สวัสดีค่ะ วันนี้มีนโยบายใหม่ของรีสอร์ทแถวเรียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา มาแชร์ให้เพื่อนๆฟังค่ะ
ประมาณบ่ายสามของวันที่ 24 May 2014 ได้มีโอกาสเข้าพักในรีสอร์ท the e-xit
นั่งแท๊กซี่มาค่ะ มาถึงก็เดินเข้าไป เจอน้องยามผู้ชาย ตัวเล็กๆ พูดไทยไม่ค่อยชัด
เรา : "มา check in ค่ะ"
น้องยาม : "จองไว้ชื่ออะไรครับ"
เพื่อนเรา : "ไม่ได้จองชื่อไว้ค่ะ พนักงานบอกว่าให้ walk in เข้ามาได้เลย"
น้องยาม : " (วอไปหาพนักงานอีกคน ซึ่งเราฟังไม่ออกว่าพูดอะไร).. จองไว้ชื่ออะไรครับ"
เพื่อนเรา : " (เริ่มหันมาทำหน้างงใส่เรา) ไม่ได้จองชื่อค่ะ พนักงานผู้หญิงซักคนบอกให้เข้ามาเองเลย"
น้องยาม : " (วออีกรอบ) จองไว้ชื่ออะไรครับ"
เรา+เพื่อน เริ่มเงิบ ตกลงฟังรู้เรื่องไหมเนี่ย เพื่อนเราก็เลยตัดรำคาญ บอกชื่อไป
ขณะที่สนทนากันอยู่นี้ ยืนถือกระเป๋าเดินทาง ไม่มีที่ให้นั่ง ไม่มีอะไรเลย
น้องยามก็วอๆ ไป แล้วก็ให้จ่ายค่าห้อง 2,800 บาท + ค่ามัดจำ 1,000 บาท ตรงนั้นกับน้องยามเลย
(tru งงงงงงงงงงงงง....) โอเคก็ไม่ได้ติดใจอะไร มาชิวๆเนอะ สรุปก็ได้ห้องแรกสุด เดินเข้ามาถึงเลย
(ที่นั่งน้องยาม เข้ารั้วรีสอร์ทมาแล้วอยู่ด้านขวา ส่วนห้องเรา จากรั้วเดินเข้ามาแล้ว เดินเข้าไปได้เลย ดังนั้นห้องเราจึงไม่ได้ผ่านที่นั่งของน้องยามเลย)
หน้าห้องค่ะ ได้ห้องเบอร์นี้.. (เป็น Pool Studio)
ห้องเบอร์ 706
เดินไปถึง ห้องไม่ได้ล็อคอยู่ น้องยามเปิดประตูต้อนรับ
เรากับเพื่อนก็ถามหากุญแจห้อง
น้องยามเลยบอกว่า ผมไม่มีกุญแจครับ ต้องไปขอออฟฟิสมาให้
เราก็เลยโอเค เข้าห้อง พักผ่อนก่อน
เข้าไปแล้ว ขอบอกว่าสภาพห้องน่าประทับใจ น่าพัก บรรยากาศดี เป็น pool villa ที่สนใจจะมาพักนานแล้วค่ะ
บรรยากาศตามรูปค่ะ ดูดีไหมคะ
จะเห็นว่ามี private pool ข้างนอกค่ะ (เสียดาย ยังไม่ทันได้ลง)
เตียงที่ขึ้นไปนอนกลิ้งแปปเดียว
เหตุการณ์เริ่มต้นที่
เพื่อนเรา (มากันสองคน ผู้หญิงทั้งคู่) ลงไปลอง indoor jacuzzi
ปรากฎว่า ฝาท่อเปิดไม่ได้ ระบายน้ำไม่ได้
ต่อมาเราจะเข้าไปล้างเท้า แต่ปรากฎว่าสายฝักบัวรั่ว น้ำเลยไม่ค่อยไหล
อยู่ไปอยู่มา รู้สึกเหงื่อแตก เพราะแอร์ไม่มีความเย็นเลย
