ลุงกำนันบอกว่า 400 ล้าน เป็นเงินตัวเอง-ครอบครัวและพวก ๆ เพื่อน ๆ
ส่วน 1,000 ล้าน เป็นเงินบริจาค
ลุงกำนันแกมีหนี้สามร้อยกว่าล้านนะครับ ขนาดนี้ ยังควักเงินตัวเองและครอบครับเป็นร้อยล้าน
ไม่ซาบซึ้งจนน้ำตาซึมได้ยังไง
ปี 55 หลังพ้นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีครบ 1 ปี ลุงกำนันได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินแก่ ป.ป.ช. ไว้ดังนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.dailynews.co.th/Content/politics/52130/%E0%B8%9B.%E0%B8%9B.%E0%B8%8A.+%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E2%80%9C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84%E2%80%9D+%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%87+1+%E0%B8%9B%E0%B8%B5
มีหนี้ตั้งสามร้อยกว่าล้าน โห จนผุด ๆ
ตะ ตะ แต่... แต่ปลายปี 56 ลุงกำนันลาออกจากพรรค ปชป. หนี้สินสามร้อยกว่าล้านก็หายไปดื้อ ๆ
http://www.thairath.co.th/content/401712
อ้าวววววววววววว... หนี้หายไปไหน ????
ที่ตลกกว่านั้น
คือ นายสุเทพลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
นายสุเทพเป็นกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์
ตามกฎหมาย นายสุเทพต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. หลังลาออกจากสมาชิกพรรคภายใน 30 วัน
นายสเทพก็ยื่น แต่ในรายการบัญชีทรัพย์สิน ไม่มีหนี้สามร้อยกว่าล้าน
ป.ป.ช. เงียบ เฉย ไม่ตีงคีงสักแอะ
แต่พอนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ป.ป.ช. ออกแอคชั่นทันทีว่า ตามหนังสือของพรรคเพื่อไทยนั้น
นายจารุพงศ์ ลงวันที่ลาออก 22 พ.ค. 57 ครบ 30 วันแล้ว แต่ยังไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน
ป.ป.ช. จะประชุมหารือกันในเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้
หึหึ
เรื่องของฝ่ายหนึ่งตึงตังดังเป็นหนังกลางแปลง
แต่ถ้าเรื่องอีกฝ่าย มิดอิ่มสิ่มปานเป่าดากคก
เมื่อย เอือม แหนงหน่าย
จบ
แก้ไขข้อความครั้งที่สอง (ครั้งแรกแก้ไขเมื่อเวลา 03.15 น.)
..................................................................................................................................................................
ยกเลิกการขออภัยนายสุเทพ และ ป.ป.ช.
แต่ขออภัยในความผิดพลาดเรื่องข้อมูลในกระทู้ที่ว่า
1. นายสุเทพเป็นกรรมการบริหารพรรค
2. หนี้สินสามร้อยกว่าล้านของนายสุเทพหายไป
ความจริงคือ หนี้สินไม่ได้หายไป แต่มีความผิดปกติในการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน
หนี้สินที่เกิดขึ้น ไม่สัมพันธ์กับทรัพย์สิน เหมือนอยู่ดี ๆ ก็มีหนี้สินเกิดขึ้น โดยไม่มีเหตุผลว่าหนี้สินนั้นมีขึ้นเพื่ออะไร
และมีความผิดปกติของจำนวนหนี้สินเพิ่มขึ้นบางส่วนที่ไม่มีที่มาที่ไป
เรื่องนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้ทำการร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ตั้งแต่กลางปี 2555
ป.ป.ช. มีการขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากนายเรืองไกร นายเรืองไกรก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
แต่จนบัดนี้ ผ่านมาเกือบสองปี เรื่องนี้ก็ยังเงียบกริบ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรเลย
ดังรายละเอียดหนังสือร้องเรียนอีกครั้งของนายเรืองไกรเมื่อต้นปี 2557
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=217737&catid=176&Itemid=524#.U6kJnUBPDEQ
*หมายเหตุ ข้อ 3.3 ป.ป.ช.ชี้มูลนายสุเทพเรื่องแทรกแซงข้าราชการประจำ
จึงยกเลิกการขออภัยนายสุเทพในเรื่องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และยกเลิกขออภัย ป.ป.ช. ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ลงชื่อ "ตระกองขวัญ"
เห็นข่าว 1,400 ล้านของลุงกำนันแล้ว ผมน้ำตาซึมเลยครับ ลุงกำนันรักชาติจริง ๆ
ส่วน 1,000 ล้าน เป็นเงินบริจาค
ลุงกำนันแกมีหนี้สามร้อยกว่าล้านนะครับ ขนาดนี้ ยังควักเงินตัวเองและครอบครับเป็นร้อยล้าน
ไม่ซาบซึ้งจนน้ำตาซึมได้ยังไง
ปี 55 หลังพ้นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีครบ 1 ปี ลุงกำนันได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินแก่ ป.ป.ช. ไว้ดังนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีหนี้ตั้งสามร้อยกว่าล้าน โห จนผุด ๆ
ตะ ตะ แต่... แต่ปลายปี 56 ลุงกำนันลาออกจากพรรค ปชป. หนี้สินสามร้อยกว่าล้านก็หายไปดื้อ ๆ
http://www.thairath.co.th/content/401712
อ้าวววววววววววว... หนี้หายไปไหน ????
