เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเพลงประกอบละครเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ละครออกมากลมกล่อม
และช่วยในการสื่ออารมณ์ของตัวละคร อย่างซีรี่ย์เกาหลีเขาจะมีเพลงเยอะมาก ในแต่ละพาร์ท จะมีเพลงเพื่อสื่ออารมณ์ที่ต่างออกไป
เพลงของไทยก็มีหลายๆเพลงที่มีภาษาสวยงามและสื่อถึงเนื้อหาของเรื่องและตัวละครได้ดี
วันนี้ผมจะยกมา 1 เพลง คือเพลง อสงไขย เป็นเพลงประกอบละคร แต่ปางก่อน
ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงละครแต่ปางก่อน นิดนึงนะครับ
แต่ปางก่อน บทประพันธ์ของ แก้วเก้า
เวอร์ชั่นที่กล่าวถึง นำแสดงโดย ศรรราม เทพพิทักษ์ และแอน ทองประสม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องราวเล่าถึงหม่อมเจ้ารังสิธร หรือคุณใหญ่
บุตรชายคนเดียวของเสด็จในกรมฯ ในสมัย ร.6 ได้พบรักกับเจ้านางม่านแก้ว
ที่เข้ามาฝากเนื้อฝากตัวที่วังเพื่อศึกษาเล่าเรียน
หม่อมพเยีย มารดาของคุณใหญ่ริษยาที่ม่านแก้วเป็นคนโปรดของเสด็จฯ
และมีความสามารถทางภาษาหลายด้าน
ที่สำคัญได้หมายมาดให้คุณใหญ่สมรสกับ ท่านหญิงวิไลเรขา
ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้น้อง แต่คุณใหญ่ยืนยันจะแต่งงานกับม่านแก้ว
คืนส่งตัว ม่านแก้วถูกลอบวางยาพิษจนสิ้นชีวิต คุณใหญ่เสียใจอย่างยิ่ง
ไม่ยอมจะมีรักกับใครอีก กาลเวลาผ่านไปเจ้านางม่านแก้วไปเกิดใหม่
และได้กลับมาที่วังแห่งนี้ซึ่งกลายเป็นโรงเรียนสตรีกุลนารีวิทยา สมบัติของคุณชายจิรายุส
หลานชายคนเดียวของท่านหญิงวิไลซึ่งมีสิทธิในสมบัติทั้งหมดหลังคุณใหญ่สิ้น
~~~~~~~~~~~~~~~~
ชาติภพใหม่นี้ม่านแก้วเป็นครูสอนภาษาชื่อราชาวดี เธอรู้สึกผูกพันกับสถานที่ โดยเฉพาะเรือนฝรั่ง
และเพลงลาวม่านแก้ว เพลงต้องห้ามของที่นี่ เนื่องจากเป็นเพลงที่คุณใหญ่แต่งขึ้นเพื่อมอบให้ม่านแก้วหญิงเดียวที่รัก
ณ ที่แห่งนี้เธอได้พบกับคุณใหญ่ที่วนเวียนรอคอยเธออยู่ ราชาวดีซึ่งลืมอดีตหมดสิ้นสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างมาก
หาโอกาสมาฟังคุณใหญ่เล่าเรื่องอยู่เสมอ จนวันหนึ่งเธอได้พบรูปเจ้านางม่านแก้วซึ่งมีใบหน้าพิมพ์เดียวกัน
ทำให้เชื่อว่าเจ้านางกับเธอต้องเกี่ยวพันกันแน่นอน และเธอเองก็ผูกพันกับคุณใหญ่
ขณะที่คุณชายจิรายุสหลงรักราชาวดี ทั้งที่หมั้นอยู่แล้วกับคุณหญิงสวรรยา
~~~~~~~~~~~~~~~~
ท่านหญิงวิไลเรขาซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าคุณชายจิรายุส มีชีวิตอยู่เดียวดายหลังเกิดโศกนาฏกรรม
ทันทีที่ได้เห็นราชาวดี ท่านหญิงก็ปักใจว่าคือม่านแก้วกลับชาติมาทำลายเธอ
จึงวางแผนให้ราชาวดีมารับใช้ และราชาวดีก็ได้พบว่าท่านหญิงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องยาพิษ
เธอสอบถามคุณใหญ่ได้รู้ว่าคนที่วางยาพิษม่านแก้วก็คือท่านหญิงนั่นเอง โดยร่วมมือกับหม่อมพเยีย