ครบสามพฤติการณ์ เราเลยคิดว่าต้องโทรไปแจ้งละ เยอะละ พอดีกับว่าจะออกไปหาอะไรทานพอดี จะได้ส่งคนมาจัดการตอนออกไปข้างนอก
ครั้งที่ 1 : รายงานเรื่องฝักบัว และฝาท่อ
พนักงานผู้หญิงบอกว่า เดี๋ยวจะส่งพนักงานมาเปลี่ยนให้
เราเลยบอกเค้าว่าเดี๋ยวโทรไปอีกทีแล้วค่อยส่งคนมา เพราะจะเข้าห้องน้งห้องน้ำก่อนออกไปหาไรกิน
ครั้งที่ 2 : บอกว่าให้มาได้เลย เพราะจะออกไปแล้ว พร้อมรายงานเรื่องแอร์ไม่เย็น เพราะเมื่อกี้ลืม
พนักงานผญ. บอกว่า โอเคค่ะ จะส่งคนไปละ
เรากับเพื่อนก็นั่งรอ ประมาณ 10 นาที จนต้องโทรไปตามอีก
ที่ต้องรอก็เพราะนึกได้ว่า ไม่มีกุญแจห้องนี่นา กลับมาจะเข้าห้องยังไงล่ะ
เพื่อนเราเลยเป็นคนโทรไปอีกรอบ
ครั้งที่ 3 : บอกให้ส่งคนมาได้เลย เพราะรออยู่ จะออกไปกินข้าว
พนักงานก็ถามเพื่อนเราประมาณว่า ทำไมต้องรอ
เพื่อนเราเลยบอกว่า รอเอากุญแจด้วยไงคะ
พนักงานตอบเพื่อนเราว่า รีสอร์ทไม่มีกุญแจให้ค่ะ..
แล้วเพื่อนเราก็วางไปโดยไม่ติดสงสัยอะไร
เรานี่สิ ช็อค
สงสัยนางจะมึน ไม่มีกุญแจให้ทำไมไม่ถามว่าทำไม
เลยนั่งรอพนักงานมา เราจะได้ถามตรงๆ กับเค้าเลยว่า ตกลงไม่มีกุญแจให้หรอ
10 นาทีผ่านไปอีก.. เล่น คุกกี้รันก็แล้ว อินตาแกรมก็แล้ว..
ไม่ไหวละมั้ง เราเลยกดโทรศัพท์อีกรอบ
มันพีคตรงครั้งนี้แหละค่ะ!!!!!!
ครั้งที่ 4 : บทสนทนาคร่าวๆ มีดังนี้
เรา : รออยู่นะคะ จะออกไปทานข้าวค่ะ
พนง. ผญ. คนเดิม : เอ่อ คุณลูกค้ารอทำไมคะ มีของมีค่าอยู่ในห้องหรอคะ
เรา : ไม่มีหรอกค่ะ แต่สงสัยว่าทำไมไม่มีกุญแจห้องให้
พนง. :
อ๋อ รีสอร์ทเราไมืมีกุญแจห้องให้ลูกค้าค่ะ
เงิบ 1
เรา : ทำไมละค่ะ
พนง. :
เพราะว่าลูกค้าท่านก่อนๆมาพัก เอากุญแจไป แล้วทำหายหมดเลยค่ะ
เงิบ 2
เรา : ไม่มีกุญแจห้องให้เพราะลูกค้าท่านอื่นทำหายหมดเลยเนี่ยนะคะ!??
พนง. : ใช่ค่ะ ตอนนี้เราเหลือแต่ตัว master น่ะค่ะ ให้คุณลูกค้าไม่ได้
เรา : แล้วตัว copy ละคะ
พนง. :
ไม่มีค่ะ หายหมดแล้ว
เรา : แล้วคุณไม่ได้มี copy ไว้ใหม่ เลยหรอคะเนี่ย
พนง. ไม่ค่ะ
เรา : แล้วจะออกไปทานข้าวทำยังไงคะเนี่ย
พนง. :
ไม่ต้องล็อคค่ะ ออกไปได้เลย
เงิบ 3
เรา : ให้ออกไปได้เลยโดยไม่ต้องล็อคเนี่ยนะคะ
พนง. : ถ้าจะล็อค เดี๋ยวกลับมาแล้วให้แม่บ้านมาเปิดให้ค่ะ
เรา : หมายความว่า กลับมาทุกครั้ง ต้องโทรเรียกแม่บ้านมาเปิดให้หรอคะ!??