ที่ตลกกว่านั้น
คือ นายสุเทพลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
นายสุเทพเป็นกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์
ตามกฎหมาย นายสุเทพต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. หลังลาออกจากสมาชิกพรรคภายใน 30 วัน
นายสเทพก็ยื่น แต่ในรายการบัญชีทรัพย์สิน ไม่มีหนี้สามร้อยกว่าล้าน
ป.ป.ช. เงียบ เฉย ไม่ตีงคีงสักแอะ
แต่พอนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ป.ป.ช. ออกแอคชั่นทันทีว่า ตามหนังสือของพรรคเพื่อไทยนั้น
นายจารุพงศ์ ลงวันที่ลาออก 22 พ.ค. 57 ครบ 30 วันแล้ว แต่ยังไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน
ป.ป.ช. จะประชุมหารือกันในเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้
หึหึ
เรื่องของฝ่ายหนึ่งตึงตังดังเป็นหนังกลางแปลง
แต่ถ้าเรื่องอีกฝ่าย มิดอิ่มสิ่มปานเป่าดากคก
เมื่อย เอือม แหนงหน่าย
จบ
แก้ไขข้อความครั้งที่สอง (ครั้งแรกแก้ไขเมื่อเวลา 03.15 น.)
..................................................................................................................................................................
ยกเลิกการขออภัยนายสุเทพ และ ป.ป.ช.
แต่ขออภัยในความผิดพลาดเรื่องข้อมูลในกระทู้ที่ว่า
1. นายสุเทพเป็นกรรมการบริหารพรรค
2. หนี้สินสามร้อยกว่าล้านของนายสุเทพหายไป
ความจริงคือ หนี้สินไม่ได้หายไป แต่มีความผิดปกติในการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน
หนี้สินที่เกิดขึ้น ไม่สัมพันธ์กับทรัพย์สิน เหมือนอยู่ดี ๆ ก็มีหนี้สินเกิดขึ้น โดยไม่มีเหตุผลว่าหนี้สินนั้นมีขึ้นเพื่ออะไร
และมีความผิดปกติของจำนวนหนี้สินเพิ่มขึ้นบางส่วนที่ไม่มีที่มาที่ไป
เรื่องนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้ทำการร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ตั้งแต่กลางปี 2555
ป.ป.ช. มีการขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากนายเรืองไกร นายเรืองไกรก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
แต่จนบัดนี้ ผ่านมาเกือบสองปี เรื่องนี้ก็ยังเงียบกริบ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรเลย
ดังรายละเอียดหนังสือร้องเรียนอีกครั้งของนายเรืองไกรเมื่อต้นปี 2557
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=217737&catid=176&Itemid=524#.U6kJnUBPDEQ
*หมายเหตุ ข้อ 3.3 ป.ป.ช.ชี้มูลนายสุเทพเรื่องแทรกแซงข้าราชการประจำ
จึงยกเลิกการขออภัยนายสุเทพในเรื่องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และยกเลิกขออภัย ป.ป.ช. ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ลงชื่อ "ตระกองขวัญ"