[CR] Hong Kong เที่ยวไม่ง้อไกด์ ไปไม่ง้อใคร ทั้งหลง และ มึน แต่ติดตรึงในดวงใจ EP.2



สวัสดีครับ พบกันใน EP.2 แล้วนะครับ วันนี้จะพาทุกท่านไปเที่ยวกระเช้านองปิง ไหว้ขอพรพระใหญ่ สำนักชีฉีหลิน สวนหนานเหลียน ดู SOL และ ทานอาหารมากมายครับ

หากใครยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้า เชิญติดตามย้อนหลังได้นะครับ
EP.1  http://ppantip.com/topic/32166194 <<< ออกเดินทางจากกรุงเทพ , ผ่านตม.แบบง่ายๆ , เที่ยว Temple Street Night Market
EP.3  http://ppantip.com/topic/32186966 <<< อาหารร้านดาวมิชลิน , บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก , ขึ้นเขาเดอะพีค , ชาร์ลี บราวน์
EP.4  http://ppantip.com/topic/32194294 <<< พิซซ่าอันเท่าฝาบ้าน , ล็อกเกอร์เก็บของ , In Town Check In , ขึ้นเครื่องกลับไทย

ก่อนจะมาเที่ยวประมาณ 10-14 วัน ผมเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าตลอด โดยใช้เว็บหลัก ๆ 2 เว็บนี้ครับ
http://th.thetimenow.com/weather/hong_kong/hong_kong
http://www.hko.gov.hk/wxinfo/currwx/fnd.htm
ซึ่งก็ค่อนข้างแม่น โดยก่อนเดินทาง 14 วัน พยากรณ์บอกว่า วันที่ 22-25 จะมีวันแจ่มใสวันเดียว นอกนั้น ฝนล้วนๆ ไม่มีแดดเจือปน
ผมก็เฝ้าปักตะไคร้ หวังว่าอากาศจะดีขึ้น และก่อนหน้าเดินทาง เพียง 8 วัน พยากรณ์ก็บอกว่า 22-25 จะมีฝนตกแค่วันเดียว นอกนั้นแจ่มใส
อู้ววว เย้
อมยิ้ม02

แต่ทว่าผมลืมไป ว่าผมไม่ใช่สาวโสดบริสุทธิ์ แต่เป็นชายแถมยังโฉดชั่วมากมาย ดังนั้น ก่อนเดินทาง 3 วัน จนถึงวันเดินทาง พยากรณ์บอกว่าฝนจะตก "ทุกวัน"
ร้องไห้

ในส่วนของวันแรกนั้นถือว่าเป็นโชคดีของผม ที่ฝนมันตกไปตั้งแต่ผมยังไม่ออกจากสนามบิน ดังนั้นเมื่อผมเจอหน้าฮ่องกงครั้งแรก จึงต้อนรับผมด้วยรอยยิ้ม และอากาศอบอ้าวแบบเบาๆ แต่วันที่สองผมตื่นมาด้วยเสียงฝนตกแบบกระหน่ำ ไม่ลืมหูลืมตา และมันก็ตกแบบนั้น...ทั้งวัน
พล่ามมาเยอะแล้ว ไปลุยกันเลยดีกว่าเนาะ

23 พฤษภาคม 2557
วันที่สอง
เริ่มจากมื้อเช้าก่อนเลยดีกว่า เราจะตากฝนไปกินโจ๊กชื่อดังอย่าง Hung Lee Restaurant ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก
"หากคุณพักที่ Hop Inn. วิธีไป ให้ตั้งต้นหน้าที่พัก โดยยืนหันหลังให้ที่พัก (ขวามือต้องเป็น 7-11) จากนั้นเดินไปทางขวามือของตัวเอง (ไปทาง 7-11)
เมื่อเดินจนสุดตึก(ตึกที่เราพัก) ให้เลี้ยวขวา เดินตรงไปจนเจอทางแยกที่สอง ก็เลี้ยวขวาอีกครั้งนึง และร้านก็จะอยู่ขวามือในซอยนั้น (หาไม่ยากเลยครับ)


