แจ้งให้ทราบก่อนว่ากระทูนี้เป็นการรีวิวแบบแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง บูดาเปสต์ (Budapest) พร้อมภาพถ่ายที่ผสมผสานกัน 3 ฤดู ( ฤดูร้อน, ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ) เนื่องจากว่าดิฉันมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองนี้ 3-4 ครั้งแล้วและมาสังเกตุได้ว่าทุกครั้งที่ไปก็เป็นช่วงเวลาที่ไม่ซ้ำกัน เลยอยากนำภาพถ่ายหลายๆบรรยากาศมาให้ทุกคนได้ชมหรือเก็บเป็นข้อมูลสำหรับคนที่อยากจะมาเที่ยวค่ะ
หากพูดถึงยุโรปตะวันออก หลายๆคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามีประเทศไหนน่าไปเที่ยวบ้าง มาแล้วจะคุ้มค่าตั๋วรึเปล่า? หรือมาแล้วจะได้เห็นอะไรที่ประทับใจกลับไป? วันนี้จะมานำเสนอประเทศฮังการี (Hungary)กับเมืองหลวงที่เป็นเมืองเก่าสุดเก๋ บูดาเปสต์ (Budapest)ค่ะ
เกริ่นเล็กๆก่อน เมืองบูดาเปสต์เป็นเมืองที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยมีแม่น้ำดานูป (Danube) หรือที่ชาวฮังกาเรี่ยนเรียกว่า ดูน่า (Duna) ไหลผ่านและกั้นระหว่างเมืองนี้ ดังนั้นตัวเมืองหลวงเองจึงแบ่งออกเป็นฝั่งเมืองเก่า " Buda " และฝั่งเมืองใหม่ " Pest " ค่ะ สังเกตุง่ายๆว่าฝั่งไหนเป็นฝั่งไหน นั่นก็คือโซนที่มีพวกตึก อาคารใหม่ๆก็จะเป็นส่วนของเมืองใหม่ ส่วนเมืองเก่าก็จะเป็นอีกฝั่งที่มีเนินเขาและที่ตั้งของปราสาทต่างๆค่ะ
ปล. ภาพถ่ายที่ไม่ได้ระบุช่วงเวลา คือภาพถ่ายล่าสุดของเดือนพฤษภาคม 2014 ต้องขออภัยรูปเยอะมากใส่รายละเอียดไม่ไหว เอ้า...ตัวอย่างเช่นภาพนี้
เรามาเริ่มรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวจากฝั่ง Pest กันก่อนดีกว่าค่ะ
1. St. Stephen's Basilica (Szent Istvan Bazilika) - มหาวิหาร เซนต์สตีเฟ่น
ใครจะเดินทางด้วย metro ใช้ M1:สถานี (Bajcsy-Zsilinszky út) ขึ้นมาข้ามถนนก็ถึงแล้วค่ะ แต่ใครจับถนนเส้นหลักได้ (Andrassy út) เดินตรงมาเรื่อยๆเลยค่ะ (เดินทิศทางตรงกันข้ามกับ Heroes' Square นะคะ)ถนนเส้นนี้ได้รับการขนานนามว่า เป็นถนนสายหลักในเมืองที่สวยและร่มรื่นมากค่ะมีต้นไม้ใหญ่ตลอดสองข้างทาง
2. Hungarian State Opera House - โรงละครโอเปร่า (อันนี้ไม่ได้เข้าไปดูข้างในนะ เดินฝ่านแวะถ่ายรูปเฉยๆ)
จากถนน Andrassy ถ้าเดินมาให้มุ่งหน้าไปทิศทาง Heroes' Square ส่วน Metro ใช้ M1:สถานี Opera
3. Heroes' Square (Hősök tere) - จัตุรัสวีรชน (คล้ายๆอนุเสาวรีชัยฯ บ้านเรา...อิอิ) รูปนี้ฮาไปนิด ไม่เข้าใจจะหัวเราะอะไรกัน
เดินเท้าจาก ภาพที่ 1 และ 2 ที่นี่คือปลายทางของถนน Andrassy ค่ะ ส่วน Metro ใช้ M1:สถานี Hősök tere
4. Hungarian Parliament Building - ตึกอาคารรัฐสภา (ที่เก่าแก่และสวยยยยยย...ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา)
ปล. ตึกนี้เข้าฉากในมิวสิกวีดิโอหลายเพลงแล้ว เห็นชัดๆคงจะเป็นเพลงของ Selena Gomez - Round & Round และ Katie Perry - Firework
เดินทางโดย Metro ใช้ M2:สถานี Kossuth Lajos tér