เงิบ 4
พนง. : ใช่ค่ะ
เรา : แล้วเรื่องความปลอดภัยละคะ กุญแจที่หายไป มันปลอดภัยหรอคะ ทำไมไม่เปลี่ยนตัวล็อคที่ประตูใหม่คะ
สภาพประตูห้องจากด้านใน จะเห็นว่านอกจากตัวล็อคที่ต้องใช้กุญแจไข นอกนั้นก็ไม่มีตัวล็อคอะไรอีกเลย
มากันสองคน ผญทั้งคู่ ห้องเดินเข้ามาจากถนนถึงเลย กุญแจ copy หายทุกตัว มันน่ากลัวมากนะคะ
พนง. : เรามีระบบรักษาความปลอดภัยค่ะ มีกล้องวงจรปิด 2 ตัว และยาม
(นึกถึงหน้าน้องยามเมื่อกี้ ตัวเล็กๆ พูดจางงๆ กับ กล้องวงจรปิด 2 ตัว คือ ปลอดภัยมากค่ะะะะะะะะะะะ)
เรา : คือ ยังไงก็ไม่โอเคอ่ะค่ะ
คุยไปคุยมา พนง. ถามเราด้วยเสียงกวนประสาทว่า
มีปัญหาอะไรรึปล่าวคะ
เงิบ 5
เรา : ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ปัญหาคือเรื่องความปลอดภัยค่ะ (เริ่มขึ้น)
พนง : คุณลูกค้าจะ check out เลยไหมละคะ?
เรา : ได้ค่ะ คืนเงินเต็มจำนวนรึปล่าวคะ
พนง : ครึ่งเดียวค่ะ
เรา : ทำไมครึ่งเดียวคะ
พนง : คิดเป็น one day used ค่ะ
เราโมโหมาก เข้ามาเพิ่งจะสองชั่วโมงกว่าๆ ความผิดก็ไม่ใช่ความผิดเรา ทำไมต้องโดนหักเงินไปครึ่งราคา
เราไม่ยอมแน่นอน
เรา : ครึ่งราคาได้ยังไงคะ มันไม่ใช่ความผิดของลูกค้าเลยนะคะ
พนง : ต้องเป็นแบบนั้นค่ะ
เรา : ตกลงว่า ทางรีสอร์ท
ไม่มีนโยบายให้กุญแจลูกค้าใช่ไหมคะ
พนง :
เคยมีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
เงิบบบบบบบบ 6
เรา : งั้นจะ check out ค่ะ แต่คุณต้องคืนเงินเต็มจำนวนนะคะ
พนง : ไม่ได้ค่ะ
เรา : งั้นจะลองโทรถาม สคบ. นะคะ
พนง :
สคบ. คืออะไรคะ
เงิบ 7
เรา : สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคค่ะ
พนง. :
ก็ลองดูค่ะ
เงิบ 8
เรา : ได้ค่ะ ตกลงจะให้ลองใช่ไหมคะ? (ขึ้นมาก)
พนง : (คุยกับพนักงานอีกคนว่า
คืนๆเงิน "มัน" ไปไหม ให้เช็คเอาท์ไปๆ
เรา : เรียกลูกค้าว่ามัน ได้ยินนะคะ ทำแบบนี้ถูกต้องหรอคะ
คุณนางเงียบไปแปปนึง แล้วบอกว่า ตกลงจะคืนเงินให้ค่ะ เต็มจำนวน เดี๋ยวจะส่งคนไปที่ห้อง โดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษซักคำ!!!!!
รอสักพักก็มีคนเข้ามา
เป็นพนักวานผู้ชาย เอาเงินมาคืนเสร็จสรรพ
พร้อมเดินตรวจห้อง และพูดว่า
ปกติเค้าก็อยู่กันได้นะครับ คนใหญ่คนโตมาก็ไม่มีปัญหาอะไร
ค่ะ.. คุณว่านโยบายเคัาแปลกดีไหมคะ
หรือว่าเราคิดไปเองคนเดียว
สุดท้าย คุณลูกค้า ที่มีสรรพนามว่า "มัน" คนนี้ ขอบคุณมากที่คุณแนะนำนโยบายใหม่ให้ได้รู้จัก
เพราะไปเที่ยวที่ไหน ประเทศอะไรก็ไม่เคยเจอมาก่อนเลย
สวัสดีค่ะ
The x-it city resort bangkok (ซอยโยธินพัฒนา) มีนโยบายใหม่ ไม่ให้กุญแจห้องลูกค้า จะเข้ามาก็ตามแม่บ้านมาเปิดนะคะ..
