[CR] เมื่อยัยอ้วนลากกระเป๋า ตะลุยเดี่ยวไชน่าแลนด์ Can’t Speak Chinese

กทม - ฉางซา – เฟิ่งหวง – จางเจี่ยเจี้ย (อู่หลิงหยวน-เทียนเหมินซาน) – อู่ฮั่น – กว่างโจว – กทม ตอนที่ 1

เฮ้อ...หลังจากด้อมๆมองๆ คนอื่นในบลูแพลนเน็ตมาหลายเพลา ก็ถึงคราของตัวเองสักที คาดว่าโอกาสนี้น่าจะมาในอนาคตกาลอันใกล้ นี่เป็นความคิดแรกที่ได้อ่าน รีวิวของคุณ My Life is MINE ขออนุญาตยกนามปากกานี้ขึ้นมาอ้างอิง เพราะน้องเขาเขียนได้สนุกและน่าติดตามมากๆ แต่ที่สำคัญเขาดึงต่อมความอยากของตัวเองได้อย่างชะงัด จังงัง ตอนนั้นที่อ่านรีวิวของน้องเขาอยากไป “จิ้วไจ้โกว” มากๆ ทั้งที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศด้วยตัวเองเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่ไปก็จะมีพลพรรค ไปด้วยทุกครั้ง ไม่เคยต้องวางแผนเที่ยวเอง ไม่เคยต้องเก็บกระเป๋าตังค์ (แม้กระทั่งกระเป๋าตังค์ ยังฝากเพื่อน) ทุกอย่างเพื่อนและสามีของเพื่อน เป็นผู้จัดการหมด เราก็แค่ตัวเหลือบ ที่ติดปลายขากางเกง เขาไปเที่ยวด้วย 55555 สบายสุดๆอ่ะ แต่วันหนึ่งได้รู้จัก Pantip และห้อง Blue ทำให้เข้าใจว่า ชีวิตคนเราเลือกความสุขให้ตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องมีข้อแม้ใดๆ ไม่ต้องสนว่าเงินจะพอมั๊ย จะโดนหลอกหรือเปล่า จะหลงทางบ้างมั๊ย หรือนานาจิตตัง แล้วแต่จะมโนกันไป.

          แต่วันนี้อยากจะบอกว่า เพิ่งสอยรถเข็นของอาต๋อย ไตรภพ มาหมาดๆ(เด็กรุ่นเก่าจะรู้จักรายการฝันที่เป็นจริงมั๊ยเนี่ย...) หลังจากเก็บพลัง เก็บเงิน และสำคัญสุดๆเก็บข้อมูล มา 1 ปี ...เราโชคดีที่มีเวลาเก็บข้อมูลเพราะได้สอยโปรของเจ้าเดิม หางแดง ไว้ตั้งแต่เมื่อเดือน ก.ย ปี 56 กว่าจะได้เดินทางเอาจริงๆ ก็กลางปีนี้ หมาดๆ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 57 ใช้เวลาเดินทางไป 13 วัน กับตัวคนเดียว เดี่ยวๆ สันโดษมากๆ แต่ก็สนุกสุดๆ กับทริปนี้ และเพราะอย่างนี้แหละค่ะ เลยไม่อยากจะเก็บงำประสบการณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองไว้กับตัวคนเดียว แต่อยากจะแบ่งปันให้กับคนที่ไม่กล้าเดินทางคนเดียว ลองแวะเข้ามาอ่านดูนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่า “ใครๆ ก็บินได้” อย่างที่แอร์เอเซียเขาว่าไว้จริงๆ แต่อันดับแรกจะต้องการบ้านอย่างหนักกันเสียก่อน  คนที่เดินทางบ่อยๆ และมีความมั่นใจสูง อาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่เคยมีความมั่นใจอะไรเลย ไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเองเลย เป็นผู้ตามมาโดยตลอด ว่าแค่นี้มันยากตรงไหน แต่วันนี้เราจะมาเฉลย.. ให้ฟังกันว่าความยากเล็กๆ ความไม่มั่นใจน้อยๆ มันจะไถลไปอยู่แทบเท้า หากคุณมีความอยากแม้เพียงเล็กน้อยเด้งขึ้นมาในสอมง .... ความอยากหากมองให้แง่ดี มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เราเริ่มที่เสาะหา ไข้วคว้า หาสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ให้กับตนเอง แต่หากว่าคุณแค่อยาก ไม่พยายามไขว้คว้าซะบ้าง คุณก็จะย่ำอยู่กับที่โดยปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างไม่รู้ตัว เราเองก็เหมือนกัน อายุ อานาม ก็เข้าวัยกลางคน 30 กลางๆ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะใช้ความอยากให้เป็นประโยชน์นั่งพึ่งแต่ความเรื่อยเปื่อย ใช้ชีวิตพึ่งพาแต่นาฬิกาชีวิต ทุกวันเป็นแบบนี้เรื่อยๆ  จนวันหนึ่งเริ่มสงสัยตัวเองว่ามีอะไรบ้างที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ ที่เราเกริ่นแบบนี้หวังว่าคงจะไม่ทำให้หลายคนรำคาญ แต่อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ยังไม่ได้หาความตื่นเต้นที่แท้จริงให้กับชีวิต จงไขว่คว้าหาซะ ... ที่เราบอกอย่างนี้เพราะก่อนออกเดินทางเราเพิ่งจะตรวจพบว่าเราเป็นโรคเบาหวาน และโคเรสเตอรอลในเลือดสูง บวกกับโรคอ้วน มันทำให้สมรรถภาพร่างกาย อ่อนด้อยอย่างเห็นได้ชัด แต่เราก็ดีใจที่ผ่านมันมาได้ ก็อยากจะให้ทุกคนที่กลัวๆ กล้า ลองก้าวออกมาดูนะคะ ..

