เพิ่งเคยรีวิวครั้งแรกนะคะ ผิดพลาดอะไรยังไงขออภัยด้วย
เชื่อว่าหลายคนตอนนี้มองข้ามเรื่องนี้อยู่จริงๆ เพราะกระแสขุ่นแม่มาแรงมากกกก
วันนี้เลยอยากมารีวิวหนังดีๆบทเจ๋งๆภาพสวยไม่แพ้ขุ่นแม่เหมือนกัน
ที่สำคัญเลยคือดูได้ทุกเพศทุกวัย ใครตราหน้าว่าเรื่องนี้เป็นการ์ตูนเด็กๆหน่อมแหน่ม ขอให้ลองไปดูก่อนนะคะ หึๆ
Review "How To Train Your Dragon 2"
ให้ 9.8 /10 เอาไปเลย สนุกมากๆ สนุกจนไม่รู้จะอวยยังไง
----- Maybe it's a mother of all animated sequels. -----
เท่าที่สังเกต เชื่อว่าส่วนใหญ่ใครที่เป็น FC เขี้ยวกุดนี่น่าจะมาจากการว่างๆไม่มีไรทำ เลยหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดู(เราก็เคยเป็น1ในนั้น)
แล้วก็ได้พบว่า "เฮ้ย! นี่เราพลาดอะไรดีๆขนาดนี้ไปได้ยังไง!!" เพราะฉะนั้นใครยังไม่ได้ดูภาคแรกรีบไปจัดมาก่อนเลย เชียร์สุดๆ
และด้วยความที่ภาคแรกมันยอดเยี่ยมมากนี่แหละทำให้ภาค 2 ค่อนข้างเป็นที่จับตามองเลยทีเดียว
กระแสคะแนนวิจารณ์ที่อเมริกาก็ไม่ใช่เล่นๆเลยนะเรื่องนี้
IMDb - 8.8/10
Rottentomatoes 96% (คะแนนสูงสุดของหนังซัมเมอร์นี้)
จากที่เราไปดูมา 2 รอบ พูดได้เลยว่าภาคต่อภาคนี้ทำมาได้ยอดเยี่ยมมาก
โดยส่วนตัว เท่าที่ดูอนิเมชั่นมา พวกที่ภาคแรกทำไว้ดีเยี่ยมส่วนใหญ่จะโดนอาถรรพ์ภาค2 (คือความสนุกจะดรอปลงมา) ยกตัวอย่าง
toy story ดีแค่1กับ3 ภาค2นี่คืออัลไล
lion king ภาคแรกเริ่ดเว่อ แต่ภาค2 เอิ่มม
แต่กับ HTTYD2 จะบอกว่าดีกรีความสนุก ความมันส์ ความเท่ ความมุ้งมิ้ง(?) ความเศร้า การสูญเสีย คือทุกอย่างอ่ะ ไม่ได้ลดลงไปเลย กลับกันอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ และภาคนี้คือจัดเต็มมากจ้าาา ได้ feeling มาเยอะมากกก //ภาคที่แล้วเน้น feel good
-- บทเรื่อง --
ภาคนี้จะมาแนวเข้มข้น ซีเรียส และดราม่าหนักกว่าเดิม มันจะไม่ใช่หนังเจ้าเด็กขี้ก้างฝึกมังกรบินเสริมสร้างมิตรภาพดีๆแล้ว ใครว่าภาคที่แล้วดราม่า มาเจอภาคนี้คือจอดค่ะ สเกลเรื่องและความอลังจะใหญ่ขึ้น ตามอายุที่โตขึ้นของตัวละคร แน่นอนว่าหนังจะต้องผู้ใหญ่ขึ้น บทพูดจะเยอะ เด็กๆดูอาจจะมีหาว แต่ผกก.เค้าก็ยังคุมเรื่องอยู่ได้โดยที่ความสนุกไม่ตก บางช่วงที่มันแอบเอื่อยเพราะใส่ปมเข้ามา เค้าก็จะใส่มุกนิดๆหน่อยๆเข้าไปเล่นด้วย เพื่อสร้างสีสันให้กับเรื่อง พวกมุกมังกรทำตัวน่ารักๆอยู่เป็น BG ข้างหลังตอนคนคุยกันนี่แย่งซีนได้มาก คนไปขำมังกรข้างหลังมากกว่าดูคนคุยกันอีก 55 และด้วยเวลาประมาน1ชมครึ่งตามมาตรฐานอนิเมชั่นทั่วไป เราขอชมผกก.อีกครั้งว่าคุณทำได้เยี่ยมจริงๆ กระชับเรื่องให้เข้มข้นน่าติดตามไม่มีการยืดเยื้อได้ตั้งแต่ต้นยันจบ คือมัน amaze มากนี่พูดเลย