ประมาณบ่ายสามของวันที่ 24 May 2014 ได้มีโอกาสเข้าพักในรีสอร์ท the e-xit
นั่งแท๊กซี่มาค่ะ มาถึงก็เดินเข้าไป เจอน้องยามผู้ชาย ตัวเล็กๆ พูดไทยไม่ค่อยชัด
เรา : "มา check in ค่ะ"
น้องยาม : "จองไว้ชื่ออะไรครับ"
เพื่อนเรา : "ไม่ได้จองชื่อไว้ค่ะ พนักงานบอกว่าให้ walk in เข้ามาได้เลย"
น้องยาม : " (วอไปหาพนักงานอีกคน ซึ่งเราฟังไม่ออกว่าพูดอะไร).. จองไว้ชื่ออะไรครับ"
เพื่อนเรา : " (เริ่มหันมาทำหน้างงใส่เรา) ไม่ได้จองชื่อค่ะ พนักงานผู้หญิงซักคนบอกให้เข้ามาเองเลย"
น้องยาม : " (วออีกรอบ) จองไว้ชื่ออะไรครับ"
เรา+เพื่อน เริ่มเงิบ ตกลงฟังรู้เรื่องไหมเนี่ย เพื่อนเราก็เลยตัดรำคาญ บอกชื่อไป
ขณะที่สนทนากันอยู่นี้ ยืนถือกระเป๋าเดินทาง ไม่มีที่ให้นั่ง ไม่มีอะไรเลย
น้องยามก็วอๆ ไป แล้วก็ให้จ่ายค่าห้อง 2,800 บาท + ค่ามัดจำ 1,000 บาท ตรงนั้นกับน้องยามเลย
(tru งงงงงงงงงงงงง....) โอเคก็ไม่ได้ติดใจอะไร มาชิวๆเนอะ สรุปก็ได้ห้องแรกสุด เดินเข้ามาถึงเลย
(ที่นั่งน้องยาม เข้ารั้วรีสอร์ทมาแล้วอยู่ด้านขวา ส่วนห้องเรา จากรั้วเดินเข้ามาแล้ว เดินเข้าไปได้เลย ดังนั้นห้องเราจึงไม่ได้ผ่านที่นั่งของน้องยามเลย)
หน้าห้องค่ะ ได้ห้องเบอร์นี้.. (เป็น Pool Studio)
ห้องเบอร์ 706
เดินไปถึง ห้องไม่ได้ล็อคอยู่ น้องยามเปิดประตูต้อนรับ
เรากับเพื่อนก็ถามหากุญแจห้อง
น้องยามเลยบอกว่า ผมไม่มีกุญแจครับ ต้องไปขอออฟฟิสมาให้
เราก็เลยโอเค เข้าห้อง พักผ่อนก่อน
เข้าไปแล้ว ขอบอกว่าสภาพห้องน่าประทับใจ น่าพัก บรรยากาศดี เป็น pool villa ที่สนใจจะมาพักนานแล้วค่ะ
บรรยากาศตามรูปค่ะ ดูดีไหมคะ
จะเห็นว่ามี private pool ข้างนอกค่ะ (เสียดาย ยังไม่ทันได้ลง)
เตียงที่ขึ้นไปนอนกลิ้งแปปเดียว
เหตุการณ์เริ่มต้นที่
เพื่อนเรา (มากันสองคน ผู้หญิงทั้งคู่) ลงไปลอง indoor jacuzzi
ปรากฎว่า ฝาท่อเปิดไม่ได้ ระบายน้ำไม่ได้
ต่อมาเราจะเข้าไปล้างเท้า แต่ปรากฎว่าสายฝักบัวรั่ว น้ำเลยไม่ค่อยไหล
อยู่ไปอยู่มา รู้สึกเหงื่อแตก เพราะแอร์ไม่มีความเย็นเลย
ครบสามพฤติการณ์ เราเลยคิดว่าต้องโทรไปแจ้งละ เยอะละ พอดีกับว่าจะออกไปหาอะไรทานพอดี จะได้ส่งคนมาจัดการตอนออกไปข้างนอก
