บทวิเคราะห์เกี่ยวกับแรงงานต่างชาติที่น่าสนใจลองอ่านดูกันครับเพื่อนๆพันทิพ

“ขาดเขมร…ทำเหมือน…จะขาดใจ”.


อย่าไปเส้นตื้นกันมากนักเลย กับเรื่องแรงงานเขมรแห่กลับบ้านเขาน่ะ”!

ผมอยากให้มองเรื่องนี้บนฐาน “การจัดระบบและความมั่นคง” เป็นหลักมากกว่า อย่าฉาบฉวยแค่เห็นเขมรกลับบ้าน ก็โวยวายขายข่าวจนเตลิดเปิดเปิงว่า


- ประเทศไทยจะขาดแรงงานบ้าง. – ทางไทยจะกวาดล้างแรงงานต่างชาติบ้าง!


ทำไมไม่มองกลับกันบ้างว่า…เอ๊ะ ชาวเขมรเหล่านี้ เป็นแสนๆ คน ทั้งแรงงาน-ไม่แรงงาน เข้ามากันตอนไหน เข้ามาอย่างไร?_มีการตรวจสอบหรือเปล่าว่า แต่ละคนเข้ามาถูกต้อง เข้ามาทำงานหรือทำอะไร มีใบอนุญาตทำงานจริงหรือไม่?

เพราะการ “เฮเข้า-เฮออก” ทีละเป็นหมื่น-เป็นแสนพร้อมๆ กันลักษณะนี้ มันผิดธรรมชาติ ทั้งการกลับตามสัญญา และกลับไปทำไร่-ทำนาตามฤดูกาล_ประเทศไทยที่ไม่ได้บริหารโดยระบอบทักษิณ ถือเป็นฤดูกาลทำนาของเขมรงั้นหรือ? ทางเขมรเอง “ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย” ยังบอกว่า “เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์”!


ผมก็คิดอย่างนั้น แต่คิดในด้านว่า…

“เราปล่อยให้คนเขมรเป็นหมื่นๆ แสนๆ คนเข้ามาอยู่ในประเทศ ลักษณะ “มาเป็นกลุ่ม-เป็นก้อน-เป็นครอบครัว” โดยไม่มีทะเบียน ไม่มีเอกสารได้อย่างไร และเพื่อจุดประสงค์ใด?”

มันมากมายเป็นประวัติศาสตร์ ชนิดที่กระทรวงแรงงาน กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย ด่านตรวจคนเข้าเมือง และทางการทหารเองก็ให้คำตอบไม่ได้!


เพราะเท่าที่ฟัง ทางการไทย-เขมร ต้องมาร่วมกันตรวจสอบทำทะเบียนหลักฐานกันสดๆ ให้รู้ว่าใคร-เป็นใคร ตรงด่านชายแดนนั้น ซึ่งแสดงว่า “ส่วนใหญ่” เข้ามาชนิดมีปัญหา_ผมว่านะ…การอพยพผิดธรรมชาตินี้ มันต้องมีเบื้องหน้า-เบื้องหลังอะไรซักอย่าง นอกเหนือจากกลับตามปกติ และกลับเพราะข่าวลือ “ทางการจะกวาดล้าง”?


พูดกันตรงๆ ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ครองประเทศ จากปรากฏการณ์ที่เห็น ความต้องการแรงงานเขมร ต้องแยกเป็น ๒ ส่วน

- ในส่วนระบบอุตสาหกรรม-ธุรกิจการค้า ต้องการแรงงานจริงๆ เพื่อเอามาทำงานตามโรงงาน
- แต่ในส่วนระบบการเมือง ไม่เจาะจงแรงงาน เจาะจงให้เป็นคนมีหัวเป็นใช้ได้ เพื่อนำมาใช้เป็น “ประมาณมวลชน” สนับสนุนรัฐบาล สำหรับนับหัวไปขึ้นเงิน หรือเพื่อใช้ทำภารกิจบางประเภท

ก็อย่างที่ทราบ-ที่เห็นกันอยู่ ยุคยิ่งลักษณ์ที่มีดินแดนเขมรเป็นแหล่งกบดานและฝึกซ้อมอาวุธ คนเครือข่าย


ระบอบทักษิณและคนเขมร “เข้า-ออก” ประเทศ ตามชายแดน เหมือนเดินเข้า-ออกประตูบ้านตัวเอง

เพราะทั้งด่าน ทั้งตำรวจ ทั้งกระทรวงแรงงาน ทั้งต่างประเทศ ทั้งมหาดไทยตอนนั้น ใครกำกับดูแล และคนเหล่านั้น เขามีเจตนาอย่างใดกับประเทศไทย ประจักษ์อยู่มิใช่หรือ?

