สมัยพึ่งเรียนจบ ตอนนั้นเช่าบ้านอยู่กับพี่ๆเพื่อนๆ 5 คน
เขาอยู่กันก่อนแล้ว เราเข้าไปทีหลังเลยไม่มีห้อง บ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 3 ห้อง เขาก็อยู่กันครบ
เราก็เลยนอนชั้นล่าง มันเป็นห้องโถงกว้างๆ 2 ห้อง เราก็ยึดเป็นห้องนอนเราห้องนึง
มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนคนนึงที่อยู่ชั้นบน มันฝันถึงเพื่อนมันคนนึงมาขออยู่ด้วย ซึ่งไอ้คนที่มาขออยู่เนี่ย ตายไปแล้ว
เพื่อนมันเล่าให้ฟังว่า ในฝันมันบอกให้มาอยู่ด้วยกันได้ แต่เพื่อนที่ตายบอกว่า เข้าไม่ได้ มีเด็ก 2 คน ไม่ให้เข้า
เราก็สงสัยว่า คืออะไร เด็กอะไรวะ มารู้ทีหลังว่าพี่อีกคนนึงเลี้ยงกุมารทองไว้
แล้ววันนึง พี่แกก็เอากุมารทองไปไว้บ้านพ่อแม่ที่พึ่งปลูกใหม่
หลังจากนั้น ก็เจอเรื่องแปลกๆ บ่อยครั้ง พี่ที่อยู่ชั้นบน (ที่เคยเลี้ยงกุมารทอง) จะทักแชทมาถามว่าเคาะประตูห้องพี่หรอ
เรานอนเล่นอยู่ชั้นล่างก็ตอบ "เปล่า ไม่ได้เคาะ" (ห้องพี่แกอยู่ตรงบันไดทางขึ้นพอดี)
คือ พี่ถามแบบนี้บ่อยมาก ตลอดเวลาที่เช่าบ้านนั้น
วันนึง พี่ก็ถามอีก เราก็บอกไม่ได้เคาะ แล้วเดินไปห้องน้ำ ซึ่งต้องผ่านบันไดขึ้นชั้น 2 พอเดินผ่าน ก็รู้สึกขนลุก
แบบว่า ขนมันลุกเฉพาะตรงทางขึ้น พอเดินเลยมาก็ไม่ลุกแล้ว (ไม่ได้ลุกเพราะปวดท้องอะไรนะ)
พอออกมาจากห้องน้ำ ก็ไปยืนจ้องตรงบันได หวังว่าจะเห็นอะไรขยับก็ไม่มี
แล้วพวกเพื่อนๆพี่ๆ เขาชอบไปเที่ยวกันตอนกลางคืนช่วงวันหยุด ซึ่งเราไม่ใช่สายนั้น ก็นอนเฝ้าบ้าน
ประมาณตี 2 ได้ยินเสียงเคาะประตูบ้าน
ไอ้เราก็มาเปิดประตูให้ เพราะยังไม่ได้นอน แต่พอมาเปิด ก็ไม่เจอใคร เลยกลับไปนอนเล่นคอมพ์ต่อ
สัก 15 นาที ไฟรถก็สาดเข้ามาในบ้าน พวกนั้นมาถึงแล้ว
เราก็ไปเปิดประตูให้ เล่าให้ฟังว่ามีเสียงเคาะประตู แล้วก็ชี้ไปที่เพื่อนคนที่ฝันถึงเพื่อนที่ตาย
กุว่าเพื่อนเมิงมาเคาะแน่เลย แล้วเมิงไม่อยู่บ้าน
รุ่งขึ้น ก็พากันไปซื้อพวงมาลัย ดอกไม้ธูปเทียน กะว่าจะมาไหว้ศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ประจำหมู่บ้าน
แต่เอาดอกไม้มาแช่ตู้เย็นไว้ก่อน ยังไม่ได้ไหว้
จนเหตุการณ์เหลืออดของเรามาถึง
วันหนึ่ง เราโดดเชือกอยู่ในห้องโถงอีกห้อง ได้ยินเสียงคนเคาะประตู เราก็เปิดทันที เพราะโดดเชือกอยู่ตรงใกล้ประตูบ้าน เอื้อมมือไปถึง
เปิดประตูออกไป ไม่มีใครเลย แต่รู้สึกว่ามีลมพัดมาที่ตัว แต่ใบไม้หน้าบ้านไม่ขยับ เศษฝุ่นที่กวาดไปกองไว้ รอโกยไปทิ้งไม่ปลิว
เราก็เปิดประตูค้างไว้ แล้วพูดลอยๆว่า ถ้าอยากมาอยู่บ้านนี้ เมิงช่วยจ่ายค่าเช่าด้วย ไม่ก็มาให้โชคให้ลาภคนในบ้านบ้าง
แล้วก็ปิดประตู
แล้วเรื่องไม่จบแค่นี้ วันต่อมา เหตุการณ์เหมือนเดิมเป๊ะๆ