เกล็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ : คือโดยปกติประเทศในกลุ่มเชงเก้นมักจะใช้สกุลเงินยูโรกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ให้ระวังนิดนึงค่ะ ฮังการียังคงใช้เงินสกุลเก่าคือฟอรินท์(Forint) เมื่อเทียบค่าเงิน 6.5 - 7 ฟอรินท์ = 1 บาท (ปี 2014) ค่ะ หากจะแลกเงินสกุลนี้มาจากที่ไทยคงจะยาก ให้แลกเป็นยูโรมาก่อนแล้วค่อยมาหาที่แลกเงินในเมืองเอาหรือสำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้งแต่ไม่ได้แลกเงินมา แต่ไม่ต้องกลัวค่ะร้านค้าใหญ่ในเมืองหรือตามถนนนักช้อป (Vaci Street) เค้าก็รับยูโรค่ะแต่เงินทอนที่ได้จะเป็นเงินฟอรินท์นั่นเอง
5. Vaci Street (Vaci út) - ถนนนักช้อปและย่านโรงแรมไฮโซทั้งหลาย
แหล่งช้อปปิ้งหลักของนักท่องเที่ยวจะเป็นถนนเส้นนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ฝากถนน ประกอบไปด้วย ร้านค้าแบรนเนมทั้งหลาย, ร้านขายของที่ระลึก, คาเฟ่, บาร์ให้นั่งกินลมชมวิวและโรงแรมไฮโซห้าดาวหกดาว...จึงทำให้ย่านนี้สินค้าและบริการทั้งหลายราคาค่อนข้างสูง
เดินทางโดย Metro ใช้ M3: สถานี Ferenciek tere
6. Museum of Applied Arts - พิพิธภัณฑ์ศิลปะประยุกต์
ใจจริงที่นี่อยากจะเข้าไปชมข้างใน แต่เนื่องจากเวลาไม่พอเลยได้แต่ชะโงกๆดู เพราะถ้าไม่ซื้อตั๋วเค้าไม่ให้เข้าไป...แง่ๆๆๆ
เค้าบอกว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะประยุกต์ที่เก่าแก่เป็นอันดับ 3 ของโลก คือดูจากหลังคาตึกสวยงามมาก ปลื้ม...
เดินทางโดย Metro ใช้ M3: สถานี Corvin-negyed ขึ้นจากสถานีปุ๊กก็เจอเลยตึกหลังคาเขียวๆ
7. Central Market Hall (Nagy Vasarcsarnok)- ตลาดสดใหญ่ใจกลางเมือง
ที่นี่เป็นตลาดสดที่ตั้งอยู่ในตัวอาคารที่สวยงาม (indoor market) ถือว่าเป็นตลาดสดในอาคารที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในบูดาเปสต์ สะอาด เรียบร้อย น่าไปเดินตลาดมากค่ะ
เดินทางโดย Metro ใช้ M4: สถานี Fővám tér
ตอนนี้เราจะข้ามมารีวิวฝั่ง Buda กันค่ะ
8. The Széchenyi Chain Bridge (Széchenyi lánchíd) - สะพานเชน
สะพานแขวนแห่งนี้ เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวในนาม "Chain Bridge" เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1849 และเป็นสะพานแขวนถาวรที่ใช้ข้ามแม่น้ำดานูประหว่างฝั่ง Pest และ Buda เชื่อมต่อไปยังทางขึ้นเขา Buda นั่นเอง สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสะพานแห่งนี้คือเจ้ารูปปั้นสิงโตที่นอนเฝ้าปลายสะพานอยู่ทั้งสองข้าง แปลกตรงที่มันไม่มีลิ้นแห๊ะ...อิอิ
9. the Liberty Bridge (Szabadság híd) - สะพานลิเบอร์ตี้
นี่เป็นอีกหนึ่งสะพานที่ทอดตัวยาวข้ามแม่น้ำดานูป ตัวสะพานเมื่อข้ามไปยังฝั่ง Buda แล้วจะไปบรรจบกับตีนเขาแกลเลียท (Gellért Hill) และ Hotel Gellért ที่ขึ้นชื่อเรื่องสปาน้ำแร่จากเทือกเขาแกลเลียท ส่วนอีกฝั่ง (Pest) ตัวสะพานจะไปบรรจบกับทางเข้า Central Market Hall ค่ะ
10. Budapest Castle Hill Funicular - รถรางขึ้นชมปราสาทและวิวเมือง
เนื่องจากเมื่อข้ามมายังฝั่งบูดาแล้ว metro ก็จะไม่มีอีกต่อไป การเดินทางโดยรถสาธารณะในฝั่งเมืองเก่ามีเพียงแค่รถรางและรถบัสค่ะ หรือถ้ามีเวลาเดินข้ามสะพานมาเลยค่ะ ได้บรรยากาศสุดๆ(อันนี้แนะนำ)
และเมื่อท่านไม่อยากเดินขึ้นเขา นี่คือวิธีที่ดีที่สุด ขึ้นรถรางค่ะ ประหยัดเวลาและได้ชมวิวสวยๆแบบไม่เมื่อยขาด้วย
ข้างล่างคือราละเอียดและราคาตั๋วค่ะ
เวลาทำการ:
จ. - อา. =เปิด 7:30 น. - 22.00 น.
