โหดเหี้ยม!!! ทุ่มลูกหมา 7 ตัว ดับต่อหน้าแม่!!! และ เด็กมีปัญหา หั่นคอลูกแมว!!!

โหดเหี้ยม!!! ทุ่มลูกหมา 7 ตัว ดับต่อหน้าแม่!!! และ สาวมีปัญหา หั่นคอลูกแมว!!!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     29 พฤษภาคม 2557

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- จีนเกิดเหตุสลด ทารุณสัตว์ไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ศูนย์ดูแลสุนัขจรจัด ในหังโจว ดูแลหมาไม่ทันตามตารางงาน จึงปัดสวะให้พ้นตัว ด้วยการทุ่มลูกหมาทิ้งลงพื้น ตายยกคอก 7 ตัว ส่วนในก่วงตง เด็กสาวใจอำมหิต ฆ่าหั่นคอลูกแมว ที่ตนเองเพิ่งซื้อมาเลี้ยง ระบายความเครียดปัญหาครอบครัว ก่อนโพสต์โชว์ลงโลกออนไลน์



บรรดาลูกหมาเคราะห์ร้ายกำลังนอนหลับอยู่ในลัง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ใจโฉด “ทุ่มลงพื้น” ตายยกคอก

       ทุ่มลูกหมา ทุ่นเวลาทำงาน
       
       เกิดเหตุสลดรายวัน สำหรับคนรักสุนัขอีกครั้ง เมื่อสังคมออนไลน์จีนพากันแชร์ภาพ ชายวัยกลางคนยกลูกหมาน้อยที่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก ขึ้นกลางอากาศ ก่อนปาลงกับพื้น ใต้ภาพมีคำบรรยายไว้ว่า “เจ้าหน้าที่บริหารจัดการเขตเมือง ส่งแม่หมากับลูกน้อยทั้งหมดไปยังศูนย์ดูแลสุนัขจรจัด...แต่เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ขว้างลูกหมาลงกับพื้น ทีละตัวๆ ต่อหน้าแม่ของมัน! แต่ละตัวยังลืมตาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”
       
       หมาแม่ลูกอ่อน และลูกน้อยทั้ง 7 ตัว ถูกส่งไปยังศูนย์ดูแลสุนัขจรจัด หลังเจ้าหน้าที่บริหารจัดการเขตเมือง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แซ่ซู ว่า เจ้าของหมาต้องการความช่วยเหลือเพราะ “หลังจากที่แม่หมาออกลูกทั้งคอก รวม 7 ตัว ก็มีอาการผิดปกติ และดุร้ายขึ้น” เจ้าของเองก็ตัดใจฆ่าแม่หมาไม่ลง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ซู ช่วยดูแลต่อ
       
       อย่างไรก็ตาม หลังกระแสการวิพากษ์วิจารณ์โหมกระพือขึ้นในโลกออนไลน์ จนสื่อหลายสำนักของจีนต้องนำเสนอข่าว ทางศูนย์ดูแลสุนัขฯ ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองทางตอนเหนือของเมืองหังโจว ก็ออกมายอมรับว่า ชายที่ปรากฏอยู่ในภาพเป็นเจ้าหน้าที่ของทางศูนย์ฯ จริง เขาแซ่ เฟิง อายุประมาณ 50 ปี แต่ตอนนี้ทางศูนย์ฯ ไล่เขาออกจากงานแล้ว เฉียนเจียง หวั่นเป้า (Qianjiang Evening News) รายงานอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งประจำอยู่ในศูนย์ดูแลสุนัขจรจัดดังกล่าว
       
       “นายซู ทำงานไม่ทัน เลย ‘ทุ่มลูกหมาให้ตาย เอาสะดวก’ ” เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแซ่ซู กล่าวเพิ่มเติม



นายเฟิง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดูแลสุนัขจรจัดในหังโจว ถูกจับภาพเอาไว้ได้ระหว่างที่เขา “ทุ่มลูกหมาแรกเกิด” ลงพื้น ให้ตายทีละตัวๆ “เพื่อทุ่นเวลา เพราะตนเองทำงานไม่ทัน”