เราโดดเชือก เสียงเคาะประตู พอเปิดไป ลมก็พัดเข้ามา แรงด้วย ใบไม้ไม่ปลิว เศษฝุ่นอยู่ที่เดิม ยังไม่ได้โกยไปทิ้ง
เราก็เปิดประตูค้างไว้ แล้วด่าเลย
"ไอ้ฉิบห.... เมิงอีกแล้วใช่ไหม เป็นเ ี้ e อะไรมาเคาะประตูอยู่ได้ อยากอยู่เมิงก็มาให้โชคให้ลาภเป็นค่าเช่านี่
ดูกุดิ ห้องนอนยังไม่มี ต้องนอนห้องโถง กุยังจ่ายค่าเช่าเลย แล้วเมิงเป็นใคร จะมาอยู่ฟรีๆ
แล้วชอบไปเคาะประตูห้อง ไอ้ควา_ นั่นไม่ใช่ห้องเพื่อนเมิง เมิงเคาะผิดห้อง นั้นห้องพี่... เคาะแม่มอยู่ได้ พี่เขาก็รำคาญ ระวังเขาจะแช่งไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด"
แล้วเราก็ปิดประตูด้วยความโมโห
จากนั้น ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกเลย ดอกไม้ธูปเทียนที่ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้
ผมเลยสงสัยว่าการด่า การแช่งแบบนั้น มันได้ผลจริงๆหรอ
ปล.ก่อนเกิดเหตุการณ์เคาะประตู พี่ที่เลี้ยงกุมารทอง เคยเห็นเรานอนอยู่ แล้วมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างๆ ก้มหน้ามองเรานอน
พี่แกก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าเราพาแฟนมา เดินไปกินน้ำ หันกลับมา ผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว
แต่ก็เจอแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวนะ
การ ด่าผี หรือแช่งผี นี่ทำให้ผีเลิกมากวนจริงรึเปล่าครับ
เขาอยู่กันก่อนแล้ว เราเข้าไปทีหลังเลยไม่มีห้อง บ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 3 ห้อง เขาก็อยู่กันครบ
เราก็เลยนอนชั้นล่าง มันเป็นห้องโถงกว้างๆ 2 ห้อง เราก็ยึดเป็นห้องนอนเราห้องนึง
มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนคนนึงที่อยู่ชั้นบน มันฝันถึงเพื่อนมันคนนึงมาขออยู่ด้วย ซึ่งไอ้คนที่มาขออยู่เนี่ย ตายไปแล้ว
เพื่อนมันเล่าให้ฟังว่า ในฝันมันบอกให้มาอยู่ด้วยกันได้ แต่เพื่อนที่ตายบอกว่า เข้าไม่ได้ มีเด็ก 2 คน ไม่ให้เข้า
เราก็สงสัยว่า คืออะไร เด็กอะไรวะ มารู้ทีหลังว่าพี่อีกคนนึงเลี้ยงกุมารทองไว้
แล้ววันนึง พี่แกก็เอากุมารทองไปไว้บ้านพ่อแม่ที่พึ่งปลูกใหม่
หลังจากนั้น ก็เจอเรื่องแปลกๆ บ่อยครั้ง พี่ที่อยู่ชั้นบน (ที่เคยเลี้ยงกุมารทอง) จะทักแชทมาถามว่าเคาะประตูห้องพี่หรอ
เรานอนเล่นอยู่ชั้นล่างก็ตอบ "เปล่า ไม่ได้เคาะ" (ห้องพี่แกอยู่ตรงบันไดทางขึ้นพอดี)
คือ พี่ถามแบบนี้บ่อยมาก ตลอดเวลาที่เช่าบ้านนั้น
วันนึง พี่ก็ถามอีก เราก็บอกไม่ได้เคาะ แล้วเดินไปห้องน้ำ ซึ่งต้องผ่านบันไดขึ้นชั้น 2 พอเดินผ่าน ก็รู้สึกขนลุก
แบบว่า ขนมันลุกเฉพาะตรงทางขึ้น พอเดินเลยมาก็ไม่ลุกแล้ว (ไม่ได้ลุกเพราะปวดท้องอะไรนะ)
