......วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมาก ๆ สำหรับจุ๊บ. และเป็นวันที่ (จ่าย) หนักสำหรับสามี
ขนมจีนคลอดลูกก่อนกำหนด!!!!!ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสองคนกังวลมาก. เพราะแฟนคลับคงจำได้ว่าขนมจีนฉีดยาคุมคาบเกี่ยวกับช่วงตั้งท้อง. โอกาสที่คลอดเองมีไม่มากเพราะมดลูกปิด. ซึ่งหมอประเมินด้วยสายตาว่ามี 40 % (ก็เยอะนะ)
แล้วจู่ ๆ เมื่อวานนางก็เริ่มเจ็บท้องในตอนเย็นที่เรากลับถึงบ้านพอดี และเริ่มมีเมือกไหล มีน้ำเดินในช่วงค่ำ. จุ๊บจุดธูปขอพรให้ทุกชีวิตปลอดภัย แต่จนแล้วจนรอดนางไม่คลอดสักที ดูท่าไม่ดีแล้ว.
.....รุ่งเช้าวันนี้รีบโทรหาหมอเพราะต้องผ่าคลอดแน่ ๆ แล้ว. แต่หมอดูเย็นใจชอบกล....บอกให้มาตอน 9 โมงที่เปิดคลินิก (ในใจคือ....หมอ. แมวกูจะตายมั้ยคะ. เปิดเร็วขึ้นสักชม.ไม่ได้เหรอ). อืม....9 โมงก็ 9 โมงวะ. เตรียมข้าวของสัมภาระสำหรับแมวแม่ลูกอ่อนเสร็จสรรพ. พุ่งไปคลินิกอย่างเร็ว. เชรี่ยยยยยยยย. มีหมาเด็กมาผ่าตัดก่อนหน้าแค่ไม่กี่นาที
หมอตรวจ&ซักถามอาการแล้วบอกนิ่ง ๆ ลูกน่าจะตายในท้องหมดแล้วล่ะ. อึ้ง.....หมอคะตอนออกจากบ้านมา. ลูกมันยังดิ้นอยู่เลยค่ะ. หมอบอก.....งั้นหมอจะพยายามช่วยให้เต็มที่ละกันนะ. กลับบ้านไปก่อน. 11 โมงหมอจะผ่าให้แล้วจะโทรไปบอก. อึ้งรอบสอง. ในใจคือ....อ้าว บอกจะช่วยเต็มที่ ทำไมหมอไม่รีบผ่าต่อจากน้องหมาละค้ะ. อร้ายยยย. กูอยากบ้า. ความอึ้งทำให้ไม่มีแรงจะกลับบ้าน. สับสน. จึงนั่งตั้งสติก่อนจะตัดสินใจว่าจะรอจนผ่าตัดเสร็จ. หมอเห็นใจจึงผ่าคลอดให้ทันทีต่อจากเคสน้องหมา
..........ระหว่างนั่งรอบอกตรง ๆ ว่าต้องอาศัยธรรมะเข้าช่วยพิจารณาอารมณ์ที่เกิดขึ้นในขณะจิตนั้นอย่างมาก. เพราะพี่แด๊ดติดภารกิจการงานแต่เช้าตรู่ จุ๊บอยู่ตรงนั้นลำพังกับเสียงตามสายของพี่แด๊ดที่โทรมาหาจุ๊บเป็นระยะ. จุ๊บสู้กับอารมณ์หลากหลายเหลือเกิน. อย่างน้อยขอให้เด็กในท้องรอดสักตัวก็ยังดี. แม้ความหวังจะน้อยเต็มที เวลาผ่านไปไม่เท่าไรหรอกค่ะ. จริง ๆ. แต่รู้สึกเหมือนนานเป็นชั่วโมง.
......ในที่สุดมันก็เสร็จสิ้น. คนงานของหมอถือถุงพลาสติกใสข้างในห่อกระดาษ นสพ. มาส่งให้จุ๊บอย่างลำบากใจที่จะบอกว่าลูกแมวตายทั้งหมด. บอกตามตรงค่ะว่านาทีนั้นจุ๊บรับไม่ได้ จุ๊บเข้าไปหาหมอที่กำลังทำหมันและเย็บแผลให้ขนมจีน. หมอแอบบ่นจุ๊บนิดหน่อยว่าบางเรื่องเราก็ต้องตัดสินใจ. เราลังเลกันมานานนะ. จุ๊บไม่ได้พูดอะไรและเดินออกมาจากห้องผ่าตัดตัวเบา. แต่เอ๊ะ ! ทำไมถุงพลาสติกในมือมันดิ้นวะ ดิ้นจริง ๆ ดิ้นแรงด้วย!!!!!!!
