เรื่องราวของเจ้าของกระทู้ที่เจอมาค่ะ สดๆร้อนๆเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง ขอเท้าความซักเล็กน้อยค่ะ ออกตัวเลยว่าเราเป็นคนที่ไม่ดื่มเหล้าไม่เล่นการพนัน แต่ถามว่าถึงขั้นเกลียดมั๊ย ตอบเลยว่าเฉยๆ แค่มีความรู้สึกลึกๆว่า ไม่เห็นเป็นไร กินเหล้าก็กินไป เล่นพนันก็เล่นไป ขออย่าให้ชีวิต
เป็นพอ พ่อของเราเสียชีวิตจากการดื่มเหล้าค่ะ แต่พอเข้ามัธยมเราก็ยังอยากรู้อยากลองและดื่มในที่สุด แต่เมื่อจบมัธยม6เราก็เลิกดื่มไปเลย ด้วยความที่ว่าไม่มีเวลาไปไหน และคิดตลกตัวเองว่า เราไม่ได้ชอบดื่ม จะดื่มทำไม เป็นตัวของตัวเองดีกว่า นั่งในวงเหล้า เพื่อนดื่มเหล้า เรากินเป็ปซี่หมดสามขวด แล้วยังไง เทห์จะตายเป็นตัวของตัวเองดี ส่วนเรื่องการพนันโดยเฉพาะเล่นไพ่ รู้ซึ้งเลยว่า คำว่าติดการพนันเป็นยังไงเพราะเราเคยนั่งเล่นๆกันกับคนรู้จักในช่วงสงกรานเมื่อนานมาแล้ว และตอนนั้นยังเด็กด้วยสองวันติดต่อกันค่ะ ไม่นอนด้วย พอเราลุกมาจากตรงนั้นได้ มือเราสั่นมาก(อาจจะด้วยความหิว) เดินออกมาจากตรงนั้นแล้วมองกลับไป มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากวงเล็กๆตรงนั้นเลย เงินเรามีเท่าไหร่มันก็เหลือเท่าเดิม ไอ้เงินมันก็วนๆอยู่ในกลุ่มเล็กกลุ่มนั้น สรุปคือปีนั้นเราไม่ได้เล่นสงกรานหรือแม้แต่หัวเราะ กินข้าว ออกไปข้างนอก หรือแม้แต่กลับบ้าน จากนั้นมาสาบานกับตัวเองเลยว่าจะไม่เล่นการพนันอะไรแบบนี้อีก แม้แต่ซื้อหวยซื้อล็อตเตอร์รี่ก็ไม่เคยซื้อ แต่มีคนมาถามบ่อยๆว่า งวงหน้าออกอะไร เพราะเคยบอกคนอื่นถูกอยู่เรื่อยๆ ไม่กล้าเล่นเอง กลัวของจะเสื่อม(ล้อเล่นนะ)
เราไม่ได้เป็นคนดีอะไรหรอก แต่เจอสถานะการณ์ หนี้สินท่วมตัว ท่วมหัวโทรมกายแบบที่เจอตัวอย่างในคนอื่นๆมา ก็ส่ายหน้าอย่างแรง สาบานตนว่าจะไม่ยุ่งกับอะไรแบบนี้เลย สำหรับเราแล้ว การพนันสร้างความตกต่ำในการใช้ชีวิตในสังคมขั้นรุนแรง รวมถึงการถูกผู้คนเกลียดหน้า ต้องยอมรับเลยว่า คงไม่มีใครชอบหน้าคนที่มายืมเงินเราเพื่อเอาไปทลายในบ่อนหรอกถ้าเราไม่ใช่เจ้าแม่ปล่อยเงินกู้ ส่วนเรื่องเหล้า แน่นอน สุขภาพกายของเรา สุขภาพจิตคนรอบข้าง ครอบครัว