สวัสดีครับ
ช่วงต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเที่ยว สถานที่อยากไปมากๆมานานแล้ว สุดท้ายก็เลยหาเวลาไปจนได้
สถานที่นั่นคือ " Lake Heaven Resort " เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี นั่นเองครับ
ก่อนอื่นเลย สำหรับ เจ้านี้ ก่อนผมจะจองที่พักได้ เค้าร่ำลือกันว่าจองยากมาก ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ ต้องจองกันข้ามปีเลยทีเดียว... ผมเลยตัดสินใจจองวันธรรมดา คืนวันจันทร์ เลยครับ.. แต่การจองวันธรรมดาก็ยังยากจริงๆ ครับ แค่เริ่มต้นโทรไปตามเบอร์หน้าเว็บที่ให้ไว้
http://www.lakeheaven.com เค้าก็ไม่ค่อยรับสาย โทรซัก 10 ครั้งจะรับสายครั้งนึง สงสัยคนโทรเยอะจริงๆ แถมพอรับแล้ว ก็ดูรีบๆ ถ้าเราถามวันที่เราจะไปเต็มแล้ว ก็ไม่แนะนำอะไรเพิ่มเติมเลย แต่ก็เข้าใจเค้านะครับ คนคงเยอะจริงๆ...
เมื่อคุยผ่านหน้าเบอร์หน้าเว็บไม่ได้เรื่อง ผมเลยต้องโทรไปยังสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ เค้าเลยติดต่อให้ Sale ติดต่อกลับมา เลยได้ห้องตามต้องการครับ
คราวนี้ Sale ค่อยโอเคหน่อย เพราะเค้าคงรู้ว่าเราเป็นลูกค้าจริงๆ ไม่งั้นไม่โทรไปสำนักงานใหญ่หรอก อิอิ
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว.. เราก็ไปเที่ยวกันครับ
ผมอยู่จังหวัดพิจิตร การเดินทางเลยต้องใช้เส้นทาง พิจิตร - นครสวรรค์ - อุทัยธานี - ชัยนาท - สุพรรณบุรี - กาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม.ครับ
ออกเดินทางจากพิจิตร เวลาประมาณ 06.30 น.
จุดหมายแรก ร้านกาแฟ เด่นชัย อยู่ที่ปั้ม ปตท.ก่อนถึงนครสวรรค์ ครับ
เพื่อนร่วมเดินทางของผมครับ สาวโสดทั้งนั้นเลย
กาแฟที่นี้แฟนผมบอกว่าเคยทานมาตั้งนานหลายปี ในสมัยที่ร้านกาแฟสดยังไม่ค่อยมี เลยมาแวะอุดหนุนลุงเค้าหน่อยครับ
เมื่อได้กาแฟแล้วคราวนี้ คนขับรถก็ขับสบายเลยครับ ยาวๆไป จนถึงสุพรรณบุรี ตอนเที่ยงแล้ว เลยขอแวะ หาของกินที่ตลาดสามชุกซักหน่อย
เคยดูในทีวีมาตลาดสามชุกต้องกินข้าวห่อใบบัวเลยจัดกันคนละห่อเลยครับ (ไม่อร่อยอย่างที่คิด
)
เมื่ออิ่มท้องแล้วคราวนี้เราก็ตรงไปยัง Lake Heaven เพื่อจะเช็คอื่นตอนบ่ายสองตามเวลาที่ให้เข้าได้กันเลยครับ
มาถึงแล้วก็ชักภาพหมู่กันซักหน่อย
ทางเดินเข้ารีสอร์ทครับ
บรรยากาศที่พัก
ในส่วนของที่พัก ผมจองห้องแอร์นอนห้องละสองคน ความสะอาดห้องนอน ห้องน้ำ ถือว่าดีมากครับ สาวๆที่ไปตอนแรกกังวลว่าห้องบนแพจะอับชื้นมีแมลงต่างๆ สรุปว่าไม่มีครับ ห้องเรียบร้อย แอร์เย็นฉ่ำ ถูกใจครับ มีชานบ้านของตัวเองให้สามารถโดดเล่นน้ำได้เลยด้วย หรือจะมานั่งชิลๆก็ได้ครับ
