ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟังครับ
อยากเล่าและเรียบเรียงต่อ
ให้คนที่มีงานอดิเรกที่ตัวเองรัก
หรือเลือกเดินในเส้นทางอาชีพ ที่ตัวเองรัก
หรือเลือกทำตามฝัน
แต่ยังมองไม่เห็นปลายทางของฝัน อ่านกันครับ
ไม่ว่าจะเส้นทางดนตรี เส้นทางการ์ตูน เส้นทางนักกีฬา
ซึ่งอาจไม่ใช่เส้นทางหลักของการประกอบอาชีพ
----------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องนี้มาจากเค้าโครงเรื่องจริง 85%
เนื่องจากไม่สามารถหาข้อมูลมาปะติดปะต่อ การเล่าเรื่องราวทั้งหมดได้
หากมีบางส่วนอาจไม่ตรงกับประวัติในสารคดี ขออภัยไว้ล่วงหน้า
----------------------
เมื่อปี 2008 มีการปล่อย ไวรัลคลิป ตัวนึงออกมาทางโซเชี่ยลเกาหลี
ความยาวเท่ามิวสิค วีดีโอ
ตอนนั้นผม กำลังหาเพลง MYWAY เวอชั่นอื่นๆ นอกจาก ซิเนตร้าฟัง
ผมมาเจอคลิปนี้
ตอนแรกที่ดู ผมกำลังจะปิด
เพราะผู้หญิงคนนี้ร้อง เอื่อยไป ไม่น่าสนใจ
จนกระทั่ง กล้องหันไปทาง มือกลอง
เป็นลุงแก่ๆ ผมขาวล้วนเลย กำลังตีกลอง..................
พอดูจบ ผมดูซ้ำอีก 3 รอบ
ผมไม่รู้เลยตอนนั้นว่าคือ "ไวรัล"
ผมคิดในใจว่า
"ถ้าตอนที่ผมแก่ตัวไป ผมจะยังรัก ในสิ่งที่ตอนนี้ผมรัก และสนุกกับมัน เต็มที่กับมัน แบบลุงตีกลองในคลิปนี้ไหม ?"
ผมให้เพื่อนผมดู ทุกคนก็ฮากัน เพราะมันก็ขำดีนะ
แต่ผมมั่นใจว่า ลุงไม่ได้เอาฮา แต่ลุงตีอย่างตั้งใจ
ผมเลยลองค้นข้อมูลแก
ยิ่งน่าประทับใจ
ลุงแกไม่ได้ แสดงในไวรัล เฉยๆ
แต่นี่คือตัวตนจริงๆ ของแก
ลุงคนนี้ชื่อ Kwon Soon Keun
อายุปัจจุบันกำลังจะ 71 ปี
ลุง Kwon Soon Keun ตีกลองมาตั้งแต่วัยรุ่น
ตอนวัยรุ่น อายุประมาณ 19 ปี Kwon Soon Keun เป็นมือกลอง ของวงดนตรีที่เล่น
ในงานเฉลิมฉลองต่างๆ ของโรงเรียน และชุมชนในระแวกบ้าน
โดยแกมี ลีลาและท่าทางการตีกลองที่ ออกแนว "หลุดโลก" หรือ "มันส์สุดๆไปกับเพลง"
ในการออกอารมณ์ในการตีกลอง มาตั้งแต่วัยรุ่น
จนกระทั่งช่วง 25 เขาได้เป็นสมาชิกวงดนตรีวงนึง และได้ออกอัลบั้ม
โดยรับหน้าที่มือกลอง และยุบวงในภายหลัง ซึ่งถือเป็นงานที่แกได้ออกสื่อครั้งแรก อย่างเป็นทางการ
''
จากนั้นก็ได้รับหน้าที่เล่นแบคอัพ นักร้องคนอื่นๆ
(ดูจากลีลาแล้ว จ้าง 500 เล่นไป 500,000 จริงๆ )
จากผลงานที่แกได้แสดงทำให้แกเริ่มฝัน
ฝันเหมือนคนที่ทำสิ่งที่รักจะฝัน