ของแท้ต้องมีจักรยานเฟสสัน อิอิ


บรรยากาศในร้านครับ




แอบใบ้หวยนิดนึง งวดนี้มาแน่ 55+



เมื่อสั่งอาหารเสร็จ พนักงานก็จะวางบิลไว้เลย ที่นั่นโดยมาก เมื่อสั่งอาหารเสร็จจะมีบิลวางเลยครับ
เวลาชำระต้องไปชำระที่เคาท์เตอร์
36 คือ ราคาโจ๊ก 9 คือน้ำเปล่านะครับ
(ซึ่งราคาน้ำเปล่าที่นั่น เท่ากันกับน้ำอัดลม และเบียร์ก็แพงกว่าเพียงนิดหน่อย นั่นหมายความว่าหากคุณเป็นคอเบียร์ คุณก็กดเบียร์แทนน้ำได้เลย หรือถ้าคุณเป็นคอน้ำอัดลม คุณก็จัดได้ตลอดเวลาเช่นกัน แต่ผมชอบดื่มน้ำเปล่า จึงกินแต่น้ำเปล่าครับ)


โต๊ะของเค้าจะมีอุปกรณ์การกินอยู่ในลิ้นชักเลยนะครับ
(ผมตรวจดูแมลงสาปแล้ว ไม่มีนะครับ ถ้าเป็นบ้านเรา เจอไปแล้วแน่ๆ)


โจ๊กมาแว้วววว เมนูที่ผมสั่ง ถ้าจำไม่ผิดคือ Meatball with Meat congee
รสชาติเนื้อโจ๊กนั้นบอกได้เลย ละลายครับ มันเนียน ลื่น นุ่ม ละมุนละไม เหมือนลิ้นไม่ได้สัมผัสข้าวอ่ะ
ใส่ปากเข้าไปแทบลอย อร่อยจริงๆ ไม่ได้เกินเลย คุณต้องสัมผัสเอง


หมูสับก้อนเบ้อเร่อ ยัดใส่ปากแทบไม่มิด
รสชาติเหมือนรวมเอาความอร่อยทั้งหมดไว้ในหมูสับก้อนนี้
เคี้ยวไปเพียงเบาๆ ความฉ่ำ หอม กรอบ อร่อย ไหลทะลักทะลวง ฟุ้งกระจายเต็มปาก


เนื้อวัวนุ่นชุ่มลิ้น
เนื้อวัวที่ไม่ใช่เนื้อวัว มันนุ่ม หอม เอาลิ้นดุนเบาๆ ขาดกระจุย
หมักแบบรสชาติพอประมาณ ไม่เข้มข้นจนกลบรสชาติของเนื้อ ซึ่งเวลาทานยังคงเหลือความหอมของเนื้ออยู่มาก
กลืนเนื้อลงไปแล้ว รสชาติกับความหอมยังคงฟุ้งกระจายเต็มปาก
ยิ่งโรยงาลงไปด้วย ยิ่งเพิ่มความอร่อยอย่างมาก



ร้านนี้มีเรื่องประทับใจด้วย
เนื่องจากผมหน้าตาไม่ค่อยจะไทย (จีนเลยหล่ะ) เดินเข้าไปถึง เจ๊แกก็ส่งเมนูภาษาจีนให้
ระหว่างผมกำลังพลิกหาภาพเพื่อจะจิ้มสั่ง ก็นึกได้ว่ามีคนรีวิวว่ามีเมนูอังกฤษนิ เลยขอเมนูไป ซึ่งเจ๊คนนี้ก็จะทราบแล้วว่าผมอ่านจีนม่ายออก
1. ผมสั่งแค่โจ๊กไป เพราะไม่ค่อยหิว เจ๊ก็ชี้ชวน (พูดจีนนะ) ประมาณว่า ปาโก๋อร่อยนะ ใครมาก็สั่ง พร้อมชี้ไปโต๊ะอื่นว่าเหงม่ะ เค้าสั่งกันทุกโต๊ะ
พอบอกว่าไม่เปงไร แกเดินไปทำโน่นนี่นั่น สักพักมาอีกแระ เตี๋ยวหลอดก็อร่อยนะ ดูโต๊ะโน้นสิ (แน๊ Direct Sales นะครัชเนี่ย)

