สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
นมัสการพระคุณเจ้า..
อ่านเนื้อหากระทู้ด้วยความเข้าใจและเห็นใจอย่างยิ่ง
โยมเองก็ไม่ใคร่ทราบพระวินัยของพระภิกษุนะคะ
ความเห็นต่อไปนี้จึงเป็นเพียงความเห็นจากฆราวาสคนหนึ่งที่พยายามตั้งใจรักษาศีลห้าเท่านั้น
เข้าใจว่าพระคุณเจ้าบวชครั้งนี้เพื่อตั้งใจศึกษาหลักธรรมที่ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่เมื่อกุศลหรือวิบากกรรมก็ตามนำพามาให้ท่านได้บรรพชา ณ วัดซึ่งมีบรรยากาศการสอนธรรมเช่นนี้
และความที่พระคุณเจ้าเป็นภิกษุใหม่ การจะออกไปจำพรรษา ณ ที่อื่นใดก็คงจะยังมิได้
ดังนั้น เพื่อให้การบวชของท่านบรรลุความตั้งใจตามกำลังศรัทธา..
โยมจึงคิดว่าท่านอาจต้องฝึกแยกกายกับใจด้วยตนเอง ซึ่งโยมเชื่อว่าท่านน่าจะพอมีฐานอยู่บ้าง
เมื่อแยกได้แล้ว..ทางกายก็คล้อยตามกิจวัตรของสงฆ์ภายในวัดนั้นไป
ซึ่งเป็นบรรทัดฐานปกติของการอยู่ร่วมกันในสังคมใดๆ เพื่อให้เป็นไปด้วยดีจนกว่าจะออกพรรษา
ส่วนทางใจ..ก็คอยสังเกตตามรู้ไปเมื่อใจแว่บหนีออกไปจากกิจวัตรนั้นๆ
จนใจของท่านอยู่กับรู้..
ไม่สำคัญว่าการรู้นั้นจะรู้อะไร น่าพึงใจหรือไม่ เพียงแค่รู้ใจไปตามธรรมชาติที่มันเป็น
ด้วยวิธีนี้ โยมเชื่อว่าท่านน่าจะภาวนาได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ยากยิ่งเช่นนั้น
หากทางวัดไม่ห้ามการสื่อสารเข้มงวดนัก
ท่านอาจศึกษาแนวทางธรรมของครูบาอาจารย์ท่านที่มั่นใจแล้วว่าสอนตรงทางเพิ่มเติม
ส่วนการสวดถามแนวทางของทางวัด-ก็ใช้เป็นเครื่องอยู่สำหรับคอยรู้ใจไป..
อนึ่ง โยมกราบขอขมาพระคุณเจ้าที่ใคร่จะขอร้องท่านว่า..
..การตอบคำถามใดๆ ต่อท่านเจ้าอาวาสหรือใครก็ตาม ขอได้โปรดใช้อุบายหลีกเลี่ยงการมุสา
..ใจจะชอบ-ไม่ชอบการใดในวัด ขอท่านโปรดตามรู้ไปด้วยจิตที่เป็นกลาง ไม่เพ่งโทษเขา
กราบขอขมาอีกครั้งนะคะ
สำหรับข้อแนะนำจากโยมที่อาจสร้างความระคายใจแก่พระคุณเจ้าได้
และ..โยมกราบอนุโมทนาสำหรับอาอุปสมบทของท่านครั้งนี้ด้วยค่ะ
อ่านเนื้อหากระทู้ด้วยความเข้าใจและเห็นใจอย่างยิ่ง
โยมเองก็ไม่ใคร่ทราบพระวินัยของพระภิกษุนะคะ
ความเห็นต่อไปนี้จึงเป็นเพียงความเห็นจากฆราวาสคนหนึ่งที่พยายามตั้งใจรักษาศีลห้าเท่านั้น
เข้าใจว่าพระคุณเจ้าบวชครั้งนี้เพื่อตั้งใจศึกษาหลักธรรมที่ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่เมื่อกุศลหรือวิบากกรรมก็ตามนำพามาให้ท่านได้บรรพชา ณ วัดซึ่งมีบรรยากาศการสอนธรรมเช่นนี้
และความที่พระคุณเจ้าเป็นภิกษุใหม่ การจะออกไปจำพรรษา ณ ที่อื่นใดก็คงจะยังมิได้
ดังนั้น เพื่อให้การบวชของท่านบรรลุความตั้งใจตามกำลังศรัทธา..