ครั้งที่ 1 : รายงานเรื่องฝักบัว และฝาท่อ
พนักงานผู้หญิงบอกว่า เดี๋ยวจะส่งพนักงานมาเปลี่ยนให้
เราเลยบอกเค้าว่าเดี๋ยวโทรไปอีกทีแล้วค่อยส่งคนมา เพราะจะเข้าห้องน้งห้องน้ำก่อนออกไปหาไรกิน
ครั้งที่ 2 : บอกว่าให้มาได้เลย เพราะจะออกไปแล้ว พร้อมรายงานเรื่องแอร์ไม่เย็น เพราะเมื่อกี้ลืม
พนักงานผญ. บอกว่า โอเคค่ะ จะส่งคนไปละ
เรากับเพื่อนก็นั่งรอ ประมาณ 10 นาที จนต้องโทรไปตามอีก
ที่ต้องรอก็เพราะนึกได้ว่า ไม่มีกุญแจห้องนี่นา กลับมาจะเข้าห้องยังไงล่ะ
เพื่อนเราเลยเป็นคนโทรไปอีกรอบ
ครั้งที่ 3 : บอกให้ส่งคนมาได้เลย เพราะรออยู่ จะออกไปกินข้าว
พนักงานก็ถามเพื่อนเราประมาณว่า ทำไมต้องรอ
เพื่อนเราเลยบอกว่า รอเอากุญแจด้วยไงคะ
พนักงานตอบเพื่อนเราว่า รีสอร์ทไม่มีกุญแจให้ค่ะ..
แล้วเพื่อนเราก็วางไปโดยไม่ติดสงสัยอะไร
เรานี่สิ ช็อค
สงสัยนางจะมึน ไม่มีกุญแจให้ทำไมไม่ถามว่าทำไม
เลยนั่งรอพนักงานมา เราจะได้ถามตรงๆ กับเค้าเลยว่า ตกลงไม่มีกุญแจให้หรอ
10 นาทีผ่านไปอีก.. เล่น คุกกี้รันก็แล้ว อินตาแกรมก็แล้ว..
ไม่ไหวละมั้ง เราเลยกดโทรศัพท์อีกรอบ
มันพีคตรงครั้งนี้แหละค่ะ!!!!!!
ครั้งที่ 4 : บทสนทนาคร่าวๆ มีดังนี้
เรา : รออยู่นะคะ จะออกไปทานข้าวค่ะ
พนง. ผญ. คนเดิม : เอ่อ คุณลูกค้ารอทำไมคะ มีของมีค่าอยู่ในห้องหรอคะ
เรา : ไม่มีหรอกค่ะ แต่สงสัยว่าทำไมไม่มีกุญแจห้องให้
พนง. : อ๋อ รีสอร์ทเราไมืมีกุญแจห้องให้ลูกค้าค่ะ
เงิบ 1
เรา : ทำไมละค่ะ
พนง. : เพราะว่าลูกค้าท่านก่อนๆมาพัก เอากุญแจไป แล้วทำหายหมดเลยค่ะ
เงิบ 2
เรา : ไม่มีกุญแจห้องให้เพราะลูกค้าท่านอื่นทำหายหมดเลยเนี่ยนะคะ!??
พนง. : ใช่ค่ะ ตอนนี้เราเหลือแต่ตัว master น่ะค่ะ ให้คุณลูกค้าไม่ได้
เรา : แล้วตัว copy ละคะ
พนง. : ไม่มีค่ะ หายหมดแล้ว
เรา : แล้วคุณไม่ได้มี copy ไว้ใหม่ เลยหรอคะเนี่ย
พนง. ไม่ค่ะ
เรา : แล้วจะออกไปทานข้าวทำยังไงคะเนี่ย
พนง. : ไม่ต้องล็อคค่ะ ออกไปได้เลย
เงิบ 3
เรา : ให้ออกไปได้เลยโดยไม่ต้องล็อคเนี่ยนะคะ
พนง. : ถ้าจะล็อค เดี๋ยวกลับมาแล้วให้แม่บ้านมาเปิดให้ค่ะ
เรา : หมายความว่า กลับมาทุกครั้ง ต้องโทรเรียกแม่บ้านมาเปิดให้หรอคะ!??