ราคาตั๋ว:
ผู้ใหญ่ : 1,000 ขาเดียว, 1,700 ไปกลับ (ฟอรินท์)
เด็ก: 600 ขาเดียว, 1,100 ไปกลับ (ฟอรินท์)
11. Buda Castle (Budavári Palota) - ปราสาทบูดา
มีทั้งส่วนที่เป็นปราสาทและราชวังอยู่รวมกัน ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของกษัตริฮังการีในสมัยก่อน มองข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่งจะเห็นวิวเมืองใหม่สวยงามมากค่ะ
บริเวรรอบๆปราสาทก็จะมีทหารคอยเฝ้ายามและผลัดเวรกันค่ะ ทหารที่นี่รูปร่างสูงใหญ่ ล่ำบึ้กมากๆ
12. Matthias Church (Mátyás-templom) - โบสถ์มัธธีอัส
เดินต่อมาจากปราสาทบูดาทางซ้ายมือ ตรงไปเรื่อยๆก็จะเห็นยอดโบสถ์และหลังคาสีส้มๆลายๆ มีคนบอกว่าข้างในโบสถ์สวยมาก แต่มากี่ครั้งก็ยังไม่มีโอกาสให้เข้าไปชมสักที
ไม่น่าเชื่อว่าโบสถ์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1015 และมีการซ่อมแซมอยู่เรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ส่วนชื่อโบสถ์ก็ตั้งขึ้นตามชื่อของกษัตย์ในสมัยนั้นค่ะ
13. The Fisherman's Bastion (Halászbásty) - ป้อมปราการชาวประมง
ฟังชื่อแล้วคงสงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับชาวประมง คือไปค้นๆมาเค้าบอกว่าตั้งชื่อไว้เป็นเกียรติแก่สมาคมชาวประมงที่ปกป้องแนวกำแพงเมืองนี้ในช่วงยุคกลาง (Middle Ages) รอบๆป้อมปราการนี้จะมีป้อมเล็กๆรูปร่างคล้ายๆโลโก้ของวอลดิสนีย์ ซึ่งจะอยู่ตรงส่วนที่เป็นชานระเบียงด้านบน สามารถขึ้นไปเดินดูรอบๆได้ค่ะ และหากใครต้องหาทำเลถ่ายภาพสวยๆ มุมกว้างๆ ต้องที่นี่เลยค่ะ คุณจะได้วิวทั้งหมดของฝั่ง Pest รวมถึงแม่น้ำดานูปที่เห็นสะพานทอดตัวข้ามแม่น้ำ ลากตั้งแต่ฝั่งซ้ายสุดที่ Gellért Hill ยาวไปจนขวาสุดจบที่ Margaret Island (หันหน้ามาทางเขา Buda)
14. Citadella (Citadel) - ป้อมปราการซิต้าเดล
ข้ามกลับมาที่เขา Gellért ข้างบนจะเป็นที่ตั้งของป้อมปราการเก่าสำหรับรับมือในการสู้รบสมัยก่อนซึ่งถือว่าเขาแกลเลียทนั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์การรบที่ดี สามารถมองเห็นเมืองทั้งสองฝั่งได้ชัดเจน ปัจจุบันก็ยังมีซากปืนใหญ่ให้เราได้ชม วางอยู่รอบๆกำแพงค่ะ เดินไปอีกหน่อยจะมีรูปปั้นของหญิงสาวที่ชูกิ่งมะกอกขึ้นเหนือศีรษะด้วยมือทั้งสอง แหงนหน้าขึ้นมองบนฟ้า แสดงถึงสันติภาพในมือของเธอ
วิวเมือง Buda และ Pest ถ่ายจาก Citadella
มองเห็น St. Stephen's Basilica ด้วยนะ
15. Margaret Island
