(รอยเตอร์) - หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ของจีนที่ตีพิมพ์ในวันจันทร์นี้ ได้กล่าวเตือนการลอกเรียนแบบประชาธิปไตยแบบตะวันตก หลังจากผ่านพ้นไปหนึ่งสัปดาห์ของวันครบรอบปีที่ 25 ของการปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง โดยชี้ไปที่ประเทศไทยและยูเครนเป็นตัวอย่างของความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากการนำระบบประชาธิปไตยของตะวันตกมาใช้
การขึ้นครองอำนาจของประธานาธิบดี Xi Jinping จากระบบการเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากรุ่นสู่รุ่น ที่มีขึ้นหนึ่งครั้งในหนึ่งทศวรรษได้ให้ความหวังต่อชาวจีนจำนวนมากสำหรับการ
ปฏิรูปทางการเมือง เนื่องจากสไตล์การทำงานแบบถึงลูกถึงคนของเขาเอง และชื่อเสียงของพ่อของเขา Xi Zhongxun อดีตรองนายกรัฐมนตรีนักปฏิรูป
แต่ทางพรรคคอมมิวนิสต์ได้สื่อสารต่อสาธารณชนมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ Xi ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้วว่าจะไม่มีการเปิดเสรีทางการเมือง
ทางการจีนได้อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมอย่างสูงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนวันครบรอบปีที่ 25 ของการปราบปรามอย่างนองเลือดต่อกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน รวมถึงการคุมขังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และการควบคุมอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด
หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ตีพิมพ์ความเห็นอย่างยีดยาวว่าประเทศจีนจำเป็นที่จะต้องระวัง ป้องกันไม่ให้ตกไปใน "กับดัก" ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้กล่าว่า"ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานับจากกรุงเคียฟ ไปจนถึงกรุงเทพฯ การเดินขบวนทางการเมืองไปตามท้องถนน และการปะทะกันของประชาชนนำมาซึ่งความน่าเศร้าอย่างยิ้ง"
"มองย้อนกลับไปที่ 'การปฏิวัติสี' ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่นานนี้ ... เราสามารถพูดด้วยความรู้สึกอย่างซาบซึ่ง ดีใจว่าเราได้ยึดม่นอย่างมั่นคงในสังคมนิยมแบบจีน มิฉะนั้นสังคมจีนจะมีความสงบสุขได้อย่างไรกัน"
"จากเอเชียตะวันตกไปจรดแอฟริกาเหนือหลายประเทศได้ลื่นไถลเข้าไปสู่ความบ้าคลั่ง สับสนของประชาธิปไตยแบบตะวันตก 'ซึ่งมิได้นำมาซึ้งความสุขและความมั่นคงเลย"
นอกจากนี้พีเพิ่ลเดลี่ยังเพ่งเล็งไปที่การปกครองระบอบประชาธิปไตยของอังกฤษ
"ในรัฐสภาของสหราชอาณาจักร จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีตระกูลขุนนางดำรงอยู่. ซึ่งสำหรับคนจีนแล้วนี่คือสิ่งที่คิดไม่ถึง" พีเพิ่ลเดลี่ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าจีนควรดำเนินการต่อไปในเส้นทางของตัวเอง
ช่วงที่ไปเยือนเบลเยียมในเดือนเมษายน Xi ได้กล่าวว่าจีนได้เคยมีประสบการณ์ในอดีตกับระบบการเมืองแบบต่างๆ รวมถึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคมาแล้ว แต่มันไม่ได้ผล ซึ่งเป็นการเตือนว่าการลอกรูปแบบทางการเมืองหรือการพัฒนาในต่างประเทศอาจจะกลายเป็นหายนะได้
ในระยะยาวแล้วรัฐธรรมนูญของจีนได้ประดิษฐานพรรคคอมมิวนิสต์ ให้มีบทบาทนำในรัฐบาล แม้ว่ารัฐบาลจะยอมให้มีกลุ่มการเมืองอื่นอยู่ได้ แต่ว่าจะต้องอยู่ภายใต้สิ่งที่เรียกว่า "ระบบความร่วมมือหลายฝ่าย" แต่ทุกฝ่ายจะต้องยอมจำนนต่อพรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้น
ในประเทศจีนนั้นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เรียกร้องให้มีระบบพรรคการเมืองหลายพรรค มักจะถูกตัดสินจำคุกเป็นประจำ และแล้วเสียงวิจารณ์ระบบเผด็จการพรรคเดียวของจีนก็เงียบหายไป
http://www.reuters.com/article/2014/06/09/us-china-politics-democracy-idUSKBN0EK08I20140609
คสช.สบายใจได้แล้วครับ อาตั่วเฮียมาช่วยแล้ว
