***กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ^^***
เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เราได้ไล่อ่านกระทู้Xmenดูเล่นๆ เห็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพลังควิกซี่ของแต่ละคนต่างๆกัน เราก็มีความคิดเห็นที่ต่างกันออกไปเกี่ยวกับพลังของควิกซี่เหมือนกัน เลยอยากมาแสดงความคิดเห็นบ้างน่ะค่ะ เพราะว่าอ่านไปแล้วเจอหลายกระทู้จัด จำไม่ค่อยได้แล้วด้วยว่ากระทู้ไหนบ้างที่เห็นต่าง ขี้เกียจไล่หาไล่ตอบทีละกระทู้ เลยมาตั้งกระทู้ใหม่เลยค่ะ
Quicksilver = ควิกซี่(ขี้เกียจพิมพ์ชื่อเต็มขอย่อหน่อยละกัน)
เราคิดว่าเพลงที่ปรากฏตอนที่ควิกซี่ใช้พลัง น่าจะเป็นเพลงที่ควิกซี่กำลังฟังอยู่ค่ะ ไม่น่าใช่แค่เพลงประกอบฉาก เพราะจำได้ว่ามีฉากที่ควิกซี่ใส่หูฟังอยู่ แล้วหลังจากนั้นเพลงก็เล่น แต่ที่เพลงมันช้าเหมือนเล่นเป็นปกติ ก็น่าจะเพราะความต่างของเวลาค่ะ คือฉากสโลว์ที่เห็นทั้งหมดในขณะนั้น น่าจะเป็นฉากที่เห็นผ่านมุมมองของควิกซี่ ในมุมมองของคนอื่น ต่อให้ตัวเขาเร็วจนมองไม่ทันแค่ไหน แต่ในสายตาของเขาเอง เขาสามารถมองเห็นทุกอย่างในสภาพหยุดนิ่งหมด เพราะความเร็วที่ต่างกัน ทำให้กระแสเวลาต่างกันด้วย ความเร็วของเวลาในสายตาคนปกติเป็นอีกแบบนึง แต่กระแสเวลาของควิกซี่ตอนใช้พลังก็เป็นอีกแบบนึง หูฟังและเพลงที่ฟังเป็นอยู่ติดอยู่บนตัวของเขาจึงโดนพลังไปด้วย ทำให้ไหลไปตามกระแสเวลาเฉพาะตัวของควิกซี่ ไม่ใช่ของโลกปกติ ทำให้ควิกซี่ได้ฟังเพลงด้วยความเร็วเพลงปกติค่ะ
ถ้างง สมมติง่ายๆละกันค่ะ :
1. ถ้าสมมติจากในเรื่อง ก็เหมือนตอนที่คิตตี้ใช้พลัง คือเวลาจับคนอื่นอยู่ก็สามารถใช้พลัง ทำให้อีกฝ่ายมีพลังสามารถทะลุกำแพงเหมือนกันได้ หรือจะให้ชัดเจนยิ่งกว่าคือตอนที่มิสทีคใช้พลัง เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ตอนร่างต้นที่เป็นสีฟ้า ก็สามารถเปลี่ยนรูปร่างไปเหมือนกันได้(จำไม่ค่อยได้ว่าภาคนี้เปลือยร่างฟ้าทั้งเรื่องรึเปล่า แต่ภาคก่อนๆมีฉากที่ใส่ชุดทับร่างฟ้าแล้วแปลงร่างค่ะ ชาร์ลน่าจะสอนให้ใส่) สรุปคือสิ่งที่สัมผัสหรือสวมใส่อยู่ในตัวผู้มีพลังสามารถติดพลังไปด้วยกันได้น่ะค่ะ หูฟังและเพลงที่ฟังก็อยู่บนตัวของควิกซี่ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ
2.ถ้าสมมติจากเหตุการณ์จริง ก็เหมือนตอนที่เรากำลังขับรถอยู่ค่ะ คนข้างถนนที่กำลังมองรถอยู่ก็จะมองเห็นรถที่วิ่งไวมาก ยิ่งซิ่งไวๆก็จะเห็นแค่แว้บๆมองกันไม่ค่อยทัน แต่จากมุมมองของคนในรถต่อให้ขับไวแค่ไหน กลับสามารถมองภาพภายนอกได้ช้ากว่ากันมาก เหมือนกับภาพวิวมันสโลว์ของมันเอง ทำให้เห็นสภาพต่างๆได้ชัดเจนแม้ว่าจะกำลังขับรถเร็วมากอยู่ก็ตามค่ะ
3.ถ้าสมมติจากในอนิเมที่คิดออก ก็เหมือนสาวน้อยผมดำจากเรื่องมาโดกะที่ควบคุมเวลาได้ละมั้งคะ(จำชื่อไม่ได้อ่ะค่ะ ดูนานแล้ว จำชื่อได้แต่คุณมามิที่หัวหลุดกระเด็น) คือเธอควบคุมเวลาให้มันหยุดนิ่งแล้วไปทำอะไรต่างๆ พอทำเสร็จก็ค่อยทำเวลาให้ดูเป็นปกติ คนอื่นๆก็จะมองเหมือนว่าเธอเร็วเอามากๆ มองตามไม่ทัน ควิกซี่ก็เช่นกันค่ะ คือเขาเร็วมากในสายตาของคนอื่น แต่ในมุมมองของควิกซี่เอง กลับเห็นรอบข้างในมุมมองที่ช้ามากๆจนเกือบจะหยุดนิ่ง จริงๆถ้ามีคนมาบอกเราว่า ควิกซี่สามารถควบคุมเวลาได้ไม่ใช่ความเร็ว ขอบอกตรงนี้ว่าเราคงเชื่อสนิทเลยค่ะ เราว่าหนังมันทำได้ชัดเจนเอามากๆเลยนะคะเรื่องนี้
4.สมมุติจากในหนังสือนิยายเรื่องนึงที่ชื่อเดอะสปูคส์ ตัวเอกที่ชื่อทอมก็มีความสามารถในการควบคุมเวลาเช่นกัน ตอนแรกที่เขาควบคุมเวลาโดยไม่รู้ตัว คือตอนที่เขาควบคุมเวลารอบข้าง ทำให้มีดที่แม่มดเพชฌฆาตขว้างมาจากที่เร็วมากค่อยๆช้าลง เขาจึงสามารถหลบพ้นจากวิถีของมีดสั้นได้ค่ะ (คงไม่ค่อยมีคนอ่านมั้งเรื่องนี้ เพราะมันนานมากแล้ว เป็นเรื่องของหมอผีฝึกหัดค่ะ สนุกมากเลย เสียดายสำนักพิมพ์แห่งใหม่ที่ได้ลิขสิทธิ์ไปเอาไปดองเค็มหลายปี เรื่องนี้เราค้างแทบกระอักพอๆกับเบอร์เซิร์กเลยค่ะ เศร้ามากT-T)
5.ฯลฯ จำได้เยอะเลย แต่คงจะยาวเกินไปค่ะ ถ้าจะเล่าต่อ
สรุปโดยรวมแล้วก็น่าเกี่ยวเนื่องกับกระแสความเร็วของเวลาที่ต่างกัน ระหว่างในมุมมองของคนปกติ กับมุมมองของตัวควิกซิลเวอร์ค่ะ ไม่รู้ว่าจะมีใครคิดเหมือนเราบ้างรึเปล่านะ^^?