อันนี้เพิ่มให้นะค่ะ เกาะมากาเร็ตนี่จริงๆแล้วเล็กมาก คือเป็นเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำดานูป จะออกแนวสวนสาธารณะมากกว่า ยามเย็นช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก เดินเล่นเลาะๆไปตามริมน้ำทางด้านซ้าย (หันหน้าเข้าหาฝั่ง Pest) ก็จะเจอสะพานข้ามที่เชื่อมไปยังเกาะมากาเร็ต ชาวเมืองส่วนใหญ่ก็จะมาวิ่ง เอาสุนัขมาเดิน มาออกกำลังกาย นั่งมองหนุ่มๆ สาวๆ กันตามประสา ชิลดีค่ะ ใครมีเวลาจะลองมาก็ได้นะคะไม่เสียหาย
วิวเมืองยามค่ำคืน
ก่อนจะจบกะทู้นี้ก็ยังมีของฝากค่ะ
คุณทราบหรือไม่ว่าฮังการีมีชื่อเสียงเรื่องสปา(Spa)และการแช่อ่างน้ำแร่(Thermal Bath)มากๆ อาจจะด้วยสาเหตุที่ว่าน้ำแร่ตามธรรมชาติของที่นี่มีอยู่เยอะและเป็นไปได้ว่าประเทศเค้าไม่ติดทะเล นี่จึงเป็นกิจกรรมหลักในการพักผ่อนหย่อนใจของชาวฮังกาเรี่ยน
อยากไปที่ไหนเชิญเลือกค่ะ
- Széchenyi fürdő
- Gellért Thermal Bath
- Aquaworld Budapest เป็นสวนน้ำด้วยค่ะ
ขอจบกะทู้เพียงเท่านี้ ขออภัยหากข้อมูลไม่สมบูรณ์ค่ะ
[CR] รีวิว Hungary ตอน: เที่ยว Budapest ชมเมืองเก่าสองริมฝั่งแม่น้ำดานูป (3 ฤดู)
หากพูดถึงยุโรปตะวันออก หลายๆคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามีประเทศไหนน่าไปเที่ยวบ้าง มาแล้วจะคุ้มค่าตั๋วรึเปล่า? หรือมาแล้วจะได้เห็นอะไรที่ประทับใจกลับไป? วันนี้จะมานำเสนอประเทศฮังการี (Hungary)กับเมืองหลวงที่เป็นเมืองเก่าสุดเก๋ บูดาเปสต์ (Budapest)ค่ะ
เกริ่นเล็กๆก่อน เมืองบูดาเปสต์เป็นเมืองที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยมีแม่น้ำดานูป (Danube) หรือที่ชาวฮังกาเรี่ยนเรียกว่า ดูน่า (Duna) ไหลผ่านและกั้นระหว่างเมืองนี้ ดังนั้นตัวเมืองหลวงเองจึงแบ่งออกเป็นฝั่งเมืองเก่า " Buda " และฝั่งเมืองใหม่ " Pest " ค่ะ สังเกตุง่ายๆว่าฝั่งไหนเป็นฝั่งไหน นั่นก็คือโซนที่มีพวกตึก อาคารใหม่ๆก็จะเป็นส่วนของเมืองใหม่ ส่วนเมืองเก่าก็จะเป็นอีกฝั่งที่มีเนินเขาและที่ตั้งของปราสาทต่างๆค่ะ
ปล. ภาพถ่ายที่ไม่ได้ระบุช่วงเวลา คือภาพถ่ายล่าสุดของเดือนพฤษภาคม 2014 ต้องขออภัยรูปเยอะมากใส่รายละเอียดไม่ไหว เอ้า...ตัวอย่างเช่นภาพนี้
เรามาเริ่มรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวจากฝั่ง Pest กันก่อนดีกว่าค่ะ
1. St. Stephen's Basilica (Szent Istvan Bazilika) - มหาวิหาร เซนต์สตีเฟ่น
ใครจะเดินทางด้วย metro ใช้ M1:สถานี (Bajcsy-Zsilinszky út) ขึ้นมาข้ามถนนก็ถึงแล้วค่ะ แต่ใครจับถนนเส้นหลักได้ (Andrassy út) เดินตรงมาเรื่อยๆเลยค่ะ (เดินทิศทางตรงกันข้ามกับ Heroes' Square นะคะ)ถนนเส้นนี้ได้รับการขนานนามว่า เป็นถนนสายหลักในเมืองที่สวยและร่มรื่นมากค่ะมีต้นไม้ใหญ่ตลอดสองข้างทาง