อยากมีอัลบั้ม อยากมีงานแสดงเยอะๆ อยากเป็นที่รู้จัก
เหตุมาพลิกผันคือ ครอบครัวมีความจำเป็นต้องย้ายไป แคนาดา
ตอนแกอายุ 30 กว่าๆ
ที่แคนาดา
เขาค่อยๆสูญเสีย "ไฟในกลอง" ไปเรื่อยๆ
เขาต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว เพื่อช่วยแม่ที่เป็นเสาหลัก
ในการหาเงินเลี้ยงครอบครัว
KWON ล้างจาน ช่วยขายผัก และงานจิปาถะอีกสารพัด
ที่คนอพยพจะได้ทำ เมื่อย้ายรกรากไปอยู่ต่างประเทศ
ชีวิตที่นั่น ไม่เอื้ออำนวยให้เขาได้ทำกิจกรรมที่เขารักมากนัก
เขาไม่รู้จะตีกลองที่ไหนด้วยซ้ำ
ที่แคนาดา เขาไม่สามารถ ตีกลองได้เหมือนกับที่เกาหลี
การใช้ชีวิตที่นั่น ทำให้
เขาเริ่มลืมมันไป
เขาเริ่มลืมเลือนมันไป
เสียงสแนร์ เสียงกลอง หายไปจากชีวิต Kwon Soon Keun
เป็นเวลาประมาณ 38 ปี
จนกระทั่งเขาเดินทางกลับมาเกาหลี
เขาเริ่มถามตัวเอง ถึงสิ่งที่เขารัก สิ่งที่เขาอยากทำ
ในวัยใกล้จะ 70 ปี
ความฝันของเรา
มันยังใช่การตีกลองอยู่หรือไม่ ?
คำตอบของเขาที่เขาเค้น คำตอบจากหัวใจคือ
"ใช่ ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อตีกลอง"
เขากลับมาตีกลองอีกครั้ง และได้รับโอกาส
เมื่อปี 2008 แกจึงได้เป็นที่รู้จักในไวรัล ตัวดังกล่าว
เริ่มมีคนรู้จักแกในชื่อ
"KOREAN DRUMMER STEAL THE SHOW" ผ่านทาง YOUTUBE
บ้างก็เรียกแกว่า "crazy Drummer" ในกูเกิ้ล
และในไทยรู้จักในชื่อ "ลุงมือกลอง จ้าง 500 เล่น 50,000"
จนมีรายการทีวีในเกาหลี เชิญแกไปออกรายการ
ผมจึงมีข้อมูล บทสัมภาา์ณมาเขียนให้อ่านกันครับ
-
-
-
-
พิธีกร : คิดยังไงกับตัวเองในตอนนี้ ?
ผมตีกลองมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ไม่มีใครสอน แม้ผมจะเข้าชมรมดนตรีของโรงเรียน
แต่ไม่มีหนังสือ ไม่มีคนสอน ผมต้องลองเคาะลองตี หาจังหวะเองหมด
ไม่เหมือนสมัยนี้
ผมตีกลอง ก็คิดมาตลอดว่า อยากให้คนรู้จักผม
ผมอยากเป็นที่รู้จัก ในฐานะ นักดนตรี
ไม่ใช่ สมาชิกวง
ซึ่งใครๆก็ต้องเคยฝัน บนเส้นทางดนตรีที่เลือกเดิน
ผมฝันตั้งแต่ผมของผมดำสนิท ว่าต้องดัง ต้องได้รับการยอมรับในฐานะ "มือกลอง"
จนตอนนี้
ผมทำสำเร็จตอนผมทุกเส้นเป็นสีขาวหมดแล้ว
แถมหยุดฝันไปตั้ง 38 ปี
ผมภูมิใจนะ
-------------------
พิธีกร : ครั้งไหนที่ คุณ KWON ประทับใจที่สุดในชีวิตการตีกลอง ค่ะ
มีอยู่ครั้งนึง ทำให้ผมรู้ว่า ผมบ้าตีกลองมากแค่ไหน ?
