จริงๆเรื่องฮอร์โมน seasonแรก ก็จบไปนานแล้วอ่ะนะแต่ ณ ตอนนั้นก็แค่ดูและแค่คิดเห้ย หนังเรื่องนี้จะตรงชีวิตวัยรุ่นไปไหน ทุกกรณีที่นำมาเสนอต่างล้วนมีอยู่ในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นยกพวกตีกัน ที่เราเห็นกันบ่อยๆ หรือกรณีสไปรท์ที่รายการวู้ดดี้ก็ได้เอาคนแบบนี้มาสัมภาษณ์ แต่ครั้งนึงเราได้ดูสัมภาษณ์ของนักแสดงฮอร์โมนตอนที่ปันปันมีข่าวเรื่องเสพยา แล้วจะให้ตัดปันปันออกจากเรื่องฮอร์โมน เพื่อนนักแสดงก็บอกว่าอย่าตัดเลย ตอนของเต้ยมีความสำคัญมาก คนชอบเยอะ แถมถูกโหวตให้เป็นอันดับสองที่เกิดขึ้นจริงในหมู่วัยรุ่นอีก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ากรณีไหนได้เป็นอันดับหนึ่ง แถมตอนที่ฝน ศนันทฉัตร ที่แสดงเป็นดาวในเรื่องนั้นถูกวู้ดดี้ถูกถามว่าตัวละครไหนตรงกับตัวเองมากสุด ฝนก็บอกว่าของเต้ย ตอนนั้นเราแค่คิดว่าเต้ยคล้ายตูจัง แต่ก้ไม่ได้คิดจะมาแชร์อะไร และเราก้ยังไม่ได้เล่น pantip ด้วย แต่เมื่อวานมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้นเราก็เลยคิดว่าเราน่าจะมาแชร์เรื่องของเราบ้าง
และถ้าใครเคยตกเป็นเต้ยในชีวิตจริงหรือกรณีอื่นก็มาแชร์กันได้นะคะ
เราเป็นคนหัวดีมาแต่เด็ก ชอบสังเกต ตอนเด็กๆเราจะชอบสังเกตตัวหนังสือที่อยู่รอบตัวเรา จำได้ว่าเราเห็นลังนม แล้วเราก็คิด น หนู ม ม้า ติดกันใช่ๆต้ออ่านนม ด้วยความชอบสังเกตแบบนี้เราสามารถอ่านหนังสืออกได้ตั้งแต่อนุบาลสอง โดยที่ครูยังไม่สอนวิธีอ่านด้วยซ้ำ ชีวิตของเราก็มีความสุขดี เป็นเด็กที่คิดดี
มีน้ำใจเพื่อนเยอะมาตลอด แม้ตอนอนุบาลเราจะโดนแกล้งบ่อยๆ รองเท้าเราจะหายเกือบทุกวันจนแม่ไม่ชนะซื้อ โดนเอาหมากฝรั่งมาแปะหัวตอนนอนจนต้องตัดผมทิ้งบ้าง แต่ความเป็นเด็กเราไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไรเลยกับการกระทำเหล่านั้น ชีวิตตั้งแต่ ป.1 - ป.3 ยิ่งแฮปปี้เราเรียนเก่งเป็นอันดับหนึ่งของห้อง เราจะชอบช่วยอธิบายเพื่อนในสิ่งที่เพื่อนไม่เข้าใจ ชอบพาเพื่อนเล่นเกมส์ต่างๆ เป็นผู้นำทำการแสดงต่าง เช่นหลีดตอนกีฬาสี คิดท่าเต้นตอนวันเด็กแล้วพาเพื่อนไปแสดง หาเสื้อผ้ามาให้เพื่อนใส่แสดง ตอน ป.2 เราก็ได้กรรมการนักเรียนเพราะพี่ ป.6 ชวนไปเข้าทีมด้วย แต่ก็มีโดนผู้ชายแกล้งบ้าง มีผู้ชายบางคนถึงกับมาถีบเรา แต่ตอนนั้นเราไม่เคยจบปวด ไม่เคยเสียใจ ตอนนั้นเราโดนถีบสามครั้งเราก็แค่ร้องไห้ แล้วเพื่อนก็ไปฟ้องครู