-- การดำเนินเรื่อง --
อย่างที่บอก หนังเล่าเรื่องได้กระชับดีมาก ไม่เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระเลย คือสำคัญและน่าติดตามทุกฉาก แต่ล่ะฉากก็มีความสำคัญในตัวเอง ถ้าขาดฉากนี้ไปหนังก็จะไม่สมบูรณ์ แต่ที่น่าเสียดายสำหรับภาคนี้คือมันไม่มีฉากที่สร้างอิมแพคให้เราได้เท่าภาคแรก ที่ชอบสุดก็คงแค่ซีนที่ฮิคคัพไปบินเล่นกับแม่อ่ะ (Flying with mother) คงเพราะมันไม่ทีบทพูดมาก แต่ใช้scoreเพลงเอา เลยทำให้มันดูมีพลังสุดๆแถมเป็นการโชว์สกิลมังกรของขุ่นแม่มันอีกต่างหาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ส่วนภาคแรกมีทำให้เราอิมแพคอยู่3ฉาก และแต่ล่ะฉากมันไม่ได้มีบทพูดเลย! ใช้ score เพลงเล่นเอาตามที่พูดไปข้างบน
1.Forbidden Friendship - best scene ของภาค1 ฉากที่เริ่มมิตรภาพฮิคคัพกับเขี้ยวกุด
2.Test Drive - ฉากที่ใช้เป็น Theme Song ของเรื่องนี้ เป็นช่วงที่ฮิคคัพฝึกบินเท่ๆกับเขี้ยวกุดครั้งแรก
3.ฉากสุดท้ายของเรื่อง เป็นซีนที่ฮิคคัพขาขาดเดินคู่ไปกับเขี้ยวกุดที่หางแหว่งไปเช่นกัน และเพราะฉากนี่แหละ เรายกให้เรื่องนี้เป็น Top3 ในใจเราเลย
-- อารมณ์ของหนัง --
อาจจะยังไม่เต็มเท่าภาคแรก ภาคแรกคือดูแล้วมันหัวใจฟูฟ่องตลอดทั้งเรื่อง feel good มากๆ สำหรับภาคนี้มันเน้นเครียดแถมแอบดาร์คด้วย แต่อย่างที่บอกไปตอนต้น ภาคนี้ได้ feeling มาเยอะมาก คือครบจริงๆบางอย่างในภาคแรกที่มันยังไม่เต็มภาคนี้ก็ใส่ซะเต็ม แม้ว่าบางจุดจะขาดๆไปบ้างก็เหอะ คือมันยังขยี้ได้มากกว่านี้จะ epic มาก แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีแล้ว ทำมากเกินไปเด็กดูไม่ได้กันพอดี เอาเป็นว่ารับประกันเลยว่าออกจากโรงมาจะอิ่มมาก อยากรู้ว่าเป็นยังไงต้องไปดูเองนะ บอกมากเดี๋ยวจะสปอยล์ 555
-- ตัวละคร --
มีตัวละครใหม่มาเพิ่มถึง 3 คน มังกรก็เยอะขึ้นมากกก แต่ก็ยังเฉลี่ยบทได้ดีมากๆๆ ขอปรบมือ แถมตัวละครยังมีมิติมากขึ้นด้วย ภาคนี้เพื่อนๆเป็นตัวตบมุกเหมือนเดิม อาจจะไม่ค่อยออกมาบ่อย แต่ ออกมาแต่ล่ะรอบคือฮา เพราะประเด็นภาคนี้จะเน้นไปที่แม่พระเอกกับตัวร้าย
-- Soundtrack --