หรือไม่รู้…ก็ให้ไปถาม นายสุรพงษ์ นายจารุพงศ์ ดอกเตอร์เหลิม ฯลฯ เอาเอง!

ฉะนั้น กลยุทธ์ “สร้างมวลชนอำพราง” มันก็เป็นวิธีหนึ่งที่บางพวกอาจใช้ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า…..

ในหมู่แรงงานเขมรเป็นแสนที่อพยพกลับบ้าน จะไม่มีผู้ใช้แรงนิ้ว-ปริมาณหัว หรือคนที่เข้ามาแล้วลงไปทาง ๓ จังหวัดใต้ ปะปนเป็นคนแรงงานกลับออกไปด้วย?


แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ สิ่งหนึ่งที่อยากบอก คือ ผมสนับสนุนความเห็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่า

” เรื่องการบริหารแรงงานต่างด้าวนั้น เป็นการจัดระเบียบ โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดทำบัญชีควบคุมให้เรียบร้อยเป็นไปตามกฎหมาย”_พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธาน อกนร. บอกว่า_”พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสนใจในเรื่องการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวมาก และมีแนวคิดจะจัดการปัญหาให้เรียบร้อย ปัญหาต่างด้าวเป็นปัญหาที่สลับซับซ้อน มีหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน มีกฎหมายหลายฉบับ รวมทั้งมีภาคเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง


ที่ผ่านมาเคยทำงานใน กอ.รมน. ได้รวบรวมปัญหาการทำงานเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวพบว่า

๑.เราไม่เคยเห็นแผนการใช้แรงงานโดยภาครวมของประเทศเลย
๒.เนื่องจากมีหน่วยงานหลายหน่วยงานมาร่วมกันจัดการ จะเห็นว่าการดำเนินการขาดเอกภาพ
๓.การบังคับใช้กฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง
๔.ผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ช่วงที่ผ่านมา มีข่าวลือว่าจะปราบปรามแรงงานต่างด้าว ขอยืนยันว่าไม่มี เนื่องจากเรื่องนโยบายการจัดการแรงงานต่างด้าวยังอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว (กนร.)”


ไม่ว่าประเทศไหนๆ ในโลก เขาคำนึงถึง “ความมั่นคง” ประเทศเขาเป็นหลัก ในเรื่องเข้า-ออกคนต่างชาติ ไม่ต้องดูอื่นไกล_อย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น ที่มีแรงงานไทยเข้าไปอยู่จำนวนหนึ่ง เขาก็ยอมรับว่า ต้องการแรงงานทั้งในระบบอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม_แต่ก็นั่นแหละ ความปลอดภัยประชาชนและความมั่นคงประเทศของเขา “มาก่อน” เสมอ
ถึงจุดหนึ่ง เมื่อมีปัญหา หรือเพื่อป้องกันปัญหา จะเห็นว่า มาเลย์-สิงคโปร์ “ส่งกลับแรงงานไทย” เพื่อจัดระเบียบฝ่ายเขา-ฝ่ายเราอยู่บ่อยๆ ก่อนจะกลับเข้าไปใหม่
กรณีแรงงานเขมรกับไทยเรานี่ก็เหมือนกัน ไม่ห่วงถึงขั้นเอะอะโวยวาย จะเป็น-จะตายไปหรอก ธรรมชาติของแหล่งงานกับคนหางาน มันมีโมเลกุลเชื่อมต่ออยู่ในตัวของมัน_พักเดียวก็กลับมา ถ้าเป็นคนแรงงานจริงๆ ละก็ ไม่ต้องห่วงหรอก กลับมาเร็วกว่าตอนหยุดเทศกาลปีใหม่-สงกรานต์เสียอีก!


