พอลองเซิร์ชหาข้อมูลแล้วมันยังเหมือนไม่จบเลย
ตั้งแต่ข่าวแรกที่ดีเอสไอเข้ามาแจม (วันที่ 5/8/13)
"ผอ.ส่วนบริหารระบบงานคดีพิเศษ ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ขณะเรือบรรทุกน้ำมันใช้ท่อยางที่เกิดเหตุเชื่อมต่อทุ่นลอยน้ำที่เชื่อมกับ ท่อน้ำมันใต้ทะเลเพื่อส่งน้ำมันดิบเข้าระบบท่อใต้ทะเล ขณะนั้นแรงดันของน้ำมันดิบในท่อยางมีเพียง 2 ปอนด์ต่อตารางนิ้วเท่านั้น จากระดับปกติที่มีการตั้งระบบตัดอัตโนมัติตัดการส่งน้ำมันดิบจากเรือเข้าท่อ ยางดังกล่าวไว้ที่ 5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และท่อยางดังกล่าวสามารถทนแรงอัดได้ถึง 10 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว ดีเอสไอจึงต้องตรวจสอบรายงานการปฏิบัติงานของลูกเรือบรรทุกน้ำมันทั้งหมด เพื่อตรวจสอบว่ามีขั้นตอนในการปฏิบัติขนถ่ายน้ำมันดิบอย่างไรบ้าง ใช้แรงอัดเท่าไหร่ในการสูบน้ำมันดิบเข้าท่อ
“ดีเอสไอจะตรวจสอบว่าท่อ ยางดังกล่าวที่ฉีกขาดใครเป็นผู้ผลิต และผลิตได้ตามมาตรฐานหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาของท่อน้ำมันที่ฉีกขาด เพื่อวิเคราะห์ประมวลว่าสาเหตุกรณีน้ำมันดิบรั่วลงทะเลครั้งนี้ เกิดจากอุบัติเหตุหรือเกิดจากความประมาท ใครต้องรับผิดชอบ โดยการสอบสวนได้ใช้หลักวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ทุกขั้นตอน ภายใต้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยในวันที่ 8 ส.ค.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 10 หน่วยงานมาร่วมประชุมประกอบการพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ก่อนจะเสนอนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาดำเนินการพร้อมเปิดแถลงข่าวให้สังคมทราบภายใน 10 วัน” นายภูวิชกล่าว"
http://www.thairath.co.th/content/361448
แถลงผลครั้งแรก
8/8/13
"ในส่วนของการสืบสวนเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ และมีความเสียหายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม อำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มติที่ประชุมของดีเอสไอและ 15 หน่วยงานสรุปว่า จะบูรณาการประสานทำงานร่วมกันเพื่อได้ข้อเท็จจริงรอบด้านครบถ้วนรวดเร็ว มีแนวทางการดำเนินคือ หากดีเอสไอได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จของบอร์ดพีทีที โกลบอลฯ ซึ่งมีคุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต เป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ ปตท.ตั้งขึ้น ซึ่งเดิมจะแล้วเสร็จในวันที่ 7 สิงหาคม แต่มีการขอขยายเวลาอีกระยะ ดีเอสไอจะส่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวไปยัง 16 หน่วยงาน พร้อมขอทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จในเรื่องนี้ ตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานประกอบ
"นายธาริตกล่าวว่า ได้แจ้งให้ทั้ง 16 หน่วยงานทราบว่า ดีเอสไอได้เริ่มสืบสวนกรณีที่เกิดขึ้นตามอำนาจตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อส่งหนังสือไปขอข้อมูลที่ทุกหน่วยได้ดำเนินการไปแล้ว เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้มีความชัดเจนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่เกิดจากการกระทำประมาทของมนุษย์ จึงต้องหาสาเหตุที่แท้จริง ทั้งเรื่องอายุงานของท่อส่งน้ำมัน ที่มีการรับประกัน 2 ปีว่า มีการแตกรั่วก่อนครบอายุประกันหรือไม่ หรือกรณีเรือส่งน้ำมัน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ อาจเป็นความประมาทของพนักงานบริษัท"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1375946819&grpid=03&catid=&subcatid=
