ผู้เสียหายแห่แจ้งความ สน.ทองหล่อ หลังถูกนักธุรกิจหลอกลงทุนทำไม้กฤษณา เชิดเงินหนี 400 ล้านเข้ากลีบเมฆ
http://www.dailynews.co.th/Content/crime/241694/
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. ที่สน.ทองหล่อ นายวัชร เมษพันธุ์ อายุ 41 ปี วิศวกรบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่ม กับ ร.ต.ท.จิรโชติ คล้ายคลึง พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ กรณีถูกบริษัทแห่งหนึ่งโดย นางเอ (นามสมมุติ) ประธานกรรมการบริหาร หลอกให้ลงทุนก่อนจะฉ้อโกงเงินไป โดยผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อประมาณปี 51 ตนได้ร่วมลงทุนกับบริษัทแห่งหนึ่งทำไม้กฤษณา มีนางเอเป็นประธานกรรมการบริหาร โดยก่อนที่ตนจะลงทุนนั้นทางบริษัทได้โฆษณาออกตามสื่อต่าง ๆ และออกบูธในงานมีชื่อมากมาย อีกทั้งยังเคยออกรายการทีวีที่แสดงให้เห็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าอย่างชัดเจน ทำให้ตนเชื่อมั่นในตัวบริษัท โดยตนลงทุนเงินก้อนแรกไป 450,000 บาท และจะได้เงินปันผลเป็นเงินก้อนในอีก 6 ปี ซึ่งตนก็จะได้เงินทั้งหมดประมาณ 1,800,000 บาท ตลอดระหว่างเวลาที่รอเงินปันผลนั้นทางบริษัทให้ตนเพิ่มเงินลงทุนอีก 10% ของเงินลงทุนเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาต้นไม้รายปี เป็นเงิน 45,000 บาท ซึ่งระหว่างที่ตนลงทุนนั้นก็ได้ศึกษาข้อมูลมาโดยตลอด
นายวัชร กล่าวต่อว่า ประมาณช่วงเดือน เม.ย. 56 ตนเริ่มไปเจอข้อมูลในอินเตอร์เน็ตที่มีการพูดโจมตีบริษัทถึงเรื่องเงินปัญผล จึงทำให้เริ่มไม่มั่นใจ กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.56 ที่ผ่านมา บริษัทได้เรียกผู้ร่วมลงทุนทั้งหมดเข้าประชุมเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นนางเอได้แจ้งกับทางผู้ร่วมลงทุนว่าบริษัทมีปัญหาจริงโดยขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยอ้างอ้างกรรมการผู้บริการชุดเก่าซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ได้หอบเงินหนีไปจำนวน 400,000,000 บาทไป ส่งผลทำให้บริษัทเกิดปัญหาขึ้น ทั้งนี้ทางบริษัทได้ฟ้องเพ่งกับชาวต่างประเทศดังกล่าวแล้ว ซึ่งประเด็นนี้ตนสงสัยทำไมไม่ฟ้องคดีอาญา เมื่อถามไปก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา
หลังจากจากนั้นพวกตนได้กลุ่มกลุ่มในไลน์เพื่อพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว และรวมตัวกันหลายครั้งเพื่อประชุมกลุ่มย่อยประมาณ 75 คน ทั้งนี้ก็เพื่อร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหา และทวงถามความคืบหน้าการคืนเงิน พวกตนก้ได้พยายามติดต่อขอเข้าพบนางเอ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงให้เข้าพบ อ้างตลอดเวลาว่าไปทำธุรต่างประเทศ จากนั้นวันที่ 10 ส.ค. 2556 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนักลงทุนรวม 95 ราย ได้มาแจ้งความที่ สน.ทองหล่อไว้ และวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นัดมาสอบปากคำ และยื่นเอกสารเพิ่มเติม โดยมีกลุ่มนักลงทุนอีก 40 รายที่ยังไม่ได้แจ้งความเข้ามาแจ้งความด้วย
ด้าน ร.ต.ท.จิรโชติ กล่าวว่า เบื้องต้นวันนนี้ได้รับแจ้งความ และมีผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม จากนี้จะเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตามยอดรวมผู้เสียหายทั้งหมดที่ได้มาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งจะส่งข้อมูลไปล็อตแรกมีทั้งสิ้นจำนวน 95 ราย มูลค่าความเสียหายเป็นเงินกว่า 75 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความเพิ่มวันนี้จะลงบันทึกประจำวัน และรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งดำเนินคดีต่อไป.
ผู้เสียหายแห่แจ้งความ สน.ทองหล่อ หลังถูกนักธุรกิจหลอกลงทุนทำไม้กฤษณา เชิดเงินหนี 400 ล้านเข้ากลีบเมฆ
http://www.dailynews.co.th/Content/crime/241694/
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. ที่สน.ทองหล่อ นายวัชร เมษพันธุ์ อายุ 41 ปี วิศวกรบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่ม กับ ร.ต.ท.จิรโชติ คล้ายคลึง พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ กรณีถูกบริษัทแห่งหนึ่งโดย นางเอ (นามสมมุติ) ประธานกรรมการบริหาร หลอกให้ลงทุนก่อนจะฉ้อโกงเงินไป โดยผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อประมาณปี 51 ตนได้ร่วมลงทุนกับบริษัทแห่งหนึ่งทำไม้กฤษณา มีนางเอเป็นประธานกรรมการบริหาร โดยก่อนที่ตนจะลงทุนนั้นทางบริษัทได้โฆษณาออกตามสื่อต่าง ๆ และออกบูธในงานมีชื่อมากมาย อีกทั้งยังเคยออกรายการทีวีที่แสดงให้เห็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าอย่างชัดเจน ทำให้ตนเชื่อมั่นในตัวบริษัท โดยตนลงทุนเงินก้อนแรกไป 450,000 บาท และจะได้เงินปันผลเป็นเงินก้อนในอีก 6 ปี ซึ่งตนก็จะได้เงินทั้งหมดประมาณ 1,800,000 บาท ตลอดระหว่างเวลาที่รอเงินปันผลนั้นทางบริษัทให้ตนเพิ่มเงินลงทุนอีก 10% ของเงินลงทุนเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาต้นไม้รายปี เป็นเงิน 45,000 บาท ซึ่งระหว่างที่ตนลงทุนนั้นก็ได้ศึกษาข้อมูลมาโดยตลอด
นายวัชร กล่าวต่อว่า ประมาณช่วงเดือน เม.ย. 56 ตนเริ่มไปเจอข้อมูลในอินเตอร์เน็ตที่มีการพูดโจมตีบริษัทถึงเรื่องเงินปัญผล จึงทำให้เริ่มไม่มั่นใจ กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.56 ที่ผ่านมา บริษัทได้เรียกผู้ร่วมลงทุนทั้งหมดเข้าประชุมเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นนางเอได้แจ้งกับทางผู้ร่วมลงทุนว่าบริษัทมีปัญหาจริงโดยขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยอ้างอ้างกรรมการผู้บริการชุดเก่าซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ได้หอบเงินหนีไปจำนวน 400,000,000 บาทไป ส่งผลทำให้บริษัทเกิดปัญหาขึ้น ทั้งนี้ทางบริษัทได้ฟ้องเพ่งกับชาวต่างประเทศดังกล่าวแล้ว ซึ่งประเด็นนี้ตนสงสัยทำไมไม่ฟ้องคดีอาญา เมื่อถามไปก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา
หลังจากจากนั้นพวกตนได้กลุ่มกลุ่มในไลน์เพื่อพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว และรวมตัวกันหลายครั้งเพื่อประชุมกลุ่มย่อยประมาณ 75 คน ทั้งนี้ก็เพื่อร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหา และทวงถามความคืบหน้าการคืนเงิน พวกตนก้ได้พยายามติดต่อขอเข้าพบนางเอ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงให้เข้าพบ อ้างตลอดเวลาว่าไปทำธุรต่างประเทศ จากนั้นวันที่ 10 ส.ค. 2556 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนักลงทุนรวม 95 ราย ได้มาแจ้งความที่ สน.ทองหล่อไว้ และวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นัดมาสอบปากคำ และยื่นเอกสารเพิ่มเติม โดยมีกลุ่มนักลงทุนอีก 40 รายที่ยังไม่ได้แจ้งความเข้ามาแจ้งความด้วย
ด้าน ร.ต.ท.จิรโชติ กล่าวว่า เบื้องต้นวันนนี้ได้รับแจ้งความ และมีผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม จากนี้จะเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตามยอดรวมผู้เสียหายทั้งหมดที่ได้มาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ซึ่งจะส่งข้อมูลไปล็อตแรกมีทั้งสิ้นจำนวน 95 ราย มูลค่าความเสียหายเป็นเงินกว่า 75 ล้านบาท ส่วนผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความเพิ่มวันนี้จะลงบันทึกประจำวัน และรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งดำเนินคดีต่อไป.