ใส่มาได้ถูกจังหวะแต่ล่ะฉากมากๆ คือฟังเปล่าๆก็เพราะแล้ว พอยิ่งมาใส่กับฉากคือเป๊ะอ่ะ และแต่ล่ะ score คือเพราะและมีพลังมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงโทนเดิมๆของภาคแรก แต่มีการปรับเปลี่ยนตัวโน๊ตทำให้เป็นเพลงใหม่แต่ก็ยังได้อารมณ์ภาคแรกอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอติดนิดนึงตรง credits คือเพลง where no one goes โคตรเพราะเลยนะ แต่ไหงตอนขึ้น credits แค่เอาภาพจาก artbook มาใส่ๆอย่างกับ moviemaker = =" น่าจะทำให้มี movement กว่านี้ แต่ภาพจาก artbook สวยสุด ดูเพลินๆได้เลย
-- ภาพ --
เซ็งกับประเทศไทยแปบ เรื่องนี้ไม่เข้า imax และ 4DX เลยไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะเจ๋งขนาดไหน แต่เท่าที่ดูชอบนะ ภาพสมจริง และก็สดใสในจุดสำคัญ อีกทั้งภาคนี้มีหลายสถานที่ให้ไปเจอ เลยมีภาพทุกโทนสีเลย ตั้งแต่มืดๆสว่างๆแดดอ่อนๆ ไฟๆ ยันน้ำแข็ง เราว่าจุดนี้ดีกว่าภาคแรกเยอะ เพราะมันมีฉากใหม่ๆเพิ่มเข้ามาเนี่ยแหละ
-- มุมกล้อง --
จุดนี้เป็นอีกจุดที่ทำให้เรื่องนี้ขลัง เพราะการกำกับภาพแบบที่การ์ตูนไม่ค่อยใช้ แต่มีในหนังคนแสดงนี่แหละ มันเลยดูแบบอลังกว่าการ์ตูนเรื่องอื่นเยอะ (ในความรู้สึกเรา) อีกอย่างการถ่ายมุมมองจากคนขี่บนหลังมังกรนี่คือเท่มาก ดูแล้วอยากจะมีมังกรไว้ขี่เล่นซักตัวจริงๆ
-- ความประทับใจส่วนตัว --
สำหรับภาคนี้เราประทับใจไม่แพ้ภาคแรกเลย ดูจบออกมาแล้วแบบมันมีความสุขอ่ะ ฟูมาก ยิ่งตอนสุดท้ายนี่เราตื้นตันมาก อยากดูภาค 3 ไวๆเลย แต่อีกใจก็ไม่อยากให้มาถึงเร็วๆ เพราะถ้าภาค 3 มาก็หมายถึงเรื่องนี้จะจบแล้วน่ะสิ TT
จบการรีวิว(แบบแอบอวย)ค่ะ ทำอะไรผิดพลาดไปต้องขออภัยจริงๆนะค่ะ
แนะนำเพิ่มสำหรับคนจะไปดู เห็นว่าพากย์ไทยเสียงพระเอกแปลกๆ ควรไปจัด soundtrack เลยจะฟินกว่า
เน้นดูรอบดึกๆเย็นๆหน่อยก็ดี จะได้ไม่เจอครอบครัวสุขสันต์ที่ชอบพาลูกมาป่วนโรงหนัง เดี๋ยวจะเสียอรรถรสเอาได้
[CR] (Review) เชื่อว่าหลายคนกำลังมองข้ามเรื่องนี้อยู่!!! How To Train Your Dragon 2 (9.8/10) [ไม่มีสปอยล์]
เชื่อว่าหลายคนตอนนี้มองข้ามเรื่องนี้อยู่จริงๆ เพราะกระแสขุ่นแม่มาแรงมากกกก
วันนี้เลยอยากมารีวิวหนังดีๆบทเจ๋งๆภาพสวยไม่แพ้ขุ่นแม่เหมือนกัน
ที่สำคัญเลยคือดูได้ทุกเพศทุกวัย ใครตราหน้าว่าเรื่องนี้เป็นการ์ตูนเด็กๆหน่อมแหน่ม ขอให้ลองไปดูก่อนนะคะ หึๆ
ให้ 9.8 /10 เอาไปเลย สนุกมากๆ สนุกจนไม่รู้จะอวยยังไง
----- Maybe it's a mother of all animated sequels. -----
เท่าที่สังเกต เชื่อว่าส่วนใหญ่ใครที่เป็น FC เขี้ยวกุดนี่น่าจะมาจากการว่างๆไม่มีไรทำ เลยหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดู(เราก็เคยเป็น1ในนั้น)
แล้วก็ได้พบว่า "เฮ้ย! นี่เราพลาดอะไรดีๆขนาดนี้ไปได้ยังไง!!" เพราะฉะนั้นใครยังไม่ได้ดูภาคแรกรีบไปจัดมาก่อนเลย เชียร์สุดๆ
