[๕๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ภิกษุ
มากด้วยกันกลับจากบิณฑบาตในเวลาภายหลังภัต นั่งประชุมกันที่หอฉัน เกิด
หมายมั่นก่อความทะเลาะวิวาทกันขึ้น ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอก คือ ปาก
ครั้นเวลาเย็น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่เร้น เสด็จเข้าไปยังหอฉัน แล้ว
ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ ครั้นแล้วได้ตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บัดนี้ เธอทั้งหลายนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ และเรื่อง
อะไรอันเธอทั้งหลายพักค้างไว้ในระหว่าง ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับจากบิณฑบาต
ในเวลาภายหลังภัต นั่งประชุมกันที่หอฉัน เกิดหมายมั่นก่อความทะเลาะวิวาท
กันขึ้น ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอก คือ ปากอยู่ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย การที่เธอทั้งหลายเกิดความ
หมายมั่นก่อความทะเลาะวิวาทกันขึ้น ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอก คือ ปากอยู่นี้
เป็นกรรมไม่สมควรแก่เธอทั้งหลาย ผู้เป็นกุลบุตรออกบวชเป็นบรรพชิตด้วย
ศรัทธา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ เป็นที่ตั้งแห่งความระลึกถึงกัน
ทำให้เป็นที่รัก ที่เคารพกัน ย่อมเป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กันและกัน ไม่วิวาทกัน
สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้มีศีล .....................ฯลฯ.............
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นพหูสูต ............ฯลฯ....
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี .......ฯลฯ....
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย .......ฯลฯ......
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ขยัน .........ฯลฯ.....
อีกประการหนึ่ง ภิกษุมีความใคร่ในธรรม เป็นผู้ฟังและแสดงธรรมอัน
เป็นที่รัก มีความปราโมทย์อย่างยิ่งใน
อภิธรรม ในอภิวินัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีความใคร่ในธรรม ฯลฯ นี้ เป็นธรรมที่ตั้งแห่งความระลึกถึงกัน
และกัน ทำให้เป็นที่รัก ที่เคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กันและกัน
ไม่วิวาทกัน สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้ปรารภความเพียรเพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย............ฯลฯ........
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้สันโดษด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ตามมีตามได้ ...............ฯลฯ......
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีสติ .....................ฯลฯ.........
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีปัญญา .................ฯลฯ..........
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล เป็นที่ตั้งแห่งความระลึก
ถึงกันและกัน ทำให้เป็นที่รักที่เคารพกัน ย่อมเป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กัน
และกัน ไม่วิวาทกัน สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=24&A=2138&Z=2221
อภิธรรม จากพระโอษฐ์
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ภิกษุ
มากด้วยกันกลับจากบิณฑบาตในเวลาภายหลังภัต นั่งประชุมกันที่หอฉัน เกิด
หมายมั่นก่อความทะเลาะวิวาทกันขึ้น ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอก คือ ปาก
ครั้นเวลาเย็น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่เร้น เสด็จเข้าไปยังหอฉัน แล้ว
ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ ครั้นแล้วได้ตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บัดนี้ เธอทั้งหลายนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ และเรื่อง
อะไรอันเธอทั้งหลายพักค้างไว้ในระหว่าง ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับจากบิณฑบาต
ในเวลาภายหลังภัต นั่งประชุมกันที่หอฉัน เกิดหมายมั่นก่อความทะเลาะวิวาท
กันขึ้น ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอก คือ ปากอยู่ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย การที่เธอทั้งหลายเกิดความ
หมายมั่นก่อความทะเลาะวิวาทกันขึ้น ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอก คือ ปากอยู่นี้
เป็นกรรมไม่สมควรแก่เธอทั้งหลาย ผู้เป็นกุลบุตรออกบวชเป็นบรรพชิตด้วย
ศรัทธา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้ เป็นที่ตั้งแห่งความระลึกถึงกัน
ทำให้เป็นที่รัก ที่เคารพกัน ย่อมเป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กันและกัน ไม่วิวาทกัน
สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้มีศีล .....................ฯลฯ.............
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นพหูสูต ............ฯลฯ....
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี .......ฯลฯ....
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย .......ฯลฯ......
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ขยัน .........ฯลฯ.....
อีกประการหนึ่ง ภิกษุมีความใคร่ในธรรม เป็นผู้ฟังและแสดงธรรมอัน
เป็นที่รัก มีความปราโมทย์อย่างยิ่งในอภิธรรม ในอภิวินัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีความใคร่ในธรรม ฯลฯ นี้ เป็นธรรมที่ตั้งแห่งความระลึกถึงกัน
และกัน ทำให้เป็นที่รัก ที่เคารพกัน เป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กันและกัน
ไม่วิวาทกัน สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้ปรารภความเพียรเพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย............ฯลฯ........
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้สันโดษด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแก่คนไข้ ตามมีตามได้ ...............ฯลฯ......
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีสติ .....................ฯลฯ.........
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีปัญญา .................ฯลฯ..........
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๑๐ ประการนี้แล เป็นที่ตั้งแห่งความระลึก
ถึงกันและกัน ทำให้เป็นที่รักที่เคารพกัน ย่อมเป็นไปเพื่อความสงเคราะห์กัน
และกัน ไม่วิวาทกัน สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=24&A=2138&Z=2221