คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ค่อยๆ เรียนไปนะครับ
บอกในฐานะคนที่เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน ว่าเรียนด้วยการท่องศัพท์ ท่องจนตายก็ไม่ได้ภาษานะครับ
ถ้าศัพท์ใน dictionary ทั้งหมด มันมีจริง ใน web dictionary ทั้งหลายหรือไปซื้อ talking dict แต่ไม่มีใครแยกออกมาเป็น mp3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่วิธีการเรียนที่ถูกต้องคือการเอาไปใช้จริง อันไหนที่ใช้บ่อย มันก็จะจำเอง คำไหนติดขัด ค่อยมาเปิด มันจะจำได้ง่ายกว่าการท่อง นี่เป็นรวิธีเรียนตามธรรมชาติของคน เหมือนเราเรียนภาษษไทยแต่เด็ก เราก็พูดเป็นก่อนไปเรียนในห้องเรียน
ลองไปดู web ของเจ้าของภาษา
สำเนียง American
http://learningenglish.voanews.com/
สำเนียง British
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/language/
ถ้าหาตำราเยอะๆ แนะนำ web
http://www.e4thai.com/
วิธีที่ดีกว่านี้อีก คือเอาเพลงที่ชอบฟังชอบดู มาเปิด พร้อมหาเนื่อเพลง (lyrics) ถ้าบ้าบอลล์ก็ดูข่าวบอลล์ ตอนนี้กระแสบอลล์โลกกำลังมา ก็ตามข่าวนั้น อย่า่งรู้มากกว่า อ่านข่าว hollywood / box office ถ้าบ้าหนัง ถ้าเปิดหนัง จะเอา subtitle ก่อนก็ได้
ทำแบบนี้ จะเกิดแรงจูงใจให้อยากเรียนรู้มากว่าเกิดแรงจำใจ (อย่างหลัง... อ่านหนังสือหรือฟังอะไรไปแป๊บเดียวที่ตัวเองไม่ชอบ เดี๋ยวก็หลับ แล้วก็เซ็ง)
ดูศัพท์ ค้นหาเฉพาะคำที่แปลไม่ออก เพลงร้องตามซ้ำๆ ไม่เข้าใจ ร้องมั่วคลอไปก่อน
แต่อย่าแปลคำทุกคำพูด อย่าต้องค้นศัพท์ทุกคำ พยายามเดาความหมายจากบริบทรอบข้างก่อน (สีหน้า ท่าทาง เรื่องรอบๆ)
เราไม่ได้กำลังแปลหนังสือขาย (หรือไม่ได้กำลังเป็นนักแปลอาชีพ อย่างพี่ K.Senior คห.1) แต่กำลังเรียนรู้การเอาไปใช้ก่อน คล่องแล้วค่อยกระเถิบ อย่างที่อยากเป็นมากกว่านี้
(ท่องศัพท์ที่เขาทำกันคือท่องเฉพาะคำยากที่จะออกสอบ แต่เขาก็มีตัวอย่างเอาลงไปใช้ในประโยคจริงหรือเรียนจากคำคล้าย วิธีท่องจำคำโดดๆ จะได้ผลต่ำ ตัวอย่างเช่น TOEFL ประมาณ 500 คำที่ออกสอบบ่อย http://www.toeflvocabulary.com/ มีตัวอย่างการใช้คำ)
ฝรั่งเอง ก็ไม่ได้รู้ศัพท์ทุกคำ เหมือนเราก็ไม่ได้รู้คำไทยทุกคำ แต่จำคำที่ใช้บ่อยๆ ได้ และที่เหลืออาศัยการเดาจากบริบทหรือเรื่องแวดล้อมเอาไปใช้
เราคนไทย เราไม่ได้เข้าใจภาษาที่เราสื่อกันทุกคำ แต่เราฟังเราอ่านแล้วเดาบ้าง! และมีกระโดดข้ามไปบ้าง โดยที่ไม่ต้องไปเปิดพจนานุกรม แต่ก็เข้าใจความ จุดประสงค์ ว่าคนผลิตข้อความหรือสื่อนี้ ต้องการสื่ออะไร
การสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษก็เป็นไปทำนองเดียวกัน
