No.26
จั่วหัว : ภาคต่อของสุดยอดมหากาฬหนังอนิเมชั่นที่เคยทำมาตรฐานไว้สูงลิ่วในภาคแรก ภาคนี้ก็สามารถทำได้ยอดเยี่ยมแทบไม่ต่างกัน สนุก ซึ้ง กินใจ คุ้มค่ามากๆกับการที่ได้ดู
How to train your dragon 2 : อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 2
คมนิด จี๊ดเลย : หากเราเชื่อว่าตัวตนของเราจะเป็นอย่างไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น
Napat's Rating : (A) , 9.5 /10
Update เรื่องหนัง ทันใจ คลิ๊กLIKE!! : https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -
จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้ : นี่เป็นการกลับมาอีกครั้งของอนิเมชั่นที่หลายๆคนคงคิดถึงเหมือนกับผม รวมถึงตัวละครอย่างเจ้าฮิคอัพ ผู้ซึ่งเคยเป็นเด็กขี้แพ้ที่ผันตัวเองกลายมาเป็นฮีโร่ประจำหมู่บ้าน และเจ้าเขี้ยวกุด มังกรเพลิงนิลแสนซุกซน
สำหรับภาคนี้การดำเนินเรื่องก็จะเป็นการเล่าเรื่องต่อจากภาคที่แล้ว ว่าด้วยเรื่องการค้นพบดินแดนใหม่ ตัวละครใหม่ ทั้งมิตรและศัตรู และได้พบกับความลับของมังกรและครอบครัวของตัวฮิคอัพเองด้วย
หนังกล้าเล่าเรื่องในแบบที่อนิเมชั่นแนวนี้มักไม่ค่อยกล้าได้กล้าเสียซะเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้สามารถมีฉากที่กล้าเล่นกับความดราม่าในตัวละครทั้งๆที่เป็นอนิเมชั่น ทำให้ตัวเอกต้องตัดสินใจ และเรียนรู้ว่าความผิดชอบชั่วดีที่แท้จริงนั้นมันเป็นอย่างไร
ถ้าหากว่าเราตกอยู่ภายใต้การครอบงำของอิทธิพลของความชั่ว เราก็พลอยต้องกลายเป็นผู้ที่อยู่ภายใต้อำนาจมืดเหล่านั้นไปด้วย
นอกเสียจากว่า เราจะมีจิตใจที่เข้มแข็งพอที่จะเลือกและตัดสินใจทางเดินชีวิตให้กับตัวเราเอง เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเป็น และเราก็จะกลายเป็นคนในแบบที่เราเชื่อได้ จนมันจะนำพาเราไปสู่การต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อความดีงามและสันติภาพที่ควรจะเกิด
ซึ่งในบางครั้งเราก็อาจรู้สึกสับสนหรือหลงทาง แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่หล่นหายไป มันอาจซ่อนอยู่ในตัวเราเองก็ได้ นั่นคือ "ความกล้าหาญ" ที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองและของผู้อื่น ซึ่งการที่จะปลุกความกล้าในตัวเราขึ้นมาได้นั้น ก็ต้องอาศัยเรื่อง "ทัศนคติ" ปรับความคิด จูนตัวเราให้ได้ก่อนนั่นเอง
และนั่นคือหัวใจของหนังเรื่องนี้
หนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่เพียงตำราคู่มือสอนเลี้ยงมังกร แต่มันคือคู่มือสอนหัวใจเราดีๆเลยทีเดียว เผื่อว่ามันอาจเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนทัศนคติและปลุกความกล้าหาญในตัวเราขึ้นมาได้
และนอกจากนั้น ตัวละครอย่างฮิคอัพก็มักจะเป็นคนที่พยายาม กัดไม่ปล่อย ถ้าสู้ก็ต้องลุยให้ถึงที่สุด ให้รู้ผลไปข้างนึง และนั่นคือหนทางของผู้ที่จะประสบความสำเร็จ
เพราะไม่ใช่ทุกครั้งที่เราลุยและเราอาจได้ชัยชนะ
แต่ไม่มีชัยชนะครั้งไหน ที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่เริ่มลุยลงมือทำอะไรเลย
นี่คือข้อคิดดีๆส่วนนึงจากหลายๆส่วนที่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เติมเต็มให้กับผม บนความสนุก ความโลดโผนประหนึ่งว่าเราบินโลดแล่นบนท้องฟ้า โดยไม่รู้สึกเบื่อ และซาบซึ้งกินใจในประเด็นเพื่อน มิตรภาพ คนรัก ครอบครัว แถมดนตรีประกอบก็ยังเพราะไม่แพ้ภาคแรก และไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือมังกร หากเราเปิดใจด้วยทัศนคติที่ดี เราทุกคนล้วนสามารถเติมพลังให้แก่กัน.