แล้วเราก็ลืมมันไปเลย จำได้ว่าครูถามว่าเธอไปถีบเค้าทำไม มันตอบว่าผมหมั่นไส้เค้าครับ แล้วครูก็พูดว่าเธอหมั่นไส้ใครแล้วเธอก็มีสิทธิ์ไปถีบเค้าเหรอ ตอนนั้นพอกลับบ้านเราก็ลืมเหตุการณ์ทั้งหมดไปเลยใช้ชีวิตแบบมีความสุข โตมาถึงได้เข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นมันอิจฉาเรา คือเพื่อนเรารักเวอร์ไปไหนก็ตามแต่เรา ชื่อเราถูกเรียกไม่ขาด แต่ ณ วัยนั้นเราไม่เคยรู้ว่าว่าความอิจฉาคืออะไรเราก็เลยไม่คิดอะไรเลย กลับบ้านก็ลืมสนิท
กรณีของเต้ยฮอร์โมน ที่เกิดขึ้นในสังคมมากมาย
และถ้าใครเคยตกเป็นเต้ยในชีวิตจริงหรือกรณีอื่นก็มาแชร์กันได้นะคะ
เราเป็นคนหัวดีมาแต่เด็ก ชอบสังเกต ตอนเด็กๆเราจะชอบสังเกตตัวหนังสือที่อยู่รอบตัวเรา จำได้ว่าเราเห็นลังนม แล้วเราก็คิด น หนู ม ม้า ติดกันใช่ๆต้ออ่านนม ด้วยความชอบสังเกตแบบนี้เราสามารถอ่านหนังสืออกได้ตั้งแต่อนุบาลสอง โดยที่ครูยังไม่สอนวิธีอ่านด้วยซ้ำ ชีวิตของเราก็มีความสุขดี เป็นเด็กที่คิดดี
มีน้ำใจเพื่อนเยอะมาตลอด แม้ตอนอนุบาลเราจะโดนแกล้งบ่อยๆ รองเท้าเราจะหายเกือบทุกวันจนแม่ไม่ชนะซื้อ โดนเอาหมากฝรั่งมาแปะหัวตอนนอนจนต้องตัดผมทิ้งบ้าง แต่ความเป็นเด็กเราไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไรเลยกับการกระทำเหล่านั้น ชีวิตตั้งแต่ ป.1 - ป.3 ยิ่งแฮปปี้เราเรียนเก่งเป็นอันดับหนึ่งของห้อง เราจะชอบช่วยอธิบายเพื่อนในสิ่งที่เพื่อนไม่เข้าใจ ชอบพาเพื่อนเล่นเกมส์ต่างๆ เป็นผู้นำทำการแสดงต่าง เช่นหลีดตอนกีฬาสี คิดท่าเต้นตอนวันเด็กแล้วพาเพื่อนไปแสดง หาเสื้อผ้ามาให้เพื่อนใส่แสดง ตอน ป.2 เราก็ได้กรรมการนักเรียนเพราะพี่ ป.6 ชวนไปเข้าทีมด้วย แต่ก็มีโดนผู้ชายแกล้งบ้าง มีผู้ชายบางคนถึงกับมาถีบเรา แต่ตอนนั้นเราไม่เคยจบปวด ไม่เคยเสียใจ ตอนนั้นเราโดนถีบสามครั้งเราก็แค่ร้องไห้ แล้วเพื่อนก็ไปฟ้องครู แล้วเราก็ลืมมันไปเลย จำได้ว่าครูถามว่าเธอไปถีบเค้าทำไม มันตอบว่าผมหมั่นไส้เค้าครับ แล้วครูก็พูดว่าเธอหมั่นไส้ใครแล้วเธอก็มีสิทธิ์ไปถีบเค้าเหรอ ตอนนั้นพอกลับบ้านเราก็ลืมเหตุการณ์ทั้งหมดไปเลยใช้ชีวิตแบบมีความสุข โตมาถึงได้เข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นมันอิจฉาเรา คือเพื่อนเรารักเวอร์ไปไหนก็ตามแต่เรา ชื่อเราถูกเรียกไม่ขาด แต่ ณ วัยนั้นเราไม่เคยรู้ว่าว่าความอิจฉาคืออะไรเราก็เลยไม่คิดอะไรเลย กลับบ้านก็ลืมสนิท