กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งใจจะล่อเป้า แต่ผมเองอยากรู้จริงๆว่า หนังของ M39 มันเปลี่ยวมากเนี่ย เค้าต้องการสื่ออะไรสักอย่างเพื่อสะท้อนสังคมใช่ปะครับ
ใครที่ไปดูมาแล้วช่วยมาถกประเด็นกับผมหน่อยเถอะว่า มันเปลี่ยวมากเนี่ย สรุปว่าเค้าสะท้อนสังคมและการเมืองไทยยังไงบ้างครับ คือเรื่องการเมืองผมไม่ค่อยถนัด แต่คิดในแบบของผมเอง
ถ้าข้อมูลด้านล่างที่ผมจะเขียนเนี่ยมันผิด ต้องขออภัยนะครับ เป็นความคิดส่วนตัวผมเองล้วนๆ
ตอนแรก ผี GPS เนื้อเรื่องออกแนวผีปนตลก ผมคิดว่าผู้กำกับเค้าอยากจะบอกว่า คนเราทุกวันนี้ อะไรก็เพิ่งพาเทคโนโลยี สิ่งที่เห็นชัดสุดคือไอ่เครื่อง GPS เนี่ยล่ะครับ คือมันจะหลอกเราไปทางไหนก็ได้ ใครๆก็เชื่อมันหมด คุณว่าจริงมั้ย? คลับคล้ายคลับคลาว่าไอ่เจ้าเครื่อง GPS เนี่ยล่ะ ก็เหมือนกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค ฟังแล้ว อ่านแล้ว ก็อย่าเพิ่งเชื่อ อย่าเพิ่งแชร์ไป คิดก่อนแชร์ ก่อนเชื่อนะครับ ผลกระทบมันจะเกิด
ตอนสอง ผีจ่าเฉยกับม้าลาย อันนี้ผมไม่รู้จริงๆครับว่าผู้กำกับเค้าพยายามจะสื่ออะไร คือมันเป็นพล็อตที่งงมาก แปลกมาก และแนวมาก ใครดูแล้วเข้าใจแก่นของเรื่องนี้บ้าง ช่วยชี้แนะหน่อยครับ ว่าผีจ่าเฉยตอนสองเนี่ย เค้าแฝงอะไร แต่หลายๆคำมันชวนให้ติดใจจริงๆ รู้แหละว่ามีอะไรแน่ๆแต่ยอมรับตรงๆว่าคิดไม่ออก 5555
ตอนสามผีตุ๊กตาจีน ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกมั้ย ผมแค่คิดว่า คนไทยนี่นับวันเหมือนคนจีนเข้าไปทุกที ปลอมของ เอามาหลอกขายกันซึ่งๆหน้า และนับวัน มีของปลอมหมายเลข 1 ก็จะมีของปลอมหมายเลข 2,3,4,5,… ไปเรื่อยๆ แต่ประเด็นเรื่องการเกินมาของตุ๊กตาโดยไม่รู้ตัว กระทั่งคนดูยังคิดไม่ทัน อันนี้น่าจะมีประเด็น ผมอาจไม่เก็ทความหมายแฝงของอันนี้ แต่ชอบไอเดีย หลอกให้คิดตาม มึนแต่มันส์
ตอนสี่ ผีศาลเจ้าที่ สิ่งแรกที่ผมคิดคือ เห้ย คิดได้ไงอ่ะ” ศาล” กลายเป็นผี คือแหวกแนวผี แปลกและเจ็บแสบอย่างถึงที่สุด ซึ่งมันน่าจะสะท้อนอะไรได้ชัดทีเดียว แต่มองอีกมุมนึงผมคิดถึงความเชื่อของคนไทย ที่ชอบไหว้หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะทำอะไรแต่ละที (โดยเฉพาะทำชั่ว) ก็จะกลัวความผิด เห็นอะไรก็หลอนไปหมด เพราะความคิดที่ตัวเองทำนี่ล่ะ ที่สำคัญ ตอนสุดท้ายเนี่ย เอาพล็อตเรื่องสามเรื่องแรกมารวมกัน ทั้งผีจ่าเฉย ผี GPS ผีตุ๊กตา ไม่อยากจะเฉลยตอนนี้มาก อยากให้ไปจูนเจอกันเองในโรงว่ามันคืออะไร เด๋วไม่หนุก
ดูผ่านๆ ผมว่าเหมือนหนังไทย ตลก เบาสาระทั่วไป แต่มันเปลี่ยวมากนี่แฝงแมสเสจได้เจ็บแสบ สะท้อนค่านิยมและสภาพการณ์เมืองไทยได้ดีเลยทีเดียว ออกแนวตลกร้าย ที่ฉาบแฝงเคลือบด้วยความตลก ผมนับถือใจผู้จัดจริงๆครับที่ทำหนังออกมาไม่เหมือนใคร และคาดว่า มันเปลี่ยวมาก น่าจะเป็นหนังเรื่องแรกที่แปลก แหวก ฮา และดูไป เจ็บจี๊ดไป ไม่รับประกันว่าจะถูกใจทุกคน แต่ผมอยากให้ทุกคนไปลองดู เอาจริง!