สุดท้ายนี้ เนื่องจากดูหนังมาได้สักพักแล้ว อะไรๆอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง พิมพ์ผิดพลาดไปบ้างเนื่องจากพิมพ์ผ่านมือถือ และอาจจะพลาดเนื้อหาตรงบางจุดไป เพราะดูแค่ภาคนี้กับภาคเฟิร์สคลาส(พึ่งเสิร์จดูหลังดูDOFPจบ) ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ (แปลกที่เราเข้าไปดูภาคนี้เป็นครั้งแรกก็ไม่งงเลยค่ะ เก็ททุกตอน แต่ถ้าคนจะเข้าไปดูและไม่เคยดูมาก่อนเลยเหมือนเรา แนะนำเลยค่ะว่าน่าจะดูเฟิร์สคลาสก่อนก็ดีค่ะ เพราะความฟิน(Y)มันต่างกันเยอะเลยค่ะ 5555 กลับออกโรงมาเป็นFc Cherik McFassyทันใดเลยอ่ะ ที่ผ่านมาช๊านพลาดคู่นี้ไปได้ไงเนี่ย><)
สุดท้ายของท้ายสุด ขอพื้นที่พล่ามเรื่องชาร์ลนิสนึง คือเฮียชาร์ลนี่เป็นคนดี๊ดีเนอะ อะไรจะพ่อพระขนาดนั้น เทวดาของหนูสุดๆ ตลอดเลยอ่ะ คือถ้าชาร์ลเป็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์แบบโหดฟัด ไม่เลือกวิธีการแบบอีริค หรือเห็นแก่ตัวสุดๆขึ้นมานิดนึง เราว่าโลกของมนุษย์กับพวกกลายพันธุ์คงจะสงบสุขกันไปนานแล้วแหล่ะ ใครไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนความทรงจำมันไปซะ รู้หนึ่งคนก็เปลี่ยนหนึ่งคน ไล่ควบคุมผู้นำแต่ละประเทศพ้นเลย ใครขวางคุมไม่ได้ก็สั่งคนอื่นๆไปไล่ฆ่าเอาก็ได้ ยิ่งมีเครื่องมือขยายขอบเขตพลังประกอบเข้าไปด้วยแล้วนี่ โอ้โห แค่คิดก็พระเจ้าขนาดย่อมๆแล้วนะคะเนี่ย ฉากที่มิสทีคเอาหมวกอีริคออกนี่เรายังคิดเลยค่ะ ว่าถ้าชาร์ลเป็นคนไม่แคร์คนอื่น ไม่เคารพความคิดการตัดสินใจอีริคนี่ ก็คงจับอีริคล้างสมองเอามาทำหมาบ้าน ตัดปัญหาได้เลยนะคะเนี่ย หรือก่อนหน้านี้ต่อให้อีริคใส่หมวกอยุ่ ชาร์ลก็สามารถควบคุมคนข้างๆอีกฝ่ายให้ถอดหมวกให้เลยก็ได้แท้ๆ คือถ้าคนนี้เลวขึ้นมาอีกนิดนึงนี่เนื้อเรื่องคงเปลี่ยนแนวสุดๆเลยล่ะค่ะ ลาสบอสแน่ๆ เราคิดว่านะ ฉากหน้าพ่อพระ เบื้องหลังคอยควบคุม ทำอะไรคนก็คงไม่สงสัยกันสักนิด =_=
ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับพลังของQuicksilver จากเรื่องXmen:DOFPค่ะ
เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เราได้ไล่อ่านกระทู้Xmenดูเล่นๆ เห็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพลังควิกซี่ของแต่ละคนต่างๆกัน เราก็มีความคิดเห็นที่ต่างกันออกไปเกี่ยวกับพลังของควิกซี่เหมือนกัน เลยอยากมาแสดงความคิดเห็นบ้างน่ะค่ะ เพราะว่าอ่านไปแล้วเจอหลายกระทู้จัด จำไม่ค่อยได้แล้วด้วยว่ากระทู้ไหนบ้างที่เห็นต่าง ขี้เกียจไล่หาไล่ตอบทีละกระทู้ เลยมาตั้งกระทู้ใหม่เลยค่ะ
Quicksilver = ควิกซี่(ขี้เกียจพิมพ์ชื่อเต็มขอย่อหน่อยละกัน)
เราคิดว่าเพลงที่ปรากฏตอนที่ควิกซี่ใช้พลัง น่าจะเป็นเพลงที่ควิกซี่กำลังฟังอยู่ค่ะ ไม่น่าใช่แค่เพลงประกอบฉาก เพราะจำได้ว่ามีฉากที่ควิกซี่ใส่หูฟังอยู่ แล้วหลังจากนั้นเพลงก็เล่น แต่ที่เพลงมันช้าเหมือนเล่นเป็นปกติ ก็น่าจะเพราะความต่างของเวลาค่ะ คือฉากสโลว์ที่เห็นทั้งหมดในขณะนั้น น่าจะเป็นฉากที่เห็นผ่านมุมมองของควิกซี่ ในมุมมองของคนอื่น ต่อให้ตัวเขาเร็วจนมองไม่ทันแค่ไหน แต่ในสายตาของเขาเอง เขาสามารถมองเห็นทุกอย่างในสภาพหยุดนิ่งหมด เพราะความเร็วที่ต่างกัน ทำให้กระแสเวลาต่างกันด้วย ความเร็วของเวลาในสายตาคนปกติเป็นอีกแบบนึง แต่กระแสเวลาของควิกซี่ตอนใช้พลังก็เป็นอีกแบบนึง หูฟังและเพลงที่ฟังเป็นอยู่ติดอยู่บนตัวของเขาจึงโดนพลังไปด้วย ทำให้ไหลไปตามกระแสเวลาเฉพาะตัวของควิกซี่ ไม่ใช่ของโลกปกติ ทำให้ควิกซี่ได้ฟังเพลงด้วยความเร็วเพลงปกติค่ะ