มาถึงแล้วแดดยังร้อนอยู่ เลยถ่ายรูปรอเวลาแดดร่มกันครับ
และแล้วแดดก็ร่ม 5 โมงเย็น ได้เวลาออกไปลุย เราไปดูเครื่องเล่นที่ถือว่าเป็น จุดขายของ Lake Heaven กัน ( ผมขอบรรยายด้วยภาพละกันนะครับ )
สำหรับเครื่องทุกชนิดที่ไม่ใช้น้ำมัน ที่นี่ฟรีหมดครับ เล่นกันตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนถึง 6 โมงครึ่ง ก็เหนื่อยหมดแรงกันเลยทีเดียว ตอนแรกตั้งใจจะเช่าเจ็ทสกีกับบานาน่าโบ๊ท แค่เล่นเครื่องเล่นก็หมดแรงหมดเวลาแล้วครับ อิอิ ( เครื่องเล่นที่นี่เค้าสูบลมตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงประมาณ 6 โมงเย็นนะครับ )
ออกกำลังกายเสร็จเราก็ทานอาหารเย็นกันที่นั่นเลย อาหารรสชาติอร่อยดีครับ ราคาไม่แพง
เสร็จแล้วก็กลับไปนั่งคุยกันที่ห้องพักจนถึงห้าทุ่มก็แยกย้ายกันไปนอน เพราะเพลียมาก และตั้งใจว่าตอนเช้าจะมาเล่นต่อ...
แต่นอนไม่หลับครับ เพราะแพติดกัน (ห้องพัดลม)มากันเป็น 10 คน ไม่ยอมนอนแถมเปิดเพลงเสียงดังโวยวาย กรี๊ดกร๊าดด ไม่มีวี่แววว่าจะเกรงใจแขกคนอื่นที่มาพักเลย ผมเลยโทรไปหา Operater ครั้งแรก ตอนเที่ยงคืน เค้าก็บอกจะให้คนมาดู .. ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ตีหนึ่งแล้ว ก็ยังดังกว่าเดิม คราวนี้ผมเลยบอกว่าถ้าเค้าไม่เงียบ พี่ก็จะออกมาโวยวายหน้าห้องบ้างนะ คราวนี้ตื่นกันทั้งรีสอร์ทแน่ๆ
ปรากฏได้ผลครับ เงียบเลย คงกลัวเราโวยวายจริงๆ .. อันนี้ถือว่าเป็นข้อเสียของ
รีสอร์ทเลย ที่ไม่สามารถคุมลูกค้าได้ ลิมิตผมว่า แค่เที่ยงคืนก็พอแล้ว กับการเปิดเพลงเหมือนอยู่ในผับ และเสียงดังโวยวายรบกวนแขกคนอื่น...
จากนั้นเช้ามาผมกับเดอะแก็งค์ก็ออกไปเล่นต่อครับ ก่อนกลับก็ชักภาพสวยๆกันซักหน่อย
ขากลับเราก็แวะไปทานข้าวกันที่ เมืองกาญจน์ ที่ร้าน คีรี ธารา
http://www.keereetara.com ร้านอยู่ใกล้ ทางรถไฟสายมรณะเลยครับ
อาหารอร่อย เค้กอร่อย กาแฟอร่อย บรรยากาศดี ผ่านไปอย่าลืมแวะไปทานนะครับ
อิ่มแล้วก็ไปถ่ายรูปที่ทางรถไฟสายมรณะ ก่อนเดินทางกลับกันครับ ให้รถไฟวิ่งผ่านเล่นๆ สนุกไปอีกแบบครับ
สุดท้ายก็เป็นคลิปวีดีโอบรรยากาศโดยรวมของการเที่ยวครั้งนี้นะครับ สนุก และ มีความสุข สมชื่อ Lake Heaven จริงๆ
จบแล้วครับทริป Lake Heaven ของผม หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย สำหรับทุกคนที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวก่อนหมดหน้าร้อนนี้ ไว้มีโอกาสไปเที่ยวไหนอีก ผมจะมารีวิวให้ดูให้ชมกันอีกครั้งนะครับ
ขอบคุณคนอ่านทุกคนครับ
สารวัตรเป็นไท
[CR] Lake Heaven เมืองไทย ไม่ไปไม่รู้
