ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก
pic: fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd
thanks: creepypastathailand
ในเดือนมิถุนายน ปี 1972 หญิงสาวผู้หนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นที่โรงพยาบาล Cedars-Sinai
โดยที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงแค่เสื้อกาวน์สีขาวชุ่มเลือด
ห่อหุ้มร่างอยู่เท่านั้น ถ้าหากเรื่องเกิดขึ้นเพียงเท่านี้ ก็คงไม่น่าแปลกใจมากนัก
เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนส่วนใหญ่ก็มักจะพาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายมายัง
โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอยู่แล้ว แต่มีบางสิ่ง...บางสิ่งเกี่ยวกับหญิงผู้นี้ ที่ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดอาการคลื่นไส้และอยากหนีไปให้พ้นๆ ด้วยความหวาดกลัว
อย่างแรกก็คือ...เธอดูไม่เหมือนมนุษย์เอาเสียเลย เธอดูคล้ายกับหุ่นจำลองชนิดที่พบได้ตามร้านเสื้อผ้าทั่วไปมากกว่า
และที่น่าแปลกยิ่งไปกว่านั้น
เธอสามารถใช้มือหยิบจับสิ่งของได้ ทั้งยังมีเลือดเนื้อเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปทุกประการ
ใบหน้าของเธอเรียบเฉยไร้อารมณ์เหมือนหุ่น ไม่มีคิ้ว
และโปะเครื่องสำอางหนาเตอะ มีซากลูกแมวตัวหนึ่งติดแน่นอยู่กับกรามของเธออย่างผิดธรรมชาติ
จนทำให้มองไม่เห็นฟันแม้แต่ซี่เดียว
เลือดยังคงไหลอาบชุ่มเสื้อกาวน์ และเจิ่งนองเต็มพื้น ทันใดนั้น
หญิงสาวก็กระชากซากลูกแมวตัวนั้นออกมาจากปาก ขว้างมันออกไป
แล้วล้มฟุบลงกับพื้น ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามายังโรงพยาบาล
จนถึงตอนที่เธอถูกพาไปทำความสะอาดร่างกาย
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการให้ยาระงับประสาท หญิงสาวดูทั้งสงบ ไร้อารมณ์ และไร้การเคลื่อนไหว
แพทย์ตัดสินใจว่าการควบคุมเธอไว้จนกว่าเธอจะได้สติและไม่แสดงอาการขัดขืนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หญิงสาวไม่ตอบสนองใดๆทั้งสิ้น และเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ต่างรู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องจ้องมองดูเธอนานเกินกว่าไม่กี่วินาที
แต่ในวินาทีที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามทำให้เธอเงียบนั่นเอง หญิงสาวก็ตอบโต้กลับด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล
เจ้าหน้าที่สองนายถึงกับต้องช่วยกันกดร่างของเธอลงกับเตียง เมื่อเห็นว่าเธอกำลังพยายามลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์เช่นเดิม
หญิงสาวค่อยๆหันไปมองแพทย์หนุ่มผู้หนึ่งด้วยดวงตาไร้อารมณ์ แล้วจึงทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด....เธอยิ้ม
เมื่อเธอทำเช่นนั้น แพทย์หญิงคนหนึ่งถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความสะพรึงกลัว ในปากของหญิงสาวนั้นไม่ใช่ฟันของมนุษย์
หากแต่เป็นเขี้ยวยาวอันแหลมคม ยาวเกินกว่าจะที่หญิงสาวจะสามารถปิดปากสนิทได้โดยไม่เจ็บตัว
แพทย์คนหนึ่งหันกลับไปมองเธออยู่ชั่วครู่ ก่อนจะถามออกไป "แกเป็นตัวอะไรกันแน่?!"
หญิงสาวโน้มคอลงจนอยู่ในระดับไหล่เพื่อสังเกตท่าทางของชายหนุ่มผู้นั้น เธอยังคงฉีกยิ้มอยู่
ทุกอย่างหยุดนิ่งไปพักใหญ่ ได้ยินเพียงเสียงของฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ถูกเรียกตัวมากำลังเดินมาตามทางเดินเท่านั้น
ทันทีที่แพทย์หนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้า หญิงสาวก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว ฝังเขี้ยวของเธอลงในลำคอของชายหนุ่ม
เจาะคอหอยเขาแล้วปล่อยให้เขาล้มลงกับพื้น พยายามไขว่คว้าหาอากาศขณะที่กำลังสำลักเลือดของตน
เธอยืนขึ้นแล้วโน้มตัวลงไปหาเขา ใบหน้าอยู่ใกล้กันจนน่ากลัว ขณะที่สัญญาณชีพเริ่มจางหายไปจากดวงตาของชายหนุ่ม
เธอโน้มตัวใกล้เข้าไปอีก แล้วกระซิบที่ข้างหูเขา
"ฉัน...คือ...พระเจ้า..."
แววตาของแพทย์หนุ่มเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เขามองหญิงสาวลุกขึ้น แล้วเดินออกไปทักทายเหล่าเจ้าหน้าที่รปภ.
ภาพสุดท้ายที่เขาเห็น คงเป็นภาพของหญิงสาวที่กำลังดูดเลือดพวกเขา...ทีละคน
แพทย์หญิงที่รอดมาจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้ตั้งชื่อหญิงสาวผู้นี้ว่า
" The Expressionless "
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นหญิงสาวผู้นั้นอีกเลย...
