ใครเคยเจอเรื่องลี้ลับที่หาคำอธิบายไม่ได้บ้างมาเล่าสู่กันฟังนะคะ

วันนี้มีประสบการณ์ลี้ลับที่เจอกับตัวเองมาเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ บอกไว้ก่อนเลยว่าเราไม่ค่อยสนใจเรื่องผี/เรื่องลี้ลับเท่าไหร่ ประมาณว่าไม่อยากรู้ว่าผีมีจริงหรือเปล่า ไม่กลัวความมืด ความเชื่อโบราณห้ามอะไรก็ไม่ได้ใส่ใจค่ะ คิดว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับเราเป็นเรื่องไกลตัว แต่ตัวเองดันเจอเรื่องแปลกๆ
          
          เรื่องแรก: ห้าม!ขานรับ เสียงร้องเรียก (เป็นเรื่องที่เรากลัวที่สุด คิดแล้วขนลุกทุกที)
                       ตอนเรียนอยู่ป.6 บ้านเราอยู่ตรงข้ามกับบ้านเพื่อนสนิทเยื้องๆกันนิดหน่อย บ้านเราเป็นทาว์นเฮ้าต่อเติมที่จอดรถเป็นห้องทำงานก็เลยต้องจอดรถหน้าบ้าน แล้วหน้าบ้านก็มีต้นมะม่วงขนาดย่อมๆอยู่หนึ่งต้น เรากับเพื่อนสนิทจะเล่นกันทุกวันตอน 4-5 โมงเย็น แต่ว่าวันนั้นเราอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ออกไปเล่น พอตกเย็นเริ่มโพล้เพล้ประมาณ 6 โมงกว่าๆ เรากำลังนั่งหันหลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอีกคนอยู่ในบ้าน แล้วก็ได้ยินเสียงเพื่อนสนิทเรียกชื่อเราแบบชัดมากๆ เรียกอยู่ 2-3 ทีติดๆกันเลย เราก็เลยตะโกนตอบไปว่า "เดี๋ยวๆรอแป๊ป" โดยที่ไม่ได้หันหลังไปมองเลย พอคุยเสร็จก็รีบเดินจะไปเปิดประตูให้มัน ทันเห็นเงาตะคุ่มๆเลยคิดว่ามันมาเรียกแล้วก็แกล้งวิ่งหนีไป เราเลยวิ่งตามออกไปกะเล่นด้วยเต็มที่ ประตูบ้านก็ไม่ได้ปิดเปิดคาไว้
                       ตอนนั้นมีรถจอดอยู่หน้าบ้านหลังข้างๆ แล้วเราก็เห็นเงาวิ่งไปทางนั้นด้วย เลยคิดในใจว่ามันต้องไปแอบหลังรถแน่ๆมั่นใจมากกกกกกกก็เลยค่อยๆย่องออกไป พอใกล้จะถึงท้ายรถ เราก็พุ่งตัวออกไปพร้อมส่งเสียงว่า "แบร่" ปรากฏว่า....ไม่มีใครเลย แต่เราก็ยังคิดว่ามันแอบอยู่นะแบบเดินไปแอบข้างรถแทน เราก็เลยเดินหาพร้อมส่งเสียง "แบร่" ไปรอบรถเลย สุดท้ายก็ไม่เจอ เลยตะโกนออกไปว่า "ขี้เกียจหาแล้วนะ" ประมาณว่าถ้าไม่เลิกซ่อน เราก็จะเข้าบ้านละ มันก็เงียบอีก บอกตรงๆตอนนั้นเริ่มรู้สึกรำคาญนิดๆคิดว่ามันซ่อนไม่เลิก เราเลยตัดสินใจก้มลงมองใต้ท้องรถให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลยเพราะต้องเห็นขามันแน่ๆ ว่าแล้วเราก็ก้มลงไปมอง ในใจคิดตลอดว่าต้องหาให้เจอ
                        เราไม่เห็นขาใครเลย..... ไม่มีขาใครอยู่ใต้ท้องรถเลย พอเงยหน้าขึ้นมาก็ยังงงๆเพราะเราเข้าใจมาตลอดว่าเล่นอยู่กับเพื่อน แล้วถ้าไม่มีเพื่อนงั้นเราเล่นกับใครล่ะ ตอนนั้นหยุดหาเลยแล้วมองไปรอบๆ คือมืดแล้วน่าจะทุ่มหน่อยๆ วันนั้นไม่มีใครออกมานั่งเล่นหน้าบ้านเลยคือทุกคนเปิดไฟอยู่ในบ้านตัวเองหมด  ในซอยเงียบมากปกติจะมีรถขับผ่านไปมาเพราะซอยบ้านเรามันทะลุถึงซอยข้างๆได้ แต่วันนั้นเงียบจริงๆมีแต่เสียงใบต้นมะม่วงหน้าบ้านสีกัด แล้วก็เป็นเงาส่ายไปมาเหมือนเงาคน เราเลยได้สติรีบเดินเข้าบ้าน แล้วก็จำได้ว่าเปิดประตูค้างไว้เพราะตอนที่เดินออกไปคิดว่าไปแป๊ปเดียว ก็ยังไม่คิดอะไรนะ กลัวอย่างเดียวว่ายุงจะเข้าบ้าน ตอนเช้าพอไปโรงเรียนก็เลยถามเพื่อนว่าเมื่อวานไปเรียกหรือเปล่า มันบอกว่าเปล่า เราก็โอเคนะคือสรุปว่าเราคิดไปเอง ไม่ได้ติดใจอะไร
