"ตอนนี้ถ้าใครไม่รู้จักสปาถือว่าเชยค่ะ"
ถ้าใครถามว่ารู้จักสปาไหมให้ตอบ "รู้" ไว้ก่อน ส่วนความหมายหาเอาทีหลัง สปานั้นมาฮิตเอามากๆ ที่บ้านเรา นอกจากความสบายในแบบของสปาแล้ว ยังมีความนุ่มนวลและละเมียดละไมของความเป็นไทย ที่ไม่ว่าจะเป็นการบีบนวด ถู อย่างชดช้อยอ่อนหวาน ครบถ้วนทุกกระบวนความ หรือจะลีลาการนวดคลายจุดแบบวัดโพธิ์ ที่มีให้ร่ำเรียนทั้งนวดแบบราชสำนัก หรือดุดันแบบเชลยศักดิ์ ผสานกับกลิ่นอโรมาเธอราพีในสปา ใครได้สัมผัสก็ไม่วายผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ
จุดเด่นของสปา การผ่อนคลายร่างกายด้วยวารีบำบัด เพียงแช่เท้าลงไปในน้ำอุ่น กรุ่นกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย ร่างกายและอารมณ์ก็ผ่อนคลายลดความตึงเครียดไปได้มาก เป็นเสน่ห์หนึ่งของสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่...สปา
"ตอนนี้ ก็จะมาชวนคุณๆ สร้างบรรยากาศ "สปาในบ้าน" ให้รวยรินกลิ่นอายอบอวล ในวันหยุดสุดสัปดาห์กัน ให้ผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดในหน้าที่การงาน พร้อมรับเช้าวันจันทร์ด้วยพลังกายพลังใจเต็มที่"
ขั้นแรกเริ่มจาก การสร้างบรรยากาศด้วยนาสิกสัมผัสหรือกลิ่น โดยการหาซื้อเทียนหอมหรือจุดตะเกียงน้ำมันหอมก็ได้ หาซื้อได้ตามร้านสปา ซึ่งมีหลายกลิ่นให้เลือก พร้อมสรรพคุณการผ่อนคลายความเครียดในหลายรูปแบบ หากคุณไม่นิยมกลิ่นของเทียนหอม แต่ชื่นชมกลิ่นดอกไม้จากธรรมชาติสดๆ ก็อาจจะสรรหาดอกไม้ไทย มาลอยน้ำหรือวางประดับ หากเคยสังเกตจะพบว่า ดอกไม้ไทยกลิ่นหอมล้วนออกสีขาวหรือเหลืองนวล ทั้งมะลิ จำปา จำปี กระดังงา ลนไฟอ่อนให้กลิ่นกระจาย หรือพุดต่างๆ ล้วนมีกลิ่นเฉพาะ หรือปลูกไม้ประเภทไม้เลื้อยดอกหอม เช่น พุทธชาติหลวง มลุลี (มะลิพวง) เล็บมือนาง จัดเป็นซุ้ม แล้วเก็บดอกมาลอยน้ำเพื่อบรรยากาศชุ่มเย็น เกิดความสบายกายและใจ ตั้งแต่เก็บดอกไม้หรือเมื่อเริ่มจัดวาง
"จากนั้นเข้าครัวไปทำน้ำสมุนไพรสักแก้ว ดื่มคลายร้อน เช่น น้ำตะไคร้ น้ำใบเตย น้ำดอกอัญชัญ น้ำมะตูม น้ำมะเฟือง เป็นต้น ก็สารพัดจะทำได้ตามใจ สูตรต่างๆ ไม่ต้องพิถีพิถัน จำกัดกฎเกณฑ์ให้มาก ปล่อยตามสบาย และใช้พื้นฐานด้านการปรุงอาหารที่มี ต้มๆ กรองๆ เติมน้ำตาล แล้วชิมดูว่ารสชาติถูกใจหรือยัง ถ้าไม่ใช่ก็ค่อยเติมนิดเติมหน่อยจนกว่าจะเป็นที่น่าพอใจ อย่างน้อยเวลาที่อยู่ในครัวก็เป็นเวลาผ่อนคลายด้วย นอกจากนี้ยังสร้างความนิยมในตัวเองเมื่อทำสำเร็จอีกด้วย แต่หากยังไม่มั่นใจ น้ำชาร้อนๆ ลอยดอกมะลิก็เพียงพอแล้ว จากนั้นพักผ่อนหรือเลือกกิจกรรมที่ทำแล้วสบายใจ ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือใต้ต้นไม้เสมอไป บางคนอาจชอบดูภาพยนตร์ในโรงหนัง บางคนก็ชอบถักนิตติ้ง บ้างก็ชอบวาดรูปและเอาไปขายเป็นงานศิลปะก็มี ต่างคนย่อมต่างใจ เลือกทำในสิ่งที่ชอบในวันสงบ ที่หอมกลิ่นละมุนละไม ร่างกายและจิตใจก็ย่อมเป็นสุขได้ค่ะ"