ความพยาบาทจากครั้งนั้นยังไม่สิ้นสุด เมื่อท่านหญิงพยายามวางยาราชาวดี แต่คุณชายจิรายุสช่วยเหลือได้ทัน
~~~~~~~~~~~~~~~~
หลังจากท่านหญิงวิไลสิ้นไปพร้อมกับความพยาบาท คุณชายจิรายุสขอราชาวดีแต่งงาน
แต่ด้วยความรัก ความจริงใจที่คุณใหญ่มีต่อเธอ เธอจึงปฏิเสธและตัดสินใจละทางโลก
ไปปฏิบัติธรรมอุทิศส่วนกุศลให้คุณใหญ่ เวลาผ่านไปอีกไม่นานเธอก็เสียชีวิต
คุณใหญ่มาเกิดเป็นหม่อมหลวงจิราคม ลูกชายคนเดียวของคุณชายจิรายุสกับคุณหญิงสวรรยา
ส่วนราชาวดีกลับมาเกิดเป็นอันตราลูกสาวของคุณถวิลเพื่อนรักของราชาวดี
หนุ่มสาวสนิทสนมกันรวดเร็วจนคุณชายจิรายุสแปลกใจ
แต่เมื่อคุณถวิลนำจดหมายของราชาวดีที่เขียนถึงเธอก่อนตาย เล่าเรื่องราวทั้งหมดของเธอก็ทำให้คุณชายจิรายุสเข้าใจ
จิราคมและอันตราผูกพันกันด้วยเพลงลาวม่านแก้วที่ต่างก็ชื่นชอบเป็นพิเศษ
แล้วในที่สุดความรักของคนทั้งคู่ที่รอคอยการพบกันมานานแสนนานก็สุขสมหวัง
~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ปล่อยความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
ล่องลอยหัวใจสะอาด ปล่อยไปแสนไกล
กรุ่นกลิ่นบุหงาพัดมาด้วยรักจากใจ
เพียงหวังให้ถึงใคร คนที่รอคนนั้น
ส่งความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
คิดถึงใจจะขาด เธออาจไม่เข้าใจ
แค่อยากให้รู้ ไม่ได้ต้องการสิ่งใด
เธอไม่ต้องขืนใจ ถ้าเธอไม่ต้องการ
ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา
หากเพลงคิดถึงที่ปลิวไปในอากาส
เพียงถ้ามันพลั้งพลาด ไปไม่พบเธอ
ให้บทเพลงนี้ล่องลอยไปเสมอ
รอสักวันที่เจอ คนที่เขาต้องการ
ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
*อสงไขย แปลว่านับไม่ถ้วน ส่วนมากจะใช้เปรียบเทียบกับปี
โดยปกติจะเปรียบเทียบ 1 อสงไขย เท่ากับ 10 ยกกำลัง 140
หรือ 10 แล้วตามด้วยเลข 0 อีก 140 ตัว ซึ่งมีค่าเยอะมากเลย
ในทางพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า
“ฝนตกใหญ่มโหฬารทั้งกลางวันกลางคืน เป็นเวลาถึง 3 ปีติดต่อกันไป มิได้หยุด มิได้ขาดสายเม็ดฝน
จนน้ำฝนเจิ่งนองท่วมท้นเต็มขอบจักรวาล อันมีระดับสูงได้ 84,000โยชน์
ทีนี้ ถ้าสามารถนับเม็ดฝน และหยาดแห่งเม็ดฝนที่กระจายเป็นฟองฝอยใหญ่น้อย
ในขณะที่ฝนตกใหญ่ 3 ปี ติดต่อกันนั้น นับได้จำนวนเท่าใด
อสงไขยหนึ่ง เป็นจำนวนปีเท่ากับเม็ดฝนและหยาดแห่งเม็ดฝนที่นับได้นั่นแหละ”
**ในเพลงนี้ใช้คำว่าอสงไขยเวลา ตามเจตนาของผู้แต่งหมายถึง
ระยะเวลาที่ยาวนานมากและหวังว่าจะมีสักวันที่สิ้นสุด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เพลงนี้จัดเป็นเพลงหนึ่งที่มีเมโลดี้ และภาษาที่สวยงามมากครับ และยังสะท้อนความเชื่อทางศาสนาอีกด้วย
ต่อไปถ้ามีคนถามว่า "เธอจะรักฉันไปอีกนานแค่ไหน" ให้ตอบว่า "จะรักไปตราบอสงไขยเวลา"