          โอเคพร่ำพรรณา ซะยาวเลยค่ะ เริ่มกันเลยนะคะ เราออกเดินทางจาก จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 57 โดยไปพักที่บ้านเพื่อน 1 คืนอยากจะบอกว่าเอาความซวยไปทิ้งไว้ที่ กทม. ก่อนเดินทางด้วย เพราะไปถึงเพื่อนก็รีบบึ่งรถพาเราไปซื้อประกันการเดินทางเพราะลืมที่จะซื้อก่อนการเดินทาง หวุดหวิดเกือบไม่ทันธนาคารปิดทำการ (เราซื้อของธนาคารกสิกร ราคาไม่แพง เงื่อนไขก็ดีค่ะ)  ระหว่างจอดรถเพื่อนก็ถอยไปเฉี่ยว BMW อย่างใหม่ ดีที่รถเพื่อนเรามีประกันชั้น 1 ไม่งั้นถึงกับหมดตัวกันทีเดียว ซวยที่ 1 ผ่านไป อ่ะไม่เป็นไรฟาดเคราะห์เพื่อนว่างั้น รุ่งเช้าต้องออกเดินทางจริงๆซะที ต้องบึ่งมาเช็คอินก่อนขึ้นเครื่อง ก็กะว่าจะออกจากบ้านประมาณ ตี 4 ครึ่ง เครื่องออก 7 โมงเช้า ก็ถือว่าโอเค เรื่อยๆ สบายๆ แต่ที่ไหนได้ไอ้รถที่จะมาส่งน้องชายเพื่อนดันเอาไปเสยตอสะพานหน้าหมู่บ้านซะงั้น สรุป มาอยู่กับเขาแค่คืนเดียว เอาความซวยมาฝากเขาทั้งบ้าน 5555 เพื่อนเลยบอก “ไม่ต้องฝากความซวยไว้ที่นี่ ให้เอาไปทิ้งที่จีนซะ 5555” เท่านั้นยังไม่พอ ขึ้นเครื่องเรียบร้อย กัปตันดันประกาศให้เปลี่ยนเครื่องซะงั้น เพราะเครื่องที่ขึ้นขัดข้องทางเทคนิคไม่สามารถเดินทางได้ สรุป 3 ซวยทิ้งไว้ประเทศไทย.... 55555 เยี่ยมเพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ คือเราค่อนข้างโชคดีที่เจอแต่คนดีๆ ที่โน่น ทริปก็เลยสดใส ตลอดการเดินทาง.