หลังจากคลายเครียดด้วยกลิ่นหอม ก็เริ่มต้นการบำบัดด้วยวารีบำบัดแบบไทยๆ สมุนไพรมีหลายตำรับ เช่น ใช้สูตรผิวมะกรูดหรือผิวส้ม ผสมกับใบโหระพาแห้งและใบสาระแหน่ต้มน้ำเดือด 15 นาที กรองเอากากออกไปให้มด แล้วผสมน้ำต้มสมุนไพรลงในอ่างอาบน้ำ ก็จะได้น้ำอุ่นสำหรับแช่ตัว กรุ่นกลิ่นสมุนไพร
"หรือหากวันไหนรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายจะเป็นไข้ จะลองสูตรเดียวกับที่ผู้ใหญ่ใช้อาบให้เด็กเวลาเป็นหวัดดูก็ไม่เลวนะคะ นำเอาหอมแดง ตะไคร้ ใบมะขามอ่อน และผิวมะกรูด ต้มเอาน้ำผสมกับน้ำอุ่น หากยากเกินไปที่จะทำเอง จะลองใช้น้ำมันหอมระเหยหยดใส่อ่างอาบน้ำ 10 หยด"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เด็กสาวคนหนึ่งนอนป่วยด้วยโรคร้ายในระยะสุดท้าย ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ได้สาปแช่งหญิงสาวคนหนึ่ง
"ขอให้แกได้ดูคนรักตายในอ้อมกอดชาติแล้วชาติเล่า ขอให้แกต้องทนทุกข์ทรมานกับความเดียวดายไปชั่วนิรันดร์"
อาถรรพ์คำสาปของเด็กสาวคนหนึ่ง
ถ้าใครถามว่ารู้จักสปาไหมให้ตอบ "รู้" ไว้ก่อน ส่วนความหมายหาเอาทีหลัง สปานั้นมาฮิตเอามากๆ ที่บ้านเรา นอกจากความสบายในแบบของสปาแล้ว ยังมีความนุ่มนวลและละเมียดละไมของความเป็นไทย ที่ไม่ว่าจะเป็นการบีบนวด ถู อย่างชดช้อยอ่อนหวาน ครบถ้วนทุกกระบวนความ หรือจะลีลาการนวดคลายจุดแบบวัดโพธิ์ ที่มีให้ร่ำเรียนทั้งนวดแบบราชสำนัก หรือดุดันแบบเชลยศักดิ์ ผสานกับกลิ่นอโรมาเธอราพีในสปา ใครได้สัมผัสก็ไม่วายผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ
จุดเด่นของสปา การผ่อนคลายร่างกายด้วยวารีบำบัด เพียงแช่เท้าลงไปในน้ำอุ่น กรุ่นกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย ร่างกายและอารมณ์ก็ผ่อนคลายลดความตึงเครียดไปได้มาก เป็นเสน่ห์หนึ่งของสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่...สปา
"ตอนนี้ ก็จะมาชวนคุณๆ สร้างบรรยากาศ "สปาในบ้าน" ให้รวยรินกลิ่นอายอบอวล ในวันหยุดสุดสัปดาห์กัน ให้ผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดในหน้าที่การงาน พร้อมรับเช้าวันจันทร์ด้วยพลังกายพลังใจเต็มที่"
