ขอเรื่องสถาบันนะครับ เห็นแก่พระศาสนา หวังใจว่าจะคุยกันอย่างสร้างสรรค์
ผมเสนอ
1. ออกกฏหมายรับรองพระไตรปฎิกฉบับสยามรัฐบาลี ฉบับหลวง ไว้เป็นเกณหรือเป็นธรรมนูญสงฆ์
2.1 ในประเด็นการสอน และการปฏิบัติแตกต่างจากพระไตรปฎิก หากอ้างไปบิดเบือนมีความผิด
2.2 ผู้คนมีสิทธิเสรีภาพที่จะเชื่อ มีเสรีภาพที่จะเลือกศรัทธาของตน จึงควรให้มีสิทธิ์ที่จะสร้างนิกายใหม่
อันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วสองพันกว่าปีมานี้ หรือแม้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ตาม ปัจจุบันเป็นยุคแห่งเสรีภาพ
และน่าจะลดความขัดแย้งของความแตกต่างได้ และลดโดอกาสในการอ้างบิดเบือนต้นฉบับ
2.3 กรณีที่เจ้าสำนักไม่ยอมแยกเป็นนิกายใหม่แต่ยังสอนต่างไปจากพระไตรปฎิก ให้ใช้กฎหมายบังคับออกเป็นนิกายใหม่ หากมีศักยภาพและผู้รับรองเกิน 50,000 คน สามารถตั้งนิกายใหม่ได้ หากไม่มีผู้รับรองเพียงพอให้ยุบ การบังคับหรือการฟ้อง สอบโดยทั้งคณะสงฆ์และศาล คือต่างจากศาลสงฆ์ ที่เหมือนศาลพระภูมิในปัจจุบัน
เช่นผมได้ยินเต็มสองหู พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมกาย มีวีดีโอในยูทูป เรื่องมารนั่นแหละ ถ้าศาสนาคือสถาบันของชาติ
ฆาราวาสโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาเป็นผู้รับร้องเรียน ควรได้มีสิทธิในการปกป้องได้โดย
ใช้พระไตรปฎิกเป็นธรรมนูญ คณะสงฆ์เป็นองค์ศาลร่วม เมื่อตัดสินถึงที่สุด ก็ควรให้แยกนิกายไป
ไม่ต้องทำลายกัน เขามีสิทธิ์ที่จะเชื่อของเขาโดยเสรีภาพ แต่เมื่อเชื่อโดยการทำลายพระไตรปิฎกที่เรารับรอง
ก็ต้องยุติด้วยกฏหมาย (อยากให้มีผลย้อนหลังคงจะดี)
* หมายเหตุ กรณีตัวอย่าง คำว่า ธรรมกาย นี้ เป็นแต่เพียงคำศัพท์บรรญัติ ที่บังเอิญมีอยู่ 4 แห่ง ในพระธรรมขัน 4 คำนะไม่ใช่ขันธ์ นับเอาเองหรือว่าสำคัญมากในการอ้างการตรัสรู้ กสินสิบที่ไม่ใช่ทางตรัสรู้ท่านยังแสดงมากกว่า ทานเป็นไฉน ท่านยังบอก ตรัสรู้ธรรมกายมีบอกไหม ฉนันเรื่องแบบนี้แถกันไม่จบ สงคมควรให้อำนาจองค์คณะที่ยอมรับแล้วมายุติ ว่า ถ้าไม่ใช่การบิดเบือนอันจะมีความผิดตามข้อ 2.1 แต่เป็นความแตกต่างที่ไม่สามารถยอมรับร่วมกันได้ ก็ให้แยกนิกายเสีย
รอฟังความเห็นท่านอื่นๆ ถ้ามีพิมพ์ผิดขออภัยตาลายแล้ว
My studio
มุมมองของคุณถึง คมช รัฐธรรมนูญใหม่ สถาบันศาสนา ควรเป็นอย่างไร
ผมเสนอ
1. ออกกฏหมายรับรองพระไตรปฎิกฉบับสยามรัฐบาลี ฉบับหลวง ไว้เป็นเกณหรือเป็นธรรมนูญสงฆ์
2.1 ในประเด็นการสอน และการปฏิบัติแตกต่างจากพระไตรปฎิก หากอ้างไปบิดเบือนมีความผิด
2.2 ผู้คนมีสิทธิเสรีภาพที่จะเชื่อ มีเสรีภาพที่จะเลือกศรัทธาของตน จึงควรให้มีสิทธิ์ที่จะสร้างนิกายใหม่
อันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วสองพันกว่าปีมานี้ หรือแม้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ตาม ปัจจุบันเป็นยุคแห่งเสรีภาพ
และน่าจะลดความขัดแย้งของความแตกต่างได้ และลดโดอกาสในการอ้างบิดเบือนต้นฉบับ
2.3 กรณีที่เจ้าสำนักไม่ยอมแยกเป็นนิกายใหม่แต่ยังสอนต่างไปจากพระไตรปฎิก ให้ใช้กฎหมายบังคับออกเป็นนิกายใหม่ หากมีศักยภาพและผู้รับรองเกิน 50,000 คน สามารถตั้งนิกายใหม่ได้ หากไม่มีผู้รับรองเพียงพอให้ยุบ การบังคับหรือการฟ้อง สอบโดยทั้งคณะสงฆ์และศาล คือต่างจากศาลสงฆ์ ที่เหมือนศาลพระภูมิในปัจจุบัน
เช่นผมได้ยินเต็มสองหู พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมกาย มีวีดีโอในยูทูป เรื่องมารนั่นแหละ ถ้าศาสนาคือสถาบันของชาติ
ฆาราวาสโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาเป็นผู้รับร้องเรียน ควรได้มีสิทธิในการปกป้องได้โดย
ใช้พระไตรปฎิกเป็นธรรมนูญ คณะสงฆ์เป็นองค์ศาลร่วม เมื่อตัดสินถึงที่สุด ก็ควรให้แยกนิกายไป
ไม่ต้องทำลายกัน เขามีสิทธิ์ที่จะเชื่อของเขาโดยเสรีภาพ แต่เมื่อเชื่อโดยการทำลายพระไตรปิฎกที่เรารับรอง
ก็ต้องยุติด้วยกฏหมาย (อยากให้มีผลย้อนหลังคงจะดี)
* หมายเหตุ กรณีตัวอย่าง คำว่า ธรรมกาย นี้ เป็นแต่เพียงคำศัพท์บรรญัติ ที่บังเอิญมีอยู่ 4 แห่ง ในพระธรรมขัน 4 คำนะไม่ใช่ขันธ์ นับเอาเองหรือว่าสำคัญมากในการอ้างการตรัสรู้ กสินสิบที่ไม่ใช่ทางตรัสรู้ท่านยังแสดงมากกว่า ทานเป็นไฉน ท่านยังบอก ตรัสรู้ธรรมกายมีบอกไหม ฉนันเรื่องแบบนี้แถกันไม่จบ สงคมควรให้อำนาจองค์คณะที่ยอมรับแล้วมายุติ ว่า ถ้าไม่ใช่การบิดเบือนอันจะมีความผิดตามข้อ 2.1 แต่เป็นความแตกต่างที่ไม่สามารถยอมรับร่วมกันได้ ก็ให้แยกนิกายเสีย
รอฟังความเห็นท่านอื่นๆ ถ้ามีพิมพ์ผิดขออภัยตาลายแล้ว
My studio