วันนี้ไปดูมา มันส์มากกกก ก็เลยกลับมาอ่านกระทู้พันทิพย์อีกรอบเพื่อความมันส์ให้มันสุดๆไปเลย แต่อ่านไปอ่านมาผมว่าบางท่านยังงงๆนะครับ
ระวัง ! สปอยล์สุดๆ บอกตั้งแต่หัวกระทู้แล้วนะ เหมาะกับคนที่ไปดูมาแล้วครับ
1. พระเอกไม่ได้เป็นทหารแบบจริงจัง แต่ดันไปกร่างใส่นายพล ก็เลยโดนจับส่งไปรบพร้อมจดหมายที่แนบไปกับจ่าแฟเรล
2. เลือดของพระเอกโดนเลือดเอเลี่ยนแอลฟ่า ก็เลยสามารถรีเซ็ตเวลาได้ถึงตอนตื่นนอน (เข้าใจว่าถ้าโดนเลือดโอเมก้า จะสามารถรีเซ็ตได้ล่วงหน้าอีก 1 ตื่น -- ก็เลยมาโผล่ในเฮลิคอปเตอร์)
3. เข้าใจว่าพระเอกโดน "เติมเลือด" เพราะถุงเลือดที่ห้อยอยู่มันใกล้หมดแล้ว ไม่ได้โดน "ถ่ายเลือด" เหมือนที่หลายคนเข้าใจนะครับ หลังจากโดนเติมเลือดแล้ว พลังรีเซ็ตเวลาก็หายไปเลย นางเอกก็โดนเติมเลือดตั้งแต่หลังสงครามของตัวเองครั้งแรกแล้ว(ที่เล่าให้พระเอกฟัง) พลังก็เลยหายไปตั้งแต่นั้น
คหสต. --> ที่โดนเติมเลือดอาจจะเพราะซีด เสียเลือดมาก ช้ำใน อะไรก็ได้ครับ คนไข้อุบัติเหตุรถชนรุนแรง blunt trauma + มีแผลเลือดออกที่หน้าแข้งตัวเอง ย่อมต้องเสียเลือดเป็นธรรมดา ซึ่งคนไข้ที่หมดสติจากการเสียเลือด ผมเข้าใจว่าระดับเม็ดเลือดต้องต่ำ และจำเป็นต้องได้รับการเติมเลือดแน่นอนครับ ไม่ใช่การถ่ายเลือด
4. ที่แอลฟ่าไม่ฆ่าพระเอกตอนที่ไปถึงเขื่อนในเยอรมัน ผมเข้าใจว่า โอเมก้าสร้างนิมิตปลอมๆขึ้นมา แล้วให้แอลฟ่าทำกับดักไว้ มันรู้ว่าจะทำให้พระเอกสามารถกลับมาหาวิธีฆ่าตัวมันได้อีก (อันนี้คิดเอาเอง) ก็เลยบอกน้องตัวแดงๆ ว่าอย่าฆ่านะ ขนาดพระเอกเอาปืนจ่อหัวตัวเอง ยังไม่ยอมให้ยิงเลย
5. สุดท้าย ผมว่าพระเอกกลับไปเอาคืนอีกรอบแน่นอน คราวนี้น่าจะ Happy Ending สุดๆ
สุดท้ายขอชม Tom Cruise เลยว่าแสดงได้ดีมาก บทก็ดีมาก ได้ยินมาว่าดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง พอจะมีใครรู้ที่มามั้ยครับ ผมต้องไปลองหามาอ่านบ้างแล้ว
[spoil] ขอเคลียร์ประเด็นเรื่องตัวพระเอกนะครับ Edge of Tomorrow ดูแล้วมาคุยกัน
ระวัง ! สปอยล์สุดๆ บอกตั้งแต่หัวกระทู้แล้วนะ เหมาะกับคนที่ไปดูมาแล้วครับ
1. พระเอกไม่ได้เป็นทหารแบบจริงจัง แต่ดันไปกร่างใส่นายพล ก็เลยโดนจับส่งไปรบพร้อมจดหมายที่แนบไปกับจ่าแฟเรล
2. เลือดของพระเอกโดนเลือดเอเลี่ยนแอลฟ่า ก็เลยสามารถรีเซ็ตเวลาได้ถึงตอนตื่นนอน (เข้าใจว่าถ้าโดนเลือดโอเมก้า จะสามารถรีเซ็ตได้ล่วงหน้าอีก 1 ตื่น -- ก็เลยมาโผล่ในเฮลิคอปเตอร์)
3. เข้าใจว่าพระเอกโดน "เติมเลือด" เพราะถุงเลือดที่ห้อยอยู่มันใกล้หมดแล้ว ไม่ได้โดน "ถ่ายเลือด" เหมือนที่หลายคนเข้าใจนะครับ หลังจากโดนเติมเลือดแล้ว พลังรีเซ็ตเวลาก็หายไปเลย นางเอกก็โดนเติมเลือดตั้งแต่หลังสงครามของตัวเองครั้งแรกแล้ว(ที่เล่าให้พระเอกฟัง) พลังก็เลยหายไปตั้งแต่นั้น
คหสต. --> ที่โดนเติมเลือดอาจจะเพราะซีด เสียเลือดมาก ช้ำใน อะไรก็ได้ครับ คนไข้อุบัติเหตุรถชนรุนแรง blunt trauma + มีแผลเลือดออกที่หน้าแข้งตัวเอง ย่อมต้องเสียเลือดเป็นธรรมดา ซึ่งคนไข้ที่หมดสติจากการเสียเลือด ผมเข้าใจว่าระดับเม็ดเลือดต้องต่ำ และจำเป็นต้องได้รับการเติมเลือดแน่นอนครับ ไม่ใช่การถ่ายเลือด
4. ที่แอลฟ่าไม่ฆ่าพระเอกตอนที่ไปถึงเขื่อนในเยอรมัน ผมเข้าใจว่า โอเมก้าสร้างนิมิตปลอมๆขึ้นมา แล้วให้แอลฟ่าทำกับดักไว้ มันรู้ว่าจะทำให้พระเอกสามารถกลับมาหาวิธีฆ่าตัวมันได้อีก (อันนี้คิดเอาเอง) ก็เลยบอกน้องตัวแดงๆ ว่าอย่าฆ่านะ ขนาดพระเอกเอาปืนจ่อหัวตัวเอง ยังไม่ยอมให้ยิงเลย
5. สุดท้าย ผมว่าพระเอกกลับไปเอาคืนอีกรอบแน่นอน คราวนี้น่าจะ Happy Ending สุดๆ
สุดท้ายขอชม Tom Cruise เลยว่าแสดงได้ดีมาก บทก็ดีมาก ได้ยินมาว่าดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง พอจะมีใครรู้ที่มามั้ยครับ ผมต้องไปลองหามาอ่านบ้างแล้ว