ขอแท็กห้องสยามนะคะ อยากให้ได้อ่านจริงๆ เพราะสังคมตอนนี้มีแต่เรื่องเครียดๆ ถ้าเรามีวิธีจัดการกับความเครียดที่ถูกต้อง
จะไม่เกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้แน่นอน เวลาสุขก็อย่าสุขจนมากไป เพราะเมื่อความทุกข์มาถึงจะทำใจรับไม่ทัน
หลายคนคงเคยได้ยินโรคชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า "โรคซึมเศร้า" โรคซึมเศร้านี้มีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น ทางด้านจิตใจ
สังคมและสิ่งแวดล้อม โรคซึมเศร้ามักเกิดตามหลังความผิดหรือการสูญเสีย เช่น บุคคลที่รักตายจาก คนรักตีจาก ความกดดันด้านสังคม
การเรียน การงานหรือการเงิน สภาพชีวิตที่โดดเดี่ยวว้าเหว่ ขาดความรักความอบอุ่น เป็นต้น
สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นนี้เราหามาจากอินเตอร์เน็ต ที่วันนี้เกริ่นถึงโรคซึมเศร้าเพราะเรามีชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง
เราย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ได้ 10 กว่าปี มีโอกาสได้รู้จักคุณน้าผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บ้านข้างเรานี่เอง ขออนุญาตเรียกว่าน้าแก้ว บ้านของคุณน้า
มีสมาชิก 3 คน คือคุณน้า สามีและลูกสาว ตัวน้าแก้วรับราชการอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทุกวันหลังจากเราเลิกเรียนเรามักเห็นภาพคุณน้า
ซ้อนมอเตอร์ไซด์สามีร้องไห้มาตลอดทาง มีเสียงบ้าง ไม่มีเสียงบ้าง ช่วงเวลาเราเข้านอน มักได้ยินเสียงร้องไห้ เสียงทำลายข้าวของ
โวยวายด่าดังมาจากบ้านน้าแก้ว เราถามแม่ว่าเค้าทะเลาะอะไรกับสามีเค้ารึเปล่า แม่บอกว่าน้าแก้วน่าสงสาร คนในซอยพูดกันว่าน้าแก้ว
"เป็นบ้า" แต่แม่เคยมีโอกาสได้คุยกับสามีน้า สามีน้าเล่าให้ฟังว่าชีวิตน้าแก้วลำบาก ตั้งแต่ย้ายเข้ามาทำงานที่หน่วยงานนี้
มักจะโดนเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้ง น้าแก้วเป็นคนไม่ทันคน ไม่ค่อยมีปากมีเสียง มักถูกเอาเปรียบ ใช้งานต่างๆนาๆ หน่วยงานของน้า
เป็นโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง มีการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บ้าง บางทีมีเรื่องของยาหายบ้าง เครื่องมือแพทย์หายบ้าง
ทุกคนคอยจิกกัดว่าน้าแก้วเป็นคนขโมย เพราะตัวน้าแก้วบางทีรับจ้างทำแผลคนไข้ (น้าแก้วจบผู้ช่วยพยาบาลนะคะ)
ทุกคนใส่ร้ายป้ายสีความผิดให้น้าแก้ว น้าแก้วทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีพวก
ในหน่วยงานมีแต่พวกไฮโซ เมียหมอ ใช้แบรนด์เนม ขี่รถคันโตโก้หรู ในขณะที่น้าแก้วมีเพียงมอเตอร์ไซด์เก่าๆ
ทุกคนพากันรังเกียจ กลั่นแกล้ง ขโมยงานเอกสารบ้าง ขโมยของในลิ้นชักส่วนตัวบ้าง สามีน้าแก้วเคยจะพาน้าแก้วไปพบผู้อำนวยการ
โรงพยาบาล ไปเล่าปัญหาให้ท่านฟัง แต่น้าแก้วไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ได้แต่ร้องไห้อยู่คนเดียวหลายปี ไม่มีใครรู้เลยว่าเหตุการณ์ร้ายๆ
ที่น้าแก้วพานพบทุกวันๆ จะก่อให้เกิดโรคที่ไม่คาดคิด "โรคซึมเศร้า"
ดึกๆของทุกวัน เรายังจำได้ดี น้ามักจะร้องไห้เสียงดังๆ และพูดประโยคเดิมๆเสมอ คือ
"ฉันเป็นคนดีนะ ฉันเป็นข้าราชการที่ดี ทำไมไม่มีใครเห็นความดีฉันเลย"
หนักๆนานเข้าอาการของน้ารุนแรงขึ้นทุกที มีทำร้ายตัวเอง ทำร้ายลูกและสามี จนบ่อยครั้งที่บ้านนู้นต้องฝากน้องแตง
ลูกสาวของน้าแก้วไว้ที่บ้านเรา น้องแตงน่าสงสารมาก เธอเป็นเด็กหญิงไม่กี่ขวบ เรียน ป.3 แต่ต้องมารับรู้อะไรหนักๆ เธอไม่เข้าใจ
ทำไมแม่ถึงตีเธอ ทำไมแม่ถึงเอาเชือกรัดคอเธอ และบางทีทำไมแม่ถึงหยิบมีดมาจะแทงเธอ!!