เจ้าของกระทู้เองก็ตัดสินไม่ได้หรอกว่าอันไหนมันร้ายแรงกว่ากัน เพราะเจอมาทั้งสองแบบแล้ว เรื่องการพนันครอบครัวเราทั้งตระกูลไม่เคยมีใครเล่นการพนัน แต่กลับโดนหางเลขไปด้วยตลอด ส่วนเรื่องเหล้า แน่นอน เจอมาจังๆ เราต้องเสียพ่อไปตั้งแต่ยังไม่จบประถม แม่เราเป็นม้ายและไม่กล้ามีใครใหม่อีก ปู่กับย่าก็ต้องเสียลูกชายคนโตไปมันร้ายแรงมากสำหรับครอบครัวหนึ่ง แต่ถามว่าเราหลีกเลี่ยงได้มั๊ย ตอบเลยว่า ไม่
ไม่มีใครหยุดคนให้ดื่มเหล้าได้หรอก การเซ็นเซอร์ขวดเหล้าในละครไม่ได้ช่วยให้อัตตรานักดื่มหน้าใหม่ลดลงเลย แต่ก็ต้องเซ็นเซอร์ไปเพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องทำตาม
ส่วนเรื่องการพนัน อันนี้ยาว มันมีหลายเหตุการณ์ที่เราเจอมาค่ะ สดๆร้อนๆและยังจำได้ทุกเม็ดในตอนนี้คือเรื่องของอดีตผู้ใหญ่บ้านคนนึง เป็นคนรู้จักของแม่เราเอง ขอเรียกท่านว่า'ผู้ใหญ่' แล้วกันนะคะ จริงๆแล้วผู้ใหญ่แกเป็นคนดี แต่ก็ดื่มเหล้าสรรค์สันบ้าง เมื่อวานมีบุญบั้งไฟที่หมู่บ้านเราค่ะ(ไม่ต้องเดาก็พอรู้นะว่าเราอยู่จังหวัดอะไร) ผู้ใหญ่ก็พาผู้หญิงคนนึงมานั่งดื่มกินที่บ้านเรา เราก็นั่งหน้าคอมตามปกติ แต่บังเอิญว่าโต๊ะทำงานเรามันอยู่ในจุดที่สามารถฟังคนคุยกันได้อย่างชัดเจน ตอนแรกๆก็รำคาญเลยเลิกวาดรูปไปซักพัก นั่งอ่านอะไรไปเรื่อย แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอก ผู้หญิงที่ผู้ใหญ่พามาแกเป็นเพื่อนกันกับนักเล่นไพ่มือฉมังค์แถวๆบ้านนี่แหละ ก็ดูๆใจกับผู้ใหญ่แกอยู่ซักพักก่อนจะพามาให้คนอื่นรู้จัก ผู้ใหญ่อายุ50แต่ผู้หญิงน่าจะประมาณ30ปลายๆ เพราะว่าตัวเล็กเราเลยเดาอายุไม่ค่อยออก เพราะคนตัวเล็กโดยปกติจะดูเด็กกว่าคนที่รูปร่างปกติ ดูท่าแกก็เป็นคนดีนะ แบบว่า บ้านๆธรรมดา นั่งดื่มกันได้นานพอดูก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน
แต่เหตุมันเกิดขึ้นในวันนี้น่ะสิ เมื่อเธอคนนั้นมายืมเงินที่บ้านเรา1พันบาท ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้เอง!!?
.
.
.
.
.
.
.
เดี๋ยวมาเล่าต้องนะคะ พอดีพิมพ์สด กลัวว่าจะหาย เลยตั้งกระทู้รอไว้ก่อน
การพนันกับเหล้า อะไรที่ทำให้ชีวิตตกต่ำที่สุดคะ มาแชร์ประสบการณ์แย่ๆกันเถอะ!
