ไม่รู้จะเริ่มเขียนยังไงนะคะ แต่ขอออกตัวไว้ก่อนเลยค่ะว่ากระทู้นี้น่าจะเวิ่นเว้อและยืดยาว เพราะฉะนั้นใครที่หลงกดเข้ามาจะกดออกไปก่อนก็ได้นะคะ ไม่ว่ากัน
กระทู้นี้มันเริ่มมาจากความเก็บกดของเราที่มีต่อเพื่อนคนนึงค่ะ จากที่เคยคิดว่าสนิทกันมาก แต่แล้วอะไรหลายๆอย่างก็ทำให้เราเริ่มอยากถอยห่างจากนางค่ะ จะเรียกว่าเคมีไม่เข้ากันก็น่าจะได้ สมมุติให้เพื่อนเราคนนี้ชื่อ ยัย จ. แล้วกันนะคะ จะได้ไม่สับสน
ซึ่งโชคดีไปว่าตอนนี้เราปิดเทอมค่ะ ทำให้ไม่ค่อยได้เจอหน้า หรือต้องติดต่อสื่อสารอะไรกับนางมาก จะมีบ้างก็ทางเฟสบุ้คค่ะ แล้ว จ. ก็มักจะชอบมาบ่นในแชตทางเฟสบุ้คของเราประจำค่ะ ว่าเหงาจัง เบื่อ อ้อ บอกก่อนนิดนึง ตอนนี้เราและเพื่อนก็อายุอานามราว 24-25 แล้ว เรียนจบกันมาได้สักพัก เพื่อนๆส่วนใหญ่ของเราเค้าก็ทำงานกันค่ะ ยัย จ.โชคดีหน่อยทำงานสบาย ได้เดือนละ 2 หมื่นกว่า ส่วนเราตอนนี้เรียนต่อโทไปค่ะ เข้าเรื่องต่อนะคะ นางชอบคะยั้นคะยอเราให้เปลี่ยนมือถือใหม่จะได้เล่นไลน์ เล่นแชตอะไรกับนางได้ แต่ในใจเรา ขอเหอะ ไม่ได้อยากจะเสวนา หรือรู้สึกสนุกอะไรด้วยเลย ข้อความที่คุยกันส่งกันก็มีแต่เรื่องเดิมๆ ไม่เห็นก่อให้เกิดประโยชน์อะไรในชีวิตเลย ก็โอเค ไม่ได้ใส่ใจอะไร นางก็มีสังคมโซเชี่ยลของนางไป เราก็หมกตัวอ่านนู่นนี่นั่นไปตามหน้าฟีดของเฟสบุ้คไปเรื่อย
แล้วทีนี้หลังๆมานี่ นิสัยเสียนางเริ่มออกค่ะ คือย้อนความไปถึงสมัยเรียนมหาลัย เราเคยเป็นเมทกัน แต่สุดท้ายเราทนนิสัยลูกคุณหนูของนางไม่ได้ค่ะ คือสมัยนั้นนี่ นางไม่เคยกวาดห้อง ถูห้อง หรือทำความสะอาดอะไรเลย ขยะก็กองทิ้งไว้ ไม่เคยเก็บไปทิ้ง เรียกได้ว่าก็สวยไปวันๆอ่ะค่ะ แต่เราก็ใช่ว่าจะดี ยอมรับค่ะว่าเป็นคนของเยอะ ทำห้องรก แต่เราก็รับหน้าที่นางซินไงคะ ก็จัดการกวาดถู ทำความสะอาดบ้าง แต่ทำคนเดียวมันเหนื่อยอ่ะค่ะ ทีนี้อยู่ไปก็ทำท่าจะแย่ สุขภาพจิตพาลจะเสียเอา ก็เลยขอแยกออกมาอยู่คนเดียวดีกว่า ก็โอเค ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน จากกันด้วยดี เหตุผลที่บอกนางไปคือ ห้องมันเล็ก อยู่สองคนไม่ไหวหรอก ขอแยกดีกว่า แต่ก็ยังมีติดต่อสื่อสารกันบ้าง เพราะเรียนมหาลัยเดัยวกัน คณะเดียวกัน แต่คนละสาขา
คือเวลาผ่านมาเรื่อยๆเราก็เริ่มจะกลับไปคุยสนิทสนมกับจ.อีกครั้ง เพราะเรามีปัญหากับเพื่อนที่สนิทมากอีกคน ทะเลาะกันจนถึงขั้นร้องห่มร้องไห้ ประกอบกับช่วงนั้นเหงามาก เพิ่งออกจากงาน แล้วก็เริ่มเรียนใหม่ๆ คือตอนนั้นว่างมาก ไม่มีไรทำเลย ก็คุยเรื่องสวยๆงามๆ(เรื่องถนัดของนาง) ก็ทำให้เราโอเคขึ้น สบายใจขึ้น ก็ทำให้เราไปมาหาสู่ หรือไปเที่ยวกับจ.บ่อยขึ้นค่ะ
เอาล่ะจะเริ่มเข้าเรื่องแล้ว ไอ้ที่ท่านอ่านไปทั้งหมดนี่คือการเกริ่น 55
จากการที่เราเริ่มสนิทกับจ. เหมือนทำให้เราต้องปรับตัว เพื่อให้เข้ากับสังคมรักสวยรักงามของนางค่ะ เพื่อนๆของนาง รวมทั้งยัยจ.ทุกคนก็หน้าตาดี น่ารัก ส่วนเราเหรอคะ....