                         แล้วเราก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย ไม่ได้เล่าให้ใครฟังด้วย มีอยู่คืนหนึ่งนอนหลับแล้วฝันว่า ครอบครัวของเรามี 4 คน ยืนเรียงแถวหน้ากระดานหันไปทางหน้าบ้านอยู่ในห้องทำงาน เราไม่ได้ฝันแบบยืนมองตัวเองนะแต่เราคือคนในฝันเลย ในฝันทุกคนยืนนิ่งหมด มีเราคนเดียวที่ดูปกติ แล้วเราก็มองผ่านหน้าต่างเห็นผู้หญิงคนหนึ่งผอมมากเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ผมยาว ใส่ชุดยาวสีเทาๆดำๆ หน้าตาหม่นหมองเหมือนศพซีดๆ ยืนอยู่หน้าบ้าน คืออยู่ระหว่างประตูรั่วกับประตูเข้าบ้าน นั้นหมายความว่าเขาเข้ามาในรั่วบ้านแล้วแต่ยังไม่ได้เข้ามาในตัวบ้าน เราเริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วตอนนั้น เรากับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้พูดอะไรกันเลย แต่เรารู้สึกได้ว่าเขาต้องการเข้ามาในบ้าน แล้วเราก็เหลือบไปมองขาของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นไม่มีขา...เขาลอยอยู่ เราเลยมั่นใจเต็มที่ว่าเขาไม่ใช่คนแน่ๆ เรากับผู้หญิงคนนั้นเหมือนใช้จิตพูดกันเพราะในความฝันไม่มีใครขยับปากเลย เราพูดแบบดุๆไปว่า"เข้ามาในบ้านไม่ได้นะ ยังไงก็เข้ามาไม่ได้" อยู่ๆประตูบ้านก็เปิดออก แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ลอยเข้ามา เราตกใจมากกลัวด้วย ถามผู้หญิงคนนั้นว่า "เข้ามาได้ยังไง บอกแล้วว่าเข้ามาไม่ได้ ไม่ให้เข้า" แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ตอบว่า "ก็เราเปิดประตูให้เขาเข้ามาเอง"
                          เท่านั้นแหละสะดุ้งตื่นเลย แล้วก็เลยนึกถึงเรื่องวันที่เราได้ยินเสียงเรียกแล้วเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ นับแล้ว 3 วันจากที่เกิดเรื่องนั้นซึ่งเราไม่ได้มีเรื่องนั้นอยู่ในสมองเลย แต่ทำไมเราฝันแบบนั้นก็ไม่รู้ ตอนนั้นนอนไม่หลับแล้ว ลุกขึ้นมาสวดมนตร์ กลัวว่าจะมีใครที่เรามองไม่เห็นเข้ามาอยู่ในบ้าน เป็นห่วงคนในบ้าน เลยขอพรพระให้คุ้มครองคนในบ้านและถ้าหากมีใครอื่นอยู่ในบ้านในตอนนั้นที่ไม่ใช่พ่อ แม่ เรา และน้อง ขอให้พระกับเจ้าที่ไล่ออกไปจากบ้าน และเราไม่เคยอนุญาตให้ใครเข้ามาทั้งสิ้น หลังจากนั้นก็พยายามหลับต่อ แล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ วันรุ่งขึ้นเราเลยให้แม่ซื้อดอกไม้มาไหว้พระ แล้วก็จุดธูปบอกเจ้าที่อีกรอบหนึ่ง บอกแม่ไปว่าแค่อยากไหว้พระกับเจ้าที่เฉยๆ แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เราจำได้ว่าหลังจากที่เราบอกพระกับเจ้าที่ไปแล้ว เรายังหูแว่วอีก 2-3 ครั้งนะ แต่ไม่ใช่เสียงเพื่อนเป็นเสียงผู้หญิงเรียกแทน ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงคนนั้นรึเปล่าเพราะเราจำเสียงเขาในฝันไม่ได้ หรือเราอาจจะหลอนไปเองก็ได้ แต่เราก็ไม่ได้ขานตอบนะจะนิ่งๆไป คิดว่าถ้าเป็นคนในบ้านเรียกแล้วเราไม่ตอบ เดี๋ยวเขาก็เรียกใหม่หรือไม่คนเรียกก็เดินมาหาเองแหละ จากวันนั้นเราก็ไม่เคยฝันถึงผู้หญิงคนนั้นอีกเลย แล้วก็ไม่เคยเล่าให้ผู้ใหญ่ฟังด้วย เพราะกลัวว่าเขาจะหาว่าเพ้อเจ้อ มีแค่ลูกพี่ลูกน้องบางคนที่เล่าให้ฟัง  แล้วเราก็ได้บทเรียนครั้งใหญ่ว่า "ถ้าได้ยินเสียงเรียก อย่ารีบขานรับ จนกว่าจะเห็นว่าใครเป็นคนเรียก"

ป.ล. นี่เรื่องแรกค่ะ เรามีอีก 2 เรื่อง ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังใหม่^^  
***ขอรับรองว่าเรื่องที่เล่าเป็นความจริงทั้งหมดค่ะ***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่