เราไม่ได้เป็นคนดีอะไรหรอก แต่เจอสถานะการณ์ หนี้สินท่วมตัว ท่วมหัวโทรมกายแบบที่เจอตัวอย่างในคนอื่นๆมา ก็ส่ายหน้าอย่างแรง สาบานตนว่าจะไม่ยุ่งกับอะไรแบบนี้เลย สำหรับเราแล้ว การพนันสร้างความตกต่ำในการใช้ชีวิตในสังคมขั้นรุนแรง รวมถึงการถูกผู้คนเกลียดหน้า ต้องยอมรับเลยว่า คงไม่มีใครชอบหน้าคนที่มายืมเงินเราเพื่อเอาไปทลายในบ่อนหรอกถ้าเราไม่ใช่เจ้าแม่ปล่อยเงินกู้ ส่วนเรื่องเหล้า แน่นอน สุขภาพกายของเรา สุขภาพจิตคนรอบข้าง ครอบครัว เจ้าของกระทู้เองก็ตัดสินไม่ได้หรอกว่าอันไหนมันร้ายแรงกว่ากัน เพราะเจอมาทั้งสองแบบแล้ว เรื่องการพนันครอบครัวเราทั้งตระกูลไม่เคยมีใครเล่นการพนัน แต่กลับโดนหางเลขไปด้วยตลอด ส่วนเรื่องเหล้า แน่นอน เจอมาจังๆ เราต้องเสียพ่อไปตั้งแต่ยังไม่จบประถม แม่เราเป็นม้ายและไม่กล้ามีใครใหม่อีก ปู่กับย่าก็ต้องเสียลูกชายคนโตไปมันร้ายแรงมากสำหรับครอบครัวหนึ่ง แต่ถามว่าเราหลีกเลี่ยงได้มั๊ย ตอบเลยว่า ไม่
ไม่มีใครหยุดคนให้ดื่มเหล้าได้หรอก การเซ็นเซอร์ขวดเหล้าในละครไม่ได้ช่วยให้อัตตรานักดื่มหน้าใหม่ลดลงเลย แต่ก็ต้องเซ็นเซอร์ไปเพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องทำตาม
ส่วนเรื่องการพนัน อันนี้ยาว มันมีหลายเหตุการณ์ที่เราเจอมาค่ะ สดๆร้อนๆและยังจำได้ทุกเม็ดในตอนนี้คือเรื่องของอดีตผู้ใหญ่บ้านคนนึง เป็นคนรู้จักของแม่เราเอง ขอเรียกท่านว่า'ผู้ใหญ่' แล้วกันนะคะ จริงๆแล้วผู้ใหญ่แกเป็นคนดี แต่ก็ดื่มเหล้าสรรค์สันบ้าง เมื่อวานมีบุญบั้งไฟที่หมู่บ้านเราค่ะ(ไม่ต้องเดาก็พอรู้นะว่าเราอยู่จังหวัดอะไร) ผู้ใหญ่ก็พาผู้หญิงคนนึงมานั่งดื่มกินที่บ้านเรา เราก็นั่งหน้าคอมตามปกติ แต่บังเอิญว่าโต๊ะทำงานเรามันอยู่ในจุดที่สามารถฟังคนคุยกันได้อย่างชัดเจน ตอนแรกๆก็รำคาญเลยเลิกวาดรูปไปซักพัก นั่งอ่านอะไรไปเรื่อย แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอก ผู้หญิงที่ผู้ใหญ่พามาแกเป็นเพื่อนกันกับนักเล่นไพ่มือฉมังค์แถวๆบ้านนี่แหละ ก็ดูๆใจกับผู้ใหญ่แกอยู่ซักพักก่อนจะพามาให้คนอื่นรู้จัก ผู้ใหญ่อายุ50แต่ผู้หญิงน่าจะประมาณ30ปลายๆ เพราะว่าตัวเล็กเราเลยเดาอายุไม่ค่อยออก เพราะคนตัวเล็กโดยปกติจะดูเด็กกว่าคนที่รูปร่างปกติ ดูท่าแกก็เป็นคนดีนะ แบบว่า บ้านๆธรรมดา นั่งดื่มกันได้นานพอดูก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน
แต่เหตุมันเกิดขึ้นในวันนี้น่ะสิ เมื่อเธอคนนั้นมายืมเงินที่บ้านเรา1พันบาท ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้เอง!!?
.
.
.
.
.
.
.
เดี๋ยวมาเล่าต้องนะคะ พอดีพิมพ์สด กลัวว่าจะหาย เลยตั้งกระทู้รอไว้ก่อน