เหมือนปมด้อยอ่ะค่ะ แต่ก็พยายามไม่คิดมาก จนมีอยู่วันหนึ่ง นางนัดเราไปเดินชอปปิ้งที่สยาม ตอนแรกเราก็นึกว่านัดแค่เราคนเดียว ก็โอเค บุกป่าฝ่าดงจากชานเมืองเข้าสู่ใจกลางกรุง เหนื่อยมากค่ะ พอไปถึงก็เจอกับเพื่อนในกลุ่มสมัยมัธยมของนาง ซึ่งเรารู้จัก แต่ไม่ได้สนิทมาก คำแรกที่นางทักคือ
" (ทรง)ผมไม่ดีนะ"
เราก็ไม่ได้อะไร แต่ตอนนั้นนอยด์ไปนิดนึง เพราะเรามาแบบเหนื่อยๆ ยังปรับอารมณ์ไม่ทัน แล้วมาถูกทักทำให้เราเสียความมั่นใจไปต่อหน้าเพื่อนที่ไม่สนิท ซึ่งสำหรับเรา เค้าืคือคนอื่นอ่ะค่ะ ก็รู้สึกเสียหน้าไปนิดนึง แล้วระหว่างที่เราเดินชอปปิ้งไปกับพลุ่มนั้นเรารู้สึกไม่สนุกเลยค่ะ เหมือนเราเป็นคนนอก ผิดที่ผิดทางยังไงบอกไม่ถูก
แล้วพอสักพักเหนื่อยก็เข้าไปนั่งกินกาแฟกัน ซึ่งสั่งมาแก้วเดียวค่ะ แล้วนั่งนานมาก ที่นานนี่ไม่ใช่อะไร ถ่ายรูป อัพลงไอจี คือตอนนั้นเราเห็นสภาพของผู้หญิงยุคปัจจุบันเลยค่ะ พวกที่ชอบอัพรูปอะไรที่มันแบบไร้สาระลงไอจี ลงโซเชี่ยล เราได้แต่เอือมในใจ คิดว่านี่พวกแกไม่มีอะไรจะทำกันแล้วเรอะ แล้วไม่พอนะ มีส่งเสียงวี้ดว้าย ว่ามุมนี้ไม่สวย ถ่ายใหม่ มุมนี้เริ่ด คืออะไร?
แล้วพอตอนจะแท็กรูปของเรา เราบอกเราไม่มีไอจี ไม่เล่นไลน์ ทุกคนก็แบบเงียบๆกันไป เพื่อนนางคนนึงบอกว่า "อ๋อ ไม่ชอบเล่นโซเชี่ยล รอเจอคนเป็นๆดีกว่าใช่มั้ย" ก็คือไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดนั้นนะคะ จนกระทั่งยัยจ. พูดขึ้นมาว่า "อ๋อ...(ชื่อเรา)ไม่เล่นโซเชี่ยลหรอก แต่ชอบพูดกับตัวเองบนเฟสบุ้ค"
ตอนนั้นคือเรานิ่งแล้ว คือแกจะพูดประโยคนี้ขึ้นมาให้มันได้อะไร ทำเหมือนเราเป็นคนไม่ปกติในสายตาชาวบ้าน เหรอ?