คลิปปลากรอบมู้
" The Expressionless "
thanks: creepypastathailand
โดยที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงแค่เสื้อกาวน์สีขาวชุ่มเลือด
ห่อหุ้มร่างอยู่เท่านั้น ถ้าหากเรื่องเกิดขึ้นเพียงเท่านี้ ก็คงไม่น่าแปลกใจมากนัก
เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนส่วนใหญ่ก็มักจะพาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายมายัง
โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอยู่แล้ว แต่มีบางสิ่ง...บางสิ่งเกี่ยวกับหญิงผู้นี้ ที่ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดอาการคลื่นไส้และอยากหนีไปให้พ้นๆ ด้วยความหวาดกลัว
อย่างแรกก็คือ...เธอดูไม่เหมือนมนุษย์เอาเสียเลย เธอดูคล้ายกับหุ่นจำลองชนิดที่พบได้ตามร้านเสื้อผ้าทั่วไปมากกว่า
และที่น่าแปลกยิ่งไปกว่านั้น
เธอสามารถใช้มือหยิบจับสิ่งของได้ ทั้งยังมีเลือดเนื้อเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปทุกประการ
ใบหน้าของเธอเรียบเฉยไร้อารมณ์เหมือนหุ่น ไม่มีคิ้ว
และโปะเครื่องสำอางหนาเตอะ มีซากลูกแมวตัวหนึ่งติดแน่นอยู่กับกรามของเธออย่างผิดธรรมชาติ
จนทำให้มองไม่เห็นฟันแม้แต่ซี่เดียว
เลือดยังคงไหลอาบชุ่มเสื้อกาวน์ และเจิ่งนองเต็มพื้น ทันใดนั้น
หญิงสาวก็กระชากซากลูกแมวตัวนั้นออกมาจากปาก ขว้างมันออกไป
แล้วล้มฟุบลงกับพื้น ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามายังโรงพยาบาล
จนถึงตอนที่เธอถูกพาไปทำความสะอาดร่างกาย
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการให้ยาระงับประสาท หญิงสาวดูทั้งสงบ ไร้อารมณ์ และไร้การเคลื่อนไหว
แพทย์ตัดสินใจว่าการควบคุมเธอไว้จนกว่าเธอจะได้สติและไม่แสดงอาการขัดขืนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หญิงสาวไม่ตอบสนองใดๆทั้งสิ้น และเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ต่างรู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องจ้องมองดูเธอนานเกินกว่าไม่กี่วินาที
แต่ในวินาทีที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพยายามทำให้เธอเงียบนั่นเอง หญิงสาวก็ตอบโต้กลับด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล
เจ้าหน้าที่สองนายถึงกับต้องช่วยกันกดร่างของเธอลงกับเตียง เมื่อเห็นว่าเธอกำลังพยายามลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์เช่นเดิม
หญิงสาวค่อยๆหันไปมองแพทย์หนุ่มผู้หนึ่งด้วยดวงตาไร้อารมณ์ แล้วจึงทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด....เธอยิ้ม
เมื่อเธอทำเช่นนั้น แพทย์หญิงคนหนึ่งถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความสะพรึงกลัว ในปากของหญิงสาวนั้นไม่ใช่ฟันของมนุษย์
หากแต่เป็นเขี้ยวยาวอันแหลมคม ยาวเกินกว่าจะที่หญิงสาวจะสามารถปิดปากสนิทได้โดยไม่เจ็บตัว
แพทย์คนหนึ่งหันกลับไปมองเธออยู่ชั่วครู่ ก่อนจะถามออกไป "แกเป็นตัวอะไรกันแน่?!"
หญิงสาวโน้มคอลงจนอยู่ในระดับไหล่เพื่อสังเกตท่าทางของชายหนุ่มผู้นั้น เธอยังคงฉีกยิ้มอยู่
ทุกอย่างหยุดนิ่งไปพักใหญ่ ได้ยินเพียงเสียงของฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ถูกเรียกตัวมากำลังเดินมาตามทางเดินเท่านั้น
ทันทีที่แพทย์หนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้า หญิงสาวก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว ฝังเขี้ยวของเธอลงในลำคอของชายหนุ่ม
เจาะคอหอยเขาแล้วปล่อยให้เขาล้มลงกับพื้น พยายามไขว่คว้าหาอากาศขณะที่กำลังสำลักเลือดของตน
เธอยืนขึ้นแล้วโน้มตัวลงไปหาเขา ใบหน้าอยู่ใกล้กันจนน่ากลัว ขณะที่สัญญาณชีพเริ่มจางหายไปจากดวงตาของชายหนุ่ม
เธอโน้มตัวใกล้เข้าไปอีก แล้วกระซิบที่ข้างหูเขา
"ฉัน...คือ...พระเจ้า..."
แววตาของแพทย์หนุ่มเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เขามองหญิงสาวลุกขึ้น แล้วเดินออกไปทักทายเหล่าเจ้าหน้าที่รปภ.
ภาพสุดท้ายที่เขาเห็น คงเป็นภาพของหญิงสาวที่กำลังดูดเลือดพวกเขา...ทีละคน
แพทย์หญิงที่รอดมาจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้ตั้งชื่อหญิงสาวผู้นี้ว่า
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นหญิงสาวผู้นั้นอีกเลย...