ปล.ถ้าแปลผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ
หมายเหตุ: การปฏิวัติสี Colour Revelution
http://en.wikipedia.org/wiki/Colour_revolution
สื่อจีนยกไทยให้เป็นตัวอย่างของความวุ่นวายจากการลอกเลียนประชาธิปไตยแบบตะวันตก
การขึ้นครองอำนาจของประธานาธิบดี Xi Jinping จากระบบการเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากรุ่นสู่รุ่น ที่มีขึ้นหนึ่งครั้งในหนึ่งทศวรรษได้ให้ความหวังต่อชาวจีนจำนวนมากสำหรับการ
ปฏิรูปทางการเมือง เนื่องจากสไตล์การทำงานแบบถึงลูกถึงคนของเขาเอง และชื่อเสียงของพ่อของเขา Xi Zhongxun อดีตรองนายกรัฐมนตรีนักปฏิรูป
แต่ทางพรรคคอมมิวนิสต์ได้สื่อสารต่อสาธารณชนมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ Xi ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้วว่าจะไม่มีการเปิดเสรีทางการเมือง
ทางการจีนได้อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมอย่างสูงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนวันครบรอบปีที่ 25 ของการปราบปรามอย่างนองเลือดต่อกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน รวมถึงการคุมขังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และการควบคุมอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด
หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ตีพิมพ์ความเห็นอย่างยีดยาวว่าประเทศจีนจำเป็นที่จะต้องระวัง ป้องกันไม่ให้ตกไปใน "กับดัก" ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้กล่าว่า"ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานับจากกรุงเคียฟ ไปจนถึงกรุงเทพฯ การเดินขบวนทางการเมืองไปตามท้องถนน และการปะทะกันของประชาชนนำมาซึ่งความน่าเศร้าอย่างยิ้ง"
"มองย้อนกลับไปที่ 'การปฏิวัติสี' ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่นานนี้ ... เราสามารถพูดด้วยความรู้สึกอย่างซาบซึ่ง ดีใจว่าเราได้ยึดม่นอย่างมั่นคงในสังคมนิยมแบบจีน มิฉะนั้นสังคมจีนจะมีความสงบสุขได้อย่างไรกัน"
"จากเอเชียตะวันตกไปจรดแอฟริกาเหนือหลายประเทศได้ลื่นไถลเข้าไปสู่ความบ้าคลั่ง สับสนของประชาธิปไตยแบบตะวันตก 'ซึ่งมิได้นำมาซึ้งความสุขและความมั่นคงเลย"
นอกจากนี้พีเพิ่ลเดลี่ยังเพ่งเล็งไปที่การปกครองระบอบประชาธิปไตยของอังกฤษ
"ในรัฐสภาของสหราชอาณาจักร จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีตระกูลขุนนางดำรงอยู่. ซึ่งสำหรับคนจีนแล้วนี่คือสิ่งที่คิดไม่ถึง" พีเพิ่ลเดลี่ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าจีนควรดำเนินการต่อไปในเส้นทางของตัวเอง
ช่วงที่ไปเยือนเบลเยียมในเดือนเมษายน Xi ได้กล่าวว่าจีนได้เคยมีประสบการณ์ในอดีตกับระบบการเมืองแบบต่างๆ รวมถึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคมาแล้ว แต่มันไม่ได้ผล ซึ่งเป็นการเตือนว่าการลอกรูปแบบทางการเมืองหรือการพัฒนาในต่างประเทศอาจจะกลายเป็นหายนะได้
ในระยะยาวแล้วรัฐธรรมนูญของจีนได้ประดิษฐานพรรคคอมมิวนิสต์ ให้มีบทบาทนำในรัฐบาล แม้ว่ารัฐบาลจะยอมให้มีกลุ่มการเมืองอื่นอยู่ได้ แต่ว่าจะต้องอยู่ภายใต้สิ่งที่เรียกว่า "ระบบความร่วมมือหลายฝ่าย" แต่ทุกฝ่ายจะต้องยอมจำนนต่อพรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้น
ในประเทศจีนนั้นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เรียกร้องให้มีระบบพรรคการเมืองหลายพรรค มักจะถูกตัดสินจำคุกเป็นประจำ และแล้วเสียงวิจารณ์ระบบเผด็จการพรรคเดียวของจีนก็เงียบหายไป
http://www.reuters.com/article/2014/06/09/us-china-politics-democracy-idUSKBN0EK08I20140609
คสช.สบายใจได้แล้วครับ อาตั่วเฮียมาช่วยแล้ว
ปล.ถ้าแปลผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ
หมายเหตุ: การปฏิวัติสี Colour Revelution
http://en.wikipedia.org/wiki/Colour_revolution