แต่ที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับนางมาจนถึงทุกวันนี้คือการที่นางชอบไปคอมเม้นต์ในเฟสบุ้คของเราค่ะ(ที่ทำให้นางเที่ยวเอาไปเม้าท์คนนู้นคนนี้ว่าเราไม่ปกติ) ซึ่งเหตุการณ์ก็จะประมาณว่าเราโพสต์สเตตัส หรือแชร์อะไรไว้สักอย่าง แล้วเราเข้าไปคอมเม้นต์ตอบโพสต์ของตัวเอง ซึ่งสำหรับเรา เราว่ามันก็ปกตินะ(สำหรับคนเวิ่นเว้อและเรื่องเยอะแบบเรา) ซึ่งสิ่งที่เราเจอคือ
เราตั้งสเตตัส : ชอบคนโครงหน้าแบบอาหรับจังเลย สวยคม
เราเข้าไปคอมเม้นสเตตัสตัวเอง : (โพสต์รูปดาราที่ชอบ) นี่อย่างคนนี้ สวยมาก
ยัยจ. : พูดกับใคร
เราเม้นต์ตอบ : พูดกับตัวเอง
คือตอนนั้นโดนป้วนครั้งแรกไงคะ ก็ยังไม่รู้พิษสงของนาง ก็ยังคุยเล่นสนุก ขำๆไป
พอมารอบที่สอง
เราแชร์ภาพกิจกรรมของคอนเนตโตเปิดตัวไอสกรีมรสใหม่
เราเม้นต์ตอบแชร์ : ถึงจะไม่ชอบรสแบล็คฟอเร็สต์ซักเท่าไหร่ แต่เพื่อหนูเทเลอร์ เราต้องจัดสักโคน
ยัยจ. : พูดกับใคร
เรา : พูดกับตัวเอง 55 (แต่ในใจตอนนั้นแม่ ง ไม่ขำแล้ว)
ล่าสุด(แต่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว)
เราตั้งสเตตัส : ร้อนมาก วิ่งออกไปหน้าปากซอย สีแก้มสวยเชียวยังกับปลัดบรัสออนสีออแกสซั่ม
เราเม้นต์ตอบตัวเอง : แต่ทั้งนี้เจ้ยอม เพื่อเฉาก๊วยเจ้าอร่อยหน้าปากซอย
ยัยจ. : เป็นไรมากป่าว
เรา : ไม่นี่ ปกติดี
ยัยจ. : เห็นโพสต์เองตอบเอง
เรา : คนปกติเค้าก็ทำกันนะ
ยัยจ. : ชั้นเห็นแกคนเดียวนะ เป็นห่วง (ในใจเราอ่านเม้นต์นี้ ความรู้สึกคือแบบ สตอมาก เพื่อนตู)
เรา (เริ่มหงุดหงิด): คนเรามันก็มีหลายแบบ ชั้นอยากเล่นแบบนี้ คิดว่าคงไม่ผิดมั้ง
จนหลังๆมานี่เราแทบไม่กล้าโพสต์อะไรเองแล้วตอบเองเป็นเม้นต์แรกเลยค่ะ ถึงจะแค่ขำๆ หรืออะไรก็ตาม มันทำให้เราต้องคอยมาระแวดระวังกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันใช่มั้ยเนี่ย? เฟสบุ้คก็เฟสบุ้คของเรา แถมเรื่องราวที่ตั้งสเตตัสก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง พาดพิงให้ใครเดือดร้อนด้วยเลย ถ้าไม่ชอบ ก็แค่มองข้ามๆไป ถูกมั้ยคะ ไม่เข้าใจว่าจะต้องเข้ามาตอบทำไมให้เสียความรู้สึกกันด้วย
แล้วนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายครั้งที่คำพูดของยัยจ. ทำให้เรารู้สึกเสียเซลฟ์ เช่น แปลก น่ากลัว ประหลาด ไม่ชอบ ฯลฯ คำพวกนี้ฟังเผินๆก็ไม่มีอะไร แต่สำหรับเรามันทำให้นอยด์และคิดมากค่ะ ทำให้เราไม่มั่นใจทั้งการแต่งตัว รูปร่างหน้าตา หรืออะไรก็ตาม คือเราคิดสงสัยมาตลอดว่า ถึงขั้นโดนเพื่อนพูดมาขนาดนี้ นี่แสดงว่าเราแปลกมากเลยเหรอ ผิดปกติมากใช่มั้ย คนทั่วไปเค้าไม่เป็นแบบเรากันรึเปล่า ไอ้คำพูดพวกนี้พูดกับเราลำพังยังพอว่า แต่บางทีนางก็ชอบพูดต่อหน้าเพื่อนฝูงในกลุ่มของนาง คือเราไม่ชอบเลยค่ะ แต่ทำอะไรไม่ได้ เราไม่กล้าพูดไปตรงๆว่าไม่ชอบ กลัวเสียความรู้สึก กลัวจะแตกหัก เราไม่อยากเสียเพื่อนที่เรามีน้อยนิดอยู่แล้ว ไปอีกคน (แต่บางทีก็คิดนะ ถ้าเพื่อนเชี่ยๆแบบนี้ก็ไม่ค่อยอยากจะเก็บเอาไว้บูชาสักเท่าำไหร่หรอก)