ถ้างง สมมติง่ายๆละกันค่ะ :
1. ถ้าสมมติจากในเรื่อง ก็เหมือนตอนที่คิตตี้ใช้พลัง คือเวลาจับคนอื่นอยู่ก็สามารถใช้พลัง ทำให้อีกฝ่ายมีพลังสามารถทะลุกำแพงเหมือนกันได้ หรือจะให้ชัดเจนยิ่งกว่าคือตอนที่มิสทีคใช้พลัง เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ตอนร่างต้นที่เป็นสีฟ้า ก็สามารถเปลี่ยนรูปร่างไปเหมือนกันได้(จำไม่ค่อยได้ว่าภาคนี้เปลือยร่างฟ้าทั้งเรื่องรึเปล่า แต่ภาคก่อนๆมีฉากที่ใส่ชุดทับร่างฟ้าแล้วแปลงร่างค่ะ ชาร์ลน่าจะสอนให้ใส่) สรุปคือสิ่งที่สัมผัสหรือสวมใส่อยู่ในตัวผู้มีพลังสามารถติดพลังไปด้วยกันได้น่ะค่ะ หูฟังและเพลงที่ฟังก็อยู่บนตัวของควิกซี่ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ
2.ถ้าสมมติจากเหตุการณ์จริง ก็เหมือนตอนที่เรากำลังขับรถอยู่ค่ะ คนข้างถนนที่กำลังมองรถอยู่ก็จะมองเห็นรถที่วิ่งไวมาก ยิ่งซิ่งไวๆก็จะเห็นแค่แว้บๆมองกันไม่ค่อยทัน แต่จากมุมมองของคนในรถต่อให้ขับไวแค่ไหน กลับสามารถมองภาพภายนอกได้ช้ากว่ากันมาก เหมือนกับภาพวิวมันสโลว์ของมันเอง ทำให้เห็นสภาพต่างๆได้ชัดเจนแม้ว่าจะกำลังขับรถเร็วมากอยู่ก็ตามค่ะ
3.ถ้าสมมติจากในอนิเมที่คิดออก ก็เหมือนสาวน้อยผมดำจากเรื่องมาโดกะที่ควบคุมเวลาได้ละมั้งคะ(จำชื่อไม่ได้อ่ะค่ะ ดูนานแล้ว จำชื่อได้แต่คุณมามิที่หัวหลุดกระเด็น) คือเธอควบคุมเวลาให้มันหยุดนิ่งแล้วไปทำอะไรต่างๆ พอทำเสร็จก็ค่อยทำเวลาให้ดูเป็นปกติ คนอื่นๆก็จะมองเหมือนว่าเธอเร็วเอามากๆ มองตามไม่ทัน ควิกซี่ก็เช่นกันค่ะ คือเขาเร็วมากในสายตาของคนอื่น แต่ในมุมมองของควิกซี่เอง กลับเห็นรอบข้างในมุมมองที่ช้ามากๆจนเกือบจะหยุดนิ่ง จริงๆถ้ามีคนมาบอกเราว่า ควิกซี่สามารถควบคุมเวลาได้ไม่ใช่ความเร็ว ขอบอกตรงนี้ว่าเราคงเชื่อสนิทเลยค่ะ เราว่าหนังมันทำได้ชัดเจนเอามากๆเลยนะคะเรื่องนี้
4.สมมุติจากในหนังสือนิยายเรื่องนึงที่ชื่อเดอะสปูคส์ ตัวเอกที่ชื่อทอมก็มีความสามารถในการควบคุมเวลาเช่นกัน ตอนแรกที่เขาควบคุมเวลาโดยไม่รู้ตัว คือตอนที่เขาควบคุมเวลารอบข้าง ทำให้มีดที่แม่มดเพชฌฆาตขว้างมาจากที่เร็วมากค่อยๆช้าลง เขาจึงสามารถหลบพ้นจากวิถีของมีดสั้นได้ค่ะ (คงไม่ค่อยมีคนอ่านมั้งเรื่องนี้ เพราะมันนานมากแล้ว เป็นเรื่องของหมอผีฝึกหัดค่ะ สนุกมากเลย เสียดายสำนักพิมพ์แห่งใหม่ที่ได้ลิขสิทธิ์ไปเอาไปดองเค็มหลายปี เรื่องนี้เราค้างแทบกระอักพอๆกับเบอร์เซิร์กเลยค่ะ เศร้ามากT-T)
5.ฯลฯ จำได้เยอะเลย แต่คงจะยาวเกินไปค่ะ ถ้าจะเล่าต่อ
สรุปโดยรวมแล้วก็น่าเกี่ยวเนื่องกับกระแสความเร็วของเวลาที่ต่างกัน ระหว่างในมุมมองของคนปกติ กับมุมมองของตัวควิกซิลเวอร์ค่ะ ไม่รู้ว่าจะมีใครคิดเหมือนเราบ้างรึเปล่านะ^^?
