เมื่อไหร่ คนพวกนี้ จะมีจิตสำนึกครับ

กระทู้สนทนา
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้วครับ เรียกว่าเป็นเรื่องปรกติประจำวันของถนนเส้นนี้เลย และเชื่อว่าอีกหลายๆเส้นทางก็เจอปัญหาแบบนี้

ปัญหารถติด ไม่ใช่เพราะรถมาก หรืออุบัติเหตุ แต่เป็นความเห็นแก่ตัวของคนกลุ่มหนึ่ง ที่มักง่าย เอาตัวเองสะดวกโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของสังคม
คนที่เอาปัญหาส่วนตัว มาโยนให้สังคมร่วมรับผิดชอบ

เรื่องต่อไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างจุดๆ หนึ่ง ที่เป็นตัวอย่างของปัญหามากมายที่เกิดในประเทศเรา
ความมักง่าย ความเห็นแก่ตัว และการไร้จิตสำนึกต่อส่วนรวม

เพื่อนสมาชิกที่ใช้งานถนนประชาอุทิศ ในท้องที่เขตราษฎร์บูรณะ คงทราบดีครับ กับปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นถนนแคบๆ มีแค่สี่เลน เข้าสอง ออกสอง แต่รถยนต์กลับมีมาก เพราะคนอาศัยอยู่ด้านในถนนมีเยอะมาก ทั้งในย่านทุ่งครุ พุทธบูชา และถนนเส้นนี้ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยใหญ่อย่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ทุกวันนี้ ปัญหาที่เจอคือรถติด ตอนเช้ากับเย็นในชั่วโมงเร่งด่วน ด้วยปริมาณรถที่มากเหมือนทุกเส้นทางในกรุงเทพ แต่ทางตำรวจจราจรท่านก็อำนวยความสะดวกในชั่วโมงเร่งด่วนเป็นอย่างดีเสมอมา

แต่ปัญหาจริงๆ ของถนนเส้นนี้ คือนอกเวลาเร่งด่วน และวันหยุดราชการครับ

ในเวลากลางคืน ดึกมากๆ หลังสี่ทุ่มไปแล้ว ขาเข้าของถนนเส้นนี้ ยังคงติดขัดอย่างหนัก ตั้งแต่ซอยประชาอุทิศ 17 เป็นต้นมา โดยมีหางแถวสะสมยาว ถึงสามแยกกิโล9 และถนนเลียบใต้ทางด่วน

ต้นตอของปัญหาคืออะไรครับ ในเวลาดึกดื่นเช่นนี้ ปริมาณรถยนต์ก็ไม่มากเกินกว่าที่ถนนจะรับได้

ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ
เลยปากซอย 17 ไปเล็กน้อย มีร้านอาหารร้านหนึ่ง ชื่อร้านโจ๊ก.... คนแถวนี้เรียกโจ๊กนรก เนื่องจากต้นเหตุที่ทำให้รถติดเป็นกิโลๆ คือเขานี่เองครับ แต่จะไปว่าร้านก็ไม่ได้เพราะเขาตั้งขายตรงนี้เอง ไม่ได้ตั้งบนถนน แต่คนที่เห็นแก่ตัว คือคนที่จอดรถริมถนน เพื่อกินอาหารร้านนี้ครับ
คนเห็นแก่ตัวเหล่านี้ คิดแต่ความสะดวกส่วนตัว จอดรถเบียดบังถนนสาธารณะของทุกคน เสียไปหนึ่งเลน ทำให้ถนนที่มีแค่สองเลนกลายเป็นคอขวดทันที แถมตรงร้านยังเป็นป้ายจอดรถประจำทาง ทำให้รถประจำทางต้องเบี่ยงตัวมาจอดรับส่งคนในเลนขวา ซึ่งเท่ากับเป็นการปืดถนนโดยสมบูรณ์

ไม่แปลกใจเลยที่ถนนเส้นนี้จะติดขัดจนถึงเที่ยงคืน แต่พอพ้นร้านโจ๊กนรกนี่แล้ว ถนนจะโล่งมาก (ดูรูปประกอบได้ครับ)

นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งในหลายๆจุด ที่ปัญหาการจราจรเกิดจากความเห็นแก่ตัวของคนเพียงหยิบมือ แต่สร้างความเดือดร้อนให้คนจำนวนมาก

คำถามมากมายเกิดขึ้นได้จากกรณีนี้
๑. ไม่จอดริมถนนได้ไหม นั่งรถสาธารณะมากินได้ไหม ไปจอดในซอยแล้วเดินมากินได้ไหม
๒. จำเป็นมากไหมต้องกินร้านที่ไม่มีที่จอดรถ
๓. ถ้าข้อ ๑ - ๒ คำตอบคือจำเป็นมาก ไม่ได้กินอาจสิ้นชีพ ผมก็อยากทราบว่า คิดได้อย่างไร ว่าสังคมที่เหลือต้องมารับผิดชอบความจำเป็นในการกินข้าวตรงนี้ของพวกคุณ

คำถามสุดท้าย ที่อาจไม่ได้คำตอบคือ
"อีกนานไหม ที่ความเห็นแก่ตัว ความสิ้นคิด และความไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม จะหมดไปจากท้องถนนเมืองไทย"

ปัญหาการจราจรของเรา ไม่มีวันแก้ไขได้ ตราบที่คนเช่นนี้ ยังมีอยู่ ร่วมสังคมกับเรา

ท่านว่า จริงหรือไม่

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่