แล้วนางก็ชอบนินทาคนอื่นมากอ่ะค่ะ มีการตั้งกลุ่มลับในเฟสบุ้คเพื่อไว้นินทาเพื่อนโดยเฉพาะ ซึ่งเราโดนนางลากเข้ากลุ่มตอนหลัง เลยเพิ่งได้มาเห็นพฤติกรรมการนินทาคนของนาง ตอนแรกยอมรับค่ะว่าสนุก ผู้หญิงกับเรื่องนินทามันเป็นของคู่กัน แต่ตอนหลังเริ่มรู้สึกตัว ก็ชักไม่สนุกด้วยแล้ว บางทีเพื่อนที่ถูกนินทาก็อยู่ของเค้าดีๆ ไมไ่ด้ทำอะไรผิดเลย ก็โดนเอามาเม้าท์นินทากันแบบ...
เราก็นึกในใจ เฮ้อ... นี่เหรอว้า สังคมของกลุ่มเพื่อนผู้หญิงๆ เราคิดเลยค่ะว่าผู้หญิงนี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวจริงๆ เค้าไม่ได้ทำอะไร แค่โพสต์รูปตัวเองลงเฟสบุ้คก็เอามานินทากันได้เนาะ ของเราก็โดนค่ะ คิดว่าโดนแน่ๆ ของชอบของพวกนางอยู่แล้ว เรื่องดูถูกคนอื่นน่ะ
เฮ้อ.... เอาล่ะ ระบายออกไปหมดแล้ว ฟังดูงี่เง่านะคะ โตจนป่านนี้แล้ว เรายังควบคุมจิตใจของเราไม่ค่อยได้เลย เก็บเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคิดมากไปคนเดียว เพราะอย่างนี้ไงคะ เราถึงไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เพื่อนก็มีน้อย แถมที่มีก็นะ...
คืออยากถามค่ะว่าเราควรทำยังไงดี เราควรปรับนิสัยและทัศนคติของเราให้ดีขึ้นใช่มั้ยคะ ให้รู้จักให้อภัย เรายอมรับค่ะว่าเป็นคนโกรธ(แบบจริงๆ)ยาก แต่ถ้าเสียความรู้สึกหรือโกรธไปแล้วก็ยากที่จะให้อภัย
ตลอดเวลาที่เรารู้สึกไม่ดีกับจ. เราก็พยายามคิดและก็มองหาแง่ดีของนางนะคะ แต่สักพักสุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้ค่ะ เพราะเรื่องเก่าเรายังไม่ทันจะให้อภัยนางได้เลย นางก็ก่อเรื่องใหม่ขึ้นมาเป็นซีเควนซ์ไม่ได้หยุดนิ่ง ยิ่งเรารู้สึกแย่กับ ยัยจ. ซึ่งไม่ว่ายัยจ.จะทำอะไรก็ขัดหูขัดตาเราไปหมด จะมองหาข้อดีของนางก็เห็นมีอยู่อย่างเดียวคือรักเพื่อนเป็นห่วงเพื่อน แล้วคือยังไงคะ? เวลานางทำไม่ดีกับเรา นางไม่เคยขอโทษเราเลย ไม่แคร์เลยด้วยซ้ำ แต่กับเพื่อนคนอื่นที่นางสนิทมากกว่า นางแคร์มาก มันทำให้เราน้อยใจอ่ะค่ะ
ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่พยายามไม่คุย ไม่ยุ่ง ไม่ติดต่อกัน เราต้องลงทุนถึงขั้นปิดการสนทนาในเฟสบุ้คอ่ะค่ะ เพื่อกันไม่ให้นางเห็นเราออนไลน์เล่นเฟสบุ้คอยู่
จะทำยังไงกับเพื่อนที่ชอบหักหน้าเราต่อหน้าคนอื่นดีคะ
