สวัสดีคับเพื่อนๆชาวพันทิป นี่เป็นกะทู้แรกของผม ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ด้วยครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมเพราะความเจ้าชู้ล้วนๆเลยคับ
เริ่มเลยละกันนะคับ
ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อชมการถ่ายทอดฟุตบอลคู่สำคัญที่ทั้งผมและเพื่อนต่างเชียร์กันอย่างเมามันส์ หลังจากฟุตบอลจบ ทีมผมได้รับความพ่ายแพ้ และเกิดอาการเซ็ง เลยมองหาอะไรแก้เซ็งด้วยการจีบสาว!!! ตามประสาหนุ่มโสด เลยสอดส่องสายตาหาเป้าหมายที่ต้องการ
เพื่อนผม ได้ออกไปโฉบก่อนและได้ไลน์มา แล้วดันทะลึ่งกลับมากดดันผม สุดท้ายผมหงุดหงิด เลยเดินไปเข้าห้องน้ำ เพราะไม่หาเป้าหมายได้ บอลแพ้ คนแมร่งยังจะแพ้อีก
พอเดินออกมา เจอเลยคับ!!! สาวชุดดำสายเดี่ยว หุ่นบาง หน้าตาจิ้มลิ้ม หันมายิ้มให้ผม
ผมเลยส่งสายตาและรอยยิ้มกลับให้อย่างทันควัน........5 นาทีผ่านไป ผมได้ทราบชื่อ เบอร์ ไลน์ และสถานที่ๆที่ผมจะได้พบเธอหลังจากผับปิด!!!!
ถูกต้องคับ นั้นคือห้องของเธอ.....
หลังจากผับปิด ผมก้อแยกกับเพื่อนแล้วไปตามนัดด้วยความกรุ้มกริ่มว่าวันนี้ สบายตัวแน่ๆ แล้วมันก้อเป็นไปอย่างที่ทุกท่านคิดคับ.......
หลังจากผมทำการตีเมืองเรียบร้อยแล้วผมก็นอนที่นั่นคับ เพราะเธอบอกว่าไม่มีแฟน ผมก็โอเค เชื่อ เลยไม่ได้คิดอะไร
ตอนสาย ผมเลือกกลับมาที่ห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัวสบายๆแล้วกลับไปหาใหม่อีกครั้งตอนเย็นตามที่ได้นัดกันไว้!!!!
ผมกลับไปอีกครั้งประมาน 4 โมงเย็น เหตุการณ์ทุกอย่างปกติคับ ผมเลือกที่จะตีเมืองอีกรอบเพื่อความมั่นคงในเอกราชของผม แล้วมันก้อเกิดขึ้นคับ!!!!
ก้อก ก้อก ก้อกๆๆๆ
เสียงรัวที่ประตูทำให้ผมถึงกับหน้าซีดโดยไม่ได้ใช้กลูต้า เนื่องจากเสียงเคาะประตูมันมาพร้อมกับเสียงมนุษย์เพศชายที่กล่าวอย่างสุภาพว่า”เมิงจะเปิดให้กุมั้ย E(ชื่อน้องเค้า)”
เท่านั้นแหละคับ ผมรู้เลยว่าเค้าคือใคร ซวยละคับ
ผมเห็นทางออกเดียวที่เหลืออยู่คือระเบียง เลยพุ่งตัวออกไปดูทำเลในการ landing ซึ่งห้องที่อยู่มันเป็นชั้น 3 คับ ไม่เตี้ย ไม่สูงเกินไป.....แต่ มันมี thailand only อยู่คับ นั่นคือ ขอบรั้วที่ประดับประดาอย่างสวยงามไปด้วยเศษขวดเบียร์หลากหลายยี่ห้อ
ไส้ทะลักแน่กู!!!!