บอกในฐานะคนที่เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน ว่าเรียนด้วยการท่องศัพท์ ท่องจนตายก็ไม่ได้ภาษานะครับ
ถ้าศัพท์ใน dictionary ทั้งหมด มันมีจริง ใน web dictionary ทั้งหลายหรือไปซื้อ talking dict แต่ไม่มีใครแยกออกมาเป็น mp3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่วิธีการเรียนที่ถูกต้องคือการเอาไปใช้จริง อันไหนที่ใช้บ่อย มันก็จะจำเอง คำไหนติดขัด ค่อยมาเปิด มันจะจำได้ง่ายกว่าการท่อง นี่เป็นรวิธีเรียนตามธรรมชาติของคน เหมือนเราเรียนภาษษไทยแต่เด็ก เราก็พูดเป็นก่อนไปเรียนในห้องเรียน
ลองไปดู web ของเจ้าของภาษา
สำเนียง American
http://learningenglish.voanews.com/
สำเนียง British
http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/language/
ถ้าหาตำราเยอะๆ แนะนำ web
http://www.e4thai.com/
วิธีที่ดีกว่านี้อีก คือเอาเพลงที่ชอบฟังชอบดู มาเปิด พร้อมหาเนื่อเพลง (lyrics) ถ้าบ้าบอลล์ก็ดูข่าวบอลล์ ตอนนี้กระแสบอลล์โลกกำลังมา ก็ตามข่าวนั้น อย่า่งรู้มากกว่า อ่านข่าว hollywood / box office ถ้าบ้าหนัง ถ้าเปิดหนัง จะเอา subtitle ก่อนก็ได้
ทำแบบนี้ จะเกิดแรงจูงใจให้อยากเรียนรู้มากว่าเกิดแรงจำใจ (อย่างหลัง... อ่านหนังสือหรือฟังอะไรไปแป๊บเดียวที่ตัวเองไม่ชอบ เดี๋ยวก็หลับ แล้วก็เซ็ง)
ดูศัพท์ ค้นหาเฉพาะคำที่แปลไม่ออก เพลงร้องตามซ้ำๆ ไม่เข้าใจ ร้องมั่วคลอไปก่อน
แต่อย่าแปลคำทุกคำพูด อย่าต้องค้นศัพท์ทุกคำ พยายามเดาความหมายจากบริบทรอบข้างก่อน (สีหน้า ท่าทาง เรื่องรอบๆ)
เราไม่ได้กำลังแปลหนังสือขาย (หรือไม่ได้กำลังเป็นนักแปลอาชีพ อย่างพี่ K.Senior คห.1) แต่กำลังเรียนรู้การเอาไปใช้ก่อน คล่องแล้วค่อยกระเถิบ อย่างที่อยากเป็นมากกว่านี้
(ท่องศัพท์ที่เขาทำกันคือท่องเฉพาะคำยากที่จะออกสอบ แต่เขาก็มีตัวอย่างเอาลงไปใช้ในประโยคจริงหรือเรียนจากคำคล้าย วิธีท่องจำคำโดดๆ จะได้ผลต่ำ ตัวอย่างเช่น TOEFL ประมาณ 500 คำที่ออกสอบบ่อย http://www.toeflvocabulary.com/ มีตัวอย่างการใช้คำ)
ฝรั่งเอง ก็ไม่ได้รู้ศัพท์ทุกคำ เหมือนเราก็ไม่ได้รู้คำไทยทุกคำ แต่จำคำที่ใช้บ่อยๆ ได้ และที่เหลืออาศัยการเดาจากบริบทหรือเรื่องแวดล้อมเอาไปใช้
เราคนไทย เราไม่ได้เข้าใจภาษาที่เราสื่อกันทุกคำ แต่เราฟังเราอ่านแล้วเดาบ้าง! และมีกระโดดข้ามไปบ้าง โดยที่ไม่ต้องไปเปิดพจนานุกรม แต่ก็เข้าใจความ จุดประสงค์ ว่าคนผลิตข้อความหรือสื่อนี้ ต้องการสื่ออะไร
การสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษก็เป็นไปทำนองเดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
MP3 English
มีแปลไทยด้วยยิ่งดีครับ ขอบพระคุณครับ