กระทู้นี้มันเริ่มมาจากความเก็บกดของเราที่มีต่อเพื่อนคนนึงค่ะ จากที่เคยคิดว่าสนิทกันมาก แต่แล้วอะไรหลายๆอย่างก็ทำให้เราเริ่มอยากถอยห่างจากนางค่ะ จะเรียกว่าเคมีไม่เข้ากันก็น่าจะได้ สมมุติให้เพื่อนเราคนนี้ชื่อ ยัย จ. แล้วกันนะคะ จะได้ไม่สับสน
ซึ่งโชคดีไปว่าตอนนี้เราปิดเทอมค่ะ ทำให้ไม่ค่อยได้เจอหน้า หรือต้องติดต่อสื่อสารอะไรกับนางมาก จะมีบ้างก็ทางเฟสบุ้คค่ะ แล้ว จ. ก็มักจะชอบมาบ่นในแชตทางเฟสบุ้คของเราประจำค่ะ ว่าเหงาจัง เบื่อ อ้อ บอกก่อนนิดนึง ตอนนี้เราและเพื่อนก็อายุอานามราว 24-25 แล้ว เรียนจบกันมาได้สักพัก เพื่อนๆส่วนใหญ่ของเราเค้าก็ทำงานกันค่ะ ยัย จ.โชคดีหน่อยทำงานสบาย ได้เดือนละ 2 หมื่นกว่า ส่วนเราตอนนี้เรียนต่อโทไปค่ะ เข้าเรื่องต่อนะคะ นางชอบคะยั้นคะยอเราให้เปลี่ยนมือถือใหม่จะได้เล่นไลน์ เล่นแชตอะไรกับนางได้ แต่ในใจเรา ขอเหอะ ไม่ได้อยากจะเสวนา หรือรู้สึกสนุกอะไรด้วยเลย ข้อความที่คุยกันส่งกันก็มีแต่เรื่องเดิมๆ ไม่เห็นก่อให้เกิดประโยชน์อะไรในชีวิตเลย ก็โอเค ไม่ได้ใส่ใจอะไร นางก็มีสังคมโซเชี่ยลของนางไป เราก็หมกตัวอ่านนู่นนี่นั่นไปตามหน้าฟีดของเฟสบุ้คไปเรื่อย
แล้วทีนี้หลังๆมานี่ นิสัยเสียนางเริ่มออกค่ะ คือย้อนความไปถึงสมัยเรียนมหาลัย เราเคยเป็นเมทกัน แต่สุดท้ายเราทนนิสัยลูกคุณหนูของนางไม่ได้ค่ะ คือสมัยนั้นนี่ นางไม่เคยกวาดห้อง ถูห้อง หรือทำความสะอาดอะไรเลย ขยะก็กองทิ้งไว้ ไม่เคยเก็บไปทิ้ง เรียกได้ว่าก็สวยไปวันๆอ่ะค่ะ แต่เราก็ใช่ว่าจะดี ยอมรับค่ะว่าเป็นคนของเยอะ ทำห้องรก แต่เราก็รับหน้าที่นางซินไงคะ ก็จัดการกวาดถู ทำความสะอาดบ้าง แต่ทำคนเดียวมันเหนื่อยอ่ะค่ะ ทีนี้อยู่ไปก็ทำท่าจะแย่ สุขภาพจิตพาลจะเสียเอา ก็เลยขอแยกออกมาอยู่คนเดียวดีกว่า ก็โอเค ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน จากกันด้วยดี เหตุผลที่บอกนางไปคือ ห้องมันเล็ก อยู่สองคนไม่ไหวหรอก ขอแยกดีกว่า แต่ก็ยังมีติดต่อสื่อสารกันบ้าง เพราะเรียนมหาลัยเดัยวกัน คณะเดียวกัน แต่คนละสาขา
คือเวลาผ่านมาเรื่อยๆเราก็เริ่มจะกลับไปคุยสนิทสนมกับจ.อีกครั้ง เพราะเรามีปัญหากับเพื่อนที่สนิทมากอีกคน ทะเลาะกันจนถึงขั้นร้องห่มร้องไห้ ประกอบกับช่วงนั้นเหงามาก เพิ่งออกจากงาน แล้วก็เริ่มเรียนใหม่ๆ คือตอนนั้นว่างมาก ไม่มีไรทำเลย ก็คุยเรื่องสวยๆงามๆ(เรื่องถนัดของนาง) ก็ทำให้เราโอเคขึ้น สบายใจขึ้น ก็ทำให้เราไปมาหาสู่ หรือไปเที่ยวกับจ.บ่อยขึ้นค่ะ
เอาล่ะจะเริ่มเข้าเรื่องแล้ว ไอ้ที่ท่านอ่านไปทั้งหมดนี่คือการเกริ่น 55
จากการที่เราเริ่มสนิทกับจ. เหมือนทำให้เราต้องปรับตัว เพื่อให้เข้ากับสังคมรักสวยรักงามของนางค่ะ เพื่อนๆของนาง รวมทั้งยัยจ.ทุกคนก็หน้าตาดี น่ารัก ส่วนเราเหรอคะ....