ช่วงต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเที่ยว สถานที่อยากไปมากๆมานานแล้ว สุดท้ายก็เลยหาเวลาไปจนได้
สถานที่นั่นคือ " Lake Heaven Resort " เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี นั่นเองครับ
ก่อนอื่นเลย สำหรับ เจ้านี้ ก่อนผมจะจองที่พักได้ เค้าร่ำลือกันว่าจองยากมาก ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ ต้องจองกันข้ามปีเลยทีเดียว... ผมเลยตัดสินใจจองวันธรรมดา คืนวันจันทร์ เลยครับ.. แต่การจองวันธรรมดาก็ยังยากจริงๆ ครับ แค่เริ่มต้นโทรไปตามเบอร์หน้าเว็บที่ให้ไว้ http://www.lakeheaven.com เค้าก็ไม่ค่อยรับสาย โทรซัก 10 ครั้งจะรับสายครั้งนึง สงสัยคนโทรเยอะจริงๆ แถมพอรับแล้ว ก็ดูรีบๆ ถ้าเราถามวันที่เราจะไปเต็มแล้ว ก็ไม่แนะนำอะไรเพิ่มเติมเลย แต่ก็เข้าใจเค้านะครับ คนคงเยอะจริงๆ...
เมื่อคุยผ่านหน้าเบอร์หน้าเว็บไม่ได้เรื่อง ผมเลยต้องโทรไปยังสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ เค้าเลยติดต่อให้ Sale ติดต่อกลับมา เลยได้ห้องตามต้องการครับ
คราวนี้ Sale ค่อยโอเคหน่อย เพราะเค้าคงรู้ว่าเราเป็นลูกค้าจริงๆ ไม่งั้นไม่โทรไปสำนักงานใหญ่หรอก อิอิ
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว.. เราก็ไปเที่ยวกันครับ
ผมอยู่จังหวัดพิจิตร การเดินทางเลยต้องใช้เส้นทาง พิจิตร - นครสวรรค์ - อุทัยธานี - ชัยนาท - สุพรรณบุรี - กาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม.ครับ
ออกเดินทางจากพิจิตร เวลาประมาณ 06.30 น.
จุดหมายแรก ร้านกาแฟ เด่นชัย อยู่ที่ปั้ม ปตท.ก่อนถึงนครสวรรค์ ครับ
เพื่อนร่วมเดินทางของผมครับ สาวโสดทั้งนั้นเลย
กาแฟที่นี้แฟนผมบอกว่าเคยทานมาตั้งนานหลายปี ในสมัยที่ร้านกาแฟสดยังไม่ค่อยมี เลยมาแวะอุดหนุนลุงเค้าหน่อยครับ
เมื่อได้กาแฟแล้วคราวนี้ คนขับรถก็ขับสบายเลยครับ ยาวๆไป จนถึงสุพรรณบุรี ตอนเที่ยงแล้ว เลยขอแวะ หาของกินที่ตลาดสามชุกซักหน่อย
เคยดูในทีวีมาตลาดสามชุกต้องกินข้าวห่อใบบัวเลยจัดกันคนละห่อเลยครับ (ไม่อร่อยอย่างที่คิด )
เมื่ออิ่มท้องแล้วคราวนี้เราก็ตรงไปยัง Lake Heaven เพื่อจะเช็คอื่นตอนบ่ายสองตามเวลาที่ให้เข้าได้กันเลยครับ
มาถึงแล้วก็ชักภาพหมู่กันซักหน่อย
ทางเดินเข้ารีสอร์ทครับ
บรรยากาศที่พัก
ในส่วนของที่พัก ผมจองห้องแอร์นอนห้องละสองคน ความสะอาดห้องนอน ห้องน้ำ ถือว่าดีมากครับ สาวๆที่ไปตอนแรกกังวลว่าห้องบนแพจะอับชื้นมีแมลงต่างๆ สรุปว่าไม่มีครับ ห้องเรียบร้อย แอร์เย็นฉ่ำ ถูกใจครับ มีชานบ้านของตัวเองให้สามารถโดดเล่นน้ำได้เลยด้วย หรือจะมานั่งชิลๆก็ได้ครับ