รับรองถ้าเขาได้รู้ความหมายต้องยิ้มแก้มปริแน่ๆครับ
Cr.ข้อมูลจาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=609513
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=285567
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A2
(วิกิอาจจะไม่นิยมใช้อ้างอิง แต่อันนี้ลองเทียบหลายๆเว็บแล้วข้อมูลตรงครับ)
[เพลงประกอบละครพาไป]เพลงประกอบละครแต่ปางก่อน::อสงไขย
และช่วยในการสื่ออารมณ์ของตัวละคร อย่างซีรี่ย์เกาหลีเขาจะมีเพลงเยอะมาก ในแต่ละพาร์ท จะมีเพลงเพื่อสื่ออารมณ์ที่ต่างออกไป
เพลงของไทยก็มีหลายๆเพลงที่มีภาษาสวยงามและสื่อถึงเนื้อหาของเรื่องและตัวละครได้ดี
ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงละครแต่ปางก่อน นิดนึงนะครับ
อัลบั้ม: ไตร ปาก สมอง หัวใจ คำร้อง - ทำนอง เจษฎา หันช่อ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ศิลปิน: THE SIS เรียบเรียง ศักดิ์สิทธิ์ มาลากุล
ล่องลอยหัวใจสะอาด ปล่อยไปแสนไกล
กรุ่นกลิ่นบุหงาพัดมาด้วยรักจากใจ
เพียงหวังให้ถึงใคร คนที่รอคนนั้น
ส่งความคิดถึงปลิวไปในอากาศ
คิดถึงใจจะขาด เธออาจไม่เข้าใจ
แค่อยากให้รู้ ไม่ได้ต้องการสิ่งใด
เธอไม่ต้องขืนใจ ถ้าเธอไม่ต้องการ
ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา
หากเพลงคิดถึงที่ปลิวไปในอากาส
เพียงถ้ามันพลั้งพลาด ไปไม่พบเธอ
ให้บทเพลงนี้ล่องลอยไปเสมอ
รอสักวันที่เจอ คนที่เขาต้องการ
ฝากเป็นเพลง ให้ลอย เล่นลมไป ล่องลอย ผ่านไปถึงเธอ
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา
แม้จะเนิ่นนาน ยังรักเธอ ตราบนาน อสงไขยเวลา
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
*อสงไขย แปลว่านับไม่ถ้วน ส่วนมากจะใช้เปรียบเทียบกับปี
โดยปกติจะเปรียบเทียบ 1 อสงไขย เท่ากับ 10 ยกกำลัง 140
หรือ 10 แล้วตามด้วยเลข 0 อีก 140 ตัว ซึ่งมีค่าเยอะมากเลย
ในทางพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า
“ฝนตกใหญ่มโหฬารทั้งกลางวันกลางคืน เป็นเวลาถึง 3 ปีติดต่อกันไป มิได้หยุด มิได้ขาดสายเม็ดฝน
จนน้ำฝนเจิ่งนองท่วมท้นเต็มขอบจักรวาล อันมีระดับสูงได้ 84,000โยชน์
ทีนี้ ถ้าสามารถนับเม็ดฝน และหยาดแห่งเม็ดฝนที่กระจายเป็นฟองฝอยใหญ่น้อย
ในขณะที่ฝนตกใหญ่ 3 ปี ติดต่อกันนั้น นับได้จำนวนเท่าใด
อสงไขยหนึ่ง เป็นจำนวนปีเท่ากับเม็ดฝนและหยาดแห่งเม็ดฝนที่นับได้นั่นแหละ”
**ในเพลงนี้ใช้คำว่าอสงไขยเวลา ตามเจตนาของผู้แต่งหมายถึง
ระยะเวลาที่ยาวนานมากและหวังว่าจะมีสักวันที่สิ้นสุด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ต่อไปถ้ามีคนถามว่า "เธอจะรักฉันไปอีกนานแค่ไหน" ให้ตอบว่า "จะรักไปตราบอสงไขยเวลา"
รับรองถ้าเขาได้รู้ความหมายต้องยิ้มแก้มปริแน่ๆครับ
Cr.ข้อมูลจาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้