เหมือนปมด้อยอ่ะค่ะ แต่ก็พยายามไม่คิดมาก จนมีอยู่วันหนึ่ง นางนัดเราไปเดินชอปปิ้งที่สยาม ตอนแรกเราก็นึกว่านัดแค่เราคนเดียว ก็โอเค บุกป่าฝ่าดงจากชานเมืองเข้าสู่ใจกลางกรุง เหนื่อยมากค่ะ พอไปถึงก็เจอกับเพื่อนในกลุ่มสมัยมัธยมของนาง ซึ่งเรารู้จัก แต่ไม่ได้สนิทมาก คำแรกที่นางทักคือ
" (ทรง)ผมไม่ดีนะ" เราก็ไม่ได้อะไร แต่ตอนนั้นนอยด์ไปนิดนึง เพราะเรามาแบบเหนื่อยๆ ยังปรับอารมณ์ไม่ทัน แล้วมาถูกทักทำให้เราเสียความมั่นใจไปต่อหน้าเพื่อนที่ไม่สนิท ซึ่งสำหรับเรา เค้าืคือคนอื่นอ่ะค่ะ ก็รู้สึกเสียหน้าไปนิดนึง แล้วระหว่างที่เราเดินชอปปิ้งไปกับพลุ่มนั้นเรารู้สึกไม่สนุกเลยค่ะ เหมือนเราเป็นคนนอก ผิดที่ผิดทางยังไงบอกไม่ถูก
แล้วพอสักพักเหนื่อยก็เข้าไปนั่งกินกาแฟกัน ซึ่งสั่งมาแก้วเดียวค่ะ แล้วนั่งนานมาก ที่นานนี่ไม่ใช่อะไร ถ่ายรูป อัพลงไอจี คือตอนนั้นเราเห็นสภาพของผู้หญิงยุคปัจจุบันเลยค่ะ พวกที่ชอบอัพรูปอะไรที่มันแบบไร้สาระลงไอจี ลงโซเชี่ยล เราได้แต่เอือมในใจ คิดว่านี่พวกแกไม่มีอะไรจะทำกันแล้วเรอะ แล้วไม่พอนะ มีส่งเสียงวี้ดว้าย ว่ามุมนี้ไม่สวย ถ่ายใหม่ มุมนี้เริ่ด คืออะไร?
แล้วพอตอนจะแท็กรูปของเรา เราบอกเราไม่มีไอจี ไม่เล่นไลน์ ทุกคนก็แบบเงียบๆกันไป เพื่อนนางคนนึงบอกว่า "อ๋อ ไม่ชอบเล่นโซเชี่ยล รอเจอคนเป็นๆดีกว่าใช่มั้ย" ก็คือไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดนั้นนะคะ จนกระทั่งยัยจ. พูดขึ้นมาว่า "อ๋อ...(ชื่อเรา)ไม่เล่นโซเชี่ยลหรอก แต่ชอบพูดกับตัวเองบนเฟสบุ้ค"
ตอนนั้นคือเรานิ่งแล้ว คือแกจะพูดประโยคนี้ขึ้นมาให้มันได้อะไร ทำเหมือนเราเป็นคนไม่ปกติในสายตาชาวบ้าน เหรอ?