2. Hungarian State Opera House - โรงละครโอเปร่า (อันนี้ไม่ได้เข้าไปดูข้างในนะ เดินฝ่านแวะถ่ายรูปเฉยๆ)
จากถนน Andrassy ถ้าเดินมาให้มุ่งหน้าไปทิศทาง Heroes' Square ส่วน Metro ใช้ M1:สถานี Opera
3. Heroes' Square (Hősök tere) - จัตุรัสวีรชน (คล้ายๆอนุเสาวรีชัยฯ บ้านเรา...อิอิ) รูปนี้ฮาไปนิด ไม่เข้าใจจะหัวเราะอะไรกัน
เดินเท้าจาก ภาพที่ 1 และ 2 ที่นี่คือปลายทางของถนน Andrassy ค่ะ ส่วน Metro ใช้ M1:สถานี Hősök tere
4. Hungarian Parliament Building - ตึกอาคารรัฐสภา (ที่เก่าแก่และสวยยยยยย...ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา)
ปล. ตึกนี้เข้าฉากในมิวสิกวีดิโอหลายเพลงแล้ว เห็นชัดๆคงจะเป็นเพลงของ Selena Gomez - Round & Round และ Katie Perry - Firework
เดินทางโดย Metro ใช้ M2:สถานี Kossuth Lajos tér
เกล็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ : คือโดยปกติประเทศในกลุ่มเชงเก้นมักจะใช้สกุลเงินยูโรกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ให้ระวังนิดนึงค่ะ ฮังการียังคงใช้เงินสกุลเก่าคือฟอรินท์(Forint) เมื่อเทียบค่าเงิน 6.5 - 7 ฟอรินท์ = 1 บาท (ปี 2014) ค่ะ หากจะแลกเงินสกุลนี้มาจากที่ไทยคงจะยาก ให้แลกเป็นยูโรมาก่อนแล้วค่อยมาหาที่แลกเงินในเมืองเอาหรือสำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้งแต่ไม่ได้แลกเงินมา แต่ไม่ต้องกลัวค่ะร้านค้าใหญ่ในเมืองหรือตามถนนนักช้อป (Vaci Street) เค้าก็รับยูโรค่ะแต่เงินทอนที่ได้จะเป็นเงินฟอรินท์นั่นเอง
5. Vaci Street (Vaci út) - ถนนนักช้อปและย่านโรงแรมไฮโซทั้งหลาย
แหล่งช้อปปิ้งหลักของนักท่องเที่ยวจะเป็นถนนเส้นนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ฝากถนน ประกอบไปด้วย ร้านค้าแบรนเนมทั้งหลาย, ร้านขายของที่ระลึก, คาเฟ่, บาร์ให้นั่งกินลมชมวิวและโรงแรมไฮโซห้าดาวหกดาว...จึงทำให้ย่านนี้สินค้าและบริการทั้งหลายราคาค่อนข้างสูง
เดินทางโดย Metro ใช้ M3: สถานี Ferenciek tere
6. Museum of Applied Arts - พิพิธภัณฑ์ศิลปะประยุกต์
ใจจริงที่นี่อยากจะเข้าไปชมข้างใน แต่เนื่องจากเวลาไม่พอเลยได้แต่ชะโงกๆดู เพราะถ้าไม่ซื้อตั๋วเค้าไม่ให้เข้าไป...แง่ๆๆๆ
เค้าบอกว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะประยุกต์ที่เก่าแก่เป็นอันดับ 3 ของโลก คือดูจากหลังคาตึกสวยงามมาก ปลื้ม...
