ซื้อรถ เท่ากับ ซื้อ loss

กระทู้สนทนา
มีหลายคนที่ผมสนิท เอ่ยปากบอกผมว่า "ผมเป็นคนที่ ค่อนข้างเคร่งครัดในการใช้เงิน" ประมาณว่า อะไรที่จำเป็น ผมยินดีจ่ายแบบไม่เคยคิด แต่อะไรที่ดูแล้ว ไร้สาระ ไม่จรรโลงชีวิต ผมตัดออกแบบ บัวไม่เหลือใย

ผมยังจำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่ผมยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ กับการใชัชีวิต การบริหารเงิน และ การลงทุน ในแบบฉบับพนักงานประจำของ บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้น ผมก็เหมือนคนอื่น ที่พอขึ้นตำแหน่งบริหาร งานก็ตามมาสารพัด!!! สุดแล้วแต่เบื้องบนจะบัญชา แต่ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบ ทำให้ผมได้มีโอกาส ทำงานที่ชอบ นั่นคือ งานสอน ควบคู่กับ งานประจำที่ทำอยู่

ผมยังจำได้ว่า มีนักลงทุนคนหนึ่ง (ยังเด็กมาก แต่สนใจเรื่องการลงทุน) เอ่ยปากขอติดรถผมกลับบ้านไปด้วยกัน เนื่องจากทราบว่า เส้นทางกลับบ้านเป็นเส้นทางเดียวกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับรู้สึกดีเสียอีก ที่จะได้มีเพื่อนคุยระหว่างทาง

หลังจากนั่งรถด้วยกันมาได้สักพัก อาจด้วยความเป็นเด็กของนักลงทุนท่านนั้น หรือ อะไรก็ไม่ทราบ มีประโยคคำถามหนึ่ง หลุดออกมาจากปากว่า "ทำไมอาจารย์ในฐานะ ผู้บริหารโบรกเกอร์ (ผมเป็นแค่ผู้จัดการฝ่าย ไม่ใช่ผู้บริหาร) จึงขับรถคันเล็ก ๆ ไม่สมฐานะเลยละครับ?"

ผมนิ่งกับความถามของนักลงทุนท่านนั้นไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า "อะไรคือนิยาม ของคำว่า สมฐานะครับ"

นักลงทุนท่านนั้นตอบว่า "ผมเห็นคนเขาพูดกันว่า อาชีพโบรกเกอร์นั้นรวย มีรายได้เยอะ และเห็นอาจารย์เป็นนักลงทุนในตลาด และยังสอนเรื่องการลงทุนอีกด้วย คิดว่า น่าจะขับรถดี ๆ แพง ๆ"

ผมตอบว่า "ผมไม่ได้ทำงานในส่วน front หรือ เป็นเจ้าหน้าที่การตลาด ดังนั้น รายได้ของผม คือ เงินเดือนล้วน ๆ และ ก็ไม่ได้มากเท่าที่หลายคนนอกวงการคิดกัน ส่วนรถที่ขับ มูลค่าที่ผมซื้อนั้น ต้องไม่เกิน 5% ของเงินสดที่ผมมี นั่นหมายความว่า หากผมจะซื้อรถคันละ 1 แสนบาท เพื่อมาใช้ นั่นหมายความว่า ผมควรจะต้องมีเงินสด ที่เก็บอยู่ในตราสารต่าง ๆ ขั้นต่ำ 2 ล้านบาทครับ"

นักลงทุน : โอโห ทำไมอาจารย์ต้องทำเช่นนั้นด้วยครับ

ผมตอบว่า : สมัยที่ผมซื้อรถคันแรก (หุ้นเงินดาวน์กับพี่ชาย เพื่อขับรถ รับ-ส่ง พ่อ ไป-กลับ ที่ทำงาน) ผมเคยหมดเปลืองเงินกับการแต่งรถไปเยอะมาก ซึ่งคำว่า เยอะมาก ในความหมายของผม คุณอย่าเข้าใจผิดว่า หมายถึง การโมดิฟายเครื่องยนต์ เปลี่ยนล้อแม็ค หรือ อะไรเหมือนคนอื่นเขานะครับ เพราะสมัยนั้น ผมยังเพิ่งเริ่มทำงาน เงินไม่ค่อยมีหรอก การแต่งรถของผม หมายถึง การเจียดเงินส่วนหนึ่ง ไปซื้อของจำพวก แผ่นกันกระแทก ที่ใช้ติดบริเวณขอบประตู หรือ ขอบกันชน (สำหรับการตกแต่งภายนอก) ส่วนภายในก็ ซื้อพวก ช่องต่อขยาย เพื่อให้ใช้ที่จุดบุหรี่ได้หลาย ๆ อันในครั้งเดียว ที่วางแก้วน้ำ โทรทัศน์ (ซื้อจาก Mackro แล้วใช้เทป 2 หน้า แปะที่หน้ารถ) เป็นต้น ซึ่งผมสรุปได้เลยว่า มันเป็นของสิ้นเปลืองที่ไร้สาระที่สุด เพราะผมต้องเจียดเงินเดือนที่น้อยนิดในสมัยนั้น เพื่อซื้อสินค้าไร้คุณภาพเหล่านี้ ที่อาจใช้งานได้เพียงแค่ ไม่กี่วัน"