ปล.ภาคนี้สำหรับผมอาจไม่เป็นตำนานเท่าภาคแรก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมว่าอย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกคิดถึงบรรยากาศดีๆในหนังเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างจับใจ
สุดท้ายนอกเรื่องหน่อย ขอฝากตัวอย่างและเบื้องหลังของหนังสั้นธีสิสที่มีโอกาสได้ทำกับเพื่อนๆและกำลังจะออนไลน์ในยูทูปเร็วๆนี้
ชื่อเรื่องว่า "แพรว" เป็นหนังสั้นที่สร้างโดยได้แรงบันดาลใจบางส่วนจากเรื่องจริงกรณีที่ไฮโซหญิงนามหนึ่งขับรถชนคนเสียชีวิตครับ แต่ย้ำว่าได้แค่แรงบันดาลใจบางส่วนนะครับ จะเป็นเรื่องที่แต่งใหม่ขึ้นเองพอสมควร ไม่ใช่หนังชีวประวัติใคร และเป็นการตีความที่ไม่พาดพิงใครให้เสียหายครับ
ถ้าสนใจลองติดตามรายละเอียดได้ในเพจและรูปด้านล่างน่ะครับ
มีตัวอย่าง"How to train your dragon"มาให้ชมครับ
ทิ้งท้ายไว้เผื่อใครชอบฟัง ดนตรีเพราะๆจากหนัง ขอจัดให้เต็มๆเรื่องเลยครับ เรื่องนี้ดนตรีมีส่วนเสริมให้หนังดูเจ๋งขึ้นมาได้มากเลยครับ
ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ
แนะนำหนังดีต้องบอกต่อ..How to train your dragon 2 หนึ่งในหนังอนิเมชั่นยอดเยี่ยมในปีนี้ [ความเห็นหลังชม ไม่สปอยส์]
No.26
จั่วหัว : ภาคต่อของสุดยอดมหากาฬหนังอนิเมชั่นที่เคยทำมาตรฐานไว้สูงลิ่วในภาคแรก ภาคนี้ก็สามารถทำได้ยอดเยี่ยมแทบไม่ต่างกัน สนุก ซึ้ง กินใจ คุ้มค่ามากๆกับการที่ได้ดู
How to train your dragon 2 : อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 2
คมนิด จี๊ดเลย : หากเราเชื่อว่าตัวตนของเราจะเป็นอย่างไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น
Napat's Rating : (A) , 9.5 /10
Update เรื่องหนัง ทันใจ คลิ๊กLIKE!! : https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -
จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้ : นี่เป็นการกลับมาอีกครั้งของอนิเมชั่นที่หลายๆคนคงคิดถึงเหมือนกับผม รวมถึงตัวละครอย่างเจ้าฮิคอัพ ผู้ซึ่งเคยเป็นเด็กขี้แพ้ที่ผันตัวเองกลายมาเป็นฮีโร่ประจำหมู่บ้าน และเจ้าเขี้ยวกุด มังกรเพลิงนิลแสนซุกซน
สำหรับภาคนี้การดำเนินเรื่องก็จะเป็นการเล่าเรื่องต่อจากภาคที่แล้ว ว่าด้วยเรื่องการค้นพบดินแดนใหม่ ตัวละครใหม่ ทั้งมิตรและศัตรู และได้พบกับความลับของมังกรและครอบครัวของตัวฮิคอัพเองด้วย
หนังกล้าเล่าเรื่องในแบบที่อนิเมชั่นแนวนี้มักไม่ค่อยกล้าได้กล้าเสียซะเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้สามารถมีฉากที่กล้าเล่นกับความดราม่าในตัวละครทั้งๆที่เป็นอนิเมชั่น ทำให้ตัวเอกต้องตัดสินใจ และเรียนรู้ว่าความผิดชอบชั่วดีที่แท้จริงนั้นมันเป็นอย่างไร
ถ้าหากว่าเราตกอยู่ภายใต้การครอบงำของอิทธิพลของความชั่ว เราก็พลอยต้องกลายเป็นผู้ที่อยู่ภายใต้อำนาจมืดเหล่านั้นไปด้วย