เดินทางโดย Metro ใช้ M3: สถานี Corvin-negyed ขึ้นจากสถานีปุ๊กก็เจอเลยตึกหลังคาเขียวๆ
7. Central Market Hall (Nagy Vasarcsarnok)- ตลาดสดใหญ่ใจกลางเมือง
ที่นี่เป็นตลาดสดที่ตั้งอยู่ในตัวอาคารที่สวยงาม (indoor market) ถือว่าเป็นตลาดสดในอาคารที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในบูดาเปสต์ สะอาด เรียบร้อย น่าไปเดินตลาดมากค่ะ
เดินทางโดย Metro ใช้ M4: สถานี Fővám tér
ตอนนี้เราจะข้ามมารีวิวฝั่ง Buda กันค่ะ
8. The Széchenyi Chain Bridge (Széchenyi lánchíd) - สะพานเชน
สะพานแขวนแห่งนี้ เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวในนาม "Chain Bridge" เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1849 และเป็นสะพานแขวนถาวรที่ใช้ข้ามแม่น้ำดานูประหว่างฝั่ง Pest และ Buda เชื่อมต่อไปยังทางขึ้นเขา Buda นั่นเอง สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสะพานแห่งนี้คือเจ้ารูปปั้นสิงโตที่นอนเฝ้าปลายสะพานอยู่ทั้งสองข้าง แปลกตรงที่มันไม่มีลิ้นแห๊ะ...อิอิ
9. the Liberty Bridge (Szabadság híd) - สะพานลิเบอร์ตี้
นี่เป็นอีกหนึ่งสะพานที่ทอดตัวยาวข้ามแม่น้ำดานูป ตัวสะพานเมื่อข้ามไปยังฝั่ง Buda แล้วจะไปบรรจบกับตีนเขาแกลเลียท (Gellért Hill) และ Hotel Gellért ที่ขึ้นชื่อเรื่องสปาน้ำแร่จากเทือกเขาแกลเลียท ส่วนอีกฝั่ง (Pest) ตัวสะพานจะไปบรรจบกับทางเข้า Central Market Hall ค่ะ
10. Budapest Castle Hill Funicular - รถรางขึ้นชมปราสาทและวิวเมือง
เนื่องจากเมื่อข้ามมายังฝั่งบูดาแล้ว metro ก็จะไม่มีอีกต่อไป การเดินทางโดยรถสาธารณะในฝั่งเมืองเก่ามีเพียงแค่รถรางและรถบัสค่ะ หรือถ้ามีเวลาเดินข้ามสะพานมาเลยค่ะ ได้บรรยากาศสุดๆ(อันนี้แนะนำ)
และเมื่อท่านไม่อยากเดินขึ้นเขา นี่คือวิธีที่ดีที่สุด ขึ้นรถรางค่ะ ประหยัดเวลาและได้ชมวิวสวยๆแบบไม่เมื่อยขาด้วย
ข้างล่างคือราละเอียดและราคาตั๋วค่ะ
เวลาทำการ:
จ. - อา. =เปิด 7:30 น. - 22.00 น.