ผลการสอบของคุณหญิงทองทิพ
14/8/13
"คุณหญิงทองทิพกล่าวว่า “คณะกรรมการฯ สรุปว่าเหตุที่ทำให้น้ำมันรั่วเพราะท่อรั่ว ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ จากการดูเอกสาร ไม่พบปัจจัยภายนอกที่ทำให้ท่อแตก เหตุอื่นๆที่จะทำให้ท่อแตก เช่น เกิดการกระแทก คนมาเจาะท่อ เท่าที่ประเมินการสืบสวนครั้งนี้ ดิฉันไม่พบ ดังนั้นคงเป็นเหตุทางเทคนิคที่ต้องมีการตรวจสอบต่อไป”
http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/23009-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%9E.html
วันเดียวกัน
14/8/13
"นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนกรณีน้ำมันดิบ
รั่วไหลลงทะเล จ.ระยอง ว่า ได้รับเอกสารจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังไม่สามารถสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุการรั่วของน้ำมันดิบ และสาเหตุการแตกของท่อได้ แต่ทางคณะทำงานตรวจสอบหาสาเหตุน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลของ บริษัท พีทีทีจีซี นำโดย คุณหญิงทองทิพย์ รัตนะรัต ประธานกรรมการ เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อหาสาเหตุการแตกของท่อส่งน้ำมันดิบโดยเฉพาะ
โดย ในวันพรุ่งนี้ ทางดีเอสไอ จะทำหนังสือขอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการกับ บริษัท พีทีทีจีซี อีกครั้ง เพื่อนำมาประกอบการสอบสวน และจะติดตามผลจากคณะกรรมการของ บริษัท พีทีทีจีซี อย่างต่อเนื่อง"
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=472498
สองเดือนผ่านไป
3/10/13
"สำหรับประเด็นที่จะมีการหารือในที่ประชุม นอกจากเรื่องความคืบหน้าในการเยียวยาและผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนั้น ยังรวมไปถึงการแสวงหาสาเหตุที่แท้จริงด้วย แม้ก่อนหน้านี้ จะมีการเปิดผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการชุดที่มีคุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต เป็นประธาน แต่ กสม.ก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเอง โดยการประชุมดังกล่าวสื่อและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมรับฟังได้ ไม่ได้เป็นความลับอะไร
"เมื่อ ถามว่ามีการเชิญตัวแทนบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) และตัวแทนพีทีทีจีซี เข้าร่วมประชุมในวันที่ 8 ต.ค.2556 ด้วยหรือไม่นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า คงไม่ได้เชิญ เพราะเราเชิญแต่นักวิชาการ และคนในพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบโดยตรง"
http://www.isranews.org/isranews-news/item/24189-1_24189.html
สุดท้ายที่เซิร์ชพบ
9/10/13
พ.ต.ท.บัณฑิต ประดับสุข เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สะท้อนปมปัญหาการทำงานด้านการสืบสวนสอบสวน ที่ขณะนี้ยุติลงแล้วและไม่ได้ถูกนำเสนอเป็นคดีพิเศษแต่อย่างใด ผลที่ตามคือ ตนยังถูกตั้งกรรมการสอบสวนในคดีนี้ด้วย สิ่งนี้ยืนยันว่า ดีเอสไอ เองก็เจอตอ ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ จึงขอตั้งคำถามต่อ กสม.ว่า จะใช้กฎหมายใดมาบังคับใช้หากผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นลง
http://www.rsunews.net/index.php/news/detail/9387#sthash.eXtWABXr.dpuf
...............