มาถึงแล้วแดดยังร้อนอยู่ เลยถ่ายรูปรอเวลาแดดร่มกันครับ
และแล้วแดดก็ร่ม 5 โมงเย็น ได้เวลาออกไปลุย เราไปดูเครื่องเล่นที่ถือว่าเป็น จุดขายของ Lake Heaven กัน ( ผมขอบรรยายด้วยภาพละกันนะครับ )
สำหรับเครื่องทุกชนิดที่ไม่ใช้น้ำมัน ที่นี่ฟรีหมดครับ เล่นกันตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนถึง 6 โมงครึ่ง ก็เหนื่อยหมดแรงกันเลยทีเดียว ตอนแรกตั้งใจจะเช่าเจ็ทสกีกับบานาน่าโบ๊ท แค่เล่นเครื่องเล่นก็หมดแรงหมดเวลาแล้วครับ อิอิ ( เครื่องเล่นที่นี่เค้าสูบลมตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงประมาณ 6 โมงเย็นนะครับ )
ออกกำลังกายเสร็จเราก็ทานอาหารเย็นกันที่นั่นเลย อาหารรสชาติอร่อยดีครับ ราคาไม่แพง
เสร็จแล้วก็กลับไปนั่งคุยกันที่ห้องพักจนถึงห้าทุ่มก็แยกย้ายกันไปนอน เพราะเพลียมาก และตั้งใจว่าตอนเช้าจะมาเล่นต่อ...
แต่นอนไม่หลับครับ เพราะแพติดกัน (ห้องพัดลม)มากันเป็น 10 คน ไม่ยอมนอนแถมเปิดเพลงเสียงดังโวยวาย กรี๊ดกร๊าดด ไม่มีวี่แววว่าจะเกรงใจแขกคนอื่นที่มาพักเลย ผมเลยโทรไปหา Operater ครั้งแรก ตอนเที่ยงคืน เค้าก็บอกจะให้คนมาดู .. ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ตีหนึ่งแล้ว ก็ยังดังกว่าเดิม คราวนี้ผมเลยบอกว่าถ้าเค้าไม่เงียบ พี่ก็จะออกมาโวยวายหน้าห้องบ้างนะ คราวนี้ตื่นกันทั้งรีสอร์ทแน่ๆ ปรากฏได้ผลครับ เงียบเลย คงกลัวเราโวยวายจริงๆ .. อันนี้ถือว่าเป็นข้อเสียของ
รีสอร์ทเลย ที่ไม่สามารถคุมลูกค้าได้ ลิมิตผมว่า แค่เที่ยงคืนก็พอแล้ว กับการเปิดเพลงเหมือนอยู่ในผับ และเสียงดังโวยวายรบกวนแขกคนอื่น...
จากนั้นเช้ามาผมกับเดอะแก็งค์ก็ออกไปเล่นต่อครับ ก่อนกลับก็ชักภาพสวยๆกันซักหน่อย
ขากลับเราก็แวะไปทานข้าวกันที่ เมืองกาญจน์ ที่ร้าน คีรี ธารา http://www.keereetara.com ร้านอยู่ใกล้ ทางรถไฟสายมรณะเลยครับ
อาหารอร่อย เค้กอร่อย กาแฟอร่อย บรรยากาศดี ผ่านไปอย่าลืมแวะไปทานนะครับ
อิ่มแล้วก็ไปถ่ายรูปที่ทางรถไฟสายมรณะ ก่อนเดินทางกลับกันครับ ให้รถไฟวิ่งผ่านเล่นๆ สนุกไปอีกแบบครับ
สุดท้ายก็เป็นคลิปวีดีโอบรรยากาศโดยรวมของการเที่ยวครั้งนี้นะครับ สนุก และ มีความสุข สมชื่อ Lake Heaven จริงๆ
จบแล้วครับทริป Lake Heaven ของผม หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย สำหรับทุกคนที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวก่อนหมดหน้าร้อนนี้ ไว้มีโอกาสไปเที่ยวไหนอีก ผมจะมารีวิวให้ดูให้ชมกันอีกครั้งนะครับ
ขอบคุณคนอ่านทุกคนครับ
สารวัตรเป็นไท
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น