สุดท้ายนี้ เนื่องจากดูหนังมาได้สักพักแล้ว อะไรๆอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง พิมพ์ผิดพลาดไปบ้างเนื่องจากพิมพ์ผ่านมือถือ และอาจจะพลาดเนื้อหาตรงบางจุดไป เพราะดูแค่ภาคนี้กับภาคเฟิร์สคลาส(พึ่งเสิร์จดูหลังดูDOFPจบ) ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ (แปลกที่เราเข้าไปดูภาคนี้เป็นครั้งแรกก็ไม่งงเลยค่ะ เก็ททุกตอน แต่ถ้าคนจะเข้าไปดูและไม่เคยดูมาก่อนเลยเหมือนเรา แนะนำเลยค่ะว่าน่าจะดูเฟิร์สคลาสก่อนก็ดีค่ะ เพราะความฟิน(Y)มันต่างกันเยอะเลยค่ะ 5555 กลับออกโรงมาเป็นFc Cherik McFassyทันใดเลยอ่ะ ที่ผ่านมาช๊านพลาดคู่นี้ไปได้ไงเนี่ย><)
สุดท้ายของท้ายสุด ขอพื้นที่พล่ามเรื่องชาร์ลนิสนึง คือเฮียชาร์ลนี่เป็นคนดี๊ดีเนอะ อะไรจะพ่อพระขนาดนั้น เทวดาของหนูสุดๆ ตลอดเลยอ่ะ คือถ้าชาร์ลเป็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์แบบโหดฟัด ไม่เลือกวิธีการแบบอีริค หรือเห็นแก่ตัวสุดๆขึ้นมานิดนึง เราว่าโลกของมนุษย์กับพวกกลายพันธุ์คงจะสงบสุขกันไปนานแล้วแหล่ะ ใครไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนความทรงจำมันไปซะ รู้หนึ่งคนก็เปลี่ยนหนึ่งคน ไล่ควบคุมผู้นำแต่ละประเทศพ้นเลย ใครขวางคุมไม่ได้ก็สั่งคนอื่นๆไปไล่ฆ่าเอาก็ได้ ยิ่งมีเครื่องมือขยายขอบเขตพลังประกอบเข้าไปด้วยแล้วนี่ โอ้โห แค่คิดก็พระเจ้าขนาดย่อมๆแล้วนะคะเนี่ย ฉากที่มิสทีคเอาหมวกอีริคออกนี่เรายังคิดเลยค่ะ ว่าถ้าชาร์ลเป็นคนไม่แคร์คนอื่น ไม่เคารพความคิดการตัดสินใจอีริคนี่ ก็คงจับอีริคล้างสมองเอามาทำหมาบ้าน ตัดปัญหาได้เลยนะคะเนี่ย หรือก่อนหน้านี้ต่อให้อีริคใส่หมวกอยุ่ ชาร์ลก็สามารถควบคุมคนข้างๆอีกฝ่ายให้ถอดหมวกให้เลยก็ได้แท้ๆ คือถ้าคนนี้เลวขึ้นมาอีกนิดนึงนี่เนื้อเรื่องคงเปลี่ยนแนวสุดๆเลยล่ะค่ะ ลาสบอสแน่ๆ เราคิดว่านะ ฉากหน้าพ่อพระ เบื้องหลังคอยควบคุม ทำอะไรคนก็คงไม่สงสัยกันสักนิด =_=