ขณะนั้นผมรับ จ๊อบ เล่นดนตรีให้ทหารอเมริกันฟังในค่ายทหาร
ช่วงนั้นปี 1969 ตอนนั้นมีสงครามเวียดนามพอดี
ในขณะที่วงเราเล่นอยู่ มีเสียงเตือนภัย ทิ้งระเบิด ดังขึ้น
ทหาอเมริกันคว้าหมวกเหล้กมาใส่ คนเริ่มเดินออกทางทางออกฉุกเฉิน
แต่ผม ไม่รู้เลย ผมตีกลองต่อไปอีก 10 นาที จนมีเจ้าหน้าที่ เดินมาสะกิดว่า
"เขาอพยพกันหมดแล้ว ไปเร็ว"
ผมตีต่อไป จนหมดท่อนโซโล ผมหันไปมองรอบๆ
เพื่อนร่วมวงผมหายไปหมดแล้ว
ผมไม่รู้ตัวเลย
ผมตะโกนหาคนที่เดินมาบอกผม ไม่มีเสียงตอบ
ไม่มีใครตอบผมเลย
ผมยืนถือไม้กลองในมือ และกำลังสับสนว่าต้องทำยังไงต่อ
สักพักมีทหารอเมริกันเดินกันเข้ามาพาตัวผมออกไปหลบภัย
หลังจากเสียงเตือนสงบลง ผู้จัดการเดินมาบอกผมว่า
"ผมจะไม่มีวันลืมคุณเลย คุณคือมือกลองตัวจริง"
(บทสัมภาษ์ณต้นฉบับ)
ในปัจจุบันมีการทำหนังสารคดี ประวัติของลุงแก กำกับโดย
MINGU KIM และได้นำไปฉายในงานเทศกาลหนัง CANADA 2010
Vancouver Asian Film Festival
ในชื่อ "A DRUMMER’S PASSION" อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2012
งาน Arirang Korea Smartphone Film Festival in Toronto
ทีมงานได้ลองติดต่อ ลุง KWON ให้มาเล่นเพลงเปิดงานให้ได้หรือไม่ ?
ลุง KWON ตอบรับด้วยคำถามว่า "สักกี่เพลง"
ซึ่ง งานนี้ ทางผู้จัดไม่ยอมให้แกขโมยซีน
หรือ หานักร้องมาให้ถูกแกฆ่าเล่นบนเวทีอีกแล้ว
งานนี้ เขาให้ลุง จัดเต็ม
ให้ไป 5,000 เล่นไป 500,000 เช่นเคย
ในไม่ช้าอาจจะมีผลงานเป็นอัลบั้มเดี่ยวๆ ออกมาให้เราชมกันก้ได้ครับ
หรือไปแจมในมิวสิค PSY ผมว่าก็โอเคนะ
เป็นอย่างไรครับ
กับเรื่องราวของลุง KWON ที่ตีกลองจากความรู้สึก และไม่เปลี่ยนแนวทางของตัวเอง
แม้จะเคยต้องหยุดฝันของตัวเองลงไป นานทีเดียว
แต่เมื่อไม่เดือนร้อนเรื่องภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวแล้ว
ลุงยังนึกถึงฝันในวัยรุ่น
และทำมันจนสำเร็จ แม้จะสำเร็จตอนแก่ก็ตาม
ขอให้เรื่องของลุง เป็นแรงบรรดาลใจให้กับทุกคนที่อ่านนะครับ
บางครั้งทางเลือกช่วงหนึ่งของชีวิตเรา อาจต้องทำให้เราห่างจากสิ่งที่เรารักก็ตาม
แต่ถ้าเรายังไม่ลืม สิ่งสิ่งนั้น เมื่อเราพร้อม
เรายังสามารถกลับมาทำสิ่งที่รักได้เมื่อเราพร้อมครับ
"ตราบใดที่ตัวเรานั้น ไม่หยุดเราเองครับ"
จ ญ น ห อ ด ม