ทุกครั้งที่น้องแตงมานอนบ้านเรา เด็กน้อยมักจะหอบเอาความเศร้าที่มีอยู่เต็มปรี่มาหาเราเสมอ บางทีเราร้องไห้ตาม
ทำไมชีวิตน้องน่าสงสารเพียงนี้ มีแม่เป็นคนผิดปกติ น้องแตงเฝ้าถาม
"พี่จ๋า ทำไมแม่ไม่รักแตง"
เราพิมพ์นี่ยังจะร้องไห้เลย เราจำภาพนั้นได้ไม่เคยลืม น้องแตงเป็นเหมือนน้องสาวเรา น้องมักจะถูกเด็กในซอยล้อว่า
"ลูกคนบ้า ลูกอีบ้า"
เราเป็นพี่ใหญ่สุดในซอย เราเอาหินไล่ปาเด็กพวกนั้นเลย 55555 อย่ามาว่าน้องเรานะ
ทางด้านสามีของน้าแก้ว ชื่ออานิด อานิดเป็นคนใจเย็นมาก เป็นคนคอยดูแลน้าแก้วเสมอ เมื่อน้าแก้วมีอาการ
อานิดเป็นคนแรกที่โดนทำร้ายเสมอ เราเคยเข้าไปเห็นตอนน้ามีอาการหนักมาก น้าแก้วอยู่ในอ้อมกอดของอานิด เป็นครั้งแรก
ในชีวิตเด็กสาว(ตอนนั้น) ที่ได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชาย วันหนึ่งอานิดตะโกนเรียกบ้านเราเสียงดังลั่น พ่อเราก็สงสัยว่าเอ...
ทำไมไม่มากดกริ่งเรียกดีๆ พอเข้าไปที่บ้าน บ้านเละมาก ข้าวของถูกขว้างปาเต็มบ้าน อานิดกอดน้าแก้วไว้ มีน้องแตงนั่งร้องไห้
อยู่บนบันได น้าแก้วตะโกน
"อีเลว กูจะฆ่าmung กูจะฆ่าmung ช่วยmungทุกอย่าง ขโมยงานกูเอาไปทิ้ง
งานต้องส่ง งานต้องส่งแล้วพรุ่งนี้ อีเวรกูจะฆ่า ปล่อยกู กูจะไปฆ่ามัน"
ครั้งนี้เรารู้สึกว่ายิ่งกว่าทุกครั้ง พ่อเราจึงไปถอยรถเพื่อพาน้าแก้วไปโรงพยาบาลจิตเวช เพราะบ้านนั้นไม่มีรถใหญ่เลย เรามีหน้าที่
ดูแลน้องแตง แม่เราไม่ให้พาน้องแตงไปด้วย น้องแตงร้องตาม วิ่งตามรถพ่อเราจนเท้าเลือดออก
"เอาแม่แตงมา เอาแม่แตงมา แม่จ๋า แม่จ๋า..."