ผมกลับมานั่งปลงอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
น้องคนนั้นก้อกระวนกระวายไม่แพ้กัน
10 นาทีหลังจากนั้น เสียงเคาะประตูหายไป สวรรค์เข้าข้างผมแน่ๆ แต่มันกลับเป็นสวรรค์ล่มในทันทีเมื่อมีเสียงตะโกนผ่านระเบียงมาว่า ทำไมเมิงไม่เปิดประตู!!!!!!
hereeeeeee มันมาไงวะ(ผมคิดในใจ) เท่าที่ผมคิดออกคือ เค้าคงไปขอความช่วยเหลือห้องข้างๆ ว่าลืมกุนแจหรืออะไรก้อช่างมันเถอะ เพราะ มันไม่ใช่ปันหาของผม และปันหาของผมหนักกว่านั้นเยอะ!!!!!
น้องเค้าไปเจรจาที่ระเบียงเพื่อไม่ให้เค้าปีนข้ามมาเห็นภาพที่มีติ๊ก เจษฎาภรณ์นั่งอยู่ในห้องกันสองต่อสอง มันจะดูไม่ดี 5555
สุดท้ายเค้าบอกให้น้องคนนั้นเปิดประตูให้
ไม่มีทางเลือกแล้วคับ......น้องเค้าทำใจเดินไปเปิดประตู
ระยะทาง 3 เมตรที่กำลังจะถึงประตู
พรึ้บบบบ!!!!!!
เสียงเปิดม่านที่ระเบียงดังขึ้น hereeeee เค้าปีนข้ามมาคับ พี่ติ๊กหน้าซีดกว่าตอนได้ยินเสียงเคาะประตูอีก
ผมกับเค้ามองหน้ากัน ตอนนั้นผมคิดเอาวะเป็นไงเป็นกันคับ เพิ่งดูองค์บากมาด้วย ผมเลยยกมือขึ้นมาพร้อมกับใช้เสียงเข้มโหดตะโกนออกไปว่า”สวัสดีคับ”
………..พูดตรงๆนะคับ ตอนนั้นถ้าแกล้งเป็นตุ๊ดได้ทำไปละ ติดแค่uniform ไม่เอื้ออำนวย เพราะผม
ใส่ชุดบอลซะเต็มยศเลย - -“
เค้าเลือกที่หันไปต่อว่าน้องเค้าแทนที่จะกะทืบผม แต่ก้อด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ผมเลยเข้าไปห้าม(เฉือกจิงๆ)
แล้วบอกกับเค้าว่าผมขอคุยด้วยหน่อยแมนๆ ย้ำนะคับ แมนๆ(กลัวเค้าเอาปืนมายิง)
สถานที่ในการเจรจาคือดาดฟ้าของหอนั้น ผู้ชายสองคนยืนคุยกันอย่างแมนๆ
ประโยคแรกที่เค้าถามผมคือ มีอะไรกันกันรึยัง???
ไหนๆก้อไหนๆละ แมนๆ ผมตอบไปอย่างเต็มปากเต็มคำว่า......”ยังคับ”
(ทุเรศตัวเองเหมือนกัน แต่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินคับ)
เค้ามีคำถามตามมาอีก 2-3 คำถาม แล้วมีท่าทีที่อ่อนลง แล้วก้อระบายเกี่ยวกับน้องคนนี้ให้ฟัง(ขอไม่พิมลงนะคับ เหมือนจะเป็นการด่าน้องเค้า) สุดท้ายเคลียร์กันด้วยดี แลกนามบัตรกันด้วย เพื่อการติดต่อทางธุรกิจ ผมได้รับข้อเสนอให้ติดรถเค้าไปปากซอยเพื่อขึ้นแท๊กซี่กลับ ผมรีบตอบปฎิเสธทันทีเพราะเกรงใจเค้าจิงๆ ไปมีอะไรกับแฟนเค้า โกหกเค้า แล้วยังจะให้เค้าไปส่งอีก โอ้ววววแม่เจ้า ทุกวันนี้ผมไม่ติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นแล้วคับ และเลิกเจ้าชู้ไปเลย ไม่อยากจะคิดถ้าวันนั้นเค้ามีปืน ได้ไปเล่าเรื่องนี้ให้ยมบาลฟังแน่นอนเลยคับ