และด้วยความที่ภาคแรกมันยอดเยี่ยมมากนี่แหละทำให้ภาค 2 ค่อนข้างเป็นที่จับตามองเลยทีเดียว
กระแสคะแนนวิจารณ์ที่อเมริกาก็ไม่ใช่เล่นๆเลยนะเรื่องนี้
IMDb - 8.8/10
Rottentomatoes 96% (คะแนนสูงสุดของหนังซัมเมอร์นี้)
จากที่เราไปดูมา 2 รอบ พูดได้เลยว่าภาคต่อภาคนี้ทำมาได้ยอดเยี่ยมมาก
โดยส่วนตัว เท่าที่ดูอนิเมชั่นมา พวกที่ภาคแรกทำไว้ดีเยี่ยมส่วนใหญ่จะโดนอาถรรพ์ภาค2 (คือความสนุกจะดรอปลงมา) ยกตัวอย่าง
toy story ดีแค่1กับ3 ภาค2นี่คืออัลไล
lion king ภาคแรกเริ่ดเว่อ แต่ภาค2 เอิ่มม
แต่กับ HTTYD2 จะบอกว่าดีกรีความสนุก ความมันส์ ความเท่ ความมุ้งมิ้ง(?) ความเศร้า การสูญเสีย คือทุกอย่างอ่ะ ไม่ได้ลดลงไปเลย กลับกันอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ และภาคนี้คือจัดเต็มมากจ้าาา ได้ feeling มาเยอะมากกก //ภาคที่แล้วเน้น feel good
-- บทเรื่อง --
ภาคนี้จะมาแนวเข้มข้น ซีเรียส และดราม่าหนักกว่าเดิม มันจะไม่ใช่หนังเจ้าเด็กขี้ก้างฝึกมังกรบินเสริมสร้างมิตรภาพดีๆแล้ว ใครว่าภาคที่แล้วดราม่า มาเจอภาคนี้คือจอดค่ะ สเกลเรื่องและความอลังจะใหญ่ขึ้น ตามอายุที่โตขึ้นของตัวละคร แน่นอนว่าหนังจะต้องผู้ใหญ่ขึ้น บทพูดจะเยอะ เด็กๆดูอาจจะมีหาว แต่ผกก.เค้าก็ยังคุมเรื่องอยู่ได้โดยที่ความสนุกไม่ตก บางช่วงที่มันแอบเอื่อยเพราะใส่ปมเข้ามา เค้าก็จะใส่มุกนิดๆหน่อยๆเข้าไปเล่นด้วย เพื่อสร้างสีสันให้กับเรื่อง พวกมุกมังกรทำตัวน่ารักๆอยู่เป็น BG ข้างหลังตอนคนคุยกันนี่แย่งซีนได้มาก คนไปขำมังกรข้างหลังมากกว่าดูคนคุยกันอีก 55 และด้วยเวลาประมาน1ชมครึ่งตามมาตรฐานอนิเมชั่นทั่วไป เราขอชมผกก.อีกครั้งว่าคุณทำได้เยี่ยมจริงๆ กระชับเรื่องให้เข้มข้นน่าติดตามไม่มีการยืดเยื้อได้ตั้งแต่ต้นยันจบ คือมัน amaze มากนี่พูดเลย
-- การดำเนินเรื่อง --
อย่างที่บอก หนังเล่าเรื่องได้กระชับดีมาก ไม่เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระเลย คือสำคัญและน่าติดตามทุกฉาก แต่ล่ะฉากก็มีความสำคัญในตัวเอง ถ้าขาดฉากนี้ไปหนังก็จะไม่สมบูรณ์ แต่ที่น่าเสียดายสำหรับภาคนี้คือมันไม่มีฉากที่สร้างอิมแพคให้เราได้เท่าภาคแรก ที่ชอบสุดก็คงแค่ซีนที่ฮิคคัพไปบินเล่นกับแม่อ่ะ (Flying with mother) คงเพราะมันไม่ทีบทพูดมาก แต่ใช้scoreเพลงเอา เลยทำให้มันดูมีพลังสุดๆแถมเป็นการโชว์สกิลมังกรของขุ่นแม่มันอีกต่างหาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-- อารมณ์ของหนัง --