แม่สุนัขถูกขังไว้ในกรง นั่งดูลูกๆทั้งเจ็ดถูกทุ่มกับพื้นดับคาที่

       อนึ่ง แนวทางการดูแลสุนัขของเมืองหังโจว ก็คือ สุนัขที่ถูกทิ้งควรได้รับการ “ควบคุมดูแล” โดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง แต่ทว่า ก็ไม่มีการกำหนดรายละเอียดวิธีการควบคุมดูแลอย่างชัดเจน แต่อย่างใด
       
       ด้านสมาคมพิทักษ์สัตว์ ในหังโจว ก็ออกมาระบุว่า สุนัขจรจัดมักถูกทารุณ เมื่อเข้าไปอยู่ภายใต้ “การควบคุมดูแล” ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่สังคมออนไลน์จีน จะพากันตั้งคำถามกับหน่วยงานเหล่านั้น เมื่อเกิดเหตุสลดนี้ขึ้น
       
       “ถ้าแม่หมาสมควรตายเพราะทำร้ายคน แล้วเราควรทำยังไงกับคนที่ฆ่าลูกหมาได้ถึง 7 ตัว?” บล็อกเกอร์คนหนึ่งตั้งคำถามไว้อย่างแสบทรวง
       
       “มันไม่ใช่ศูนย์ดูแลหมาจรจัดแล้ว มันเป็นโรงฆ่าสัตว์ต่างหาก” อีกคนหนึ่งแสดงความเห็นไว้
       
       ส่วนตอนจบของเรื่องสลดประจำวันนี้ ก็คือ ร่างลูกหมาแช่แข็งรอเผา ทั้ง 7 ตัว ที่ตายเพราะเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ ทำงานไม่ทัน จึงทุ่มพวกมันลงพื้น เพื่อทุ่นเวลา กับ แม่หมาที่ถูกขังอยู่ในกรง รอการฆ่าทิ้ง และคำถามจากสังคมออนไลน์จีนที่มีต่อการทำงานของหน่วยงานรัฐว่า...
       
       “หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรระบุออกมาเลยว่าจะมีการ “ควบคุมดูแลหมาจรจัด” ยังไง... หรือ “การควบคุม” ที่คุณว่า มันคือการฆ่าหมาทุกตัวทิ้ง?”




ลูกแมวน้อย ก่อนถูกฆ่าหั่นคอทิ้ง เพราะเจ้าของ ‘เมาและเครียด’

       ฆ่าหั่นคอลูกแมว อ้างเครียดและเมา
       
       หลังสื่อจีนประโคมข่าว ชะตาชีวิตสุดอนาถของลูกหมาน้อยทั้งเจ็ดตัว วันต่อมาสังคมจีนก็ต้องตื่นตระหนกกับเหตุการณ์อำมหิตคล้ายคลึงกันอีกครั้ง เมื่อสาวในมณฑลก่วงตง นามว่า หลี ปิงปิง โพสต์รูปลูกแมวถูกฆ่าตัดคอในห้องน้ำ ลงในเวยปั๋ว
       
       นางสาวหลี อดีตที่ปรึกษาด้านการตลาด ในฮุยโจว มณฑลก่วงตง ซื้อลูกแมวน้อยมาได้ไม่ถึงเดือน ก็ "ฆ่าหั่นคอทิ้งในห้องน้ำ" (คลิกชมภาพ) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไชน่า เดลี รายงานวันนี้ (29 พ.ค.)
       
       เธอยังโพสต์ "รูปวีรกรรมหฤโหด"ของตนลงในสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของจีน "เวยปั๋ว" (คล้ายทวิตเตอร์) หลังจากนั้นมีข้อความตอบโต้มากถึง 60,000 ชิ้น ซึ่งล้วนแต่กระหน่ำอารมณ์ใส่เธออย่างไม่ยั้ง จนเธอต้องรีบลบภาพดังกล่าวและเขียนจดหมายขอโทษ ชี้แจงต่อสังคมว่าเธอทำไปเพราะ "เมาและโกรธที่ระแคะระคายว่าพ่อมีชู้"
       
       อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเหตุผลของเธอดูไร้น้ำหนักอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับทารุณกรรมที่เธอทำกับสัตว์เลี้ยงตาดำๆ
       
       “จากสิ่งที่คุณทำ คุณคงไม่ใช่คนแล้วล่ะ” หนึ่งในปฏิกิริยาจากสังคมออนไลน์ ที่มีต่อการกระทำของนางสาวหลี