สรุปมันยังไงแน่ครับ มีข่าวมากกว่านี้รึเปล่า ส่วนมากพบแต่ข้อมูลที่ให้เยียวยายังไงและน้ำมันออกมาเท่าไหร่ แต่ไม่พบว่าตกลงมันเกิดขึ้นได้ยังไงแน่ เหมือนจู่ๆ ก็เงียบไปเฉยๆ
ไม่รู้จะแท็กอะไรถึงตรงเรื่อง กลัวโดนลบจัง
การสืบคดีสาเหตุน้ำมันรั่วที่อ่าวพร้าวเมื่อปีที่แล้ว สรุปผลเป็นยังไงบ้างครับ
ตั้งแต่ข่าวแรกที่ดีเอสไอเข้ามาแจม (วันที่ 5/8/13)
"ผอ.ส่วนบริหารระบบงานคดีพิเศษ ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ขณะเรือบรรทุกน้ำมันใช้ท่อยางที่เกิดเหตุเชื่อมต่อทุ่นลอยน้ำที่เชื่อมกับ ท่อน้ำมันใต้ทะเลเพื่อส่งน้ำมันดิบเข้าระบบท่อใต้ทะเล ขณะนั้นแรงดันของน้ำมันดิบในท่อยางมีเพียง 2 ปอนด์ต่อตารางนิ้วเท่านั้น จากระดับปกติที่มีการตั้งระบบตัดอัตโนมัติตัดการส่งน้ำมันดิบจากเรือเข้าท่อ ยางดังกล่าวไว้ที่ 5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และท่อยางดังกล่าวสามารถทนแรงอัดได้ถึง 10 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว ดีเอสไอจึงต้องตรวจสอบรายงานการปฏิบัติงานของลูกเรือบรรทุกน้ำมันทั้งหมด เพื่อตรวจสอบว่ามีขั้นตอนในการปฏิบัติขนถ่ายน้ำมันดิบอย่างไรบ้าง ใช้แรงอัดเท่าไหร่ในการสูบน้ำมันดิบเข้าท่อ
“ดีเอสไอจะตรวจสอบว่าท่อ ยางดังกล่าวที่ฉีกขาดใครเป็นผู้ผลิต และผลิตได้ตามมาตรฐานหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาของท่อน้ำมันที่ฉีกขาด เพื่อวิเคราะห์ประมวลว่าสาเหตุกรณีน้ำมันดิบรั่วลงทะเลครั้งนี้ เกิดจากอุบัติเหตุหรือเกิดจากความประมาท ใครต้องรับผิดชอบ โดยการสอบสวนได้ใช้หลักวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ทุกขั้นตอน ภายใต้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยในวันที่ 8 ส.ค.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 10 หน่วยงานมาร่วมประชุมประกอบการพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ก่อนจะเสนอนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาดำเนินการพร้อมเปิดแถลงข่าวให้สังคมทราบภายใน 10 วัน” นายภูวิชกล่าว"
http://www.thairath.co.th/content/361448
แถลงผลครั้งแรก
8/8/13
"ในส่วนของการสืบสวนเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ และมีความเสียหายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม อำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มติที่ประชุมของดีเอสไอและ 15 หน่วยงานสรุปว่า จะบูรณาการประสานทำงานร่วมกันเพื่อได้ข้อเท็จจริงรอบด้านครบถ้วนรวดเร็ว มีแนวทางการดำเนินคือ หากดีเอสไอได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จของบอร์ดพีทีที โกลบอลฯ ซึ่งมีคุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต เป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ ปตท.ตั้งขึ้น ซึ่งเดิมจะแล้วเสร็จในวันที่ 7 สิงหาคม แต่มีการขอขยายเวลาอีกระยะ ดีเอสไอจะส่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวไปยัง 16 หน่วยงาน พร้อมขอทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จในเรื่องนี้ ตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานประกอบ
"นายธาริตกล่าวว่า ได้แจ้งให้ทั้ง 16 หน่วยงานทราบว่า ดีเอสไอได้เริ่มสืบสวนกรณีที่เกิดขึ้นตามอำนาจตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อส่งหนังสือไปขอข้อมูลที่ทุกหน่วยได้ดำเนินการไปแล้ว เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้มีความชัดเจนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่เกิดจากการกระทำประมาทของมนุษย์ จึงต้องหาสาเหตุที่แท้จริง ทั้งเรื่องอายุงานของท่อส่งน้ำมัน ที่มีการรับประกัน 2 ปีว่า มีการแตกรั่วก่อนครบอายุประกันหรือไม่ หรือกรณีเรือส่งน้ำมัน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ อาจเป็นความประมาทของพนักงานบริษัท"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1375946819&grpid=03&catid=&subcatid=