คืนนั้น หมอสรุปอาการให้ฟังว่าน้าแก้วเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง ให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะมีโอกาสเสี่ยง
ที่จะทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่นและอาจรุนแรงถึงขั้น "ฆ่าตัวตาย" บ้านเราและอานิดต้องเทียวไปเทียวมาเยี่ยมน้าแก้วอยู่หลายครั้ง
น้าแก้วอาการดีขึ้นตามลำดับ เสาร์ อาทิตย์ น้องแตงจะดีใจมาก ที่ได้ไปหาแม่ ไปอ่านหนังสือให้แม่ฟัง กินข้าวกับแม่ "กอดแม่"
เมื่อกลับมาบ้านน้องก็จะร่าเริงเป็นพักๆ บางทีมีเหม่อลอย ร้องไห้บ้าง เราต้องคอยชวนน้องเล่น ชวนดูการ์ตูน ชวนไปเที่ยวแกถึงอาการดีขึ้น
น้าแก้วอยู่โรงพยาบาลจิตเวชประมาณไม่กี่เดือนก็ได้กลับบ้าน ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า "หาย" ยังต้องกินยาอยู่เสมอ
เวลาผ่านมาหลายปีแล้ว น้าแก้วก็ใช้ชีวิตตามปกติ มีร้องไห้บ้าง แต่นานๆครั้ง น้องแตงโตเป็นสาว ตั้งใจจะเป็นจิตแพทย์ให้ได้
เพราะไม่อยากให้ใครเป็นแบบแม่และครอบครัวของเธอเอง เราว่าโรคซึมเศร้านี่ใครๆก็เป็นได้ บางคนอาจไม่รู้ตัวว่ามีอาการซึมเศร้าแล้ว
ก็ได้ วันนี้เพื่อนมาปรึกษาเราเลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาและคิดว่าจะมาตีแผ่ทั้งอาการ สาเหตุของโรคและระบบข้าราชการที่ยังต้อง
ปรับปรุงอีกมาก ระบบแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งชั้นวรรณะนี่ควรจะหมดไปซะที
คนเราก็คนเหมือนกัน อย่าแก่งแย่งชิงดีกันเลยตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้
คนปิดทองหลังพระ จนกลายเป็น "โรคซึมเศร้า"
จะไม่เกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้แน่นอน เวลาสุขก็อย่าสุขจนมากไป เพราะเมื่อความทุกข์มาถึงจะทำใจรับไม่ทัน
หลายคนคงเคยได้ยินโรคชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่า "โรคซึมเศร้า" โรคซึมเศร้านี้มีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น ทางด้านจิตใจ
สังคมและสิ่งแวดล้อม โรคซึมเศร้ามักเกิดตามหลังความผิดหรือการสูญเสีย เช่น บุคคลที่รักตายจาก คนรักตีจาก ความกดดันด้านสังคม
การเรียน การงานหรือการเงิน สภาพชีวิตที่โดดเดี่ยวว้าเหว่ ขาดความรักความอบอุ่น เป็นต้น
สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นนี้เราหามาจากอินเตอร์เน็ต ที่วันนี้เกริ่นถึงโรคซึมเศร้าเพราะเรามีชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง
เราย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ได้ 10 กว่าปี มีโอกาสได้รู้จักคุณน้าผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บ้านข้างเรานี่เอง ขออนุญาตเรียกว่าน้าแก้ว บ้านของคุณน้า
มีสมาชิก 3 คน คือคุณน้า สามีและลูกสาว ตัวน้าแก้วรับราชการอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทุกวันหลังจากเราเลิกเรียนเรามักเห็นภาพคุณน้า
ซ้อนมอเตอร์ไซด์สามีร้องไห้มาตลอดทาง มีเสียงบ้าง ไม่มีเสียงบ้าง ช่วงเวลาเราเข้านอน มักได้ยินเสียงร้องไห้ เสียงทำลายข้าวของ