จุ๊บรีบเปิดปากถุง. คุณพระ!!!!!! ลูกแมวในถุงพลาสติกยังไม่ตาย. และพวกมันส่งเสียงร้อง. จุ๊บรีบคว้าทาวเวอร์เปเปอร์มาเช็ดตัวลูกแมวในถุง. รีบดึงเยื่อหุ้มตัวที่ปิดจมูกลูกแมวออกอย่างเร็ว. มันร้องดังขึ้น 2 ตัว. อีกตัวแน่นิ่งไม่ไหวติง. และสายรกยังไม่ได้ตัด. คนงานของหมอ 4 คนออกมายืนดูจุ๊บด้วยความตะลึง พวกเขาก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน. คนหนึ่งพอมีสติจึงช่วยส่งทิชชู่ให้จุ๊บ. สิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นมันเร็วมาก. จุ๊บเปิดปากถุงให้อ้าและยกใส่กระเป๋า. หันมาบอกคนงานว่า. พี่ไปแล้วนะ. ฝากบอกหมอว่าเดี๋ยวพี่จะมารับแม่แมวทีหลัง จุ๊บพุ่งออกจากคลินิกทันที โบกแท็กซี่กลับบ้านอย่างเร็ว..
.......ถึงบ้านจุ๊บรีบจัดการตัดสายสะดือ. เช็ดตัวให้เด็ก ๆ แล้วรีบเอากระเป๋าน้ำร้อนมารองใต้ที่นอน เอาโคมไฟมาส่องให้เขาอบอุ่น. โดยมีแม่มาคอยช่วยอีกแรง ตัวหนึ่งไร้สัญาณชีพแล้ว. อีกสองหายใจแรงขึ้น. ขยับตัว. และร้องเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ. จุ๊บเทนมแพะใส่ขวดนม. ทามหาหิงค์ให้เมื่อกินนมเสร็จ. เอาสำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดก้นและจู๋จิ๋มกระตุ้นขับถ่าย. เพื่อให้มันรอดชีวิตให้ได้ ผ่านไป 2 ชม.ลูกแมวดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ. มันเริ่มคลานเตาะแตะไปมา. และพอใจกับการหลับคาอกจุ๊บ. มันคงได้ไออุ่นที่มีเลือดเนื้อมากกว่า. หมอโทรมาคุยถามเรื่องลูกแมวด้วยน้ำเสียงที่เก้อ ๆ สักหน่อย. หมอแปลกใจที่มันยังรอดและย้ำว่าต้องดูแลดี ๆ เลยนะ. เพราะลูกแมวผ่าคลอดมักอ่อนแอและรอดยากมาก. จุ๊บขอบคุณและบอกหมอว่าเราทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว
.......ตกเย็นพี่แด๊ดกลับจากทำงานและไปรับขนมจีนกลับมา. ภาพที่เห็นทำเอาน้ำตาคลอ.........ขนมจีนจะเข้าไปหาลูก. ลูกที่จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาร้องระงมหาแม่ เพราะปกติแล้วแมวผ่าคลอดจะไม่รู้จักลูกและจะไม่เลี้ยงลูกโดยปริยาย ทั้งหมดที่บรรยายมาเพราะจุ๊บเต็มตื้นกับสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
จุ๊บไม่โกรธหรืออาฆาตหมอนะคะ. เพราะถ้าเขาไม่ผ่าคลอดให้ตอนนั้น. ทุกชีวิตก็คงเป็นอันตรายกว่านี้ จะแอบเคืองก็ตรงที่ค่ารักษาโหดเหลือเกิน. และเด็ก ๆ ยังต้องกินนมแพะไปก่อนจนกว่าฤทธิ์ยาสลบในตัวขนมจีนจะหมดไปและยังต้องลุ้นอีกว่าการผ่าคลอดจะทำให้น้ำนมแห้งเต้าหรือไม่ ยังเหลืออีกหลายวันกว่าจะมั่นใจในความปลอดภัย. ขอแรงใจจากทุกท่านด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/hi.daxter/posts/10201798754760853
เรื่องราวของครอบครัวผมกับสมาชิกใหม่สดๆร้อนๆแบบปาฏิหาร
ขนมจีนคลอดลูกก่อนกำหนด!!!!!ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสองคนกังวลมาก. เพราะแฟนคลับคงจำได้ว่าขนมจีนฉีดยาคุมคาบเกี่ยวกับช่วงตั้งท้อง. โอกาสที่คลอดเองมีไม่มากเพราะมดลูกปิด. ซึ่งหมอประเมินด้วยสายตาว่ามี 40 % (ก็เยอะนะ)
แล้วจู่ ๆ เมื่อวานนางก็เริ่มเจ็บท้องในตอนเย็นที่เรากลับถึงบ้านพอดี และเริ่มมีเมือกไหล มีน้ำเดินในช่วงค่ำ. จุ๊บจุดธูปขอพรให้ทุกชีวิตปลอดภัย แต่จนแล้วจนรอดนางไม่คลอดสักที ดูท่าไม่ดีแล้ว.