2. และระหว่างรออาหารนั้น ก็มีชาวจีนเดินเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งทุกคนก็จะได้อาหารก่อนผม (ประมาณ 3 โต๊ะ ที่ได้ก่อนผม) แต่ผมไม่ได้โมโหนะ เพราะกะลังงัวเงียเนื่องจากนอนไม่พอ (เพราะ Hop Inn. เนี่ยแหละ ทำผมนอนไม่ได้ทั้งคืน) แล้วก็เลยไม่ค่อยจะหิว
ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะ
- เค้าโทรสั่งไว้แล้ว มาถึงก็กินเลย เหมือนเวลาเราโทรสั่งข้าวไว้ พักเที่ยงมาก็กินเลย ไม่ต้องรอคิวกับชาวออฟฟิศคนอื่นอีก
- เมนูที่เราสั่งมันยาก อาจจะเนื้อหมด ต้องรอ หรือหมูสับหมดต้องรอ (เพราะคนที่เข้ามา สั่งแต่บะหมี่น้ำ กับ ก๋วยเตี๋ยวหลอด)
แต่เจ๊เค้าคงเห็นผมนั่งหงอยๆ คนเดียว ก็เดินเข้ามาแล้วก็...ใส่จีนเป็นชุด (เดาเอาว่า ใจเยงๆนะ พ่อหนุ่มคนดี เดี๋ยวเจ๊จะไปจัดให้ ยังไงก็ต้องได้กิน ทนหิวนิดนึงนะจ๊ะ) แล้วก็เดินไปโวยวายใส่คนทำ
คือ เจ๊ลืมไปป่ะฮะ ว่าผมไม่เข้าใจภาษาจีนเนี่ยยย แอบฮาในความน่ารักของเจ๊

3. โต๊ะซ้ายมือผมเป็นกลุ่มสาวไทย 4 คน (หาก 4 ท่านนั้น เล่นพันทิพ กราบอภัยไว้ก่อนเลยนะครับ ถ้าเผาอะไรไป 55+)
คือไม่ได้มีอะไรไม่ดีนะครับ แต่ผมเนี่ยไปคนเดียว ก็ไม่รู้จักใครใช่ม่ะ ผมก็นั่งเงียบของผมไป น้องๆ 4 คนนั้นก็คงคิดว่าผมเปงนักท่องเที่ยวคนนึงที่ไม่รู้จักจีนกวางตุ้ง อาจจะญี่ปุ่น เกาหลี ก็ว่าไป เลยคุยกันออกรสชาติมาก (ซึ่งเป็นภาษาไทยล้วนๆ และผมฟังออกทุกคำ!!!) บางทีน้องๆก็หลุดอะไรๆทะลึ่งตึงตังมาบ้าง คือพี่ก็เขินแทนเนาะ ฟังออกเนี่ย
ท้ายสุดตอนเก็บเงินยังจะอุตส่าห์มุก ตะโกนบอก เก็บเงินด้วย อีกคนก็ดุประมาณว่า อึงจะบ้าเหรอ เค้าจะฟังออกได้ไง แต่เจ๊แกดันเข้าใจครับ (สงสัยโดนบ่อย) เจ๊แกก็ชี้ๆไปที่ประตูประมาณว่าจ่ายตรงนั้นเลย
ตอนนั้นกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เผลอหลุดขำเลยนะครัช แหม๋