แต่ที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับนางมาจนถึงทุกวันนี้คือการที่นางชอบไปคอมเม้นต์ในเฟสบุ้คของเราค่ะ(ที่ทำให้นางเที่ยวเอาไปเม้าท์คนนู้นคนนี้ว่าเราไม่ปกติ) ซึ่งเหตุการณ์ก็จะประมาณว่าเราโพสต์สเตตัส หรือแชร์อะไรไว้สักอย่าง แล้วเราเข้าไปคอมเม้นต์ตอบโพสต์ของตัวเอง ซึ่งสำหรับเรา เราว่ามันก็ปกตินะ(สำหรับคนเวิ่นเว้อและเรื่องเยอะแบบเรา) ซึ่งสิ่งที่เราเจอคือ
เราตั้งสเตตัส : ชอบคนโครงหน้าแบบอาหรับจังเลย สวยคม
เราเข้าไปคอมเม้นสเตตัสตัวเอง : (โพสต์รูปดาราที่ชอบ) นี่อย่างคนนี้ สวยมาก
ยัยจ. : พูดกับใคร
เราเม้นต์ตอบ : พูดกับตัวเอง
คือตอนนั้นโดนป้วนครั้งแรกไงคะ ก็ยังไม่รู้พิษสงของนาง ก็ยังคุยเล่นสนุก ขำๆไป
พอมารอบที่สอง
เราแชร์ภาพกิจกรรมของคอนเนตโตเปิดตัวไอสกรีมรสใหม่
เราเม้นต์ตอบแชร์ : ถึงจะไม่ชอบรสแบล็คฟอเร็สต์ซักเท่าไหร่ แต่เพื่อหนูเทเลอร์ เราต้องจัดสักโคน
ยัยจ. : พูดกับใคร
เรา : พูดกับตัวเอง 55 (แต่ในใจตอนนั้นแม่ ง ไม่ขำแล้ว)
ล่าสุด(แต่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว)
เราตั้งสเตตัส : ร้อนมาก วิ่งออกไปหน้าปากซอย สีแก้มสวยเชียวยังกับปลัดบรัสออนสีออแกสซั่ม
เราเม้นต์ตอบตัวเอง : แต่ทั้งนี้เจ้ยอม เพื่อเฉาก๊วยเจ้าอร่อยหน้าปากซอย
ยัยจ. : เป็นไรมากป่าว
เรา : ไม่นี่ ปกติดี
ยัยจ. : เห็นโพสต์เองตอบเอง
เรา : คนปกติเค้าก็ทำกันนะ
ยัยจ. : ชั้นเห็นแกคนเดียวนะ เป็นห่วง (ในใจเราอ่านเม้นต์นี้ ความรู้สึกคือแบบ สตอมาก เพื่อนตู)
เรา (เริ่มหงุดหงิด): คนเรามันก็มีหลายแบบ ชั้นอยากเล่นแบบนี้ คิดว่าคงไม่ผิดมั้ง
จนหลังๆมานี่เราแทบไม่กล้าโพสต์อะไรเองแล้วตอบเองเป็นเม้นต์แรกเลยค่ะ ถึงจะแค่ขำๆ หรืออะไรก็ตาม มันทำให้เราต้องคอยมาระแวดระวังกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันใช่มั้ยเนี่ย? เฟสบุ้คก็เฟสบุ้คของเรา แถมเรื่องราวที่ตั้งสเตตัสก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง พาดพิงให้ใครเดือดร้อนด้วยเลย ถ้าไม่ชอบ ก็แค่มองข้ามๆไป ถูกมั้ยคะ ไม่เข้าใจว่าจะต้องเข้ามาตอบทำไมให้เสียความรู้สึกกันด้วย
แล้วนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายครั้งที่คำพูดของยัยจ. ทำให้เรารู้สึกเสียเซลฟ์ เช่น แปลก น่ากลัว ประหลาด ไม่ชอบ ฯลฯ คำพวกนี้ฟังเผินๆก็ไม่มีอะไร แต่สำหรับเรามันทำให้นอยด์และคิดมากค่ะ ทำให้เราไม่มั่นใจทั้งการแต่งตัว รูปร่างหน้าตา หรืออะไรก็ตาม คือเราคิดสงสัยมาตลอดว่า ถึงขั้นโดนเพื่อนพูดมาขนาดนี้ นี่แสดงว่าเราแปลกมากเลยเหรอ ผิดปกติมากใช่มั้ย คนทั่วไปเค้าไม่เป็นแบบเรากันรึเปล่า