เขียน และเรียบเรียง
ให้เรื่องของลุง CRAZY DRUMER คนนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณ "อย่าลืมความฝัน"
อยากเล่าและเรียบเรียงต่อ
ให้คนที่มีงานอดิเรกที่ตัวเองรัก
หรือเลือกเดินในเส้นทางอาชีพ ที่ตัวเองรัก
หรือเลือกทำตามฝัน
แต่ยังมองไม่เห็นปลายทางของฝัน อ่านกันครับ
ไม่ว่าจะเส้นทางดนตรี เส้นทางการ์ตูน เส้นทางนักกีฬา
ซึ่งอาจไม่ใช่เส้นทางหลักของการประกอบอาชีพ
----------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
----------------------
เมื่อปี 2008 มีการปล่อย ไวรัลคลิป ตัวนึงออกมาทางโซเชี่ยลเกาหลี
ความยาวเท่ามิวสิค วีดีโอ
ตอนนั้นผม กำลังหาเพลง MYWAY เวอชั่นอื่นๆ นอกจาก ซิเนตร้าฟัง
ผมมาเจอคลิปนี้
ตอนแรกที่ดู ผมกำลังจะปิด
เพราะผู้หญิงคนนี้ร้อง เอื่อยไป ไม่น่าสนใจ
จนกระทั่ง กล้องหันไปทาง มือกลอง
เป็นลุงแก่ๆ ผมขาวล้วนเลย กำลังตีกลอง..................
พอดูจบ ผมดูซ้ำอีก 3 รอบ
ผมไม่รู้เลยตอนนั้นว่าคือ "ไวรัล"
ผมคิดในใจว่า
"ถ้าตอนที่ผมแก่ตัวไป ผมจะยังรัก ในสิ่งที่ตอนนี้ผมรัก และสนุกกับมัน เต็มที่กับมัน แบบลุงตีกลองในคลิปนี้ไหม ?"
ผมให้เพื่อนผมดู ทุกคนก็ฮากัน เพราะมันก็ขำดีนะ
แต่ผมมั่นใจว่า ลุงไม่ได้เอาฮา แต่ลุงตีอย่างตั้งใจ
ผมเลยลองค้นข้อมูลแก
ยิ่งน่าประทับใจ
ลุงแกไม่ได้ แสดงในไวรัล เฉยๆ
แต่นี่คือตัวตนจริงๆ ของแก
ลุงคนนี้ชื่อ Kwon Soon Keun
อายุปัจจุบันกำลังจะ 71 ปี
ลุง Kwon Soon Keun ตีกลองมาตั้งแต่วัยรุ่น
ตอนวัยรุ่น อายุประมาณ 19 ปี Kwon Soon Keun เป็นมือกลอง ของวงดนตรีที่เล่น
ในงานเฉลิมฉลองต่างๆ ของโรงเรียน และชุมชนในระแวกบ้าน
โดยแกมี ลีลาและท่าทางการตีกลองที่ ออกแนว "หลุดโลก" หรือ "มันส์สุดๆไปกับเพลง"
ในการออกอารมณ์ในการตีกลอง มาตั้งแต่วัยรุ่น
จนกระทั่งช่วง 25 เขาได้เป็นสมาชิกวงดนตรีวงนึง และได้ออกอัลบั้ม
โดยรับหน้าที่มือกลอง และยุบวงในภายหลัง ซึ่งถือเป็นงานที่แกได้ออกสื่อครั้งแรก อย่างเป็นทางการ
''
จากนั้นก็ได้รับหน้าที่เล่นแบคอัพ นักร้องคนอื่นๆ
(ดูจากลีลาแล้ว จ้าง 500 เล่นไป 500,000 จริงๆ )
จากผลงานที่แกได้แสดงทำให้แกเริ่มฝัน
ฝันเหมือนคนที่ทำสิ่งที่รักจะฝัน
อยากมีอัลบั้ม อยากมีงานแสดงเยอะๆ อยากเป็นที่รู้จัก