ผลการสอบของคุณหญิงทองทิพ
14/8/13
"คุณหญิงทองทิพกล่าวว่า “คณะกรรมการฯ สรุปว่าเหตุที่ทำให้น้ำมันรั่วเพราะท่อรั่ว ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ จากการดูเอกสาร ไม่พบปัจจัยภายนอกที่ทำให้ท่อแตก เหตุอื่นๆที่จะทำให้ท่อแตก เช่น เกิดการกระแทก คนมาเจาะท่อ เท่าที่ประเมินการสืบสวนครั้งนี้ ดิฉันไม่พบ ดังนั้นคงเป็นเหตุทางเทคนิคที่ต้องมีการตรวจสอบต่อไป”
http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/23009-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%9E.html
วันเดียวกัน
14/8/13
"นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนกรณีน้ำมันดิบ
รั่วไหลลงทะเล จ.ระยอง ว่า ได้รับเอกสารจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังไม่สามารถสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุการรั่วของน้ำมันดิบ และสาเหตุการแตกของท่อได้ แต่ทางคณะทำงานตรวจสอบหาสาเหตุน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลของ บริษัท พีทีทีจีซี นำโดย คุณหญิงทองทิพย์ รัตนะรัต ประธานกรรมการ เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อหาสาเหตุการแตกของท่อส่งน้ำมันดิบโดยเฉพาะ
โดย ในวันพรุ่งนี้ ทางดีเอสไอ จะทำหนังสือขอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการกับ บริษัท พีทีทีจีซี อีกครั้ง เพื่อนำมาประกอบการสอบสวน และจะติดตามผลจากคณะกรรมการของ บริษัท พีทีทีจีซี อย่างต่อเนื่อง"
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=472498
สองเดือนผ่านไป
3/10/13
"สำหรับประเด็นที่จะมีการหารือในที่ประชุม นอกจากเรื่องความคืบหน้าในการเยียวยาและผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนั้น ยังรวมไปถึงการแสวงหาสาเหตุที่แท้จริงด้วย แม้ก่อนหน้านี้ จะมีการเปิดผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการชุดที่มีคุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต เป็นประธาน แต่ กสม.ก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเอง โดยการประชุมดังกล่าวสื่อและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมรับฟังได้ ไม่ได้เป็นความลับอะไร
"เมื่อ ถามว่ามีการเชิญตัวแทนบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) และตัวแทนพีทีทีจีซี เข้าร่วมประชุมในวันที่ 8 ต.ค.2556 ด้วยหรือไม่นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า คงไม่ได้เชิญ เพราะเราเชิญแต่นักวิชาการ และคนในพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบโดยตรง"
http://www.isranews.org/isranews-news/item/24189-1_24189.html
สุดท้ายที่เซิร์ชพบ
9/10/13
พ.ต.ท.บัณฑิต ประดับสุข เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สะท้อนปมปัญหาการทำงานด้านการสืบสวนสอบสวน ที่ขณะนี้ยุติลงแล้วและไม่ได้ถูกนำเสนอเป็นคดีพิเศษแต่อย่างใด ผลที่ตามคือ ตนยังถูกตั้งกรรมการสอบสวนในคดีนี้ด้วย สิ่งนี้ยืนยันว่า ดีเอสไอ เองก็เจอตอ ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ จึงขอตั้งคำถามต่อ กสม.ว่า จะใช้กฎหมายใดมาบังคับใช้หากผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นลง
http://www.rsunews.net/index.php/news/detail/9387#sthash.eXtWABXr.dpuf
...............
สรุปมันยังไงแน่ครับ มีข่าวมากกว่านี้รึเปล่า ส่วนมากพบแต่ข้อมูลที่ให้เยียวยายังไงและน้ำมันออกมาเท่าไหร่ แต่ไม่พบว่าตกลงมันเกิดขึ้นได้ยังไงแน่ เหมือนจู่ๆ ก็เงียบไปเฉยๆ
ไม่รู้จะแท็กอะไรถึงตรงเรื่อง กลัวโดนลบจัง