ผมพูดต่อว่า "คนส่วนใหญ่ มักมองรถ เป็นเครื่องประดับฐานะ เพื่อบ่งบอกความร่ำรวย ให้กับคนภายนอกได้เห็น หรือ ยอมรับ โดยลืมมองไปว่า รถ เป็น สินทรัพย์ด้อยค่า ที่นับวันก็จะหมดเปลืองจนเป็นศูนย์ในที่สุด หลายคนไม่มีเงิน แต่ก็อุตส่าห์ กู้หนี้ยืมสินเพียงเพื่อมาซื้อ สินทรัพย์ด้อยค่า เพื่อให้ตนเอง ดูดี และ สะดวกสบายขึ้น โดยไม่เคยคิดว่า รายได้ของเขาเหล่านั้น สมควรที่จะมี หรือ ดูแด สินทรัพย์ด้อยค่าเหล่านี้ ได้จริง ๆ หรือไม่"

นักลงทุน : "แต่ผมก็เห็นว่า คนมีเงินหลายคน ก็ขับรถดี ๆ กันนะครับ"

ผมตอบว่า : "สำหรับคนมีเงินนะใช่ เขาจะทำอะไรก็ไม่ผิดหรอก แต่ที่ผมพูดนั้น ผมหมายถึง คนอย่างผม หรือ คุณ ที่ยังมีเงินเก็บยังไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่กลับพยายามใช้เงินไปกับสินทรัพย์ด้อยค่าเหล่านี้ จนในที่สุด ชีวิตก็ไม่ได้ลืมตา อ้าปากกับเขาเสียที เพียงเพราะ อยากสบาย ในภาวะที่ ไม่มีจะกิน"

หมายเหตุ ผมเห็นหลายคนชอบบอกว่า ซ่อมรถแพงบ้าง รถกินน้ำมันบ้าง เปลี่ยนยางแพงบ้าง ฯ ผมก็แค่อยากบอกว่า เมื่อใดก็ตาม ที่คุณเอ่ยปากว่า "แพง" นั่นก็แสดงว่า คุณกำลังใช้เงิน (รถ) เกินฐานะ นะครับ จะบอกให้ !!!
...........................................

ผมเชื่อว่า การที่ชีวิตผมไม่ลำบากในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะผมร่ำรวย หรือ มีเงินทองเยอะกว่าคนอื่นหรอกครับ อย่าเข้าใจผิด เพียงแต่ผมเลือกที่จะบริหารเงิน หรือ รายได้ที่ผมมี ให้ถูกจังหวะ ตามความเหมาะสม เพราะ

Art Trader อย่างผม ไม่เคยสนใจ หรือ แคร์ว่า

ใครจะมองผมจน เพราะ ผมขับรถราคาถูก หรือ นั่งรถสาธารณะ

ใครจะมองผมจน เพียงเพราะ ผมใช้เสื้อผ้าซ้ำ ๆ และ ไม่ยอมซื้อตัวใหม่

ใครจะมองผมจน เพียงเพราะ ผมไม่ได้ใส่สูท ผูกไทด์

ใครจะมองว่าผมไม่หรูหรา ฟู่ฟ่า เหมือนเทรดเดอร์คนอื่น ที่โชว์รวยกันจัง

ผมก็แค่อยากจะบอกว่า ผมใช้ชีวิต แบบสมฐานะ ในแบบที่ผมชอบ โดยไม่เป็นลูกจ้างใคร แค่นั้นผมก็พอใจแล้ว

ธิติ ธาราสุข, Fulltime Trader, Founder of Art Trading
https://www.facebook.com/chartmaster?fref=ts
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่