เหตุมาพลิกผันคือ ครอบครัวมีความจำเป็นต้องย้ายไป แคนาดา
ตอนแกอายุ 30 กว่าๆ
ที่แคนาดา
เขาค่อยๆสูญเสีย "ไฟในกลอง" ไปเรื่อยๆ
เขาต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว เพื่อช่วยแม่ที่เป็นเสาหลัก
ในการหาเงินเลี้ยงครอบครัว
KWON ล้างจาน ช่วยขายผัก และงานจิปาถะอีกสารพัด
ที่คนอพยพจะได้ทำ เมื่อย้ายรกรากไปอยู่ต่างประเทศ
ชีวิตที่นั่น ไม่เอื้ออำนวยให้เขาได้ทำกิจกรรมที่เขารักมากนัก
เขาไม่รู้จะตีกลองที่ไหนด้วยซ้ำ
ที่แคนาดา เขาไม่สามารถ ตีกลองได้เหมือนกับที่เกาหลี
การใช้ชีวิตที่นั่น ทำให้
เขาเริ่มลืมมันไป
เขาเริ่มลืมเลือนมันไป
เสียงสแนร์ เสียงกลอง หายไปจากชีวิต Kwon Soon Keun
เป็นเวลาประมาณ 38 ปี
จนกระทั่งเขาเดินทางกลับมาเกาหลี
เขาเริ่มถามตัวเอง ถึงสิ่งที่เขารัก สิ่งที่เขาอยากทำ
ในวัยใกล้จะ 70 ปี
ความฝันของเรา
มันยังใช่การตีกลองอยู่หรือไม่ ?
คำตอบของเขาที่เขาเค้น คำตอบจากหัวใจคือ
"ใช่ ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อตีกลอง"
เขากลับมาตีกลองอีกครั้ง และได้รับโอกาส
เมื่อปี 2008 แกจึงได้เป็นที่รู้จักในไวรัล ตัวดังกล่าว
เริ่มมีคนรู้จักแกในชื่อ
"KOREAN DRUMMER STEAL THE SHOW" ผ่านทาง YOUTUBE
บ้างก็เรียกแกว่า "crazy Drummer" ในกูเกิ้ล
และในไทยรู้จักในชื่อ "ลุงมือกลอง จ้าง 500 เล่น 50,000"
จนมีรายการทีวีในเกาหลี เชิญแกไปออกรายการ
ผมจึงมีข้อมูล บทสัมภาา์ณมาเขียนให้อ่านกันครับ
-
-
-
-
พิธีกร : คิดยังไงกับตัวเองในตอนนี้ ?
ผมตีกลองมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ไม่มีใครสอน แม้ผมจะเข้าชมรมดนตรีของโรงเรียน
แต่ไม่มีหนังสือ ไม่มีคนสอน ผมต้องลองเคาะลองตี หาจังหวะเองหมด
ไม่เหมือนสมัยนี้
ผมตีกลอง ก็คิดมาตลอดว่า อยากให้คนรู้จักผม
ผมอยากเป็นที่รู้จัก ในฐานะ นักดนตรี
ไม่ใช่ สมาชิกวง
ซึ่งใครๆก็ต้องเคยฝัน บนเส้นทางดนตรีที่เลือกเดิน
ผมฝันตั้งแต่ผมของผมดำสนิท ว่าต้องดัง ต้องได้รับการยอมรับในฐานะ "มือกลอง"
จนตอนนี้
ผมทำสำเร็จตอนผมทุกเส้นเป็นสีขาวหมดแล้ว
แถมหยุดฝันไปตั้ง 38 ปี
ผมภูมิใจนะ
-------------------
พิธีกร : ครั้งไหนที่ คุณ KWON ประทับใจที่สุดในชีวิตการตีกลอง ค่ะ
มีอยู่ครั้งนึง ทำให้ผมรู้ว่า ผมบ้าตีกลองมากแค่ไหน ?