นอกเสียจากว่า เราจะมีจิตใจที่เข้มแข็งพอที่จะเลือกและตัดสินใจทางเดินชีวิตให้กับตัวเราเอง เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเป็น และเราก็จะกลายเป็นคนในแบบที่เราเชื่อได้ จนมันจะนำพาเราไปสู่การต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อความดีงามและสันติภาพที่ควรจะเกิด
ซึ่งในบางครั้งเราก็อาจรู้สึกสับสนหรือหลงทาง แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่หล่นหายไป มันอาจซ่อนอยู่ในตัวเราเองก็ได้ นั่นคือ "ความกล้าหาญ" ที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองและของผู้อื่น ซึ่งการที่จะปลุกความกล้าในตัวเราขึ้นมาได้นั้น ก็ต้องอาศัยเรื่อง "ทัศนคติ" ปรับความคิด จูนตัวเราให้ได้ก่อนนั่นเอง
และนั่นคือหัวใจของหนังเรื่องนี้
หนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่เพียงตำราคู่มือสอนเลี้ยงมังกร แต่มันคือคู่มือสอนหัวใจเราดีๆเลยทีเดียว เผื่อว่ามันอาจเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนทัศนคติและปลุกความกล้าหาญในตัวเราขึ้นมาได้
และนอกจากนั้น ตัวละครอย่างฮิคอัพก็มักจะเป็นคนที่พยายาม กัดไม่ปล่อย ถ้าสู้ก็ต้องลุยให้ถึงที่สุด ให้รู้ผลไปข้างนึง และนั่นคือหนทางของผู้ที่จะประสบความสำเร็จ
เพราะไม่ใช่ทุกครั้งที่เราลุยและเราอาจได้ชัยชนะ
แต่ไม่มีชัยชนะครั้งไหน ที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่เริ่มลุยลงมือทำอะไรเลย
นี่คือข้อคิดดีๆส่วนนึงจากหลายๆส่วนที่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เติมเต็มให้กับผม บนความสนุก ความโลดโผนประหนึ่งว่าเราบินโลดแล่นบนท้องฟ้า โดยไม่รู้สึกเบื่อ และซาบซึ้งกินใจในประเด็นเพื่อน มิตรภาพ คนรัก ครอบครัว แถมดนตรีประกอบก็ยังเพราะไม่แพ้ภาคแรก และไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือมังกร หากเราเปิดใจด้วยทัศนคติที่ดี เราทุกคนล้วนสามารถเติมพลังให้แก่กัน.
ปล.ภาคนี้สำหรับผมอาจไม่เป็นตำนานเท่าภาคแรก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมว่าอย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกคิดถึงบรรยากาศดีๆในหนังเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างจับใจ
สุดท้ายนอกเรื่องหน่อย ขอฝากตัวอย่างและเบื้องหลังของหนังสั้นธีสิสที่มีโอกาสได้ทำกับเพื่อนๆและกำลังจะออนไลน์ในยูทูปเร็วๆนี้
ชื่อเรื่องว่า "แพรว" เป็นหนังสั้นที่สร้างโดยได้แรงบันดาลใจบางส่วนจากเรื่องจริงกรณีที่ไฮโซหญิงนามหนึ่งขับรถชนคนเสียชีวิตครับ แต่ย้ำว่าได้แค่แรงบันดาลใจบางส่วนนะครับ จะเป็นเรื่องที่แต่งใหม่ขึ้นเองพอสมควร ไม่ใช่หนังชีวประวัติใคร และเป็นการตีความที่ไม่พาดพิงใครให้เสียหายครับ
ถ้าสนใจลองติดตามรายละเอียดได้ในเพจและรูปด้านล่างน่ะครับ
มีตัวอย่าง"How to train your dragon"มาให้ชมครับ
ทิ้งท้ายไว้เผื่อใครชอบฟัง ดนตรีเพราะๆจากหนัง ขอจัดให้เต็มๆเรื่องเลยครับ เรื่องนี้ดนตรีมีส่วนเสริมให้หนังดูเจ๋งขึ้นมาได้มากเลยครับ
ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