เงิบ 4
พนง. : ใช่ค่ะ
เรา : แล้วเรื่องความปลอดภัยละคะ กุญแจที่หายไป มันปลอดภัยหรอคะ ทำไมไม่เปลี่ยนตัวล็อคที่ประตูใหม่คะ
สภาพประตูห้องจากด้านใน จะเห็นว่านอกจากตัวล็อคที่ต้องใช้กุญแจไข นอกนั้นก็ไม่มีตัวล็อคอะไรอีกเลย
มากันสองคน ผญทั้งคู่ ห้องเดินเข้ามาจากถนนถึงเลย กุญแจ copy หายทุกตัว มันน่ากลัวมากนะคะ
พนง. : เรามีระบบรักษาความปลอดภัยค่ะ มีกล้องวงจรปิด 2 ตัว และยาม
(นึกถึงหน้าน้องยามเมื่อกี้ ตัวเล็กๆ พูดจางงๆ กับ กล้องวงจรปิด 2 ตัว คือ ปลอดภัยมากค่ะะะะะะะะะะะ)
เรา : คือ ยังไงก็ไม่โอเคอ่ะค่ะ
คุยไปคุยมา พนง. ถามเราด้วยเสียงกวนประสาทว่า มีปัญหาอะไรรึปล่าวคะ
เงิบ 5
เรา : ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ปัญหาคือเรื่องความปลอดภัยค่ะ (เริ่มขึ้น)
พนง : คุณลูกค้าจะ check out เลยไหมละคะ?
เรา : ได้ค่ะ คืนเงินเต็มจำนวนรึปล่าวคะ
พนง : ครึ่งเดียวค่ะ
เรา : ทำไมครึ่งเดียวคะ
พนง : คิดเป็น one day used ค่ะ
เราโมโหมาก เข้ามาเพิ่งจะสองชั่วโมงกว่าๆ ความผิดก็ไม่ใช่ความผิดเรา ทำไมต้องโดนหักเงินไปครึ่งราคา
เราไม่ยอมแน่นอน
เรา : ครึ่งราคาได้ยังไงคะ มันไม่ใช่ความผิดของลูกค้าเลยนะคะ
พนง : ต้องเป็นแบบนั้นค่ะ
เรา : ตกลงว่า ทางรีสอร์ท ไม่มีนโยบายให้กุญแจลูกค้าใช่ไหมคะ
พนง : เคยมีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
เงิบบบบบบบบ 6
เรา : งั้นจะ check out ค่ะ แต่คุณต้องคืนเงินเต็มจำนวนนะคะ
พนง : ไม่ได้ค่ะ
เรา : งั้นจะลองโทรถาม สคบ. นะคะ
พนง : สคบ. คืออะไรคะ
เงิบ 7
เรา : สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคค่ะ
พนง. : ก็ลองดูค่ะ
เงิบ 8
เรา : ได้ค่ะ ตกลงจะให้ลองใช่ไหมคะ? (ขึ้นมาก)
พนง : (คุยกับพนักงานอีกคนว่า คืนๆเงิน "มัน" ไปไหม ให้เช็คเอาท์ไปๆ
เรา : เรียกลูกค้าว่ามัน ได้ยินนะคะ ทำแบบนี้ถูกต้องหรอคะ
คุณนางเงียบไปแปปนึง แล้วบอกว่า ตกลงจะคืนเงินให้ค่ะ เต็มจำนวน เดี๋ยวจะส่งคนไปที่ห้อง โดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษซักคำ!!!!!
รอสักพักก็มีคนเข้ามา
เป็นพนักวานผู้ชาย เอาเงินมาคืนเสร็จสรรพ
พร้อมเดินตรวจห้อง และพูดว่า ปกติเค้าก็อยู่กันได้นะครับ คนใหญ่คนโตมาก็ไม่มีปัญหาอะไร
ค่ะ.. คุณว่านโยบายเคัาแปลกดีไหมคะ
หรือว่าเราคิดไปเองคนเดียว
สุดท้าย คุณลูกค้า ที่มีสรรพนามว่า "มัน" คนนี้ ขอบคุณมากที่คุณแนะนำนโยบายใหม่ให้ได้รู้จัก
เพราะไปเที่ยวที่ไหน ประเทศอะไรก็ไม่เคยเจอมาก่อนเลย
สวัสดีค่ะ