โอเคมาเริ่มกันตั้งแต่วันแรกของการเดิน13 พ.ค. 57                                                                                                                        

เราเดินทาง ด้วยสายการบินหางแดงเจ้าเก่า เพื่อนเดินทางของคนงบน้อย จาก กทม. – ฉางซา เวลา 07.30 A.M – 12.30 P.M (ในเครื่องมีคนไทยประมาณ 9 คนมั้ง ถ้ารวมตัวเอง นอกนั้นพี่จีนเอาไปครอง) แต่สรุปกว่าจะถึงก็ดีเลย์ไปเบาๆ ไม่นานประมาณ 1 ช.ม ถือว่าได้อยู่ มันเหตุสุดวิสัยนี่เนอะ และหลังจากที่หยิบกระเป๋าจัดการเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็เข็นกระเป๋าออกมาด้านนอก ให้เงยหน้าขึ้นมองข้างบนจะเห็นป้ายให้เดินไปทางด้านขวามือ (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะมีป้ายบอกไว้อยู่แน่ๆ ยังไงก็เห็นค่ะ) จากนั้นก็เดินไปอีกนิดหน่อยเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอเคาท์เตอร์ขายตั๋ว Shuttle bus เข้าเมืองจะลงตรงไหนก็จ่ายเงินตามนั้น รู้สึกจะอยู่ด้านซ้ายมือนะคะถ้าจำไม่ผิด5555 (เงยหน้าตามเดิมค่ะ ป้ายอยู่บนหัวเราและเจ้าหน้าที่ค่ะเห็นเด่นชัด) เราจะไปที่ ฉางซา เวสท์บัส สเตชั่น  ChangSha West Bus Station (长沙汽车西站) เพื่อต่อรถไปเมืองเฟิ่งหวงค่ะ เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ค่ะ จากที่เราเจอ แต่เขารู้จากเงินที่เรายื่นให้ค่ะ เมื่อรับตั๋วก็ยิ้มหวานๆ ขอบคุณด้วยภาษาจีนงามๆ เท่านี้ก็ทำเอาเจ้าหน้าตรงนั้นยิ้มกันเป็นแถวด้วยสำเนียงแปลกๆ จากไท่กั๋วเหริน


** ขอแก้ราคานะคะ เป็น 28  Y ในรูปราคาผิดค่ะ


*รูปเป็นเครดิตของท่านที่เคยลงไว้ในห้องบูลแพลนเน็ต  ต้องของอภัยค่ะที่ไม่ได้ใส่ชื่อเพราะจำไม่ได้จริงๆ หากต้องท่านจำได้ว่าเป็นรูปของท่านแจ้งได้นะคะ และขออภัยที่นำมาลงโดยไม่ได้แจ้งก่อน สุดท้ายขอขอบพระคุณค่ะ

เมื่อได้รับตั๋วแล้วก็เดินไปอีกนิดหน่อย ก็จะเจอประตูทางออก ตรงดิ่งไปรถคนแรกเลย ไม่รู้หรอกค่ะว่าคันไหน แต่สังหรณ์มันบอกว่างั้น สรุปถูกคันค่ะ คือไอ้สังหรณ์ที่ว่า ฮิ ฮิ แค่กะว่าจะถามหมดทั้ ง 3 คันที่จอดอยู่นั่นแหละ เพียงแต่เลือกถามคันแรก (อย่าเรียกว่าถามเลยค่ะ ให้เรียกว่าโชว์ตั๋วดีกว่า เพราะยื่นดะ ยิ้มหวานๆ )เพราะตั้งใจว่าถ้าไม่ใช่จะไล่ถามลงมาเรื่อยๆ (ถ้าอ่านไปเรื่อยๆ จะรู้ว่าเราเสียโง่กับเรื่องพวกนี้เยอะ) เมื่อเจอคนขับ สันนิษฐาน จากชุดที่ใส่พี่แกก็ไล่ขึ้นข้างบน และเอากระเป๋าใส่ใต้รถให้ตามระเบียบ และเราก็ทำเหมือนเคย ยิ้มหวาน โค้งต่ำๆเชี่ย เชี่ย หนี่ ขอบคุณนะคะ คุณ... (มุขนี้เรียกรอยยิ้ม และความประทับใจจากพี่น้องชาวจีน อย่างถล่มทลาย พร้อมกับคำตอบกลับมาว่า ปู้ ชื่อ เขออี่ มั้ง ถ้าเราฟังไม่ผิดเนอะ น่าจะแปลว่า บ่เป็นหยังดอก... ถ้าใครมีคำที่ถูกเข้ามาแก้นะคะ)  หลังจากที่นั่งรถประมาณ 40 -50 นาที ผ่านด่านทางด่วนเข้าเมือง ก็ถึงครึ่งทางสักที ฉางซา เวสท์บัส สเตชั่น  ChangSha West Bus Station (长沙汽车西站)