คสช.บริหาร-จัดการปัญหานี้ “ถูกจุด” แล้ว ความมั่นคงประเทศ “ต้องมาก่อน” ยิ่งทุกวันนี้ “ความมั่นคงประเทศไทย” ฝากไว้กับอะไรก็ยังตอบยาก เพราะด้วยระบบทุนวัตถุ ทำให้คนยึดประโยชน์ตนมากกว่าประโยชน์ชาติอยู่แล้ว

ยิ่งบ้านเรา…ไปไกลถึงขั้น “ขายบ้าน-ขายเมือง” และคนขายก็ไม่ใช่ใคร เป็นระดับคนบริหารนโยบายประเทศด้วยซ้ำ_ฉะนั้น ถ้าไม่จัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่เต็มบ้าน-เต็มเมือง ทั้งถูกต้อง ไม่ถูกต้อง มิปาไปกว่า ๑๐ ล้านคนแล้วรึ ขืนปล่อยไปแบบนี้เรื่อยๆ ขยายพันธุ์อีกซัก ๕-๑๐ ปี_เฉพาะกรุงเทพฯ และบางจังหวัด เช่น สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม-สมุทรปราการ คนไทยกลายเป็น “คนส่วนน้อย” แน่ๆ

ไม่เพียงความมั่นคง ถ้าไม่จัดระเบียบ-ระบบ ด้วยต่างด้าวที่มากขึ้น จะมีปัญหาทั้งด้าน สาธารณสุข การศึกษา สาธารณูปโภค และความปลอดภัย _ซึ่ง…ทุกวันนี้ก็มีอยู่แล้ว!



คนไทยทุกคนต้อง “จ่ายภาษี” ไปเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าสถานศึกษา ค่าน้ำ ค่าไฟ ต่างๆ นานาให้กับแรงงานต่างด้าวทุกวันนี้ ซึ่งเขาไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย

ไม่ใช่เราใจแคบ หรือรังเกียจ แต่มันเป็น “ภาระส่วนเกิน” ของสังคม แต่ถ้าเราไม่รับภาระตรงนี้ ก็ถูกประณาม

ถูกกติกาโลก โดยยูเอ็น เข้ามาเจ้ากี้-เจ้าการ ใช้ประเทศไทยเป็นที่ “หมกภาระ” ตอนนี้ก็หมกไว้มากมาย

ดูซี…ค่ายอพยพไม่รู้กี่แห่งต่อกี่แห่ง แล้วตอนนี้ยังปัญหาโรฮิงญา-อุยกูร์อีก แล้วมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกนี้ ใครทำก็ยังไม่รู้ เอาแล้ว..พวกเอ็นจีโอ พวกสิทธิมนุษยชน พวกเป้าหมายซ่อนเร้น


ใช้ระบบ “สื่อสารครองโลก” แพร่ข่าวบิดเบือน ใส่ร้าย แค่บอกว่า “เหตุการณ์ในประเทศไทย” แค่นั้น เราเสียหายแล้ว_อย่างล่าสุด…รถบรรทุกแรงงานเขมร ไม่รู้ใคร พวกไหน ขับไล่กันมา แล้วยิงยาง รถพลิกคว่ำ คนเขมรทั้งตายทั้งเจ็บ _ทั้งภาพ-ทั้งข่าวถูกกระจาย ขยายไปทั่วเขมรให้เกิดความเข้าใจผิดว่า “ตำรวจ-ทหารไทยกวาดล้าง ไล่ยิงคนเขมร”!

ระดับชาวบ้าน คนเขมร กับ คนไทยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก แต่มันมีไอ้ประเภท “ตัวไทย-ใจเขมร” คอยจ้องจังหวะปั่นหัว-ปั่นข่าวให้ชาวเขมร-ชาวไทยกินใจ หวาดระแวงกันอยู่_เพื่ออะไร…ยังจะต้องให้บอกอีกรึ?.


####################
ที่มา

เปลวสีเงิน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่