อาจจะยังไม่เต็มเท่าภาคแรก ภาคแรกคือดูแล้วมันหัวใจฟูฟ่องตลอดทั้งเรื่อง feel good มากๆ สำหรับภาคนี้มันเน้นเครียดแถมแอบดาร์คด้วย แต่อย่างที่บอกไปตอนต้น ภาคนี้ได้ feeling มาเยอะมาก คือครบจริงๆบางอย่างในภาคแรกที่มันยังไม่เต็มภาคนี้ก็ใส่ซะเต็ม แม้ว่าบางจุดจะขาดๆไปบ้างก็เหอะ คือมันยังขยี้ได้มากกว่านี้จะ epic มาก แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีแล้ว ทำมากเกินไปเด็กดูไม่ได้กันพอดี เอาเป็นว่ารับประกันเลยว่าออกจากโรงมาจะอิ่มมาก อยากรู้ว่าเป็นยังไงต้องไปดูเองนะ บอกมากเดี๋ยวจะสปอยล์ 555
-- ตัวละคร --
มีตัวละครใหม่มาเพิ่มถึง 3 คน มังกรก็เยอะขึ้นมากกก แต่ก็ยังเฉลี่ยบทได้ดีมากๆๆ ขอปรบมือ แถมตัวละครยังมีมิติมากขึ้นด้วย ภาคนี้เพื่อนๆเป็นตัวตบมุกเหมือนเดิม อาจจะไม่ค่อยออกมาบ่อย แต่ ออกมาแต่ล่ะรอบคือฮา เพราะประเด็นภาคนี้จะเน้นไปที่แม่พระเอกกับตัวร้าย
-- Soundtrack --
ใส่มาได้ถูกจังหวะแต่ล่ะฉากมากๆ คือฟังเปล่าๆก็เพราะแล้ว พอยิ่งมาใส่กับฉากคือเป๊ะอ่ะ และแต่ล่ะ score คือเพราะและมีพลังมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงโทนเดิมๆของภาคแรก แต่มีการปรับเปลี่ยนตัวโน๊ตทำให้เป็นเพลงใหม่แต่ก็ยังได้อารมณ์ภาคแรกอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-- ภาพ --
เซ็งกับประเทศไทยแปบ เรื่องนี้ไม่เข้า imax และ 4DX เลยไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะเจ๋งขนาดไหน แต่เท่าที่ดูชอบนะ ภาพสมจริง และก็สดใสในจุดสำคัญ อีกทั้งภาคนี้มีหลายสถานที่ให้ไปเจอ เลยมีภาพทุกโทนสีเลย ตั้งแต่มืดๆสว่างๆแดดอ่อนๆ ไฟๆ ยันน้ำแข็ง เราว่าจุดนี้ดีกว่าภาคแรกเยอะ เพราะมันมีฉากใหม่ๆเพิ่มเข้ามาเนี่ยแหละ
-- มุมกล้อง --
จุดนี้เป็นอีกจุดที่ทำให้เรื่องนี้ขลัง เพราะการกำกับภาพแบบที่การ์ตูนไม่ค่อยใช้ แต่มีในหนังคนแสดงนี่แหละ มันเลยดูแบบอลังกว่าการ์ตูนเรื่องอื่นเยอะ (ในความรู้สึกเรา) อีกอย่างการถ่ายมุมมองจากคนขี่บนหลังมังกรนี่คือเท่มาก ดูแล้วอยากจะมีมังกรไว้ขี่เล่นซักตัวจริงๆ
-- ความประทับใจส่วนตัว --
สำหรับภาคนี้เราประทับใจไม่แพ้ภาคแรกเลย ดูจบออกมาแล้วแบบมันมีความสุขอ่ะ ฟูมาก ยิ่งตอนสุดท้ายนี่เราตื้นตันมาก อยากดูภาค 3 ไวๆเลย แต่อีกใจก็ไม่อยากให้มาถึงเร็วๆ เพราะถ้าภาค 3 มาก็หมายถึงเรื่องนี้จะจบแล้วน่ะสิ TT
จบการรีวิว(แบบแอบอวย)ค่ะ ทำอะไรผิดพลาดไปต้องขออภัยจริงๆนะค่ะ
แนะนำเพิ่มสำหรับคนจะไปดู เห็นว่าพากย์ไทยเสียงพระเอกแปลกๆ ควรไปจัด soundtrack เลยจะฟินกว่า
เน้นดูรอบดึกๆเย็นๆหน่อยก็ดี จะได้ไม่เจอครอบครัวสุขสันต์ที่ชอบพาลูกมาป่วนโรงหนัง เดี๋ยวจะเสียอรรถรสเอาได้