มันเปลี่ยวมาก…ต้องการอะไรจากสังคมครับ
ใครที่ไปดูมาแล้วช่วยมาถกประเด็นกับผมหน่อยเถอะว่า มันเปลี่ยวมากเนี่ย สรุปว่าเค้าสะท้อนสังคมและการเมืองไทยยังไงบ้างครับ คือเรื่องการเมืองผมไม่ค่อยถนัด แต่คิดในแบบของผมเอง
ถ้าข้อมูลด้านล่างที่ผมจะเขียนเนี่ยมันผิด ต้องขออภัยนะครับ เป็นความคิดส่วนตัวผมเองล้วนๆ
ตอนแรก ผี GPS เนื้อเรื่องออกแนวผีปนตลก ผมคิดว่าผู้กำกับเค้าอยากจะบอกว่า คนเราทุกวันนี้ อะไรก็เพิ่งพาเทคโนโลยี สิ่งที่เห็นชัดสุดคือไอ่เครื่อง GPS เนี่ยล่ะครับ คือมันจะหลอกเราไปทางไหนก็ได้ ใครๆก็เชื่อมันหมด คุณว่าจริงมั้ย? คลับคล้ายคลับคลาว่าไอ่เจ้าเครื่อง GPS เนี่ยล่ะ ก็เหมือนกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค ฟังแล้ว อ่านแล้ว ก็อย่าเพิ่งเชื่อ อย่าเพิ่งแชร์ไป คิดก่อนแชร์ ก่อนเชื่อนะครับ ผลกระทบมันจะเกิด
ตอนสอง ผีจ่าเฉยกับม้าลาย อันนี้ผมไม่รู้จริงๆครับว่าผู้กำกับเค้าพยายามจะสื่ออะไร คือมันเป็นพล็อตที่งงมาก แปลกมาก และแนวมาก ใครดูแล้วเข้าใจแก่นของเรื่องนี้บ้าง ช่วยชี้แนะหน่อยครับ ว่าผีจ่าเฉยตอนสองเนี่ย เค้าแฝงอะไร แต่หลายๆคำมันชวนให้ติดใจจริงๆ รู้แหละว่ามีอะไรแน่ๆแต่ยอมรับตรงๆว่าคิดไม่ออก 5555
ตอนสามผีตุ๊กตาจีน ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกมั้ย ผมแค่คิดว่า คนไทยนี่นับวันเหมือนคนจีนเข้าไปทุกที ปลอมของ เอามาหลอกขายกันซึ่งๆหน้า และนับวัน มีของปลอมหมายเลข 1 ก็จะมีของปลอมหมายเลข 2,3,4,5,… ไปเรื่อยๆ แต่ประเด็นเรื่องการเกินมาของตุ๊กตาโดยไม่รู้ตัว กระทั่งคนดูยังคิดไม่ทัน อันนี้น่าจะมีประเด็น ผมอาจไม่เก็ทความหมายแฝงของอันนี้ แต่ชอบไอเดีย หลอกให้คิดตาม มึนแต่มันส์
ตอนสี่ ผีศาลเจ้าที่ สิ่งแรกที่ผมคิดคือ เห้ย คิดได้ไงอ่ะ” ศาล” กลายเป็นผี คือแหวกแนวผี แปลกและเจ็บแสบอย่างถึงที่สุด ซึ่งมันน่าจะสะท้อนอะไรได้ชัดทีเดียว แต่มองอีกมุมนึงผมคิดถึงความเชื่อของคนไทย ที่ชอบไหว้หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะทำอะไรแต่ละที (โดยเฉพาะทำชั่ว) ก็จะกลัวความผิด เห็นอะไรก็หลอนไปหมด เพราะความคิดที่ตัวเองทำนี่ล่ะ ที่สำคัญ ตอนสุดท้ายเนี่ย เอาพล็อตเรื่องสามเรื่องแรกมารวมกัน ทั้งผีจ่าเฉย ผี GPS ผีตุ๊กตา ไม่อยากจะเฉลยตอนนี้มาก อยากให้ไปจูนเจอกันเองในโรงว่ามันคืออะไร เด๋วไม่หนุก
ดูผ่านๆ ผมว่าเหมือนหนังไทย ตลก เบาสาระทั่วไป แต่มันเปลี่ยวมากนี่แฝงแมสเสจได้เจ็บแสบ สะท้อนค่านิยมและสภาพการณ์เมืองไทยได้ดีเลยทีเดียว ออกแนวตลกร้าย ที่ฉาบแฝงเคลือบด้วยความตลก ผมนับถือใจผู้จัดจริงๆครับที่ทำหนังออกมาไม่เหมือนใคร และคาดว่า มันเปลี่ยวมาก น่าจะเป็นหนังเรื่องแรกที่แปลก แหวก ฮา และดูไป เจ็บจี๊ดไป ไม่รับประกันว่าจะถูกใจทุกคน แต่ผมอยากให้ทุกคนไปลองดู เอาจริง!