โวยวายด่าดังมาจากบ้านน้าแก้ว เราถามแม่ว่าเค้าทะเลาะอะไรกับสามีเค้ารึเปล่า แม่บอกว่าน้าแก้วน่าสงสาร คนในซอยพูดกันว่าน้าแก้ว
"เป็นบ้า" แต่แม่เคยมีโอกาสได้คุยกับสามีน้า สามีน้าเล่าให้ฟังว่าชีวิตน้าแก้วลำบาก ตั้งแต่ย้ายเข้ามาทำงานที่หน่วยงานนี้
มักจะโดนเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้ง น้าแก้วเป็นคนไม่ทันคน ไม่ค่อยมีปากมีเสียง มักถูกเอาเปรียบ ใช้งานต่างๆนาๆ หน่วยงานของน้า
เป็นโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง มีการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บ้าง บางทีมีเรื่องของยาหายบ้าง เครื่องมือแพทย์หายบ้าง
ทุกคนคอยจิกกัดว่าน้าแก้วเป็นคนขโมย เพราะตัวน้าแก้วบางทีรับจ้างทำแผลคนไข้ (น้าแก้วจบผู้ช่วยพยาบาลนะคะ)
ทุกคนใส่ร้ายป้ายสีความผิดให้น้าแก้ว น้าแก้วทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีพวก
ในหน่วยงานมีแต่พวกไฮโซ เมียหมอ ใช้แบรนด์เนม ขี่รถคันโตโก้หรู ในขณะที่น้าแก้วมีเพียงมอเตอร์ไซด์เก่าๆ
ทุกคนพากันรังเกียจ กลั่นแกล้ง ขโมยงานเอกสารบ้าง ขโมยของในลิ้นชักส่วนตัวบ้าง สามีน้าแก้วเคยจะพาน้าแก้วไปพบผู้อำนวยการ
โรงพยาบาล ไปเล่าปัญหาให้ท่านฟัง แต่น้าแก้วไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ได้แต่ร้องไห้อยู่คนเดียวหลายปี ไม่มีใครรู้เลยว่าเหตุการณ์ร้ายๆ
ที่น้าแก้วพานพบทุกวันๆ จะก่อให้เกิดโรคที่ไม่คาดคิด "โรคซึมเศร้า"
ดึกๆของทุกวัน เรายังจำได้ดี น้ามักจะร้องไห้เสียงดังๆ และพูดประโยคเดิมๆเสมอ คือ
"ฉันเป็นคนดีนะ ฉันเป็นข้าราชการที่ดี ทำไมไม่มีใครเห็นความดีฉันเลย"
หนักๆนานเข้าอาการของน้ารุนแรงขึ้นทุกที มีทำร้ายตัวเอง ทำร้ายลูกและสามี จนบ่อยครั้งที่บ้านนู้นต้องฝากน้องแตง
ลูกสาวของน้าแก้วไว้ที่บ้านเรา น้องแตงน่าสงสารมาก เธอเป็นเด็กหญิงไม่กี่ขวบ เรียน ป.3 แต่ต้องมารับรู้อะไรหนักๆ เธอไม่เข้าใจ
ทำไมแม่ถึงตีเธอ ทำไมแม่ถึงเอาเชือกรัดคอเธอ และบางทีทำไมแม่ถึงหยิบมีดมาจะแทงเธอ!!
ทุกครั้งที่น้องแตงมานอนบ้านเรา เด็กน้อยมักจะหอบเอาความเศร้าที่มีอยู่เต็มปรี่มาหาเราเสมอ บางทีเราร้องไห้ตาม
ทำไมชีวิตน้องน่าสงสารเพียงนี้ มีแม่เป็นคนผิดปกติ น้องแตงเฝ้าถาม
"พี่จ๋า ทำไมแม่ไม่รักแตง"
เราพิมพ์นี่ยังจะร้องไห้เลย เราจำภาพนั้นได้ไม่เคยลืม น้องแตงเป็นเหมือนน้องสาวเรา น้องมักจะถูกเด็กในซอยล้อว่า
"ลูกคนบ้า ลูกอีบ้า"
เราเป็นพี่ใหญ่สุดในซอย เราเอาหินไล่ปาเด็กพวกนั้นเลย 55555 อย่ามาว่าน้องเรานะ
ทางด้านสามีของน้าแก้ว ชื่ออานิด อานิดเป็นคนใจเย็นมาก เป็นคนคอยดูแลน้าแก้วเสมอ เมื่อน้าแก้วมีอาการ
อานิดเป็นคนแรกที่โดนทำร้ายเสมอ เราเคยเข้าไปเห็นตอนน้ามีอาการหนักมาก น้าแก้วอยู่ในอ้อมกอดของอานิด เป็นครั้งแรก
ในชีวิตเด็กสาว(ตอนนั้น) ที่ได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชาย วันหนึ่งอานิดตะโกนเรียกบ้านเราเสียงดังลั่น พ่อเราก็สงสัยว่าเอ...