โยมจึงคิดว่าท่านอาจต้องฝึกแยกกายกับใจด้วยตนเอง ซึ่งโยมเชื่อว่าท่านน่าจะพอมีฐานอยู่บ้าง
เมื่อแยกได้แล้ว..ทางกายก็คล้อยตามกิจวัตรของสงฆ์ภายในวัดนั้นไป
ซึ่งเป็นบรรทัดฐานปกติของการอยู่ร่วมกันในสังคมใดๆ เพื่อให้เป็นไปด้วยดีจนกว่าจะออกพรรษา
ส่วนทางใจ..ก็คอยสังเกตตามรู้ไปเมื่อใจแว่บหนีออกไปจากกิจวัตรนั้นๆ
จนใจของท่านอยู่กับรู้..
ไม่สำคัญว่าการรู้นั้นจะรู้อะไร น่าพึงใจหรือไม่ เพียงแค่รู้ใจไปตามธรรมชาติที่มันเป็น
ด้วยวิธีนี้ โยมเชื่อว่าท่านน่าจะภาวนาได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ยากยิ่งเช่นนั้น
หากทางวัดไม่ห้ามการสื่อสารเข้มงวดนัก
ท่านอาจศึกษาแนวทางธรรมของครูบาอาจารย์ท่านที่มั่นใจแล้วว่าสอนตรงทางเพิ่มเติม
ส่วนการสวดถามแนวทางของทางวัด-ก็ใช้เป็นเครื่องอยู่สำหรับคอยรู้ใจไป..
อนึ่ง โยมกราบขอขมาพระคุณเจ้าที่ใคร่จะขอร้องท่านว่า..
..การตอบคำถามใดๆ ต่อท่านเจ้าอาวาสหรือใครก็ตาม ขอได้โปรดใช้อุบายหลีกเลี่ยงการมุสา
..ใจจะชอบ-ไม่ชอบการใดในวัด ขอท่านโปรดตามรู้ไปด้วยจิตที่เป็นกลาง ไม่เพ่งโทษเขา
กราบขอขมาอีกครั้งนะคะ
สำหรับข้อแนะนำจากโยมที่อาจสร้างความระคายใจแก่พระคุณเจ้าได้
และ..โยมกราบอนุโมทนาสำหรับอาอุปสมบทของท่านครั้งนี้ด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
อาตมากำลังตกที่นั่งลำบาก หลังบวชได้เพียง 1 วัน
เรื่อง มันเป็นอย่างนี้ โยม..
ที่วัดที่อาตมาบวชเนี่ย มีพระอยู่แล้ว 4 รูป อยู่ร่วมกัน รวมอาตมาที่เพิ่งอุปสมบทเข้ามา เมื่อวาน ก็เป็น 5 พอดี
พระทุกรูปในนี้ อาตมารู้จักหมดทุกรูป เพราะโยมแม่ของอาตมา เป็นคนแนะนำให้รู้จัก เพราะท่านสนิทกับเจ้าอาวาสวัดนี้เป็นพิเศษ (วัดอยู่หน้าบ้าน)
ด้วยความที่อาตมาต้องอยู่กุฏิเดียวกับ หลวงพ่อรูปนึง ผิวพรรณท่านค่อนข้างดี หุ่นอ้วนท้วมสมบูรณ์ ดูเป็นพระที่มีความน่าศรัทธาเลื่อมใสยิ่ง อาตมาก็เลยไปขอร้องท่านให้ช่วยสอนการห่มจีวร (เย็นหลังบวชเสร็จ) ท่านก็ช่วยสอนอย่างใจเย็น ทำให้อาตมารู้สึกสบายใจ ที่ต่อไปเวลาจะปรึกษาใคร อาตมาก็จะได้รู้ว่าควรจะปรึกษาใครได้ (เรื่องการห่มจีวรนี่ล่ะโยม)
เช้าวันนี้ ก่อนบิณฑบาตร อาตมาก็ขึ้นไปหาหลวงพ่อ พร้อมขอคำนะนำการสวมจีวร แบบที่จะใช้ในการทำวัตรเช้า และเดินบิฑบาตร ท่านก็ไม่ขัดศรัทธาอาตมา พร้อมทั้งเอ้ยปาก ชวนอาตมาเดินตามท่าน เพราะอาตมายังเป็นพระใหม่อยู่ ตรงนี้อาตมารู้สึกไม่กังวลอีกต่อไป เพราะอาตมายังท่องบทสวดได้ไม่ค่อยแม่นนั่นเอง
หลังเดินบิณฑบาตรเสร็จ หลวงตาชวนอาตมา ฉันข้าวเช้าด้วย ซึ่งท่าน เกริ่นเรื่องการนั่งทำสมาธิมาอยู่เนืองๆ ด้วยความที่อาตมาก็อยากลองฝึกตนเองดู อาตมาจึงรับปากคำชวนของหลวงตาที่ว่า มานั่งทำสมาธิในห้องหลวงตานะ เช้านี้
ในช่วงระหว่างทำสมาธิ อาตมารู้สึกแปลกๆ เพราะท่านนำโทรศัพท์ของท่าน อัดเสียงผู้นำสมาธิ ว่าให้เพ่งจิตไปที่ท้องหรืออะไรสักอย่าง ขัดกับสิ่งที่อาตมาเคยได้ศึกษามาโดยสิ้นเชิง การทำสมาธิเป็นไปอย่างเรียบร้อย ท่านเอ่ยปากว่า โยมเอาโทรศัพท์เครื่องนี้ไปเปิดทำสมาธิเองนะตอนเช้า พร้อมทั้งให้หนังสือ อาตมา มา 1 เล่ม เอาไว้อ่านศึกษาว่า พระสงฆ์เหล่านี้ ตัดสินใจบวชเพราะเหตุใด และมีข้อมูลการทำสมาธิด้วย (เนื้อหาภายในเล่มเหมือนจดหมายที่เขียนถึงศาสดา และศาสดาตอบคำถามคั่นระหว่างบท แบบกวนๆ ใช้ภาษาธรรมดา)
อาตมารู้สึกช๊อคเล็กน้อย เมื่อพลิกหนังสือไปปกหลัง และเห็นโลโก้นี้ ปรากฏเด่นเป็นสง่า
อาตมาคิดว่า ไม่เป็นอะไรหรอก อย่างน้อยคงมีแค่เรื่องทำสมาธินี้ล่ะมั้ง ที่ทำให้หนักใจ
แต่ทว่า
.
