ความเศร้าหมองแห่งจิตก็ดี
ความฉลาดแห่งจิต ก็ดี
ความสงบก็ดี
ความฟุ้งซ่านก็ดี
อาการต่างๆของจิตที่แสดง จนถึงส่งผล ให้เกิดการกระทำต่างๆขึ้นมา
ล้วนเกิดจากเหตุ
แบบนี้ถุกต้องหรือไม่ครับ ??
ว่าทุกสิ่งล้วนเกิดจากเหตุรวมถึงอาการของจิตด้วย
เมื่อมีเหตุให้ จิตฉลาดมันก็จะฉลาด
เมื่อมีเหตุให้จิตเศร้าหมองมันก็เศร้าหมอง
เมื่อมีเหตุให้ฟุ้งซ่าน มันก็ฟุ้งซ่าน
เราไปบังคับบัญชามันไม่ได้
เมื่อปัจจัยพร้อม มันก็จะเกิดขึ้นมา
แต่อาจจะละเหตุให้เกิดอารมณ์ทางจิตนั้นๆได้ เช่น อกุศลอารมณ์
ไม่ว่าโดยการฝึกจิต หรือ ปัญญา
และเมื่อตัดเหตุ ที่ให้จิตเป็นไปในทางไม่ดีได้
และสร้างเหตุ ให้จิตไปในทางดี ก็จะไม่ไปในทางไม่ดีเอง
ตามข้างบน แบบนี้ถือว่า ถูกต้องไหมครับ ??
-----------------------------------------------------------
ต้องขอบอกว่า ไม่มีเจตนาจะโอ้อวดเกี่ยวหรือจะยึดถือหลักการหรืออะไรใดๆทั้งสิ้นนะครับ
แค่อยากเช็คว่าที่ผมเข้าใจมันถูกทางไหม และที่ผมทำได้คือ มาให้พี่ๆในห้องศาสนาชี้แนะครับ
รวมถึงอยากเห็นความเห็นของหลายๆ ฝ่ายด้วย
ใครแนะนำ หรือ มีข้อมูลที่สัมพันธ์ กับที่ผมว่ามาหรือเข้าใจก็เอามาช่วยแปะไว้ได้เลยนะครับ
เผื่อเป็นแนวทางให้ท่านอื่นๆ ที่มีความคิดคล้ายๆผมจะได้เข้าใจกระจ่างด้วยครับ
คราวนี้ขอธิบายเพิ่มเติม ตามที่ผมเข้าใจนะครับ ( ถ้าผิดพลาดก็ช่วยแนะนำแก้ไข้ด้วยนะครับ )
ตัวอย่างเช่น จิตฝึกจิตในความเข้าใจของผมก็ต้องทำเหตุเช่นกัน เหตุในที่นี้คือ เหตุจากภายใน
คือตัวเรา+ใจเรา เช่น ฝึกจิตโดยการทำสมาธิ (เหตุในระดับการสร้างสมาธิให้เกิด)
แรกเริ่มเลยก็ต้อง ตั้งเจตนาไว้ก่อน แล้วก็สำรวมหรือปิดทวารทั้งห้า ตัดเหตุที่ทำให้จิตไม่สงบไป
และสร้างจุดรวมจิตที่อาจมาจากคำภาวนา หรือ กำหนดให้จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ผมถือว่ามันเป็นเหตุให้จิตสงบเราทำได้
ส่วนผลของจิต(ที่ด้านบนที่ผมว่าคือ ก็อาการของจิต)ที่สงบนั้น เราบังคับบัญชาไม่ได้ คือถ้าเรา
เหตุทำดีแล้ว มันจะสงบเอง
กลับกัน ถ้าเราอยากให้จิตสงบแต่ไม่ทำเหตุให้จิตสงบ เช่น ยังไม่สำรวมทวารทั้งห้า หรือ ทั้งหก
ไม่นำมาจดจ่อกับสิ่งใด มันก็อาจไม่เกิดความสงบ หรือไม่อาจเกิดความสงบได้เลย เป็นต้น
อะไรประมาณนี้ครับ
ทุกสิ่งล้วนเกิดจากเหตุ...รวมถึงอาการของจิตด้วยหรือไม่ ??
ความฉลาดแห่งจิต ก็ดี
ความสงบก็ดี
ความฟุ้งซ่านก็ดี
อาการต่างๆของจิตที่แสดง จนถึงส่งผล ให้เกิดการกระทำต่างๆขึ้นมา
ล้วนเกิดจากเหตุ
แบบนี้ถุกต้องหรือไม่ครับ ??
ว่าทุกสิ่งล้วนเกิดจากเหตุรวมถึงอาการของจิตด้วย
เมื่อมีเหตุให้ จิตฉลาดมันก็จะฉลาด
เมื่อมีเหตุให้จิตเศร้าหมองมันก็เศร้าหมอง
เมื่อมีเหตุให้ฟุ้งซ่าน มันก็ฟุ้งซ่าน
เราไปบังคับบัญชามันไม่ได้
เมื่อปัจจัยพร้อม มันก็จะเกิดขึ้นมา
แต่อาจจะละเหตุให้เกิดอารมณ์ทางจิตนั้นๆได้ เช่น อกุศลอารมณ์
ไม่ว่าโดยการฝึกจิต หรือ ปัญญา
และเมื่อตัดเหตุ ที่ให้จิตเป็นไปในทางไม่ดีได้
และสร้างเหตุ ให้จิตไปในทางดี ก็จะไม่ไปในทางไม่ดีเอง
ตามข้างบน แบบนี้ถือว่า ถูกต้องไหมครับ ??
-----------------------------------------------------------
ต้องขอบอกว่า ไม่มีเจตนาจะโอ้อวดเกี่ยวหรือจะยึดถือหลักการหรืออะไรใดๆทั้งสิ้นนะครับ
แค่อยากเช็คว่าที่ผมเข้าใจมันถูกทางไหม และที่ผมทำได้คือ มาให้พี่ๆในห้องศาสนาชี้แนะครับ
รวมถึงอยากเห็นความเห็นของหลายๆ ฝ่ายด้วย
ใครแนะนำ หรือ มีข้อมูลที่สัมพันธ์ กับที่ผมว่ามาหรือเข้าใจก็เอามาช่วยแปะไว้ได้เลยนะครับ
เผื่อเป็นแนวทางให้ท่านอื่นๆ ที่มีความคิดคล้ายๆผมจะได้เข้าใจกระจ่างด้วยครับ
คราวนี้ขอธิบายเพิ่มเติม ตามที่ผมเข้าใจนะครับ ( ถ้าผิดพลาดก็ช่วยแนะนำแก้ไข้ด้วยนะครับ )
ตัวอย่างเช่น จิตฝึกจิตในความเข้าใจของผมก็ต้องทำเหตุเช่นกัน เหตุในที่นี้คือ เหตุจากภายใน
คือตัวเรา+ใจเรา เช่น ฝึกจิตโดยการทำสมาธิ (เหตุในระดับการสร้างสมาธิให้เกิด)
แรกเริ่มเลยก็ต้อง ตั้งเจตนาไว้ก่อน แล้วก็สำรวมหรือปิดทวารทั้งห้า ตัดเหตุที่ทำให้จิตไม่สงบไป
และสร้างจุดรวมจิตที่อาจมาจากคำภาวนา หรือ กำหนดให้จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ผมถือว่ามันเป็นเหตุให้จิตสงบเราทำได้
ส่วนผลของจิต(ที่ด้านบนที่ผมว่าคือ ก็อาการของจิต)ที่สงบนั้น เราบังคับบัญชาไม่ได้ คือถ้าเรา
เหตุทำดีแล้ว มันจะสงบเอง
กลับกัน ถ้าเราอยากให้จิตสงบแต่ไม่ทำเหตุให้จิตสงบ เช่น ยังไม่สำรวมทวารทั้งห้า หรือ ทั้งหก
ไม่นำมาจดจ่อกับสิ่งใด มันก็อาจไม่เกิดความสงบ หรือไม่อาจเกิดความสงบได้เลย เป็นต้น
อะไรประมาณนี้ครับ