.....รุ่งเช้าวันนี้รีบโทรหาหมอเพราะต้องผ่าคลอดแน่ ๆ แล้ว. แต่หมอดูเย็นใจชอบกล....บอกให้มาตอน 9 โมงที่เปิดคลินิก (ในใจคือ....หมอ. แมวกูจะตายมั้ยคะ. เปิดเร็วขึ้นสักชม.ไม่ได้เหรอ). อืม....9 โมงก็ 9 โมงวะ. เตรียมข้าวของสัมภาระสำหรับแมวแม่ลูกอ่อนเสร็จสรรพ. พุ่งไปคลินิกอย่างเร็ว. เชรี่ยยยยยยยย. มีหมาเด็กมาผ่าตัดก่อนหน้าแค่ไม่กี่นาที
หมอตรวจ&ซักถามอาการแล้วบอกนิ่ง ๆ ลูกน่าจะตายในท้องหมดแล้วล่ะ. อึ้ง.....หมอคะตอนออกจากบ้านมา. ลูกมันยังดิ้นอยู่เลยค่ะ. หมอบอก.....งั้นหมอจะพยายามช่วยให้เต็มที่ละกันนะ. กลับบ้านไปก่อน. 11 โมงหมอจะผ่าให้แล้วจะโทรไปบอก. อึ้งรอบสอง. ในใจคือ....อ้าว บอกจะช่วยเต็มที่ ทำไมหมอไม่รีบผ่าต่อจากน้องหมาละค้ะ. อร้ายยยย. กูอยากบ้า. ความอึ้งทำให้ไม่มีแรงจะกลับบ้าน. สับสน. จึงนั่งตั้งสติก่อนจะตัดสินใจว่าจะรอจนผ่าตัดเสร็จ. หมอเห็นใจจึงผ่าคลอดให้ทันทีต่อจากเคสน้องหมา
..........ระหว่างนั่งรอบอกตรง ๆ ว่าต้องอาศัยธรรมะเข้าช่วยพิจารณาอารมณ์ที่เกิดขึ้นในขณะจิตนั้นอย่างมาก. เพราะพี่แด๊ดติดภารกิจการงานแต่เช้าตรู่ จุ๊บอยู่ตรงนั้นลำพังกับเสียงตามสายของพี่แด๊ดที่โทรมาหาจุ๊บเป็นระยะ. จุ๊บสู้กับอารมณ์หลากหลายเหลือเกิน. อย่างน้อยขอให้เด็กในท้องรอดสักตัวก็ยังดี. แม้ความหวังจะน้อยเต็มที เวลาผ่านไปไม่เท่าไรหรอกค่ะ. จริง ๆ. แต่รู้สึกเหมือนนานเป็นชั่วโมง.
......ในที่สุดมันก็เสร็จสิ้น. คนงานของหมอถือถุงพลาสติกใสข้างในห่อกระดาษ นสพ. มาส่งให้จุ๊บอย่างลำบากใจที่จะบอกว่าลูกแมวตายทั้งหมด. บอกตามตรงค่ะว่านาทีนั้นจุ๊บรับไม่ได้ จุ๊บเข้าไปหาหมอที่กำลังทำหมันและเย็บแผลให้ขนมจีน. หมอแอบบ่นจุ๊บนิดหน่อยว่าบางเรื่องเราก็ต้องตัดสินใจ. เราลังเลกันมานานนะ. จุ๊บไม่ได้พูดอะไรและเดินออกมาจากห้องผ่าตัดตัวเบา. แต่เอ๊ะ ! ทำไมถุงพลาสติกในมือมันดิ้นวะ ดิ้นจริง ๆ ดิ้นแรงด้วย!!!!!!!