.
.
ตอนบ่าย อาตมากำลังเข้ากุฏิ อาตมาก็ได้พบกับท่าน หลวงพ่อ หน้าบันได ท่านเชิญอาตมาไปทำวัตรเย็น โดยยืนสมุดสวดเล่มสีน้ำเงินให้อาตมา (อาตมาชิบเล่มนี้มาก เพราะว่าไม่ต้องเปิดหน้าไปๆมาๆ แบบเล่มเล็กสีเหลืง -มนต์พิธี-) อาตมาก็นั่งสวดไปสักพัก เกือบจะถึงบทสุดท้ายแล้ว มีการขับร้องทํานองสรภัญญะ อาตมารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ว่าตามหลักแล้ว ต้องมีด้วยเหรอ เนื้อหาในบทแปลกๆ มี Suffix -กาย บ่อยมาก จนอาตมาอาศัยช่วงเป็นหน้า พลิกดูหลังเล่ม พบว่า เป็นโลโก้สีแดง มีจานบินสีเหลือง อยู่กลางโลโก้นั้น
ระหว่างนั้นเอง ท่านก็พูดขึ้นมาว่า อันนี้เป็นบทสวดสรรเสริญพระมงคลเทพมุนี ที่อยู่ในรูปปฏิทินนี้ องค์นี้นะ ทำจากทอง 1 ตัน สร้างไว้ 7 องค์ หรืออะไรสักอย่างนี่ล่ะ อาตมาจำไม่ได้ แต่ว่าขนลุกมาก โยมเชื่อไหม ว่าอาตมารู้สึกแบบนั้นจริงๆ บทสรรเสริญต่อไป อาตมาแทบจะไม่ได้สวดเลย หลังจากรู้แล้ว ว่าอะไรคืออะไร
มีอีกอย่างนึง อาตมาบอกท่านว่าขอยืมโทรศัพท์ท่านไป เพื่อจะเอาแค่ไฟล์เสียงนี้ไปใส่โทรศัพท์เท่านั้น อาตมาไม่เอาโทรศัพท์ท่านไปเลยหรอกอาตมาจะเอาขึ้นมาคืนหลังจากเสร็จแล้ว (อาตมาคิดว่า นี่เป็นการแยกตัวออกจากท่านได้แนบเนียนที่สุด) แต่แล้ว ตอนทำวัตรเย็นเสร็จ ท่านชวนอาตมาทำสมาธิอีกรอบ พร้อมบอกว่าไหนลองเอาโทรศัพท์โยมเปิดไฟล์นั้นดูสิ เผื่อเสียงมันจะดัง อาตมาขนลุกอีกรอบ เพราะโทรศัพท์อาตมา (iPhone) ไม่สามารถรับไฟล์จากใครได้เลย ยิ่ง .amr ที่จะเอามาแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้ ตอนนั้นอาตมาคิดในใจว่า ' เอายังไงดี??? ' อาตมาเลยตอบท่านไปว่า อาตมาส่งเข้าทาง E-mail แล้ว แต่ยังไม่ได้ดึงออกมา เลยทำให้รอดมาได้ (โทรศัพท์หลวงตาไม่มีซิม...)
ตอนนี้อาตมารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่อาตมาต้องการมาศึกษา อาตมาต้องการศึกษาพระธรรมตามแบบปกติ อาตมาไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี ?