จ่ายค่าสมัครสอบไปแล้ว 300 บาท มีรายชื่ออยู่ในรายการผู้มีสิทธิสอบด้วย
แต่ตอนนี้กำลังลังเลว่าจะไปสอบดีไหม(สอบมิถุนา) สาเหตุที่ทำให้ลังเลคือ
1. อัตราส่วนคนที่สมัคร กับจำนวนทึ่รับ : มีคนสมัครหมื่นกว่าคน แต่เขารับแค่ประมาณสองร้อยคน แล้วเราบ้านอยู่ไกลจากสถานที่สอบมาก อยู่คนละภาคเลย แถมไม่คิดว่าตัวเองจะสอบติด เพราะเราเพิ่งอ่านหนังสือไปนิดเดียวเอง ไม่มีแนวข้อสอบ และเราก็ต้องทำงานด้วย มีเวลาอ่านหนังสือไม่เต็มที่ คือถ้ารู้ว่าจะสอบไม่ติด เราก็ไม่อยากสอบ เพราะต้องเสียค่าเดินทางมาก
2. เงื่อนไขของไปรษณีย์นั้นมากมายเหลือเกิน เช่น ถ้าสอบได้แล้ว จะต้องเรียนที่โรงเรียนไปรษณีย์ก่อนเป็นเวลา 1 ปี ถ้าออกก่อนจะต้องเสียค่าปรับเป็นหมื่น , ถ้าได้บรรจุเข้าทำงานแล้ว จะต้องทำงานที่ กทม อย่างน้อย 3 ปี หากออกซะก่อนก็ต้องเสียค่าปรับอีกมหาศาล เป็นต้น เราก็กลัวว่าเราจะไม่สามารถทำตามเงิ่อนไขเขาได้
3. ทางบ้านไม่สนับสนุน พ่อไม่อยากให้ไป เพราะเห็นว่ามีเงื่อนไขเยอะ และกังวลว่าหากสมมติได้บรรจุเข้าทำงาน เราจะสามารถเลือกสาขาลงได้ไหม จะสามารถเลือกสาขาใกล้ๆบ้านได้ไหม พ่อกลัวว่าเราจะได้ไปอยู่ในที่กันดารๆ ส่วนญาติเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้วุฒิ ม.6 ไปสอบ ทั้งๆที่เราจบ ป.ตรี ทำไมไม่เอาวุฒิ ป.ตรี ไปสอบ (เราก็อธิบายแล้วว่ามันเป็นเงื่อนไขของโรงเรียนไปรษณีย์)
ตอนที่เราตัดสินใจสมัครสอบนั้น เราไม่ได้ปรึกษาใครเลย นอกจากแม่ และเราก็รู้สึกอยากลาออกจากงานเก่า เพราะไม่ก้าวหน้า เงินเดือนน้อย ได้ข่าวว่าทำงานที่ไปษณีย์นี่ดีมากนะ มั่นคง ก้าวหน้า(ถ้าไม่ดีคนคงไม่สมัครเยอะขนาดนี้) ตอนสมัครเราจึงไม่ลังเล แต่พอมาคิดๆตอนนี้ เราก็รู้สึกต้องการอิสระด้วย รู้สึกกลัวพวกเงื่อนไขต่างๆ ตอนนี้จึงรู้สึกสับสนมาก กำลังจะไปจองตั๋วเครื่องบินอยู่แล้ว ก็เกิดอาการลังเล สุดท้ายก็ยังไม่ได้จอง เห้อ
สมัครสอบไปรษณีย์ไว้แล้ว แต่ลังเลว่าจะไปสอบดีไหม
แต่ตอนนี้กำลังลังเลว่าจะไปสอบดีไหม(สอบมิถุนา) สาเหตุที่ทำให้ลังเลคือ
1. อัตราส่วนคนที่สมัคร กับจำนวนทึ่รับ : มีคนสมัครหมื่นกว่าคน แต่เขารับแค่ประมาณสองร้อยคน แล้วเราบ้านอยู่ไกลจากสถานที่สอบมาก อยู่คนละภาคเลย แถมไม่คิดว่าตัวเองจะสอบติด เพราะเราเพิ่งอ่านหนังสือไปนิดเดียวเอง ไม่มีแนวข้อสอบ และเราก็ต้องทำงานด้วย มีเวลาอ่านหนังสือไม่เต็มที่ คือถ้ารู้ว่าจะสอบไม่ติด เราก็ไม่อยากสอบ เพราะต้องเสียค่าเดินทางมาก
2. เงื่อนไขของไปรษณีย์นั้นมากมายเหลือเกิน เช่น ถ้าสอบได้แล้ว จะต้องเรียนที่โรงเรียนไปรษณีย์ก่อนเป็นเวลา 1 ปี ถ้าออกก่อนจะต้องเสียค่าปรับเป็นหมื่น , ถ้าได้บรรจุเข้าทำงานแล้ว จะต้องทำงานที่ กทม อย่างน้อย 3 ปี หากออกซะก่อนก็ต้องเสียค่าปรับอีกมหาศาล เป็นต้น เราก็กลัวว่าเราจะไม่สามารถทำตามเงิ่อนไขเขาได้
3. ทางบ้านไม่สนับสนุน พ่อไม่อยากให้ไป เพราะเห็นว่ามีเงื่อนไขเยอะ และกังวลว่าหากสมมติได้บรรจุเข้าทำงาน เราจะสามารถเลือกสาขาลงได้ไหม จะสามารถเลือกสาขาใกล้ๆบ้านได้ไหม พ่อกลัวว่าเราจะได้ไปอยู่ในที่กันดารๆ ส่วนญาติเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้วุฒิ ม.6 ไปสอบ ทั้งๆที่เราจบ ป.ตรี ทำไมไม่เอาวุฒิ ป.ตรี ไปสอบ (เราก็อธิบายแล้วว่ามันเป็นเงื่อนไขของโรงเรียนไปรษณีย์)
ตอนที่เราตัดสินใจสมัครสอบนั้น เราไม่ได้ปรึกษาใครเลย นอกจากแม่ และเราก็รู้สึกอยากลาออกจากงานเก่า เพราะไม่ก้าวหน้า เงินเดือนน้อย ได้ข่าวว่าทำงานที่ไปษณีย์นี่ดีมากนะ มั่นคง ก้าวหน้า(ถ้าไม่ดีคนคงไม่สมัครเยอะขนาดนี้) ตอนสมัครเราจึงไม่ลังเล แต่พอมาคิดๆตอนนี้ เราก็รู้สึกต้องการอิสระด้วย รู้สึกกลัวพวกเงื่อนไขต่างๆ ตอนนี้จึงรู้สึกสับสนมาก กำลังจะไปจองตั๋วเครื่องบินอยู่แล้ว ก็เกิดอาการลังเล สุดท้ายก็ยังไม่ได้จอง เห้อ