*รูปเป็นเครดิตของท่านที่เคยลงไว้ในห้องบูลแพลนเน็ต  ต้องของอภัยค่ะที่ไม่ได้ใส่ชื่อเพราะจำไม่ได้จริงๆ หากต้องท่านจำได้ว่าเป็นรูปของท่านแจ้งได้นะคะ และขออภัยที่นำมาลงโดยไม่ได้แจ้งก่อน สุดท้ายขอขอบพระคุณค่ะ

เจอแล้ว แต่เอ๊ะ แล้วจะเข้าทางไหนล่ะเนี่ย งง ค่ะ งง เพราะถึงแม้ว่ารถจะพาเราไปสุดท้ายปลายทางก็จริง แต่เพราะสถานที่ขายตั๋ว กับท่ารถประจำทางของเมืองฉางซา เขาอยู่ที่เดียวกันเพียงแต่คนละด้านเท่านั้น เราก็แค่แขกเมืองจะรู้มั๊ยล่ะ สรุปลงรถปุ๊ปคิดว่าไม่ผิดแน่ ลากกระเป๋าดุ่มๆเดินเข้าไปข้างในเลยค่ะ แต่เพราะมันไกลนิดหนึ่งก็เลยสักเหนื่อย โชคดีที่พักเหนื่อย จึงได้เจอ 2 หมวย กำลังยืนงงคอยท่าใครสักคน ดุ่มเข้าไปเลยค่ะ ก็ทำเอาน้องเขาตกใจนิดหน่อย แล้วก็ยื่นชื่อเมืองเฟิ่งหวง และชื่อสถานีเป็นภาษาจีน ให้น้ำงเขาอ่าน เขาเลยบอกให้ตามเขาไปไอ้เราก็นึกว่าอ๋อเขากำลังจะไปพอดีที่ไหนดี เขาเดินไปส่งค่ะ พอเห็นป้ายของอาคารเขาก็ขอตัวกลัวกันค่ะ ขอบอกว่าวินาทีนั้น ซาบซึ้งใจสุดๆเพราะ มันเดินไม่ได้ใกล้เลย จากที่เราลงรถและเดินมาเรื่อยๆประมาณ 5 นาทีเราต้องเดินออกไปทางเดิม และอ้อมไปด้านหลังกำแพงอีกด้านหนึ่ง ก็จะเจอทางเข้าฉางซาเวสท์ สเตชั่นค่ะ สรุปง่ายๆ หากใครลงรถ Shuttle bus แล้วให้เดินไปอีกฝั่งกำแพงหนึ่งนะค่ะ หากว่า งง ก็ให้โชว์กระดาษชื่อเมืองเฟิ่งหวง และก็เดินตามที่เขาชี้นั่นแหละค่ะ สรุปเพราะเราไม่ยอมถามตั้งแต่แรกก็เลยต้องเดินไกลขึ้น (** กฎข้อ 1 อย่าลืมถามนะคะ คนจีนเต็มใจบอกและใจดีค่ะ แม้ว่าเขาจะพูดกับเราคนละภาษาก็ตาม และถึงแม้ว่าบางคนไม่ได้บอกเราเพราะเป็นลูกศิษย์ อาจารย์ส่ายหน้า แต่สังเกตุได้ว่าเขาก็มองเราด้วยความห่วงใยอยู่นะคะ นั่นอาจจะเพราะว่าเขากลัวนักท่องเที่ยวอย่างเราก็เป็นได้ มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ค่ะ )



*รูปเป็นเครดิตของท่านที่เคยลงไว้ในห้องบูลแพลนเน็ต  ต้องของอภัยค่ะที่ไม่ได้ใส่ชื่อเพราะจำไม่ได้จริงๆ หากต้องท่านจำได้ว่าเป็นรูปของท่านแจ้งได้นะคะ และขออภัยที่นำมาลงโดยไม่ได้แจ้งก่อน สุดท้ายขอขอบพระคุณค่ะ
ชื่อสินค้า:   กทม - ฉางซา – เฟิ่งหวง – จางเจี่ยเจี้ย (อู่หลิงหยวน-เทียนเหมินซาน) – อู่ฮั่น – กว่างโจว – กทม ตอนที่ 1
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่