ราคาตั๋ว:
ผู้ใหญ่ : 1,000 ขาเดียว, 1,700 ไปกลับ (ฟอรินท์)
เด็ก: 600 ขาเดียว, 1,100 ไปกลับ (ฟอรินท์)
11. Buda Castle (Budavári Palota) - ปราสาทบูดา
มีทั้งส่วนที่เป็นปราสาทและราชวังอยู่รวมกัน ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของกษัตริฮังการีในสมัยก่อน มองข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่งจะเห็นวิวเมืองใหม่สวยงามมากค่ะ
บริเวรรอบๆปราสาทก็จะมีทหารคอยเฝ้ายามและผลัดเวรกันค่ะ ทหารที่นี่รูปร่างสูงใหญ่ ล่ำบึ้กมากๆ
12. Matthias Church (Mátyás-templom) - โบสถ์มัธธีอัส
เดินต่อมาจากปราสาทบูดาทางซ้ายมือ ตรงไปเรื่อยๆก็จะเห็นยอดโบสถ์และหลังคาสีส้มๆลายๆ มีคนบอกว่าข้างในโบสถ์สวยมาก แต่มากี่ครั้งก็ยังไม่มีโอกาสให้เข้าไปชมสักที
ไม่น่าเชื่อว่าโบสถ์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1015 และมีการซ่อมแซมอยู่เรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ส่วนชื่อโบสถ์ก็ตั้งขึ้นตามชื่อของกษัตย์ในสมัยนั้นค่ะ
13. The Fisherman's Bastion (Halászbásty) - ป้อมปราการชาวประมง
ฟังชื่อแล้วคงสงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับชาวประมง คือไปค้นๆมาเค้าบอกว่าตั้งชื่อไว้เป็นเกียรติแก่สมาคมชาวประมงที่ปกป้องแนวกำแพงเมืองนี้ในช่วงยุคกลาง (Middle Ages) รอบๆป้อมปราการนี้จะมีป้อมเล็กๆรูปร่างคล้ายๆโลโก้ของวอลดิสนีย์ ซึ่งจะอยู่ตรงส่วนที่เป็นชานระเบียงด้านบน สามารถขึ้นไปเดินดูรอบๆได้ค่ะ และหากใครต้องหาทำเลถ่ายภาพสวยๆ มุมกว้างๆ ต้องที่นี่เลยค่ะ คุณจะได้วิวทั้งหมดของฝั่ง Pest รวมถึงแม่น้ำดานูปที่เห็นสะพานทอดตัวข้ามแม่น้ำ ลากตั้งแต่ฝั่งซ้ายสุดที่ Gellért Hill ยาวไปจนขวาสุดจบที่ Margaret Island (หันหน้ามาทางเขา Buda)
14. Citadella (Citadel) - ป้อมปราการซิต้าเดล
ข้ามกลับมาที่เขา Gellért ข้างบนจะเป็นที่ตั้งของป้อมปราการเก่าสำหรับรับมือในการสู้รบสมัยก่อนซึ่งถือว่าเขาแกลเลียทนั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์การรบที่ดี สามารถมองเห็นเมืองทั้งสองฝั่งได้ชัดเจน ปัจจุบันก็ยังมีซากปืนใหญ่ให้เราได้ชม วางอยู่รอบๆกำแพงค่ะ เดินไปอีกหน่อยจะมีรูปปั้นของหญิงสาวที่ชูกิ่งมะกอกขึ้นเหนือศีรษะด้วยมือทั้งสอง แหงนหน้าขึ้นมองบนฟ้า แสดงถึงสันติภาพในมือของเธอ
วิวเมือง Buda และ Pest ถ่ายจาก Citadella
มองเห็น St. Stephen's Basilica ด้วยนะ
15. Margaret Island
อันนี้เพิ่มให้นะค่ะ เกาะมากาเร็ตนี่จริงๆแล้วเล็กมาก คือเป็นเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำดานูป จะออกแนวสวนสาธารณะมากกว่า ยามเย็นช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก เดินเล่นเลาะๆไปตามริมน้ำทางด้านซ้าย (หันหน้าเข้าหาฝั่ง Pest) ก็จะเจอสะพานข้ามที่เชื่อมไปยังเกาะมากาเร็ต ชาวเมืองส่วนใหญ่ก็จะมาวิ่ง เอาสุนัขมาเดิน มาออกกำลังกาย นั่งมองหนุ่มๆ สาวๆ กันตามประสา ชิลดีค่ะ ใครมีเวลาจะลองมาก็ได้นะคะไม่เสียหาย
วิวเมืองยามค่ำคืน
ก่อนจะจบกะทู้นี้ก็ยังมีของฝากค่ะ
คุณทราบหรือไม่ว่าฮังการีมีชื่อเสียงเรื่องสปา(Spa)และการแช่อ่างน้ำแร่(Thermal Bath)มากๆ อาจจะด้วยสาเหตุที่ว่าน้ำแร่ตามธรรมชาติของที่นี่มีอยู่เยอะและเป็นไปได้ว่าประเทศเค้าไม่ติดทะเล นี่จึงเป็นกิจกรรมหลักในการพักผ่อนหย่อนใจของชาวฮังกาเรี่ยน
อยากไปที่ไหนเชิญเลือกค่ะ
- Széchenyi fürdő
- Gellért Thermal Bath
- Aquaworld Budapest เป็นสวนน้ำด้วยค่ะ
ขอจบกะทู้เพียงเท่านี้ ขออภัยหากข้อมูลไม่สมบูรณ์ค่ะ