ขอบคุณทุกท่านนะคับที่เข้ามาอ่าน
จากประสบการณ์จริง เตือนสติผู้ชายเจ้าชู้คับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมเพราะความเจ้าชู้ล้วนๆเลยคับ
เริ่มเลยละกันนะคับ
ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อชมการถ่ายทอดฟุตบอลคู่สำคัญที่ทั้งผมและเพื่อนต่างเชียร์กันอย่างเมามันส์ หลังจากฟุตบอลจบ ทีมผมได้รับความพ่ายแพ้ และเกิดอาการเซ็ง เลยมองหาอะไรแก้เซ็งด้วยการจีบสาว!!! ตามประสาหนุ่มโสด เลยสอดส่องสายตาหาเป้าหมายที่ต้องการ
เพื่อนผม ได้ออกไปโฉบก่อนและได้ไลน์มา แล้วดันทะลึ่งกลับมากดดันผม สุดท้ายผมหงุดหงิด เลยเดินไปเข้าห้องน้ำ เพราะไม่หาเป้าหมายได้ บอลแพ้ คนแมร่งยังจะแพ้อีก
พอเดินออกมา เจอเลยคับ!!! สาวชุดดำสายเดี่ยว หุ่นบาง หน้าตาจิ้มลิ้ม หันมายิ้มให้ผม
ผมเลยส่งสายตาและรอยยิ้มกลับให้อย่างทันควัน........5 นาทีผ่านไป ผมได้ทราบชื่อ เบอร์ ไลน์ และสถานที่ๆที่ผมจะได้พบเธอหลังจากผับปิด!!!!
ถูกต้องคับ นั้นคือห้องของเธอ.....
หลังจากผับปิด ผมก้อแยกกับเพื่อนแล้วไปตามนัดด้วยความกรุ้มกริ่มว่าวันนี้ สบายตัวแน่ๆ แล้วมันก้อเป็นไปอย่างที่ทุกท่านคิดคับ.......
หลังจากผมทำการตีเมืองเรียบร้อยแล้วผมก็นอนที่นั่นคับ เพราะเธอบอกว่าไม่มีแฟน ผมก็โอเค เชื่อ เลยไม่ได้คิดอะไร
ตอนสาย ผมเลือกกลับมาที่ห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัวสบายๆแล้วกลับไปหาใหม่อีกครั้งตอนเย็นตามที่ได้นัดกันไว้!!!!
ผมกลับไปอีกครั้งประมาน 4 โมงเย็น เหตุการณ์ทุกอย่างปกติคับ ผมเลือกที่จะตีเมืองอีกรอบเพื่อความมั่นคงในเอกราชของผม แล้วมันก้อเกิดขึ้นคับ!!!!
ก้อก ก้อก ก้อกๆๆๆ
เสียงรัวที่ประตูทำให้ผมถึงกับหน้าซีดโดยไม่ได้ใช้กลูต้า เนื่องจากเสียงเคาะประตูมันมาพร้อมกับเสียงมนุษย์เพศชายที่กล่าวอย่างสุภาพว่า”เมิงจะเปิดให้กุมั้ย E(ชื่อน้องเค้า)”
เท่านั้นแหละคับ ผมรู้เลยว่าเค้าคือใคร ซวยละคับ
ผมเห็นทางออกเดียวที่เหลืออยู่คือระเบียง เลยพุ่งตัวออกไปดูทำเลในการ landing ซึ่งห้องที่อยู่มันเป็นชั้น 3 คับ ไม่เตี้ย ไม่สูงเกินไป.....แต่ มันมี thailand only อยู่คับ นั่นคือ ขอบรั้วที่ประดับประดาอย่างสวยงามไปด้วยเศษขวดเบียร์หลากหลายยี่ห้อ
ไส้ทะลักแน่กู!!!!