ไอ้คำพูดพวกนี้พูดกับเราลำพังยังพอว่า แต่บางทีนางก็ชอบพูดต่อหน้าเพื่อนฝูงในกลุ่มของนาง คือเราไม่ชอบเลยค่ะ แต่ทำอะไรไม่ได้ เราไม่กล้าพูดไปตรงๆว่าไม่ชอบ กลัวเสียความรู้สึก กลัวจะแตกหัก เราไม่อยากเสียเพื่อนที่เรามีน้อยนิดอยู่แล้ว ไปอีกคน (แต่บางทีก็คิดนะ ถ้าเพื่อนเชี่ยๆแบบนี้ก็ไม่ค่อยอยากจะเก็บเอาไว้บูชาสักเท่าำไหร่หรอก)
แล้วนางก็ชอบนินทาคนอื่นมากอ่ะค่ะ มีการตั้งกลุ่มลับในเฟสบุ้คเพื่อไว้นินทาเพื่อนโดยเฉพาะ ซึ่งเราโดนนางลากเข้ากลุ่มตอนหลัง เลยเพิ่งได้มาเห็นพฤติกรรมการนินทาคนของนาง ตอนแรกยอมรับค่ะว่าสนุก ผู้หญิงกับเรื่องนินทามันเป็นของคู่กัน แต่ตอนหลังเริ่มรู้สึกตัว ก็ชักไม่สนุกด้วยแล้ว บางทีเพื่อนที่ถูกนินทาก็อยู่ของเค้าดีๆ ไมไ่ด้ทำอะไรผิดเลย ก็โดนเอามาเม้าท์นินทากันแบบ...
เราก็นึกในใจ เฮ้อ... นี่เหรอว้า สังคมของกลุ่มเพื่อนผู้หญิงๆ เราคิดเลยค่ะว่าผู้หญิงนี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวจริงๆ เค้าไม่ได้ทำอะไร แค่โพสต์รูปตัวเองลงเฟสบุ้คก็เอามานินทากันได้เนาะ ของเราก็โดนค่ะ คิดว่าโดนแน่ๆ ของชอบของพวกนางอยู่แล้ว เรื่องดูถูกคนอื่นน่ะ
เฮ้อ.... เอาล่ะ ระบายออกไปหมดแล้ว ฟังดูงี่เง่านะคะ โตจนป่านนี้แล้ว เรายังควบคุมจิตใจของเราไม่ค่อยได้เลย เก็บเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคิดมากไปคนเดียว เพราะอย่างนี้ไงคะ เราถึงไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เพื่อนก็มีน้อย แถมที่มีก็นะ...
คืออยากถามค่ะว่าเราควรทำยังไงดี เราควรปรับนิสัยและทัศนคติของเราให้ดีขึ้นใช่มั้ยคะ ให้รู้จักให้อภัย เรายอมรับค่ะว่าเป็นคนโกรธ(แบบจริงๆ)ยาก แต่ถ้าเสียความรู้สึกหรือโกรธไปแล้วก็ยากที่จะให้อภัย
ตลอดเวลาที่เรารู้สึกไม่ดีกับจ. เราก็พยายามคิดและก็มองหาแง่ดีของนางนะคะ แต่สักพักสุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้ค่ะ เพราะเรื่องเก่าเรายังไม่ทันจะให้อภัยนางได้เลย นางก็ก่อเรื่องใหม่ขึ้นมาเป็นซีเควนซ์ไม่ได้หยุดนิ่ง ยิ่งเรารู้สึกแย่กับ ยัยจ. ซึ่งไม่ว่ายัยจ.จะทำอะไรก็ขัดหูขัดตาเราไปหมด จะมองหาข้อดีของนางก็เห็นมีอยู่อย่างเดียวคือรักเพื่อนเป็นห่วงเพื่อน แล้วคือยังไงคะ? เวลานางทำไม่ดีกับเรา นางไม่เคยขอโทษเราเลย ไม่แคร์เลยด้วยซ้ำ แต่กับเพื่อนคนอื่นที่นางสนิทมากกว่า นางแคร์มาก มันทำให้เราน้อยใจอ่ะค่ะ
ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่พยายามไม่คุย ไม่ยุ่ง ไม่ติดต่อกัน เราต้องลงทุนถึงขั้นปิดการสนทนาในเฟสบุ้คอ่ะค่ะ เพื่อกันไม่ให้นางเห็นเราออนไลน์เล่นเฟสบุ้คอยู่