ขณะนั้นผมรับ จ๊อบ เล่นดนตรีให้ทหารอเมริกันฟังในค่ายทหาร
ช่วงนั้นปี 1969 ตอนนั้นมีสงครามเวียดนามพอดี
ในขณะที่วงเราเล่นอยู่ มีเสียงเตือนภัย ทิ้งระเบิด ดังขึ้น
ทหาอเมริกันคว้าหมวกเหล้กมาใส่ คนเริ่มเดินออกทางทางออกฉุกเฉิน
แต่ผม ไม่รู้เลย ผมตีกลองต่อไปอีก 10 นาที จนมีเจ้าหน้าที่ เดินมาสะกิดว่า
"เขาอพยพกันหมดแล้ว ไปเร็ว"
ผมตีต่อไป จนหมดท่อนโซโล ผมหันไปมองรอบๆ
เพื่อนร่วมวงผมหายไปหมดแล้ว
ผมไม่รู้ตัวเลย
ผมตะโกนหาคนที่เดินมาบอกผม ไม่มีเสียงตอบ
ไม่มีใครตอบผมเลย
ผมยืนถือไม้กลองในมือ และกำลังสับสนว่าต้องทำยังไงต่อ
สักพักมีทหารอเมริกันเดินกันเข้ามาพาตัวผมออกไปหลบภัย
หลังจากเสียงเตือนสงบลง ผู้จัดการเดินมาบอกผมว่า
"ผมจะไม่มีวันลืมคุณเลย คุณคือมือกลองตัวจริง"
(บทสัมภาษ์ณต้นฉบับ)
ในปัจจุบันมีการทำหนังสารคดี ประวัติของลุงแก กำกับโดย
MINGU KIM และได้นำไปฉายในงานเทศกาลหนัง CANADA 2010
Vancouver Asian Film Festival
ในชื่อ "A DRUMMER’S PASSION" อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2012
งาน Arirang Korea Smartphone Film Festival in Toronto
ทีมงานได้ลองติดต่อ ลุง KWON ให้มาเล่นเพลงเปิดงานให้ได้หรือไม่ ?
ลุง KWON ตอบรับด้วยคำถามว่า "สักกี่เพลง"
ซึ่ง งานนี้ ทางผู้จัดไม่ยอมให้แกขโมยซีน
หรือ หานักร้องมาให้ถูกแกฆ่าเล่นบนเวทีอีกแล้ว
งานนี้ เขาให้ลุง จัดเต็ม
ให้ไป 5,000 เล่นไป 500,000 เช่นเคย
ในไม่ช้าอาจจะมีผลงานเป็นอัลบั้มเดี่ยวๆ ออกมาให้เราชมกันก้ได้ครับ
หรือไปแจมในมิวสิค PSY ผมว่าก็โอเคนะ
เป็นอย่างไรครับ
กับเรื่องราวของลุง KWON ที่ตีกลองจากความรู้สึก และไม่เปลี่ยนแนวทางของตัวเอง
แม้จะเคยต้องหยุดฝันของตัวเองลงไป นานทีเดียว
แต่เมื่อไม่เดือนร้อนเรื่องภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวแล้ว
ลุงยังนึกถึงฝันในวัยรุ่น
และทำมันจนสำเร็จ แม้จะสำเร็จตอนแก่ก็ตาม
ขอให้เรื่องของลุง เป็นแรงบรรดาลใจให้กับทุกคนที่อ่านนะครับ
บางครั้งทางเลือกช่วงหนึ่งของชีวิตเรา อาจต้องทำให้เราห่างจากสิ่งที่เรารักก็ตาม
แต่ถ้าเรายังไม่ลืม สิ่งสิ่งนั้น เมื่อเราพร้อม
เรายังสามารถกลับมาทำสิ่งที่รักได้เมื่อเราพร้อมครับ
"ตราบใดที่ตัวเรานั้น ไม่หยุดเราเองครับ"
จ ญ น ห อ ด ม
เขียน และเรียบเรียง