บทมีน้ำหนัก (ไม่ใช่นึกจะจับตัวนั้นตัวนี้มายัดก็จับมา) นี่แหละครับ... ผมอยากเห็นสิ่งเหล่านี้ในวงการภาพยนตร์บ้านเรา !

คำถามต่อไป... "หนัง Action สัญชาตไทย เรื่องสุดท้ายที่ท่านดูแล้วรู้สึกตื่นตาตื่นใจคือเรื่องอะไร ?

ส่วนตัวขอยกที่โดนๆ มาหน่อย อย่างเรื่อง ซุ้มมือปืน, 102 ปิดกรุงเทพปล้น, เยาวราช ฯ ทั้งหมดนี้ พูดถึงเรื่องการถ่ายทำและบทหนัง ผมก็ยังมีที่สงสัยข้องใจอยู่เล็กๆ น้อยๆ (แต่จะไม่หยิบยกมาพูดถึง) ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ผมก็เกิดคำถามในใจว่า “ทำไมเราไม่เดินหน้าต่อ ?” ทั้งๆ ที่ทรัพยากรบุคคลของเรานั้นมีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หรือ... “ทำไมเราไม่สร้างหนังที่เราจะสามารถภาคภูมิใจ และอวดต่างชาติได้ว่า ไทยแลนด์ไม่ธรรมดานะ !” (อย่างที่องค์บากเคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้ว...)

ส่วนตัว... ผมไม่คิดว่า รสนิยมการดูหนังของบ้านเราเปลี่ยนไปจากเดิมมากสักเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะอะไร ? หรือทุกคนเชื่อมั่นว่า เมื่อซื้อตั๋วหนังรักโรแมนติกสักเรื่องของค่ายหนังไทย จะคุ้มพอๆ กับหนัง Action จาก Hollywood หรือเปล่า ? ก็ตั้งคำถามกับตัวเองกันไปนะครับ...

แต่อย่างว่าแหละครับ... ถึงจะพูดไปแล้วก็รู้สึกลำบากใจนิดหน่อยตรงที่ว่า ผมไม่ใช่คนทำหนัง ผมไม่รู้ถึงความเหน็ดเหนื่อย ยากลำบากของเขา ไม่รู้มุมมองในเชิงธุรกิจหรืออุตสาหกรรมภาพยนตร์ ผมไม่ได้เรียนจบด้านนี้หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง... เป็นแค่คนๆ หนึ่งที่ชอบรักการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ และที่สำคัญ...

ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากเห็นหนังไทยไปโด่งดังถึง Hollywood มากพอๆ กับที่อยากเห็นบอลไทยไปบอลโลกครับ

ผมไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะมีคนเห็นด้วย หรือเห็นต่างอย่างไรบ้าง แต่ก็ต้องขอบคุณที่สละเวลาอ่านจนจบครับ และหากใครจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็เชิญได้ตามที่สะดวกแก่ใจครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ...
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ตอบคำถามแรก:
- บ้านเราก็มี "องค์บาก" ก่อนการมาถึงของ The Raid นั่นแหละ ซึ่งของเค้าก็เหมือนต่อยอดจากหนังเราอีกที
แต่คราวนี้ของ The Raid ถ้าจำไม่ผิด ผู้กำกับเองเค้าต้องการหนังตัวนี้เหมือนใบเบิกทางอาชีพให้เขาด้วย
เขาจึงไปมีภาค 2 ในแบบทุนสร้างหนาขึ้น แต่เมื่อเทียบกันจริงๆ ต้มยำกุ้งหรือองค์บากภาคต่อมา เราก็ถือว่าต่อยอดได้
เพราะเทียบความสำเร็จของหนังทั้งสองเรื่อง และการต่อยอดแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาก็อยู่ในระดับเดียวกัน

ตอบคำถามที่สอง:
- เรื่องไหนคงไม่ตอบ แต่อยากให้รู้ว่า หนังแอ็คชั่นเป็นหนังที่ทำยากที่สุด และเป็นหนังแนวที่ลงทุนสูงมาก
ที่เราเห็นหนังบล็อกบัสเตอร์จากฮอลลีวู้ดลงทุนเป็นพันล้าน ก็นั่นแหละครับ คำตอบของมัน ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้
เพราะสิ่งที่เสียเวลาและเงินทองที่สุดคือ คิวนักแสดง การซ้อมคิวบู๊ และกล้องหลายตัวที่ต้องรับฉากแอ็คชั่น
พวกนี้เป็นส่วนที่เงินทองไหลออกไปเยอะมาก หนังแอ็คชั่นไม่สามารถถ่ายกล้องเดียวได้อยู่แล้วตื่นตา
ยิ่งเดี๋ยวนี้ต้องมีซีจีเสริมให้แปลกตาอีก หรือถ้าบู๊เพียวๆ ก็ต้องซ้อมคิวกันนานมากมาย เงินทองทั้งนั้นครับ

หนังฮ่องกงที่บูมอยู่สมัยก่อน ถ้าย้อนกลับไปดู สมัยนั้นเศรษฐกิจฮ่องกงก็เฟื่องฟูมาก ทำให้ลงทุนได้มาก
แต่เดี๋ยวนี้ก็อย่างที่เห็น กระทั่งหนังฮ่องกง หนังจีน ก็มาคล้ายแนวทางเราคือ ไปลงหนังรักกุ๊กกิ๊ก หนังลงทุนน้อย
มีพี่จีนที่ค่อยๆเริ่มลงทุนหนังฟอร์มโต แต่จะออกไปทางหนังเอพิค หรือไปร่วมทุนกับทางฮอลลีวู้ดโน่น


หนังแอ็คชั่นไม่ง่ายเลยครับ และไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ด้วย ฮอลลีวู้ดเองก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ทุกคนที่ทำได้
The Amazing Spiderman มาจากผู้กำกับหนังรักที่เก่งมาก พอมาทำหนังแอ็คชั่นฟอร์มโต กลับทำได้ไม่ดี
บางคนอาจจะเถียงว่าเพราะบท แต่ในบทที่อาจจะแย่พอกัน ผู้กำกับแบบ "ไมเคิล เบย์" กลับเอาอยู่ได้แทบทุกครั้ง
ก็เหมือนบ้านเรามี "อาหลอง" เพราะหนังแอ็คชั่นก็ต้องอาศัยมุมมองพิเศษเฉพาะตัวที่ผู้กำกับคนนั้นมี
ที่จะเข้าใจคนดูว่า เขาอยากดูแบบนี้ ถึงบทมันจะไม่เอาไหน แต่ทำให้คนดูไม่ลุกหนีได้เพราะมุมมองแอ็คชั่นของเขา
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ภาพยนตร์แอ็คชั่น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่