จุ๊บรีบเปิดปากถุง. คุณพระ!!!!!! ลูกแมวในถุงพลาสติกยังไม่ตาย. และพวกมันส่งเสียงร้อง. จุ๊บรีบคว้าทาวเวอร์เปเปอร์มาเช็ดตัวลูกแมวในถุง. รีบดึงเยื่อหุ้มตัวที่ปิดจมูกลูกแมวออกอย่างเร็ว. มันร้องดังขึ้น 2 ตัว. อีกตัวแน่นิ่งไม่ไหวติง. และสายรกยังไม่ได้ตัด. คนงานของหมอ 4 คนออกมายืนดูจุ๊บด้วยความตะลึง พวกเขาก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน. คนหนึ่งพอมีสติจึงช่วยส่งทิชชู่ให้จุ๊บ. สิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นมันเร็วมาก. จุ๊บเปิดปากถุงให้อ้าและยกใส่กระเป๋า. หันมาบอกคนงานว่า. พี่ไปแล้วนะ. ฝากบอกหมอว่าเดี๋ยวพี่จะมารับแม่แมวทีหลัง จุ๊บพุ่งออกจากคลินิกทันที โบกแท็กซี่กลับบ้านอย่างเร็ว..
.......ถึงบ้านจุ๊บรีบจัดการตัดสายสะดือ. เช็ดตัวให้เด็ก ๆ แล้วรีบเอากระเป๋าน้ำร้อนมารองใต้ที่นอน เอาโคมไฟมาส่องให้เขาอบอุ่น. โดยมีแม่มาคอยช่วยอีกแรง ตัวหนึ่งไร้สัญาณชีพแล้ว. อีกสองหายใจแรงขึ้น. ขยับตัว. และร้องเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ. จุ๊บเทนมแพะใส่ขวดนม. ทามหาหิงค์ให้เมื่อกินนมเสร็จ. เอาสำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดก้นและจู๋จิ๋มกระตุ้นขับถ่าย. เพื่อให้มันรอดชีวิตให้ได้ ผ่านไป 2 ชม.ลูกแมวดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ. มันเริ่มคลานเตาะแตะไปมา. และพอใจกับการหลับคาอกจุ๊บ. มันคงได้ไออุ่นที่มีเลือดเนื้อมากกว่า. หมอโทรมาคุยถามเรื่องลูกแมวด้วยน้ำเสียงที่เก้อ ๆ สักหน่อย. หมอแปลกใจที่มันยังรอดและย้ำว่าต้องดูแลดี ๆ เลยนะ. เพราะลูกแมวผ่าคลอดมักอ่อนแอและรอดยากมาก. จุ๊บขอบคุณและบอกหมอว่าเราทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว
.......ตกเย็นพี่แด๊ดกลับจากทำงานและไปรับขนมจีนกลับมา. ภาพที่เห็นทำเอาน้ำตาคลอ.........ขนมจีนจะเข้าไปหาลูก. ลูกที่จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาร้องระงมหาแม่ เพราะปกติแล้วแมวผ่าคลอดจะไม่รู้จักลูกและจะไม่เลี้ยงลูกโดยปริยาย ทั้งหมดที่บรรยายมาเพราะจุ๊บเต็มตื้นกับสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
จุ๊บไม่โกรธหรืออาฆาตหมอนะคะ. เพราะถ้าเขาไม่ผ่าคลอดให้ตอนนั้น. ทุกชีวิตก็คงเป็นอันตรายกว่านี้ จะแอบเคืองก็ตรงที่ค่ารักษาโหดเหลือเกิน. และเด็ก ๆ ยังต้องกินนมแพะไปก่อนจนกว่าฤทธิ์ยาสลบในตัวขนมจีนจะหมดไปและยังต้องลุ้นอีกว่าการผ่าคลอดจะทำให้น้ำนมแห้งเต้าหรือไม่ ยังเหลืออีกหลายวันกว่าจะมั่นใจในความปลอดภัย. ขอแรงใจจากทุกท่านด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/hi.daxter/posts/10201798754760853