พอออกมาจากห้องน้ำ ก็ไปยืนจ้องตรงบันได หวังว่าจะเห็นอะไรขยับก็ไม่มี
แล้วพวกเพื่อนๆพี่ๆ เขาชอบไปเที่ยวกันตอนกลางคืนช่วงวันหยุด ซึ่งเราไม่ใช่สายนั้น ก็นอนเฝ้าบ้าน
ประมาณตี 2 ได้ยินเสียงเคาะประตูบ้าน
ไอ้เราก็มาเปิดประตูให้ เพราะยังไม่ได้นอน แต่พอมาเปิด ก็ไม่เจอใคร เลยกลับไปนอนเล่นคอมพ์ต่อ
สัก 15 นาที ไฟรถก็สาดเข้ามาในบ้าน พวกนั้นมาถึงแล้ว
เราก็ไปเปิดประตูให้ เล่าให้ฟังว่ามีเสียงเคาะประตู แล้วก็ชี้ไปที่เพื่อนคนที่ฝันถึงเพื่อนที่ตาย
กุว่าเพื่อนเมิงมาเคาะแน่เลย แล้วเมิงไม่อยู่บ้าน
รุ่งขึ้น ก็พากันไปซื้อพวงมาลัย ดอกไม้ธูปเทียน กะว่าจะมาไหว้ศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ประจำหมู่บ้าน
แต่เอาดอกไม้มาแช่ตู้เย็นไว้ก่อน ยังไม่ได้ไหว้
จนเหตุการณ์เหลืออดของเรามาถึง
วันหนึ่ง เราโดดเชือกอยู่ในห้องโถงอีกห้อง ได้ยินเสียงคนเคาะประตู เราก็เปิดทันที เพราะโดดเชือกอยู่ตรงใกล้ประตูบ้าน เอื้อมมือไปถึง
เปิดประตูออกไป ไม่มีใครเลย แต่รู้สึกว่ามีลมพัดมาที่ตัว แต่ใบไม้หน้าบ้านไม่ขยับ เศษฝุ่นที่กวาดไปกองไว้ รอโกยไปทิ้งไม่ปลิว
เราก็เปิดประตูค้างไว้ แล้วพูดลอยๆว่า ถ้าอยากมาอยู่บ้านนี้ เมิงช่วยจ่ายค่าเช่าด้วย ไม่ก็มาให้โชคให้ลาภคนในบ้านบ้าง
แล้วก็ปิดประตู
แล้วเรื่องไม่จบแค่นี้ วันต่อมา เหตุการณ์เหมือนเดิมเป๊ะๆ
เราโดดเชือก เสียงเคาะประตู พอเปิดไป ลมก็พัดเข้ามา แรงด้วย ใบไม้ไม่ปลิว เศษฝุ่นอยู่ที่เดิม ยังไม่ได้โกยไปทิ้ง
เราก็เปิดประตูค้างไว้ แล้วด่าเลย
"ไอ้ฉิบห.... เมิงอีกแล้วใช่ไหม เป็นเ ี้ e อะไรมาเคาะประตูอยู่ได้ อยากอยู่เมิงก็มาให้โชคให้ลาภเป็นค่าเช่านี่
ดูกุดิ ห้องนอนยังไม่มี ต้องนอนห้องโถง กุยังจ่ายค่าเช่าเลย แล้วเมิงเป็นใคร จะมาอยู่ฟรีๆ
แล้วชอบไปเคาะประตูห้อง ไอ้ควา_ นั่นไม่ใช่ห้องเพื่อนเมิง เมิงเคาะผิดห้อง นั้นห้องพี่... เคาะแม่มอยู่ได้ พี่เขาก็รำคาญ ระวังเขาจะแช่งไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด"
แล้วเราก็ปิดประตูด้วยความโมโห
จากนั้น ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกเลย ดอกไม้ธูปเทียนที่ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้
ผมเลยสงสัยว่าการด่า การแช่งแบบนั้น มันได้ผลจริงๆหรอ
ปล.ก่อนเกิดเหตุการณ์เคาะประตู พี่ที่เลี้ยงกุมารทอง เคยเห็นเรานอนอยู่ แล้วมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างๆ ก้มหน้ามองเรานอน
พี่แกก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าเราพาแฟนมา เดินไปกินน้ำ หันกลับมา ผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว
แต่ก็เจอแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวนะ