เมื่อคืนวันอังคารที่ 3 มิ.ย. ประมาณทุ่มครึ่งไปว่ายน้ำที่ fitness center ของรพ.วิภารามพัฒนาการ (รพ.ในเครือรามคำแหง) ตามปกติ (เป็น member รายปีมาประมาณ 4 ปีแล้ว) ข้าวของก็เก็บอยู่ใน locker ในห้องน้ำแล้วก็วางกุญแจกับผ้าเช็คตัวที่เก้าอี้อาบแดดริมสระซึ่งทุกๆคนก็วางตรงนี้เพราะไม่สามารถพกลงไปว่ายน้ำด้วยกันได้
พอขึ้นจากสระประมาณ 2 ทุ่มครึ่งก็ขึ้นจากสระไปอาบน้ำ พอเปิดกระเป๋าที่อยู่ใน locker ก็รู้เลยว่าโดนค้น เพราะกระเป๋าตังค์มันหลุดออกมาจากถุงเล็กที่ใส่รวมกับโทรศัพท์และกุญแจรถ โทรศัพท์หายไป (iPhone รุ่น 4s) แต่อย่างอื่นยังอยู่ครบ เสื้อผ้าที่พกมาเปลี่ยนเปียกน้ำ แสดงว่าคนมารื้อต้องตัวเปียก (ก็คนว่าน้ำด้วยกันเนี่ยแหละ) จึงรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายไม่ได้เรื่องอะไร ไม่มีใครช่วยอะไรได้
วันรุ่งขึ้นก็ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ เพื่อเอาใบไปยื่นทางรพ.ขอตรวจสอบกล้อง cctv ที่ fitness center แต่ที่สระว่ายน้ำดันไม่มีกล้อง ด้านในส่วนออกกำลังกายก็ไม่มี ส่วน locker ในห้องน้ำก็ติดไม่ได้เหมือนกัน นางหัวขโมยมันก็รู้อยู่แล้วมันถึงได้ทำ และมันจะยิ่งย่ามใจถ้าทำแล้วไม่โดนจับ มีโอกาสคงจะทำอีก ภัยสังคมจริงๆ
ผ่านมาแล้วเกือบ 2 อาทิตย์ ทางรพ.ไม่มีความรับผิดชอบอะไรมาเลย โทรมาขอโทษก็ไม่มี ส่งใบร้องเรียนไปก็เงียบ อย่าคิดว่า fitness center ไม่ใช่ธุรกิจหลักของรพ.แล้วจะทำเนียนๆไม่รับผิดชอบ ปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเอง คอยดูละกันว่าผู้บริโภคที่ถูกเอารัดเอาเปรียบคนนึงจะทำอะไรได้บ้าง ถ้าอยากดังเดี๋ยวจัดให้.... ความผิดครั้งนี้อยู่ที่ทางรพ.เต็มๆ ไม่ใช่ว่าวางข้าวของซี๊ซั๊วล่อตาโจร เก็บใน locker ล็อคกุญแจอย่างดีก็ยังถูกขโมยไปได้
เช้านี้ไปเล่นอีกครั้งถึงกะอึ้งเพราะเจอป้ายติดอยู่หน้าห้องน้ำให้ได้หงุดหงิดจนได้ เพราะป้ายมันเขียนว่า "โปรดระมัดระวังทรัพย์สิน ทางรพ.จะไม่รับผิดชอบหากสูญหาย" สุดท้ายก็ไม่พ้นไม่รับผิดชอบอีกจนได้ สุดๆอะ ก็คิดได้แค่นี้เนอะ
สุดท้ายคงต้องระวังตัวเองเพราะจะพึ่งพาหรือไว้ใจใครไม่ได้ ถามจนท. fitness ให้กลับไปคิดเป็นการบ้านว่า ต่อไปถ้าว่ายน้ำจะให้เก็บกุญแจ locker ไว้ที่ไหน? หรือให้อมไว้ในปากไม๊????
ความปลอดภัยใน fitness center
พอขึ้นจากสระประมาณ 2 ทุ่มครึ่งก็ขึ้นจากสระไปอาบน้ำ พอเปิดกระเป๋าที่อยู่ใน locker ก็รู้เลยว่าโดนค้น เพราะกระเป๋าตังค์มันหลุดออกมาจากถุงเล็กที่ใส่รวมกับโทรศัพท์และกุญแจรถ โทรศัพท์หายไป (iPhone รุ่น 4s) แต่อย่างอื่นยังอยู่ครบ เสื้อผ้าที่พกมาเปลี่ยนเปียกน้ำ แสดงว่าคนมารื้อต้องตัวเปียก (ก็คนว่าน้ำด้วยกันเนี่ยแหละ) จึงรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายไม่ได้เรื่องอะไร ไม่มีใครช่วยอะไรได้
วันรุ่งขึ้นก็ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ เพื่อเอาใบไปยื่นทางรพ.ขอตรวจสอบกล้อง cctv ที่ fitness center แต่ที่สระว่ายน้ำดันไม่มีกล้อง ด้านในส่วนออกกำลังกายก็ไม่มี ส่วน locker ในห้องน้ำก็ติดไม่ได้เหมือนกัน นางหัวขโมยมันก็รู้อยู่แล้วมันถึงได้ทำ และมันจะยิ่งย่ามใจถ้าทำแล้วไม่โดนจับ มีโอกาสคงจะทำอีก ภัยสังคมจริงๆ
ผ่านมาแล้วเกือบ 2 อาทิตย์ ทางรพ.ไม่มีความรับผิดชอบอะไรมาเลย โทรมาขอโทษก็ไม่มี ส่งใบร้องเรียนไปก็เงียบ อย่าคิดว่า fitness center ไม่ใช่ธุรกิจหลักของรพ.แล้วจะทำเนียนๆไม่รับผิดชอบ ปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเอง คอยดูละกันว่าผู้บริโภคที่ถูกเอารัดเอาเปรียบคนนึงจะทำอะไรได้บ้าง ถ้าอยากดังเดี๋ยวจัดให้.... ความผิดครั้งนี้อยู่ที่ทางรพ.เต็มๆ ไม่ใช่ว่าวางข้าวของซี๊ซั๊วล่อตาโจร เก็บใน locker ล็อคกุญแจอย่างดีก็ยังถูกขโมยไปได้
เช้านี้ไปเล่นอีกครั้งถึงกะอึ้งเพราะเจอป้ายติดอยู่หน้าห้องน้ำให้ได้หงุดหงิดจนได้ เพราะป้ายมันเขียนว่า "โปรดระมัดระวังทรัพย์สิน ทางรพ.จะไม่รับผิดชอบหากสูญหาย" สุดท้ายก็ไม่พ้นไม่รับผิดชอบอีกจนได้ สุดๆอะ ก็คิดได้แค่นี้เนอะ
สุดท้ายคงต้องระวังตัวเองเพราะจะพึ่งพาหรือไว้ใจใครไม่ได้ ถามจนท. fitness ให้กลับไปคิดเป็นการบ้านว่า ต่อไปถ้าว่ายน้ำจะให้เก็บกุญแจ locker ไว้ที่ไหน? หรือให้อมไว้ในปากไม๊????