จ่ายเงินตรงนี้นะครับ




อิ่มแล้ว เราจะไปนองปิงกันนะครับ
โดยเราจะนั่งสาย Tsuen Wan เหมือนเดิม และจะไปเปลี่ยนสายที่ สถานี Lai King
(อยากบอกว่าง่ายมากๆ พอๆกับเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าที่สถานีสยามเลยครับ เค้าจะมีป้ายบอกตลอด ง่ายจริงๆ)


โดยสายที่เราจะไปคือ Tung Chung ซึ่งสายนี้ จะเป็นสายเดียวกับที่ไป ดิสนีย์แลนด์ (ดิสนีย์แลนด์ จะไปเปลี่ยนสายอีกครั้ง ที่สถานี Sunny Bay)
แต่ของเราจะนั่งสุดสายที่ Tung Chung เลยนะครับ


ดังนั้น เด็กๆจึงเพียบครับ



ถึงแว้วว ที่นั่นป้ายเยอะจริงๆ ครับ ไม่ต้องกลัวหลง (แต่ผมก็หลงบ่อยอยู่ 55+)
เพราะป้ายเยอะ แต่บางครั้งสถานที่ ที่เราจะไปมันไม่มีในแผนที่





ตอนตื่นฝนตกหนัก ตอนไปกินข้าวเริ่มซา แต่พอออกจากสถานีเท่านั้นแหละ....




กลับเข้าสถานีหาน้ำเย็นๆกินก่อนก็ได้(ฟร่ะ)



จากการไปเที่ยวมา ผมได้ข้อสรุปว่า หากซื้อน้ำดื่มจากตู้อัตโนมัติ ราคาจะถูกกว่าซื้อจากที่อื่น
เช่นน้ำเปล่าขวดเล็ก ตู้จะขายที่ 6.5 $
ถ้าเป็น 7-11 จะขยับมาที่ 7.5-7.9 $
ส่วนตามที่เที่ยว จัดไปที่ 10 $ ครับ
* ขวดเล็กของเค้า ปริมาณเท่ากับ ขวดเล็ก 7บาท บ้านเราครับ


รอไปรอมา ก็กลัวว่าถ้ามัวแต่รอฝนหยุด แพลนวันนี้ไม่ครบองค์แน่ๆ จึงทำการฝ่าฝนไป


คนเข้าคิวอื้ออึง แม้น้องฝนจะมาเยี่ยมเยียน



ภาพต่อไป ให้ดูความเซงนะครับ มีแต่เม็ดฝน
ร้องไห้


กล้องคอมแพค จะโฟกัสวิว มันก็จะโฟกัสแต่วัตถุใกล้ เจอแต่เม็ดฝน


ถ่ายไปถ่ายมา หนีเม็ดฝนได้ แต่ภาพก็ไม่สวย รอลุ้นขากลับกันดีกว่าครับ ว่าผมจะช้ำ ซ้ำซ้อนหรือไม่



ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็ไปถึงที่หมาย
(ในตัวกระเช้า ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม ใช้อากาศจากภายนอกเพียวๆ)
บอกเลยว่า ช่วงไม่มีลมพัด จะขาดใจตายให้ได้ ดีว่าพกยาดมไป ไม่งั้นน็อคแน่ๆ
ใครจะไปแนะนำหน้าหนาวสถานเดียวครับ


เมื่อไปถึง ฝนก็ยังกระหน่ำไม่หยุด
(แล้วเราจะเดินไปไหว้พระเยี่ยงไร)


ยังดีว่ามีร้านรวงให้เดินเล่น ก่อนจะออกนอกสถานี



เด็กๆสนุกกับการไล่เหยียบแสงไฟการ์ตูน


จะเที่ยวแระนะ แต่ฝนก็ยังตก



วันนั้นไม่รู้ทำไมเด็กๆเยอะ และแต่งตัวเหมือนรับประกาศอะไรสักอย่างกัน
ชื่อสินค้า:   Hong Kong
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่