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000059967

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เข็ดอีกนาน!!! แก๊งลักเจ้าตูบไปขายทำเนื้อตุ๋น ถูกชาวบ้านรุมตื้บ!!!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     22 เมษายน 2557



ซั่งไห่อิสต์ - ชาวบ้านสุดแค้นถูกฉกเจ้าตูบ ที่เลี้ยงให้ข้าวให้น้ำ จับหัวขโมยได้คาหนังคาเขา เลยช่วยกันรุมประชาทัณฑ์จนสลบเหมือด เสร็จแล้วแห่ประจาน
       
       การชำระความด้วยศาลเตี้ยครั้งนี้เกิดขึ้นในเมืองกุ้ยหลิน มณฑลก่วงซี เมื่อชายหัวขโมย 2 คน ซึ่งชาวบ้านบอกว่า เคยแอบเข้ามาจับสุนัขแถบนี้มาแล้ว เพื่อนำไปขายให้ภัตตาคาร โดยขับรถตระเวนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ จากนั้น เอาเนื้อโรยยากดประสาท ล่อเจ้าตูบเคราะห์ร้ายมากิน แล้วทุบด้วยก้อนหิน จนมันตาย จึงโยนซากเข้าไปในรถ
       
       ทว่าคราวนี้ ไปไม่รอด ชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านซานเจียงกำลังเดินกลับบ้าน มาเห็นหัวขโมยทั้งสองกำลังลากสุนัขของตนเข้าไปในรถพอดี โดยยังมีซากไร้วิญญาณของเจ้าตูบอยู่ในรถอีก 3 ตัว



ชาวบ้านผู้นั้นจึงร้องตะโกนเรียกเพื่อนบ้าน ซึ่งกรูกันออกมาหลายกลุ่มอย่างรวดเร็ว แล้วรุมยำหัวขโมยทั้งสองคนด้วยท่อนไม้และก้อนหิน จนลงไปกองกับพื้น หมดสติ
       
       จากนั้น พวกชาวบ้านคว้าก้อนอิฐทุบรถ บางคนปีนขึ้นไปกระทืบบนหลังคา ทำลายเครื่องมือทำมาหากินสุดโฉดอย่างโกรธแค้น
       
       พวกชาวบ้านยังปฏิเสธส่งวายร้ายให้ตำรวจ แต่นำร่างสะบักสะบอมแห่ประจานไปทั่วหมู่บ้าน
       
       ในที่สุดครอบครัวของชายทั้งสองต้องเดินทางมาขอขมา พร้อมกับรับปากว่า จะจ่ายเงินชดใช้ให้จำนวน 5,000 หยวน ( ราว 25,000 บาท)
       
       ในขณะที่การค้าเนื้อสุนัขกำลังระบาดบนแดนมังกร ก็มักปรากฏข่าวมิจฉาชีพขโมยเจ้าตูบอยู่ไม่ขาดสาย เช่น ข่าวตำรวจจับชายคนหนึ่งในมณฑลก่วงตงในข้อหาวางยาเบื่อสุนัข เพื่อส่งเนื้อขายให้ร้านอาหาร
       
       เมื่อปีที่แล้ว ทางการมณฑลเจ้อเจียงสามารถทลายแก๊งวางยาเบื่อสุนัข ซึ่งเป็นคดีใหญ่ที่สุด โดยจับกุมผู้ต้องสงสัยได้หลายคน ตำรวจเชื่อว่า แก๊งรายนี้ได้ชำแหละเนื้อสุนัขไปขายแล้วมากกว่า 11 ตัน
       
       อย่างไรก็ตาม ยังเป็นบุญของเจ้าตูบเจ้าแต้มแดนมังกร ที่นักพิทักษ์สัตว์หลายกลุ่มทั่วประเทศเร่งรณรงค์ เพื่อช่วยเหลือสุนัขและแมวให้รอดพ้นจากชะตากรรมกลายเป็นเมนูจานเด็ดของมนุษย์ ที่กินได้สารพัดไม่เลือก ขณะที่ประชาชนทั่วไปเองก็ตื่นตัวและมีจิตสำนึกช่วยเหลือปกป้องสัตว์กันมากขึ้น ในเมื่อสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนไม่เห็นว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาสำคัญ ที่จะต้องแก้ไข

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000044907
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่