การมีส่วนร่วมของประชาชน แบบไทยๆนี่ก็ทำให้บ้านเมืองเสียหาย

กระทู้สนทนา
เมื่อวานผมเขียนเรื่อง คำว่า "ไม่เป็นไร" กับคนไทย
ที่ผมตั้งข้อสังเกตว่า คนไทย เป็นคนน่ารัก และให้อภัย
ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็จะแปลได้ว่า "ไม่รู้จักเข็ดหลาบ"

นั่นคือ ภาคการเมืองทำบ้านเมืองชิพ-หายขนาดไหน
พี่ไทยก็บอก " ไม่เป็นไร"
จะขาดทุน จะเจ๊งกะบ๊งอะไรกี่แสนล้าน ก็ "ไม่เป็นไร"
นักการเมืองมันเลยเห็นเราเป็นหมู เป็นหมา
จะเอา "ทีน" บริหารบ้านเมือง ห่วยแตกยังไง ก็มีกองเชียร์
กองเชียร์ที่สามารถ ทำให้ความชิพ-หายที่พวกมันทำ กลายเป็นเรื่อง "ดูดี" ขึ้นมา

นี่ไงครับ "การมีส่วนร่วม" ไง
วันนี้ ผมบอกว่า ไอ้"การมีส่วนร่วม" ของเราๆ-ท่านๆนี่แหละ ที่ทำบ้านเมืองเสียหาย
มันหมายถึงผมด้วย ผมโทษตัวเองไว้ส่วนนึงเหมือนกัน

เมื่อวานผมคุยกับเพื่อนสมาชิกท่านนึงไว้
ผมใช้คำว่า การมีส่วนร่วมของเรามัน "พิการ"
คำว่า "เรา" นี้ ไม่ได้หมายถึงใครเฉพาะเจาะจง
เวลาผมเขียนกระทู้ ผมจะพูดถึง เรา-ในฐานะคนไทยด้วยกันเสมอ
มันพิการตรงที่ว่า เรา ใช้ "สิทธิ" กันอย่างฟุ่มเฟือย
แต่เรากลับไม่ทำ "หน้าที่ของประชาชน"
ไม่
ซึ่งคือการตรวจสอบ เช็คบิลไอ้พวกนักการเมือง

ในประเทศที่เจริญแล้ว ภาคประชาชนเขาแข็งแรงครับ
เพราะเขาไม่บ้าไปถือหางนักการเมือง
เขาไม่เทิดทูนนักการเมือง
เขาเลือก แต่เขาไม่เทิดทูน
และเขาเช็คบิลกับการทำงานของคนที่เขาเลือกเข้าไปอย่างเข้มข้น ดุเดือด
เขาไม่เชียร์ ไม่ปกป้อง ไม่ออกตัวเจ็บร้อนแทนนักการเมือง
และเขาไม่ด่าคนที่คิดต่าง เพราะเขามอง ว่า คนคิดต่างเป็นประชาชนด้วยกัน
กล่าวคือ เขาไมได้แบ่งพรรคพวกแบบเรา
เราแบ่งเป็น เหลือง-แดง...สมมุตินะ
แต่เขาแบ่งเป็นประชาชน vs. นักการเมือง
นี่ไงครับ ภาคประชาชนเขาถึงแข็งแรง มีอำนาจคะคานกับการเมืองได้
ที่สำคัญ และมีความหมายที่สุด...สังคมเขาไม่แตกแยก

แต่เรา-ท่าน...
นอกจากจะไม่เช็คบิล ตรวจตราการทำงานของพวกมันอย่างเข้มข้น ดุเดือด
เรากลับปกป้องมัน และด่าคนที่จะตรวจสอบมัน อย่างเข้มข้น ดุเดือดแทน
แล้วจะไหวมั๊ยเนี่ย...

อะไรทำให้พวกเขาสามารถรักษาสังคมไว้ไม่ให้แตกแยก
ความเห็นส่วนตัวนะครับ...มันคือ "การรักษาระยะ" ครับ
รักษาระยะตัวเอง กับ การเมือง ให้มันมีระยะห่างพอสมควร
พอสมควร พอที่จะไม่ไปด่าคนที่คิดต่าง
พอสมควร พอที่ว่าจะไม่มองคนคิดต่างเป็นศัตรู
พอสมควร พอที่จะไม่ไปเป็นเจ็บ เป็นแค้น เป็นเดือด เป็นร้อนแทนนักการเมืองหน้าไหน
พอสมควร พอที่จะไม่ไปยกย่องเทิดทูนไอ้พวกนักการเมือง

เห็นไหมคับ เขามองนักการเมืองอย่างไร
เขาไม่เทิดทูน !
แล้วเรา-ท่าน มองอย่างไร พอมีใครตำหนินักการเมืองคนไหนปุ๊ป เดี๋ยวมีพวกออกมารุมด่า
จะด่ากันเองไปทำไมล่ะครับท่าน เราคนไทยด้วยกัน
แล้วจะไปเจ็บร้อนแทนนักการเมืองอย่างพวกมันทำไม
มันเคยเจ็บร้อนออะไรกับเราบ้างไหม
มันเคยเจ็บเคยตายกะเราไหม
มันเคยติดคุกซักคนไหม
และที่แสบที่สุด คือ ที่ตายๆน่ะ ตายเพื่อใคร ?
เพื่อพวกมันใช่ไหม ?

ทุกอย่างในโลกเป็นเหตุ-เป็นผลกันครับ
เป็นไปตามเหตุ-ปัจจัย
เมื่อวานผมบอกไว้ว่า ผมเคยคิดว่า เพราะนักการเมืองเป็นอย่างนี้ พวกเราจึงเป็นอย่างนี้
ผมว่าผมคิดผิด
เพราะพวกเราเป็นอย่างนี้กันต่างหากล่ะครับ ที่ทำให้นักการเมืองมันเป็นอย่างนี้
มันเห็นเราเป็นหมู เป็นหมา จะพูด5 ทำ5 อะไร กรูก็มีคนเฮ คนเชียร์

การรักษาระยะระหว่างเรา กับ การเมืองนี่แหละครับ สำคัญมากๆ
ใกล้เกินไป เมื่อไหร่ ก็ร้อน ก็ทุกข์
ถอยออกมา มองกว้างๆ ก็จะสบายใจขึ้น ไม่เจ็บ ไม่ร้อนแทนใคร และสามารถมองคนที่คิดต่างด้วยสายตาที่เป็นมิตร

ไม่มีเหตุผลใดๆในโลกที่คนไทยจะต้องมาเกลียดกัน มาด่ากัน
ที่พวกเราต้องมาเป็นอย่างนี้ เพราะผลจากการกระทำของพวกนักการเมือง
ความต้องการเอาชนะ ของพวกมัน ทำให้พวกเราต้องมาแตกแยก
และมันแตกแยกอย่างที่ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัตฺศาสตร์ของประเทศนี้

โปรดพิจารณาครับ

และขอให้สิ่งศักดิสิทธิ์ ช่วยดลบันดาลให้บ้านเมืองสงบสุขโดยเร็ว
ขอความสมัครสมาน สามัคคีจงเกิดขึ้นแก่คนไทย
ผมหมายความอย่างนั้นทุกคำ...


สวัสดีวันศุกร์ครับ


ป.ล. ขออภัย กระทู้นี้ยาวมาก.... จิ้งจกฯ ค่อยๆอ่าน ไม่ต้องรีบตอบ ไม่มีใครแย่ง ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่