ทำไมไม่มากดกริ่งเรียกดีๆ พอเข้าไปที่บ้าน บ้านเละมาก ข้าวของถูกขว้างปาเต็มบ้าน อานิดกอดน้าแก้วไว้ มีน้องแตงนั่งร้องไห้
อยู่บนบันได น้าแก้วตะโกน
"อีเลว กูจะฆ่าmung กูจะฆ่าmung ช่วยmungทุกอย่าง ขโมยงานกูเอาไปทิ้ง
งานต้องส่ง งานต้องส่งแล้วพรุ่งนี้ อีเวรกูจะฆ่า ปล่อยกู กูจะไปฆ่ามัน"
ครั้งนี้เรารู้สึกว่ายิ่งกว่าทุกครั้ง พ่อเราจึงไปถอยรถเพื่อพาน้าแก้วไปโรงพยาบาลจิตเวช เพราะบ้านนั้นไม่มีรถใหญ่เลย เรามีหน้าที่
ดูแลน้องแตง แม่เราไม่ให้พาน้องแตงไปด้วย น้องแตงร้องตาม วิ่งตามรถพ่อเราจนเท้าเลือดออก
"เอาแม่แตงมา เอาแม่แตงมา แม่จ๋า แม่จ๋า..."
คืนนั้น หมอสรุปอาการให้ฟังว่าน้าแก้วเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง ให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะมีโอกาสเสี่ยง
ที่จะทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่นและอาจรุนแรงถึงขั้น "ฆ่าตัวตาย" บ้านเราและอานิดต้องเทียวไปเทียวมาเยี่ยมน้าแก้วอยู่หลายครั้ง
น้าแก้วอาการดีขึ้นตามลำดับ เสาร์ อาทิตย์ น้องแตงจะดีใจมาก ที่ได้ไปหาแม่ ไปอ่านหนังสือให้แม่ฟัง กินข้าวกับแม่ "กอดแม่"
เมื่อกลับมาบ้านน้องก็จะร่าเริงเป็นพักๆ บางทีมีเหม่อลอย ร้องไห้บ้าง เราต้องคอยชวนน้องเล่น ชวนดูการ์ตูน ชวนไปเที่ยวแกถึงอาการดีขึ้น
น้าแก้วอยู่โรงพยาบาลจิตเวชประมาณไม่กี่เดือนก็ได้กลับบ้าน ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า "หาย" ยังต้องกินยาอยู่เสมอ
เวลาผ่านมาหลายปีแล้ว น้าแก้วก็ใช้ชีวิตตามปกติ มีร้องไห้บ้าง แต่นานๆครั้ง น้องแตงโตเป็นสาว ตั้งใจจะเป็นจิตแพทย์ให้ได้
เพราะไม่อยากให้ใครเป็นแบบแม่และครอบครัวของเธอเอง เราว่าโรคซึมเศร้านี่ใครๆก็เป็นได้ บางคนอาจไม่รู้ตัวว่ามีอาการซึมเศร้าแล้ว
ก็ได้ วันนี้เพื่อนมาปรึกษาเราเลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาและคิดว่าจะมาตีแผ่ทั้งอาการ สาเหตุของโรคและระบบข้าราชการที่ยังต้อง
ปรับปรุงอีกมาก ระบบแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งชั้นวรรณะนี่ควรจะหมดไปซะที
คนเราก็คนเหมือนกัน อย่าแก่งแย่งชิงดีกันเลยตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้