ขั้นแรกเริ่มจาก การสร้างบรรยากาศด้วยนาสิกสัมผัสหรือกลิ่น โดยการหาซื้อเทียนหอมหรือจุดตะเกียงน้ำมันหอมก็ได้ หาซื้อได้ตามร้านสปา ซึ่งมีหลายกลิ่นให้เลือก พร้อมสรรพคุณการผ่อนคลายความเครียดในหลายรูปแบบ หากคุณไม่นิยมกลิ่นของเทียนหอม แต่ชื่นชมกลิ่นดอกไม้จากธรรมชาติสดๆ ก็อาจจะสรรหาดอกไม้ไทย มาลอยน้ำหรือวางประดับ หากเคยสังเกตจะพบว่า ดอกไม้ไทยกลิ่นหอมล้วนออกสีขาวหรือเหลืองนวล ทั้งมะลิ จำปา จำปี กระดังงา ลนไฟอ่อนให้กลิ่นกระจาย หรือพุดต่างๆ ล้วนมีกลิ่นเฉพาะ หรือปลูกไม้ประเภทไม้เลื้อยดอกหอม เช่น พุทธชาติหลวง มลุลี (มะลิพวง) เล็บมือนาง จัดเป็นซุ้ม แล้วเก็บดอกมาลอยน้ำเพื่อบรรยากาศชุ่มเย็น เกิดความสบายกายและใจ ตั้งแต่เก็บดอกไม้หรือเมื่อเริ่มจัดวาง
"จากนั้นเข้าครัวไปทำน้ำสมุนไพรสักแก้ว ดื่มคลายร้อน เช่น น้ำตะไคร้ น้ำใบเตย น้ำดอกอัญชัญ น้ำมะตูม น้ำมะเฟือง เป็นต้น ก็สารพัดจะทำได้ตามใจ สูตรต่างๆ ไม่ต้องพิถีพิถัน จำกัดกฎเกณฑ์ให้มาก ปล่อยตามสบาย และใช้พื้นฐานด้านการปรุงอาหารที่มี ต้มๆ กรองๆ เติมน้ำตาล แล้วชิมดูว่ารสชาติถูกใจหรือยัง ถ้าไม่ใช่ก็ค่อยเติมนิดเติมหน่อยจนกว่าจะเป็นที่น่าพอใจ อย่างน้อยเวลาที่อยู่ในครัวก็เป็นเวลาผ่อนคลายด้วย นอกจากนี้ยังสร้างความนิยมในตัวเองเมื่อทำสำเร็จอีกด้วย แต่หากยังไม่มั่นใจ น้ำชาร้อนๆ ลอยดอกมะลิก็เพียงพอแล้ว จากนั้นพักผ่อนหรือเลือกกิจกรรมที่ทำแล้วสบายใจ ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือใต้ต้นไม้เสมอไป บางคนอาจชอบดูภาพยนตร์ในโรงหนัง บางคนก็ชอบถักนิตติ้ง บ้างก็ชอบวาดรูปและเอาไปขายเป็นงานศิลปะก็มี ต่างคนย่อมต่างใจ เลือกทำในสิ่งที่ชอบในวันสงบ ที่หอมกลิ่นละมุนละไม ร่างกายและจิตใจก็ย่อมเป็นสุขได้ค่ะ"
หลังจากคลายเครียดด้วยกลิ่นหอม ก็เริ่มต้นการบำบัดด้วยวารีบำบัดแบบไทยๆ สมุนไพรมีหลายตำรับ เช่น ใช้สูตรผิวมะกรูดหรือผิวส้ม ผสมกับใบโหระพาแห้งและใบสาระแหน่ต้มน้ำเดือด 15 นาที กรองเอากากออกไปให้มด แล้วผสมน้ำต้มสมุนไพรลงในอ่างอาบน้ำ ก็จะได้น้ำอุ่นสำหรับแช่ตัว กรุ่นกลิ่นสมุนไพร
"หรือหากวันไหนรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายจะเป็นไข้ จะลองสูตรเดียวกับที่ผู้ใหญ่ใช้อาบให้เด็กเวลาเป็นหวัดดูก็ไม่เลวนะคะ นำเอาหอมแดง ตะไคร้ ใบมะขามอ่อน และผิวมะกรูด ต้มเอาน้ำผสมกับน้ำอุ่น หากยากเกินไปที่จะทำเอง จะลองใช้น้ำมันหอมระเหยหยดใส่อ่างอาบน้ำ 10 หยด"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เด็กสาวคนหนึ่งนอนป่วยด้วยโรคร้ายในระยะสุดท้าย ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ได้สาปแช่งหญิงสาวคนหนึ่ง
"ขอให้แกได้ดูคนรักตายในอ้อมกอดชาติแล้วชาติเล่า ขอให้แกต้องทนทุกข์ทรมานกับความเดียวดายไปชั่วนิรันดร์"