ผมกลับมานั่งปลงอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
น้องคนนั้นก้อกระวนกระวายไม่แพ้กัน
10 นาทีหลังจากนั้น เสียงเคาะประตูหายไป สวรรค์เข้าข้างผมแน่ๆ แต่มันกลับเป็นสวรรค์ล่มในทันทีเมื่อมีเสียงตะโกนผ่านระเบียงมาว่า ทำไมเมิงไม่เปิดประตู!!!!!!
hereeeeeee มันมาไงวะ(ผมคิดในใจ) เท่าที่ผมคิดออกคือ เค้าคงไปขอความช่วยเหลือห้องข้างๆ ว่าลืมกุนแจหรืออะไรก้อช่างมันเถอะ เพราะ มันไม่ใช่ปันหาของผม และปันหาของผมหนักกว่านั้นเยอะ!!!!!
น้องเค้าไปเจรจาที่ระเบียงเพื่อไม่ให้เค้าปีนข้ามมาเห็นภาพที่มีติ๊ก เจษฎาภรณ์นั่งอยู่ในห้องกันสองต่อสอง มันจะดูไม่ดี 5555
สุดท้ายเค้าบอกให้น้องคนนั้นเปิดประตูให้
ไม่มีทางเลือกแล้วคับ......น้องเค้าทำใจเดินไปเปิดประตู
ระยะทาง 3 เมตรที่กำลังจะถึงประตู
พรึ้บบบบ!!!!!!
เสียงเปิดม่านที่ระเบียงดังขึ้น hereeeee เค้าปีนข้ามมาคับ พี่ติ๊กหน้าซีดกว่าตอนได้ยินเสียงเคาะประตูอีก
ผมกับเค้ามองหน้ากัน ตอนนั้นผมคิดเอาวะเป็นไงเป็นกันคับ เพิ่งดูองค์บากมาด้วย ผมเลยยกมือขึ้นมาพร้อมกับใช้เสียงเข้มโหดตะโกนออกไปว่า”สวัสดีคับ”
………..พูดตรงๆนะคับ ตอนนั้นถ้าแกล้งเป็นตุ๊ดได้ทำไปละ ติดแค่uniform ไม่เอื้ออำนวย เพราะผมใส่ชุดบอลซะเต็มยศเลย - -“
เค้าเลือกที่หันไปต่อว่าน้องเค้าแทนที่จะกะทืบผม แต่ก้อด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ผมเลยเข้าไปห้าม(เฉือกจิงๆ)
แล้วบอกกับเค้าว่าผมขอคุยด้วยหน่อยแมนๆ ย้ำนะคับ แมนๆ(กลัวเค้าเอาปืนมายิง)
สถานที่ในการเจรจาคือดาดฟ้าของหอนั้น ผู้ชายสองคนยืนคุยกันอย่างแมนๆ
ประโยคแรกที่เค้าถามผมคือ มีอะไรกันกันรึยัง???
ไหนๆก้อไหนๆละ แมนๆ ผมตอบไปอย่างเต็มปากเต็มคำว่า......”ยังคับ”
(ทุเรศตัวเองเหมือนกัน แต่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินคับ)
เค้ามีคำถามตามมาอีก 2-3 คำถาม แล้วมีท่าทีที่อ่อนลง แล้วก้อระบายเกี่ยวกับน้องคนนี้ให้ฟัง(ขอไม่พิมลงนะคับ เหมือนจะเป็นการด่าน้องเค้า) สุดท้ายเคลียร์กันด้วยดี แลกนามบัตรกันด้วย เพื่อการติดต่อทางธุรกิจ ผมได้รับข้อเสนอให้ติดรถเค้าไปปากซอยเพื่อขึ้นแท๊กซี่กลับ ผมรีบตอบปฎิเสธทันทีเพราะเกรงใจเค้าจิงๆ ไปมีอะไรกับแฟนเค้า โกหกเค้า แล้วยังจะให้เค้าไปส่งอีก โอ้ววววแม่เจ้า ทุกวันนี้ผมไม่ติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นแล้วคับ และเลิกเจ้าชู้ไปเลย ไม่อยากจะคิดถ้าวันนั้นเค้ามีปืน ได้ไปเล่าเรื่องนี้ให้ยมบาลฟังแน่นอนเลยคับ
ขอบคุณทุกท่านนะคับที่เข้ามาอ่าน